- Details
- Category: คลัง
- Published: Friday, 26 December 2014 23:22
- Hits: 2578
‘สมหมาย’เมินอัดมาตรการกระตุ้นศก.เพิ่ม เร่งอัดงบฯ เข้าระบบ
แนวหน้า : นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่าช่วงนี้ยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ เพิ่มเติม เพราะเชื่อว่าเม็ดเงินจากโครงการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 1.5 หมื่นบาทที่จะส่งให้กับเกษตรกรครบทั้ง 100% ในต้นเดือนมกราคมนี้ และเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 ปี 2557 ซึ่งเป็นไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 จำนวน 9 แสนล้านบาท จะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปี 2558 ขยายตัวได้ 4-5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 จึงมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะขยายตัวเฉลี่ย 3.5-4.5% ได้ แม้ว่าการส่งออกจะยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าจะดีขึ้นตามที่คาดการณ์หรือไม่
ทั้งนี้ หากเศรษฐกิจในไตรมาสแรก ไม่ขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ รัฐบาลก็พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ดีขึ้น โดยจะฟื้นโครงการลงทุนเหมืองแร่โปรแตซอาเซียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากโครงการลงทุนถูกชะลอไปเป็นเวลานาน จึงต้องการกลับไปฟื้นการลงทุน เพื่อนำแร่โปรแตซขึ้นมาใช้ประโยชน์ เพราะไม่มีประเทศคู่แข่งในภูมิภาคนี้
สำหรับ เป็นโครงการลงทุนเหมืองแร่โปรแตซอาเซียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นการลงทุนร่วมกันของกลุ่มประเทศในอาเซียนตามข้อตกลงพื้นฐานว่าด้วยโครงการอุตสาหกรรมอาเซียนตั้งเป็นบริษัทร่วมทุนโปแตชอาเซียน จำกัด โดยฝ่ายไทยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 71% ด้วยมูลค่าการลงทุน 1.99 หมื่นล้านบาท เพื่อผลิตแร่โปแตซ 1.1 ล้านตันต่อปี แต่การขุดแร่โปแตซก็ดำเนินไปได้เพียง 4 ปี ใช้เงินไปกว่า 1,200 ล้านบาท
“ยอมรับว่าในปีงบประมาณ 2559 จะยังคงจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลต่อไปอีก 1 ปี เพราะจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และพัฒนาด้านการศึกษาและสาธารณสุขให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอยู่ แต่จะขาดดุลสูงกว่าปีงบประมาณ 2558 หรือไม่ กำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาข้อมูล” นายสมหมาย กล่าว
ขุนคลังเร่งอัดงบฯ เข้าระบบหนุน ศก.
บ้านเมือง : นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านงบประมาณลงทุนทั้งรัฐและรัฐวิสาหกิจ เงินกองทุนหมุนเวียน เงินช่วยเหลือเกษตรกรประมาณ 9.3 แสนล้านบาท เมื่อเร่งรัดออกสู่ระบบ คาดว่าจะเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจขยายตัวในไตรมาแรกของปีปฏิทินสูงกว่าไตรมาส 4 ปี 57 ประมาณร้อยละ 4-5
แต่ยอมรับว่า ต้องเผชิญกับปัญหาการส่งออกชะลอตัว และการท่องเที่ยวไม่ฟื้นตัวมากนัก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากรัสเซีย จีน ชะลอลงไปมาก ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวไม่สูงมากนัก รวมทั้งการส่งออก เมื่อเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักมีปัญหาจึงได้รับผลกระทบตามไปด้วย
สำหรับ ปัญหาเศรษฐกิจรัสเซีย ยอมรับว่าเป็นปัญหาความขัดแย้งของประเทศมหาอำนาจ จึงต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด เพราะไทยมีความสัมพันธ์การค้าการลงทุนกับทุกฝ่าย มองว่าปัญหารัสเซียคงต้องใช้เวลาในการแก้ไข สำหรับเศรษฐกิจไทยมองว่าไม่ได้เลวร้ายมากนัก เมื่อรัฐบาลเดินหน้าการลงทุนในปีหน้า บวกกันปัจจัยต่างๆ มองว่าจีดีพียังขยายตัวได้ร้อยละ 4 ตามที่คาดไว้ หรือหากเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการส่งออกในช่วงกลางปี อาจขยายตัวต่อกว่าเป้าหมายร้อยละ 0.5
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวในการแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 3 เดือน คาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ของปีนี้จะเติบโตได้ราว 3% ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้จ่ายของภาครัฐ รวมทั้งการลงทุนของภาคเอกชนที่จะเข้ามาช่วยหนุน พร้อมมองว่าจะส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 1/58 ที่รับประกันว่าจะเติบโตได้ถึง 4% ต่อเนื่องจากไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เนื่องจากจะมีการโหมลงทุนโครงการต่างๆ ในช่วงต้นปี
ส่วนการช่วยเหลือชาวสวนยางจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำว่า ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้มีการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ชาวสวนยาง 1,000 บาท/ไร่ แต่ไม่เกิน 15,000 บาท/ราย ซึ่งมีชาวสวนยางทั้งหมดประมาณ 8.5 แสนครัวเรือน โดยให้จ่ายเงินช่วยเหลือดังกล่าวไปก่อนแล้วค่อยตรวจสอบสิทธิในภายหลังได้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ชาวสวนยาง คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินได้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ และมั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้ราคายางจะขยับขึ้นไปถึง 60 บาท/กก.ได้