- Details
- Category: คลัง
- Published: Thursday, 25 December 2014 07:37
- Hits: 2276
ยาสูบงานเข้าจ่อจ่ายภาษีเพิ่ม 3 พันล.หลังสรรพสามิตแก้กม.
แนวหน้า : ยาสูบงานเข้าจ่อจ่ายภาษีเพิ่ม 3 พันล. หลังสรรพสามิตแก้กม. เก็บจากราคาขายปลีก
น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ เปิดเผยว่า โรงงานยาสูบได้ประเมินผลจากการที่กรมสรรพสามิต เตรียมปรับแก้กฎหมายให้มีการจัดเก็บภาษีบนฐานราคาขายปลีกแนะนำ ซึ่งจะทำให้โรงงานยาสูบต้องเสียภาษีเพิ่ม 2,800-3,000 ล้านบาทต่อปี โดยในเบื้องต้นต้องรอดูความชัดเจนเรื่องรูปแบบการคิดภาษีก่อน เพื่อนำไปหารือในที่ประชุมคณะกรรมการโรงงานยาสูบ ซึ่งคาดว่าทางโรงงานยาสูบจะยังไม่มีการปรับราคาขายปลีก เพราะเกรงว่าจะเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน
“ถ้าต้องจ่ายภาษีเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท จากที่เสียภาษีอยู่แล้วปีละกว่า 5.3 หมื่นล้านบาท ก็จะทำให้กำไรที่ใช้คำนวณเงินนำส่งรายได้เข้าคลัง ลดลงไปโดยอัตโนมัติด้วย ซึ่งที่ผ่านมานำส่งรายได้อยู่แล้วกว่า 50% ของกำไร คิดเป็นเงินกว่า 8,000 ล้านบาท” น.ส.ดาวน้อยกล่าว
อย่างไรก็ตาม การเสียภาษีที่ราคาขายปลีกแนะนำ ก็ยังมีข้อดี เพราะทำให้บุหรี่นำเข้าและบุหรี่ที่ผลิตในประเทศเสียภาษีอย่างโปร่งใสมีความเป็นธรรมมากขึ้น
น.ส.ดาวน้อย กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ มูลค่าโครงการ 1.62 หมื่นล้านบาทว่า เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2557 ได้เชิญผู้ผลิต และตัวแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ 18 ราย ทั้งจากตัวแทนนายหน้าของบริษัทคนไทย บริษัทผู้ผลิตจากเยอรมัน อิตาลี ฝรั่งเศส จีน และสหรัฐ เข้ามารับฟังข้อมูล รายละเอียดรูปแบบโครงการก่อสร้างทั้งด้านเทคนิค และความสามารถของเครื่องที่ต้องการทั้งหมด เพื่อให้บริษัทดังกล่าวกลับไปทำข้อเสนอในการเปิดประมูลราคากลางมาให้พิจารณา
ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ผลิตบางรายไม่สามารถผลิตได้ทั้งหมด อาจต้องผลิตแบบแยกส่วน ซึ่งทางโรงงานยาสูบจะต้องพิจารณา เพื่อหาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด และเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการโรงงานยาสูบพิจารณาในวันที่ 24 ธันวาคม 2557 หลังจากนั้นจะต้องสรุปภาพรวม และแนวทางการดำเนินงานทั้งหมดเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบในต้นปี 2558 ต่อไป
'ยาสูบ'บ่นอุบจ่ายเพิ่ม 3 พันล.ภาษีขายปลีก
ไทยโพสต์ * ยาสูบโอดสรรพสามิตปรับแผนจัดเก็บภาษี กระ ทบจ่ายภาษีเพิ่มปีละ 3 พันล้านบาท แต่ทำให้การเสียภาษีของบุหรี่ต่างประเทศเป็นธรรมขึ้น
น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภา พันธ์ รักษาการผู้อำนวยการโรง งานยาสูบ เปิดเผยว่า โรงงาน ยาสูบคาดว่าผลจากการที่กรม สรรพสามิตเตรียมปรับแก้กฎ หมายให้มีการจัดเก็บภาษีบนฐานราคาขายปลีกแนะนำจะทำให้โรง งานยาสูบต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอีกปีละ 2.8-3 พันล้านบาทต่อปี เบื้องต้นต้องรอดูความชัดเจนเรื่องรูปแบบการคิดภาษีก่อน เพื่อ นำไปหารือในที่ประชุมคณะกรรม การโรงงานยาสูบ ซึ่งคาดว่าทางโรงงานยาสูบจะยังไม่มีการปรับราคาขายปลีก เพื่อเกรงว่าจะเป็นการผลักภาระให้ประชาชน
"ถ้าต้องจ่ายภาษีเพิ่มอีก 3 พันล้านบาท จากที่เสียภาษีอยู่แล้วปีละกว่า 5.3 หมื่นล้านบาท ก็จะทำให้กำไรที่ใช้คำนวณเงินนำส่งรายได้เข้าคลังลดลงไปโดยอัตโนมัติด้วย ซึ่งที่ผ่านมานำส่งรายได้อยู่แล้วกว่า 50% ของกำไร คิดเป็นเงินกว่า 8 พันล้านบาท แต่ยอมรับว่าการเสียภาษีรูปแบบใหม่จะมีความโปร่งใส เป็นธรรมมากขึ้น ทั้งบุหรี่ในประเทศและต่างประเทศ" น.ส.ดาวน้อยกล่าว
สำหรับ ความคืบหน้าเรื่องการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ มูลค่าโครงการ 1.62 หมื่นล้านบาท ซึ่งเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2557 ได้เชิญผู้ผลิตและตัวแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ 18 ราย เข้ามารับฟังข้อมูล รายละเอียดรูปแบบโครงการก่อสร้างทั้งด้านเทคนิค เพื่อให้บริษัทดังกล่าวกลับไปทำข้อเสนอในการเปิดประมูลราคากลางมาให้พิจารณา คาดว่าจะสรุปให้ที่ประชุมคณะกรรมการได้รับทราบในวันที่ 24 ธ.ค.นี้.