- Details
- Category: คลัง
- Published: Monday, 16 March 2015 23:09
- Hits: 1891
คลังเล็งดึง สมพร นั่งเลขากองทุนการออมฯ
แนวหน้า : นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 มีนาคมนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อหารือถึงแนวทางในการคัดเลือกเลขาธิการ กอช.ซึ่งในส่วนนี้ต้องกลับไปดูในรายละเอียดในระเบียบว่ากำหนดให้มีการเปิดรับสรรบุคคลที่สนใจ หรือสามารถใช้วิธีการสรรหาเลยได้หรือไม่
ทั้งนี้ ยังไม่สามารถตอบได้ว่าหากระเบียบกองทุนฯ เปิดช่องให้สรรหาบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งเลขาธิการกองทุน กอช. แล้ว จะสามารถดึงนายสมพร จิตเป็นธม ซึ่งเคยได้รับเลือกเป็นเลขาธิการคนแรกของกองทุนฯ ให้เข้ามารับตำแหน่งได้หรือไม่ เบื้องต้นคงต้องดูในรายละเอียดหลาย ๆ เรื่องประกอบกันด้วย
“ส่วนตัวก็อยากให้เป็นการสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมเลย เพราะจะรวดเร็วกว่าวิธีการเปิดรับสมัคร แต่ก็ต้องดูในระเบียบด้วยว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ แต่ก่อนจะไปถึงในส่วนนี้ตอนนี้ต้องคัดเลือกคณะกรรมการกองทุนฯ ให้ครบทั้ง 20 คน ก่อน ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหา โดยหลักการจะให้ปลัดกระทรวงการคลังนั่งเป็นประธาน” นายรังสรรค์ กล่าว
สำหรับ แนวทางของกองทุน กอช. จะรับโอนสมาชิกจากกองทุนประกันสังคม ตามมาตรา 40 (3) ที่มีอยู่ประมาณ 1.03 ล้านราย โดยจะเป็นการโอนสมาชิกแบบสมัครใจ หากสมาชิกไม่มีความประสงค์ขอโอนมายัง กอช. ก็สามารถรับเงินก้อนจากกองทุนประกันสังคมได้ทันที โดยหลังจากนี้จะให้คณะกรรมการกฤษฎีกาดูร่างแก้ไขกฎหมายตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบก่อนหน้านี้ และเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา โดยคาดว่า กอช. จะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้
อย่างไรก็ตาม หลักเกณฑ์เบื้องต้น กอช. สมาชิกที่จะเข้ารับสิทธิ์ต้องมีอายุ 15 ปี แต่ไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ แต่ในปีแรกจะมีเฉพาะกาลให้สิทธิสำหรับคนที่อายุเกิน 50 ปี แต่ไม่เกิน 60 ปี สามารถเป็นสมาชิกได้ 10 ปี เพื่อให้มีระยะเวลาในการออมที่ยาวขึ้นและมีบำนาญเลี้ยงชีพได้มากขึ้น โดยพบว่า ผู้ที่จะโอนย้ายมาจากกองทุนประกันสังคมมา กอช. พบว่ามีอายุเกิน 50 ปี ถึง 7.5 แสนราย ซึ่งก็จะได้สิทธิเป็นสมาชิกเป็นเวลา 10 ปี ด้วย
สาระสำคัญของ กอช. จะให้แรงงานนอกระบบที่อายุ 15 ปี ขึ้นไป สามารถสมัครเป็นสมาชิก กอช. ได้ โดยจ่ายสมทบขั้นต่ำ 50 บาท แต่ต้องไม่เกินปีละ 1.32 หมื่นบาทต่อปี โดยรัฐบาลจะจ่ายสมทบให้ตามอายุของสมาชิก ตั้งแต่ 15-30 ปี รัฐจ่ายสมทบ 50% ไม่เกิน 600 บาทต่อปี อายุ 30-50 ปี รัฐจ่ายสมทบ 80% แต่ไม่เกิน 960 บาทต่อปี และตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป รัฐจ่ายสมทบให้ 100% แต่ต้องไม่เกิน 1,200 บาทต่อปี
