WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

สบน.เผยผลบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ม.ค.58 มีวงเงินรวม 87,479.45 ล้านบาท

    สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เผยผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือน ม.ค.58 มีวงเงินรวม 87,479.45 ล้านบาท แบ่งเป็น หนี้รัฐบาล 79,200.45 ล้านบาท และหนี้รัฐวิสาหกิจ 8,279 ล้านบาท

    โดยการบริหารจัดการหนี้รัฐบาล วงเงินรวม 79,200.45 ล้านบาท ได้แก่ 1.การกู้เงินในประเทศของรัฐบาลเป็นจำนวนทั้งสิ้น 19,104.84 ล้านบาท ประกอบด้วย การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณจำนวน 17,116.61 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาล 4,438 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ 12,678.61 ล้านบาท, การเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำ จำนวน 200 ล้านบาท จากสัญญาเงินกู้วงเงิน 15,393 ล้านบาท ที่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 30 เม.ย.56 ภายใต้ พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศฯ

    การเบิกจ่ายเงินกู้ให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง จำนวน 132.02 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จำนวน 98.29 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้า  สายสีเขียว จำนวน 128.12 ล้านบาท รวมถึงการเบิกจ่ายเงินกู้ต่อให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำโครงการรถไฟสายสีแดง จำนวน 67.64 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง จำนวน 192.16 ล้านบาท และการเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวน 1,170 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้เงินบาททดแทนเงินกู้จากธนาคารโลก เพื่อใช้ในโครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน(DPL) ที่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 30 ก.ค.57 วงเงิน 3,000 ล้านบาท

   2.การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล จำนวนรวม 48,976 ล้านบาท ประกอบด้วย การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล จำนวน 25,000 ล้านบาท ได้แก่ การปรับโครงสร้างหนี้สัญญาเงินกู้ระยะสั้นที่ออกภายใต้ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะฯ พ.ศ.2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 9,000 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ทั้งจำนวน, การปรับโครงสร้างหนี้สัญญาเงินกู้ระยะสั้นที่ออกภายใต้ พ.ร.ก.ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สองฯ(FIDF 3) จำนวน 16,000 ล้านบาท โดยออกพันธบัตรรัฐบาล 14,198 ล้านบาท และยืมเงินทดรองจ่ายจากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (Premium FIDF 3) จำนวน 1,802 ล้านบาท

    สำหรับ รายงานการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลจะไม่รวมการ Roll over ตั๋วเงินคลัง เนื่องจากการกู้เงินโดยการออกตั๋วเงินคลังเป็นการกู้ในรูปเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรักษาระดับเงินคงคลังให้เพียงพอกับการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยการกู้เงินในขณะหนึ่งจะไม่เกินวงเงินที่กำหนด โดย ณ ต้นปีงบประมาณ พ.ศ.2558 มีวงเงินตั๋วเงินคลังเพื่อใช้ในการบริหารเงินสดรับ-จ่ายของรัฐบาล จำนวน 90,500 ล้านบาท และกระทรวงการคลังจะทำการ Roll over ตั๋วเงินคลังที่ครบกำหนดตามอายุของตั๋วเงินคลังในแต่ละรุ่น

    ส่วนการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล จำนวน 23,976 ล้านบาท โดยเป็นการออกพันธบัตรรัฐบาล จำนวน 23,976 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะฯ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 22 พ.ค.58 เพื่อชำระหนี้ของรัฐบาลจำนวน 11,119.61 ล้านบาท โดยเป็นการชำระหนี้ของรัฐบาลจากงบประมาณ จำนวน 8,581.32 ล้านบาท แบ่งเป็นชำระหนี้ในประเทศ 8,302.81 ล้านบาท โดยเป็นการชำระดอกเบี้ยทั้งจำนวน และชำระหนี้ต่างประเทศ 278.51 ล้านบาท แบ่งเป็น ต้นเงิน 93.47 ล้านบาท และดอกเบี้ย 185.04 ล้านบาท

    ขณะเดียวกันยังมีการชำระหนี้ของรัฐบาลจากแหล่งอื่น เป็นจำนวน 2,538.29 ล้านบาท โดยเป็นการชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.ก.ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ (FIDF 1) จำนวน 1,085.09 ล้านบาท ซึ่งเป็นการชำระดอกเบี้ยทั้งจำนวน โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ และการชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.ก.ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สองฯ (FIDF 3) จำนวน 1,453.20 ล้านบาท ซึ่งเป็นการชำระดอกเบี้ยทั้งจำนวน โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ

                        อินโฟเควสท์

สบน.เผยผลบริหารจัดการหนี้สาธารณะ ม.ค.58 มีวงเงินรวม 87,479.45 ล้านบาท

    สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เผยผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือน ม.ค.58 มีวงเงินรวม 87,479.45 ล้านบาท แบ่งเป็น หนี้รัฐบาล 79,200.45 ล้านบาท และหนี้รัฐวิสาหกิจ 8,279 ล้านบาท

     โดยการบริหารจัดการหนี้รัฐบาล วงเงินรวม 79,200.45 ล้านบาท ได้แก่ 1.การกู้เงินในประเทศของรัฐบาลเป็นจำนวนทั้งสิ้น 19,104.84 ล้านบาท ประกอบด้วย การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณจำนวน 17,116.61 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาล 4,438 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ 12,678.61 ล้านบาท, การเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำ จำนวน 200 ล้านบาท จากสัญญาเงินกู้วงเงิน 15,393 ล้านบาท ที่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 30 เม.ย.56 ภายใต้ พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศฯ

   การเบิกจ่ายเงินกู้ให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง จำนวน 132.02 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จำนวน 98.29 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้า สายสีเขียว จำนวน 128.12 ล้านบาท รวมถึงการเบิกจ่ายเงินกู้ต่อให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำโครงการรถไฟสายสีแดง จำนวน 67.64 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง จำนวน 192.16 ล้านบาท

   และการเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวน 1,170 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้เงินบาททดแทนเงินกู้จากธนาคารโลก เพื่อใช้ในโครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน(DPL) ที่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 30 ก.ค.57 วงเงิน 3,000 ล้านบาท

   2.การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล จำนวนรวม 48,976 ล้านบาท ประกอบด้วย การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล จำนวน 25,000 ล้านบาท ได้แก่ การปรับโครงสร้างหนี้สัญญาเงินกู้ระยะสั้นที่ออกภายใต้ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะฯ พ.ศ.2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 9,000 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ทั้งจำนวน, การปรับโครงสร้างหนี้สัญญาเงินกู้ระยะสั้นที่ออกภายใต้ พ.ร.ก.ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สองฯ(FIDF 3) จำนวน 16,000 ล้านบาท โดยออกพันธบัตรรัฐบาล 14,198 ล้านบาท และยืมเงินทดรองจ่ายจากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (Premium FIDF 3) จำนวน 1,802 ล้านบาท

   สำหรับ รายงานการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลจะไม่รวมการ Roll over ตั๋วเงินคลัง เนื่องจากการกู้เงินโดยการออกตั๋วเงินคลังเป็นการกู้ในรูปเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรักษาระดับเงินคงคลังให้เพียงพอกับการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยการกู้เงินในขณะหนึ่งจะไม่เกินวงเงินที่กำหนด โดย ณ ต้นปีงบประมาณ พ.ศ.2558 มีวงเงินตั๋วเงินคลังเพื่อใช้ในการบริหารเงินสดรับ-จ่ายของรัฐบาล จำนวน 90,500 ล้านบาท และกระทรวงการคลังจะทำการ Roll over ตั๋วเงินคลังที่ครบกำหนดตามอายุของตั๋วเงินคลังในแต่ละรุ่น

   ส่วนการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล จำนวน 23,976 ล้านบาท โดยเป็นการออกพันธบัตรรัฐบาล จำนวน 23,976 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะฯ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 22 พ.ค.58 เพื่อชำระหนี้ของรัฐบาลจำนวน 11,119.61 ล้านบาท โดยเป็นการชำระหนี้ของรัฐบาลจากงบประมาณ จำนวน 8,581.32 ล้านบาท แบ่งเป็นชำระหนี้ในประเทศ 8,302.81 ล้านบาท โดยเป็นการชำระดอกเบี้ยทั้งจำนวน และชำระหนี้ต่างประเทศ 278.51 ล้านบาท แบ่งเป็น ต้นเงิน 93.47 ล้านบาท และดอกเบี้ย 185.04 ล้านบาท

    ขณะเดียวกัน ยังมีการชำระหนี้ของรัฐบาลจากแหล่งอื่น เป็นจำนวน 2,538.29 ล้านบาท โดยเป็นการชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.ก.ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ (FIDF 1) จำนวน 1,085.09 ล้านบาท ซึ่งเป็นการชำระดอกเบี้ยทั้งจำนวน โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ และการชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.ก.ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สองฯ (FIDF 3) จำนวน 1,453.20 ล้านบาท ซึ่งเป็นการชำระดอกเบี้ยทั้งจำนวน โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ

                        อินโฟเควสท์

คลัง เผย ผลการบริหารจัดการหนี้ประจำเดือน ม.ค.58 รวม 8.74 หมื่นลบ.

      สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะขอสรุปผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐที่ดำเนินการโดยสำนักงาน บริหารหนี้สาธารณะ ประจำเดือนมกราคม 2558 วงเงินรวม 87,479.45 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 79,200.45 ล้านบาท และหนี้รัฐวิสาหกิจ 8,279 ล้านบาท

    1. การบริหารจัดการหนี้รัฐบาล วงเงินรวม 79,200.45 ล้านบาท

   1.1 ผลการกู้เงินในประเทศของรัฐบาล

ในเดือนมกราคม 2558 กระทรวงการคลังได้กู้เงินและเบิกจ่ายเงินกู้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 19,104.84 ล้านบาท    รายละเอียดดังนี้

 1.1.1 การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 17,116.61 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาล 4,438 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ 12,678.61 ล้านบาท

 1.1.2 การเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำ จำนวน 200 ล้านบาท จากสัญญาเงินกู้วงเงิน 15,393   ล้านบาท ที่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556 ภายใต้ พ.ร.ก. บริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศฯ

 1.1.3 การเบิกจ่ายเงินกู้ให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง จำนวน 132.02 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จำนวน 98.29 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้า  สายสีเขียว จำนวน 128.12 ล้านบาท รวมถึงการเบิกจ่ายเงินกู้ต่อให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำโครงการรถไฟสายสีแดง จำนวน 67.64 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง จำนวน 192.16 ล้านบาท

 1.1.4 การเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวน 1,170 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้เงินบาททดแทนเงินกู้จากธนาคารโลก   เพื่อใช้ในโครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (DPL) ที่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่     30 กรกฎาคม 2557 วงเงิน 3,000 ล้านบาท

  1.2 การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล จำนวนรวม 48,976 ล้านบาท

   1.2.1 การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล จำนวน 25,000 ล้านบาท

ในเดือนมกราคม 2558 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศ ดังนี้

(1) การปรับโครงสร้างหนี้สัญญาเงินกู้ระยะสั้น ที่ออกภายใต้ พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะฯ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 9,000 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ทั้งจำนวน

(2) การปรับโครงสร้างหนี้สัญญาเงินกู้ระยะสั้น ที่ออกภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สองฯ (FIDF 3) จำนวน 16,000 ล้านบาท โดย (1) ออกพันธบัตรรัฐบาล 14,198 ล้านบาท (2) ยืมเงินทดรองจ่ายจากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (Premium FIDF 3) จำนวน 1,802 ล้านบาท 

    ทั้งนี้ การรายงานการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลจะไม่รวมการ Roll over ตั๋วเงินคลัง เนื่องจากการกู้เงินโดยการออกตั๋วเงินคลังเป็นการกู้ในรูปเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรักษาระดับเงินคงคลังให้เพียงพอกับ  การใช้จ่ายของรัฐบาล โดยการกู้เงินในขณะหนึ่งจะไม่เกินวงเงินที่กำหนด โดย ณ ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2558  มีวงเงินตั๋วเงินคลังเพื่อใช้ในการบริหารเงินสดรับ – จ่ายของรัฐบาล จำนวน 90,500 ล้านบาท และกระทรวงการคลัง จะทำการ Roll over ตั๋วเงินคลังที่ครบกำหนดตามอายุของตั๋วเงินคลังในแต่ละรุ่น

     1.2.2 การกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล จำนวน 23,976 ล้านบาท

    ในเดือนมกราคม 2558 มีการกู้เงินล่วงหน้า (Pre-funding) โดยเป็นการออกพันธบัตรรัฐบาล จำนวน 23,976 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้ พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะฯ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 22 พฤษภาคม 2558

1.3 การชำระหนี้ของรัฐบาล

    ในเดือนมกราคม 2558 กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้ จำนวน 11,119.61 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น

 1.3.1 การชำระหนี้ของรัฐบาลจากงบประมาณ เป็นจำนวน 8,581.32 ล้านบาท รายละเอียด ดังนี้

     - ชำระหนี้ในประเทศ 8,302.81 ล้านบาท โดยเป็นการชำระดอกเบี้ยทั้งจำนวน

     - ชำระหนี้ต่างประเทศ 278.51 ล้านบาท แบ่งเป็น ต้นเงิน 93.47 ล้านบาท และดอกเบี้ย 185.04 ล้านบาท

    1.3.2 การชำระหนี้ของรัฐบาลจากแหล่งอื่น เป็นจำนวน 2,538.29 ล้านบาท ดังนี้

     (1) การชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ (FIDF 1) จำนวน 1,085.09 ล้านบาท ซึ่งเป็นการชำระดอกเบี้ยทั้งจำนวน โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 

     (2) การชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สองฯ (FIDF 3) จำนวน 1,453.20  ล้านบาท ซึ่งเป็นการชำระดอกเบี้ยทั้งจำนวน โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุน เพื่อการฟื้นฟูฯ

   2. การบริหารจัดการหนี้รัฐวิสาหกิจ วงเงินรวม 8,279 ล้านบาท

    2.1 ผลการกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจ

      ในเดือนมกราคม 2558 รัฐวิสาหกิจได้มีการกู้เงินในประเทศเป็นเงิน 1,772.50 ล้านบาท

2.2 ผลการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ

    ในเดือนมกราคม 2558 รัฐวิสาหกิจได้มีการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศเป็นเงิน 6,506.50 ล้านบาท

 2.3 ผลการบริหารจัดการหนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจเพื่อลดต้นทุนเงินกู้และป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน              

      ในเดือนมกราคม 2558 ไม่มีการบริหารจัดการหนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจ

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!