WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

เศรษฐกิจภูมิภาคปีนี้โต 2.8% คลังวาดฝันปีหน้ารับอานิสงส์มาตรการภาครัฐ

    บ้านเมือง : คลัง เผยตัวเลขเศรษฐกิจภูมิภาคปีนี้โตแค่ 2.8% เหตุสินค้าเกษตรตกต่ำ และการท่องเที่ยวชะลอตัว ระบุปีหน้า คาดเติบโตได้ 4.7% รับอานิสงส์มาตรการเร่งรัดการจ่ายเงิน-ช่วยเหลือเกษตรกรของรัฐบาล ขณะที่หอการค้าไทย คาดส่งออกปีหน้าโต 3.5% มองรัฐตั้งเป้า 4-5% ยังห่างไกล แนะเร่งปรับโครงสร้างการผลิต

      นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เพื่อให้ประชาชน นักลงทุน ได้รับทราบข้อมูลการขยายตัวเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค (Gross Reginal Product: GRP) จึงมอบหมายให้สำนักการเงินการคลัง กรมบัญชีกลาง จัดทำข้อมูลเพื่อรายงานการติดตามและประมาณการเศรษฐกิจภูมิภาค เพราะเศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้มาก ส่วนใหญ่มาจากภูมิภาค โดยเศรษฐกิจภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัดมีมูลค่าประมาณ 8.5 ล้านล้านบาท มีสัดส่วนถึง 70% และเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคได้ขยายตัวมากกว่าเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลได้ให้ความสำคัญพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในหลายด้าน

       โดยคาดว่า เศรษฐกิจภูมิภาคปีนี้จะขยายตัวได้ประมาณ 2.8% ชะลอลงจากปี 2556 ซึ่งขยายตัวอยู่ที่ 4.5% เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรลดลง ผลผลิตทางการเกษตรชะลอลง ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเพิ่มได้เพียงเล็กน้อย การท่องเที่ยวและบริการไม่ฟื้นตัวมากนัก โดยกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีการเติบโตสูงสุดอยู่ที่ 3.7% เป็นผลมาจากธุรกิจบริการและการค้าชายแดนยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มภาคเหนือตอนล่างเติบโตน้อยที่สุดที่ขยายตัว 1.3% เป็นผลมาจากผลผลิตภาคเกษตรที่ชะลอตัวลง ทำให้การบริโภคลดลง

     สำหรับ เศรษฐกิจภูมิภาคปี 2558 คาดการณ์ว่า GRP จะขยายตัวได้ 4.7% หรืออยู่ในกรอบ 4.2-5.2% เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐที่จะขยายตัวได้มากขึ้นจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มาตรการเร่งรัดการจ่ายเงินภาครัฐ นโยบายช่วยเหลือเกษตรกรของรัฐบาล จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และการปรับลดราคาน้ำมันทำให้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น ตลอดจนการเร่งเดินหน้าพัฒนาจังหวัดมุกดาหาร ตาก ตราด สงขลา และสระแก้ว ให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ จึงทำให้มูลค่าการค้าชายแดนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีมูลค่าประมาณแสนล้านบาท

     "เศรษฐกิจภูมิภาคมีขนาดเศรษฐกิจค่อนข้างใหญ่ มูลค่าประมาณ 8.5 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 70% ของเศรษฐกิจ โดยมีแนวโน้มของขนาดและการเติบโตของเศรษฐกิจที่สูงกว่าเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละจังหวัดมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจและปัจจัยการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน อาทิ ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการค้าชายแดน การพัฒนาท้องถิ่นเพื่อให้เกิดการจ้างงาน รวมทั้งการลงทุนในระบบการขนส่งสินค้า เป็นต้น"

     ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนบนจะเติบโตมากที่สุดอยู่ที่ 5.5-6.5 เพราะเป็นพื้นที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยว และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่างเติบโตน้อยที่สุดอยู่ที่ 2.1-3.1 เพราะเป็นพื้นที่ปลูกยางพาราซึ่งยังเผชิญราคาตกต่ำ และยังมีปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

    นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในปี 2558 จะต้องดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีนี้อย่างแน่นอน โดยภาครัฐคาดการณ์ว่า ส่งออกปีหน้าจะขยายตัวอยู่ที่ 4-5% ซึ่งส่วนตัวมองว่ายังเป็นเป้าที่ยังห่างไกลและคาดว่าจะโตเพียง 3.5% เท่านั้น ขณะที่การลงทุน การท่องเที่ยวดีขึ้น รวมทั้งการค้าชายแดนที่ปีหน้าน่าจะมีการเติบโต 10% มูลค่าถึง 1 ล้านล้านบาท

   นอกจากนี้ ส่วนตัวอยากให้มีการปรับโครงสร้างการผลิตในช่วงที่มีการปฏิรูป เนื่องจากโครงสร้างปัจจุบันไม่ตอบสนองกับความต้องการตลาดโลก รวมทั้งระบบการอุดหนุนสินค้าเกษตรควรต้องมีการออกเป็นกฎหมาย เพื่อบังคับใช้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ป้องกันการเกิดนโยบายประชานิยม นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า คาดการณ์ GDP ของไทยปี 58 เติบโตได้ที่ระดับ 3-4% โดยมีเครื่องยนต์สำคัญคือรัฐบาล เครื่องยนต์นี้กำลังจะบินฝ่าแนวต้านที่ค่อนข้างลำบาก สำหรับธนาคารกรุงเทพในอีก 2-3 ปีข้างหน้ามีแผนที่จะเป็นธนาคารด้านยูนิเวอร์แซลแบงก์กิ้ง โดยจะมาเน้นปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อยรายเล็ก (เอสเอ็มอีขนาดเล็ก) วงเงินกู้ตั้งแต่จำนวน 100,000-10 ล้านบาท จากเดิมที่ธนาคารปล่อยสินเชื่อให้รายใหญ่และขยายมาสู่กลุ่มธุรกิจขนาดกลาง ซึ่งธนาคารต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของความรู้และด้านบุคคล การเชื่อมโยงตลาด เพื่อสามารถเข้าถึงทุกตลาดที่เป็นมาตรฐานสำหรับรายย่อย

     ขณะที่ในส่วนของเกษตรนั้น ปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าที่เป็นเกษตรกรก้าวหน้าอยู่ประมาณ 6,000 ราย มีสินเชื่อคงค้างสำหรับช่วยเหลือเกษตรกรอยู่ 16,000 ล้านบาทและจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในแง่ปริมาณเกษตรกรและในแง่ของจำนวนสินเชื่อ เนื่องจากการเกษตรเป็นพื้นฐานของประเทศ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!