- Details
- Category: คลัง
- Published: Saturday, 02 May 2015 08:11
- Hits: 3567
คลังปรับเป้าจีดีพีทั้งปีแตะ 3.7% หั่นส่งออกวูบเหลือเพียง 0.2%
แนวหน้า : นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยใหม่ โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ 3.7% ต่อปี หรืออยู่ในช่วง 3.2-4.2 % จากเดิมที่ประมาณการเมื่อช่วงเดือน ม.ค.58 คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.9% เป็นผลมาจากภาคการส่งออกในไตรมาสแรกติดลบ -4.7% แต่มีสัญญาณดีขึ้นจากการใช้จ่ายภายในประเทศโดยเฉพาะภาคเอกชน และแรงสนับสนุนสำคัญจากภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการนำเข้าก็ได้ลดตามไปด้วย ทำให้มีการปรับประมาณการเพียงเล็กน้อย
นอกจากนี้ ผลจากการภาคการส่งออกติดลบในไตรมาสแรก และถือเป็นการติดลบ 3 เดือนติดต่อกัน ทำให้ทางสศค.ได้มีการปรับการคาดการณ์ภาคการส่งออกในปีนี้ให้ขยายตัวเพียง 0.2% ต่อปี จากคาดการณ์เดิมอยู่ที่ 1.4% เนื่องจากภาคการส่งออกสินค้าของไทยในปีนี้จะยังคงมีข้อจำกัดในการขยายตัวจากความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
อย่างไรก็ตาม มองว่าเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง จะดีกว่าในครึ่งปีแรก เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการลงทุนภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ ทั้งโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการซ่อมสร้างถนน ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึงงบประมาณในปี 2559 ที่มีงบลงทุนสูงจะช่วยขับเคลื่อนการขยายตัวเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายต่อเนื่อง
นายกฤษฎา กล่าวว่า กาขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้ นอกจากลงทุนภาครัฐ ยังขึ้นอยู่กับภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากนักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์การเมืองไทยมากขึ้น คาดว่าทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 29.4 ล้านคน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 18.6%
ด้านการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน เนื่องจากแนวโน้มการจ้างงาน และรายได้นอกภาคเกษตรยังอยู่ในเกณฑ์ดี รวมทั้ง แนวโน้มราคาน้ำมันที่ลดลงและอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำจะช่วยให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจอยู่ในระดับที่เอื้อต่อการลงทุนภาคเอกชน
ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจของไทยยังคงแข็งแกร่ง โดยในส่วนของเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศคาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2558 จะปรับลดลงจากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 0.2% โดยมีช่วงประมาณการที่ -0.3 ถึง 0.7%
ตามแนวโน้มการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งสินค้าในประเทศ
ส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศ คาดว่าดุลการค้าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว เนื่องจากมูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่มูลค่านำเข้าสินค้าคาดว่าจะหดตัวตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ส่งผลให้คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลประมาณ 17.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 4.6 ของ จีดีพี
"ในการประมาณการเศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอ่อนแอ ความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ และอัตราเงินแลกเปลี่ยน รวมถึงแนวโน้มการลดลงของราคาน้ำมันและราคาสินค้าเกษตร ส่วนการส่งออกในปีนี้ยังไม่ถึงกับติดลบ แต่อาจขยายตัวได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น" นายกฤษฎา กล่าว
นายกฤษฎา กล่าวว่า การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในรอบ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายเพียง 900 ล้านบาท ซึ่งยังถือว่าไม่เยอะมากนัก เพราะยังมีการจัดเก็บของสรรพสามิตที่เก็บได้มากขึ้นตามราคานำเข้าน้ำมันที่ลดลง และมีรายได้รัฐวิสาหกิจที่เข้ามาช่วยได้มาก ซึ่งมองว่ายังไม่น่าเป็นห่วงสำหรับในปีนี้ อาจจะลดต่ำกว่าปีที่ผ่านมาไม่มากนัก