WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

คลัง เผย หนี้สาธารณะคงค้างสิ้น ธ.ค. 57 อยู่ที่ 45.84% ของจีดีพี ลดลงจาก พ.ย. 57 อยู่ที่ 46.12%

     สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ รายงานว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 มีจำนวน 5,623,973.83 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 45.84 ของ GDP  เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า ( อนึ่ง ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง พ.ย. 57 อยู่ที่ 46.12%)  หนี้สาธารณะลดลงสุทธิ 2,086.06 ล้านบาท และมีการปรับประมาณการ GDP ในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ลดลงจาก 46.12 เป็น 45.84 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

 1. หนี้ของรัฐบาล 3,954,659.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,098.13 ล้านบาท

 2. หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,073,800.65 ล้านบาท ลดลง 4,069.43 ล้านบาท

 3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 587,543.35 ล้านบาท

  ลดลง 2,127.54 ล้านบาท

 4. หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 7,970.58 ล้านบาท ลดลง 987.22 ล้านบาท

       1.1.1 หนี้ต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 170.41 ล้านบาท โดยผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 223.29 ล้านบาท ในขณะที่การเบิกจ่ายและชำระคืนเงินกู้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 393.70 ล้านบาท

       อย่างไรก็ดี หากพิจารณาในรูปเงินบาท หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงจำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ หลังจากที่ทำการป้องกัน  ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนแล้วจำนวน 2,918.48 ล้านบาท โดยมีรายการสำคัญเกิดจากเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณและการบริหารหนี้เพิ่มขึ้น 251.29 ล้านบาท เนื่องจากการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ โดยการออกพันธบัตรรัฐบาล 4,000 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ 1,463.29 ล้านบาท

การปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ระยะสั้นที่ออกภายใต้ พ.ร.บ การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และแก้ไขเพิ่มเติม มาเป็นหนี้ระยะยาวโดยการออกพันธบัตรบริหารหนี้ 12,788 ล้านบาท และตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ 5,800 ล้านบาท

การชำระหนี้สัญญาเงินกู้ระยะสั้น จำนวน 5,212 ล้านบาท

การเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวน 200 ล้านบาท จากสัญญาเงินกู้วงเงิน 15,393 ล้านบาท ที่ได้ลงนามใน  สัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556 ภายใต้ พ.ร.ก. บริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศฯ

การเบิกจ่ายเงินให้กู้ต่อ เพิ่มขึ้น 2,467.19 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน 2,146.68 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง วงเงิน 1,403.01 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน วงเงิน 529.77 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว วงเงิน 213.90 ล้านบาท

การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 320.51 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟสายสีแดง จำนวน 174.11 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง จำนวน 146.40 ล้านบาท

 1.2 หนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 15,000.76 ล้านบาท โดยมีรายการที่สำคัญเกิดจาก

 - การชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟู (FIDF 1) จำนวน 15,000 ล้านบาท (FIDF 3) โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จำนวน5,000 ล้านบาท และการยืมเงินทดรองจ่ายจากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (Premium FIDF 1) จำนวน 10,000  ล้านบาท

 - การชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่ 2 (FIDF 3) จำนวน 0.76  ล้านบาท โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ

 1.3 หนี้เงินกู้ล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 17,010 ล้านบาท โดยเป็นการออก R-Bill จำนวน 17,010 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้ พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะฯ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 22 พฤษภาคม 2558

    2. หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน

 2.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน

 2.1.1 หนี้ต่างประเทศ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 1,262.93 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลง ของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 569.21 ล้านบาท ประกอบกับการเบิกจ่ายและชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในสกุลเงินบาทลดลง 693.72 ล้านบาท   

    2.1.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น จำนวน 222.92 ล้านบาท เนื่องจาก

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพออกพันธบัตร 1,000 ล้านบาท และไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด    900 ล้านบาท

รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ มากกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 122.92 ล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 1,480 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 1,357.08 ล้านบาท

 2.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน

  2.2.1 หนี้ต่างประเทศ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 4,209.59 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 1,119.49 ล้านบาท ประกอบกับการเบิกจ่ายเงินและชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในสกุลเงินบาทลดลง 3,090.10 ล้านบาท

     2.2.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1,180.17 ล้านบาท เนื่องจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ออกหุ้นกู้ 10,000 ล้านบาท และไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนด 8,946.20 ล้านบาทบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ออกหุ้นกู้ 4,000 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไถ่ถอนพันธบัตร 233 ล้านบาท องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงิน 2.1 ล้านบาทรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 3,638.52 ล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 327.09 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 3,965.61 ล้านบาท

     3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน)

 3.1 หนี้ต่างประเทศ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 25.54 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของ   อัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 1.53 ล้านบาท ประกอบกับการเบิกจ่ายเงินและชำระคืน    หนี้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในสกุลเงินบาทลดลง 24.01 ล้านบาท

      3.2  หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 2,102 ล้านบาท เนื่องจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,000 ล้านบาทธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรชำระคืนต้นเงินตามสัญญาเงินกู้ 1,102 ล้านบาท

 ทั้งนี้ หากพิจารณาในรูปเงินบาท หนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) หลังทำการป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน จำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ

       4.  หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ

 หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง จำนวน 987.22 ล้านบาท เนื่องจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 0.83 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 988.05 ล้านบาท

     หนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 มีจำนวน 5,623,973.83 ล้านบาท ซึ่งหากแบ่งประเภทหนี้สาธารณะคงค้างเป็นหนี้ต่างประเทศ-หนี้ในประเทศ และหนี้ระยะยาว-หนี้ระยะสั้น มีรายละเอียด ดังนี้

     หนี้ต่างประเทศและหนี้ในประเทศ หนี้สาธารณะคงค้าง จำนวน 5,623,973.83 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ต่างประเทศ 349,421.98 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.21 และหนี้ในประเทศ 5,274,551.85 ล้านบาท หรือร้อยละ 93.79 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

สถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2557

                สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอแถลงสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2557 ดังนี้

                ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 มีจำนวน 5,623,973.83 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 45.84 ของ GDP เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะลดลงสุทธิ 2,086.06 ล้านบาท และมีการปรับประมาณการ GDP ในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ลดลงจาก 46.12 เป็น 45.84 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

                1. หนี้ของรัฐบาล 3,954,659.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,098.13 ล้านบาท

                2. หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,073,800.65 ล้านบาท ลดลง 4,069.43 ล้านบาท

                3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 587,543.35 ล้านบาท ลดลง 2,127.54 ล้านบาท

                4. หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 7,970.58 ล้านบาท ลดลง 987.22 ล้านบาท

                ทั้งนี้ รายละเอียดและสัดส่วนของหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2557

                1. หนี้ของรัฐบาล

                1.1 หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้นสุทธิ 3,088.89 ล้านบาท เนื่องจาก

                1.1.1 หนี้ต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 170.41 ล้านบาท โดยผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 223.29 ล้านบาท ในขณะที่การเบิกจ่ายและชำระคืนเงินกู้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 393.70 ล้านบาท

                อย่างไรก็ดี หากพิจารณาในรูปเงินบาท หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงจำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ หลังจากที่ทำการป้องกัน  ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน

                1.1.2 หนี้ในประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 2,918.48 ล้านบาท โดยมีรายการสำคัญเกิดจาก

                เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณและการบริหารหนี้เพิ่มขึ้น 251.29 ล้านบาท เนื่องจาก

                - การกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ โดยการออกพันธบัตรรัฐบาล 4,000 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ 1,463.29 ล้านบาท

                - การปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ระยะสั้นที่ออกภายใต้ พ.ร.บ การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และแก้ไขเพิ่มเติม มาเป็นหนี้ระยะยาวโดยการออกพันธบัตรบริหารหนี้ 12,788 ล้านบาท และตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ 5,800 ล้านบาท

                - การชำระหนี้สัญญาเงินกู้ระยะสั้น จำนวน 5,212 ล้านบาท

                - การเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวน 200 ล้านบาท จากสัญญาเงินกู้วงเงิน 15,393 ล้านบาท ที่ได้ลงนามใน  สัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556 ภายใต้ พ.ร.ก. บริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศฯ

                - การเบิกจ่ายเงินให้กู้ต่อ เพิ่มขึ้น 2,467.19 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น

                - การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน 2,146.68 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง วงเงิน 1,403.01 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน วงเงิน 529.77 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว วงเงิน 213.90 ล้านบาท

                - การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 320.51 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟสายสีแดง จำนวน 174.11 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง จำนวน 146.40 ล้านบาท

                1.2 หนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 15,000.76 ล้านบาท โดยมีรายการที่สำคัญเกิดจาก

                - การชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟู (FIDF 1) จำนวน 15,000 ล้านบาท (FIDF 3) โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จำนวน5,000 ล้านบาท และการยืมเงินทดรองจ่ายจากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (Premium FIDF 1) จำนวน 10,000  ล้านบาท

                - การชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่ 2 (FIDF 3) จำนวน 0.76  ล้านบาท โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ

                1.3 หนี้เงินกู้ล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 17,010 ล้านบาท โดยเป็นการออก R-Bill จำนวน 17,010 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้ พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะฯ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 22 พฤษภาคม 2558

2. หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน

                2.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน

                2.1.1 หนี้ต่างประเทศ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 1,262.93 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลง ของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 569.21 ล้านบาท ประกอบกับการเบิกจ่ายและชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในสกุลเงินบาทลดลง 693.72 ล้านบาท

                2.1.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น จำนวน 222.92 ล้านบาท เนื่องจาก

                -  องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพออกพันธบัตร 1,000 ล้านบาท และไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 900 ล้านบาท

                -  รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ มากกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 122.92 ล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 1,480 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 1,357.08 ล้านบาท

2.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน

                2.2.1 หนี้ต่างประเทศ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 4,209.59 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 1,119.49 ล้านบาท ประกอบกับการเบิกจ่ายเงินและชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในสกุลเงินบาทลดลง 3,090.10 ล้านบาท

                2.2.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1,180.17 ล้านบาท เนื่องจาก

                -  บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ออกหุ้นกู้ 10,000 ล้านบาท และไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนด 8,946.20 ล้านบาท

                -  บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ออกหุ้นกู้ 4,000 ล้านบาท

                -  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไถ่ถอนพันธบัตร 233 ล้านบาท

                -  องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงิน 2.1 ล้านบาท

                -  รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 3,638.52 ล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 327.09 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 3,965.61 ล้านบาท

3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน)

                3.1 หนี้ต่างประเทศ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 25.54 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 1.53 ล้านบาท ประกอบกับการเบิกจ่ายเงินและชำระคืน หนี้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในสกุลเงินบาทลดลง 24.01 ล้านบาท

3.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 2,102 ล้านบาท เนื่องจาก

                - ธนาคารอาคารสงเคราะห์ไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,000 ล้านบาท

                - ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรชำระคืนต้นเงินตามสัญญาเงินกู้ 1,102 ล้านบาท

                ทั้งนี้ หากพิจารณาในรูปเงินบาท หนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) หลังทำการป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน จำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ

4. หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ

                หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง จำนวน 987.22 ล้านบาท เนื่องจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 0.83 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 988.05 ล้านบาท

                หนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 มีจำนวน 5,623,973.83 ล้านบาท ซึ่งหากแบ่งประเภทหนี้สาธารณะคงค้างเป็นหนี้ต่างประเทศ-หนี้ในประเทศ และหนี้ระยะยาว-หนี้ระยะสั้น มีรายละเอียด ดังนี้

                หนี้ต่างประเทศและหนี้ในประเทศ หนี้สาธารณะคงค้าง จำนวน 5,623,973.83 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ต่างประเทศ 349,421.98 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.21 และหนี้ในประเทศ 5,274,551.85 ล้านบาท หรือร้อยละ 93.79 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง

หนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

                - หนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้น (แบ่งตามอายุของเครื่องมือการกู้เงิน) หนี้สาธารณะคงค้าง จำนวน 5,623,973.83 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ระยะยาว 5,462,678.87 ล้านบาท หรือร้อยละ 97.13 และหนี้ระยะสั้น 161,294.96 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.87 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง

                - หนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้น (แบ่งตามอายุคงเหลือ) หนี้สาธารณะคงค้าง จำนวน 5,623,973.83  ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ระยะยาว 4,911,863.71 ล้านบาท หรือร้อยละ 87.34 และหนี้ระยะสั้น 712,110.12 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.66 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง

                ส่วนวิจัยนโยบายหนี้สาธารณะ สำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5512,5522-กระทรวงการคลัง

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!