- Details
- Category: คลัง
- Published: Monday, 19 January 2015 23:13
- Hits: 3049
'สมหมาย'ตั้งทีมปฏิรูปวิธีจัดเก็บครั้งใหญ่ คลังอุดช่องโหว่เลี่ยงภาษี
แนวหน้า : รมว.คลัง จัดชุดใหญ่ปฏิรูปภาษี ดึงเอกชนเข้าร่วม ระดมความเห็นอุดช่องโหว่ไม่ให้เลี่ยงได้ ด้านอธิบดีกรมบัญชีกลาง เผยเตรียมแก้ไข พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง ป้องกันทุจริตในวงราชการ ขู่ระดับ “ผู้สั่งการ”โทษหนักแน่
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า จะตั้งคณะกรรมการปฏิรูปภาษีชุดใหญ่ ซึ่งรมว.คลัง จะนั่งเป็นประธานโดยตำแหน่ง จะมีการดึงเอกชนเข้ามาร่วมเป็นกรรมการ ทั้งจากภาคธุรกิจ ผู้ตรวจสอบบัญชี และสำนักงานบัญชี เพื่อระดมความคิดเห็นครั้งใหญ่ในการปฏิรูปภาษี ซึ่งรวมไปถึงการอุดช่องโหว่การรั่วไหลของภาษี เพราะเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยกว่าการขยายอัตราภาษี หรือ การขยายฐานภาษี
สำหรับ แนวทางการปฏิรูปภาษีของ กระทรวงการคลัง ยังเป็นไปตามแผนของรัฐบาล ที่จะมีการเก็บภาษีการรับมรดก ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาในเดือน ก.พ. นี้ ส่วนการเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) “ยังไม่บอกรายละเอียดเพราะไม่ต้องการให้ประชาชนสับสน และที่ผ่านมาถูกต่อว่าเป็น รมว.คลัง บริหารเศรษฐกิจไม่เป็น มองว่าการขึ้น VAT จะทำให้เศรษฐกิจแย่ลง ซึ่งตามแผนการปฏิรูปภาษีของรัฐบาลจะช่วยเพิ่มให้เก็บรายได้มากขึ้น โดยเฉพาะภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง”
ทั้งนี้ มั่นใจว่า การปฏิรูปภาษีมีส่วนอื่นที่สามารถเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น โดยเฉพาะการอุดช่องรั่วไหลของการจัดเก็บVAT ซึ่งที่ผ่านมาคลังได้รวบรวมข้อมูลและวิธีการแก้ไข โดยจะมีการนำหารือในคณะกรรมการปฏิรูปที่ตั้งขึ้น ก่อนจะนำมาใช้ให้เกิดผลในทางปฏิบัติ
“คณะกรรมการปฏิรูปภาษี ที่มาจากภาคเอกชน จะมีความเชี่ยวชาญมาก จะรู้ดีว่าที่ผ่านมามีการหลบเลี่ยงภาษีกันอย่างไร และจะแก้ไขกันอย่างไร ซึ่งในส่วนนี้ในฐานะรมว.คลัง คิดว่าหากแก้ไขได้จะเพิ่มการเก็บภาษีให้กับประเทศได้มาก”
สำหรับ การปฏิรูปภาษีของประเทศยังต้องปรับพื้นฐานของคนเสียภาษี ให้คนที่เสียให้เข้ามาเสียให้ถูกต้อง ไม่ใช่ทำแต่การไปรีดภาษีเพิ่มกับคนที่เสียเดิมอยู่แล้ว ทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมไม่ถูกต้อง แม้ว่าเป็นเรื่องทำได้ยากแต่ก็ต้องทำ
รมว.คลัง กล่าวถึงการจัดเก็บรายได้ของงบประมาณปี 2558 ยอมรับว่ามีปัญหาในช่วงการจัดเก็บรายได้ผ่านมา 3 เดือน เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี แต่หากเศรษฐกิจดีขึ้นการเก็บรายได้ก็จะดีขึ้นตาม ถือเป็นเรื่องปกติ โดยสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือต้องอุดรูรั่วของภาษีในทุกๆ ตัว โดยเฉพาะภาษีแวต เพื่อทำให้การเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น
ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า การจัดเก็บรายได้ของกรมในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าเป้า 87 ล้านบาท ซึ่งถือว่าดีขึ้น คาดว่าตั้งแต่เดือนม.ค.เป็นต้นไปการเก็บภาษีของกรมจะดีขึ้นและเป็นไปตามเป้า
ส่วนนายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำการแก้ไข พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง จากเดิมใช้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีควบคุมดูแลการจัดซื้อจัดจ้างส่วนราชการทั้งหมด ทั้งนี้ เพื่ออุดช่องโหว่ป้องกันการทุจริต จึงได้แก้ไขเพิ่มเติมด้วยการเอาผิดระดับผู้สั่งการให้ได้รับโทษหนัก จากเดิมการเอาผิดการทุจริตคอร์รัปชั่นมักลงโทษระดับข้าราชการ ผู้บริหาร ไม่สามารถเอาผิดถึงระดับผู้สั่งการได้ คาดว่าจะสามารถสรุปและเสนอ กระทรวงการคลังพิจารณา เพื่อเสนอที่ประชุมครม.พิจารณาครั้งต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่ประชุมครม.เห็นชอบแนวทางปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ ด้วยการนำระบบ e-Market มาใช้แทนระบบเดิม ให้เอกชนที่ผลิตหรือขายสินค้าต่างๆ มาเสนอราคาขายสินค้าผ่านระบบอินเตอร์เนต เพื่อให้หน่วยงานราชการเข้ามาดูและเปรียบเทียบราคาได้ และยังนำระบบ e-Bidding มาใช้เพื่อให้หน่วยงานราชการเสนอความต้องการสินค้าและบริการ ให้บริษัทเอกชนเข้ามารับจ้างผลิตสินค้าและเป็นฐานข้อมูลในอนาคต
ปัจจุบันระบบ e-Market และระบบ e-Bidding เริ่มใช้หน่วยงานนำร่องทดลองใช้มาแล้ว 12 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2557 ที่ผ่านมา
