- Details
- Category: คลัง
- Published: Sunday, 08 June 2014 23:59
- Hits: 3739
คลังชูโครงสร้างใหม่เน้นความเป็นธรรมเปิดแผนรื้อโครงสร้างภาษี
แนวหน้า : ปลัดคลัง-สศค.เรียก3 กรมภาษี ถกแผนปฏิรูปภาษี-เพิ่มจัดเก็บรายได้ "สมชัย" ยันภายใน 1 เดือนต้องสรุปเสนอ ‘คสช.’ แย้มโครงสร้างใหม่จะให้ความเป็นธรรมมากขึ้น พร้อมเสนอให้ปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตดีเซล
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมปฏิรูปภาษีทั้งระบบ ระหว่าง สศค.กับ 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาษี ทั้ง กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร กรมศุลกากร ที่มีนายรังสรรค์ ศรีรวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานได้หารือเกี่ยวกับการปฏิรูปภาษีทั้งระบบ และการบริหารการจัดเก็บรายได้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตามนโยบายของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้เวลาหาข้อสรุปภายใน 1 เดือน โดยเชื่อว่าหากการปฏิรูปสำเร็จจะช่วยให้การจัดเก็บรายได้ในงบประมาณปี 2558 จะได้ตามเป้าหมาย 2.4 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ การปฏิรูปภาษีทั้งระบบ และการบริหารการจัดเก็บรายได้ให้มีประสิทธิภาพนั้น ประกอบด้วย 6 เรื่อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการเสียภาษีมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ต้องรับภาระมากขึ้นหากใช้ทรัพยากรมากกว่าคนจน ต้องมีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาในอดีต สร้างรายได้ที่เพียงพอในอนาคต รวมทั้ง ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เนื่องจากสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ที่เน้นการบริโภคกับความมั่งคั่งมากขึ้น
มีรายงานกระทรวงการคลัง ระบุว่า สศค.ได้เสนอแผนการปฏิรูปภาษีให้คสช. เห็นชอบ โดยปฏิรูปภาษีในทุก ๆ ด้าน เริ่มตั้งแต่การปฏิรูปเพื่อสร้างฐานได้ภาษีให้ยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งมีเรื่องที่ต้องดำเนินการระยะสั้นภายใน 1 ปี ได้แก่ การปรับลดการให้สิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุน เพื่อให้สอดคล้องกับการลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 20% การทยอยปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตดีเซล ให้เข้าสู่อัตราปกติ และการปรับปรุงอัตราภาษีป้าย
สำหรับเรื่องที่ต้องดำเนินการในในระยะยาวมากกว่า 1 ปี ต้องมีการปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มที่ปัจจุบันเก็บอยู่ 7% และ คสช. ได้เห็นชอบให้ขยายการลดออกไปอีก 1 ปี จนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2558 ต้องทบทวนการลดหย่อนของภาษีประเภทต่างๆ และขยายฐานและปรับปรุงอัตราภาษีสรรพสามิต เช่น ภาษีบาป
ส่วนการปฏิรูปภาษีเพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม ส่งเสริมสุขภาพ และพัฒนาสิ่งแวดล้อม การดำเนินการไม่เกิน 1 ปี จะมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เก็บภาษีสรรพสามิตสินค้าที่กระทบสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เช่น เครื่องดื่มที่มีความหวานสูง และ น้ำมันหล่อลื่น ให้มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.ภาษีมลพิษทางน้ำ และปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นการถาวร
ขณะที่การปฏิรูปภาษีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน มีเรื่องที่ต้องดำเนินการภายใน 1 ปี ต้องปรับลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 20% เป็นการถาวร ปรับปรุงโครงการสร้างนิติบุคคลสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ปรับปรุงโครงสร้างอัตราภาษีศุลกากรกลุ่มสินค้าวัตถุดิบขั้นต้น และปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ เช่น ภาษีเกี่ยวกับพาณิชย์นาวี เศษซากอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้ง เพิ่มประสิทธิในการบริหารจัดเก็บภาษี การดำเนินการระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี ต้องเร่งรัดการจัดทำระบบฐานข้อมูลภาษีอากรระหว่างกรมจัดเก็บภาษี จัดตั้งหน่วยงานดูแลผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาซึ่งมีรายได้สูง สำหรับการดำเนินการระยะยาวมากกว่า 1 ปี ต้องร่างประมวลรัษฎากรฉบับใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
มีรายงานแจ้งด้วยว่า เมื่อเร็วๆนี้ นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้มีหนังสือส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ตามมติ ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติเสนอเห็นควรให้ยกเลิกคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 4/2547 เรื่องกำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ลงวันที่ 23 ธ.ค. 2547 หรือ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะทำให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับประโยชน์ในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในราคาที่เป็นธรรมมากขึ้น
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวมีผู้ร้องเรียนมายังผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อเดือน เม.ย. 2556 ขอให้พิจารณาและสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีรัฐเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรวมเข้ากับราคาน้ำมันขายปลีกในท้องตลาด ทำให้ประชาชนผู้บริโภคตกเป็นผู้ต้องรับภาระกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นเป็นเหตุให้ได้ความรับความเดือดร้อน ขณะที่ การจัดตั้งกองทุนน้ำมันฯไม่มีกฎหมายรองรับ และการใช้จ่ายเงินกองทุนน้ำมันฯตามคำสั่งนายกฯที่กำหนดให้มีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันโดยไม่นำส่งคลังก่อน
ทางด้าน นายสมชัย ผู้อำนวยการสศค. ชี้แจงว่า ผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอเรื่องดังกล่าว โดยขอให้แก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้มีกฎหมายเข้ามารองรับ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป
