- Details
- Category: คลัง
- Published: Monday, 05 September 2022 23:14
- Hits: 3674
วันแรกของการเปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) ปี 2565 เริ่มเปิดรับลงทะเบียนวันนี้เป็นวันแรก (วันจันทร์ที่ 5 กันยายน 2565)โดยผ่านเว็บไซต์https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.thได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. และหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงานได้แก่สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสินธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ)สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศสังกัดกรมบัญชีกลางที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศภายใต้กระทรวงมหาดไทยสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขตและศาลาว่าการเมืองพัทยาเมืองพัทยาตามเวลาที่หน่วยงานรับลงทะเบียนเปิดทำการในช่วงเช้าวันนี้
สำหรับ ความคืบหน้าการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ปี 2565 พบว่า ณ เวลา 15.00 น. วันนี้มีประชาชนลงทะเบียนทั้งสิ้นแล้ว1,862,622 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 1,613,926 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 248,696 ราย ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง คือ 1) ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ที่เปิดให้ลงทะเบียนเวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน หรือ 2) ลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน ได้ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2565 จนถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2565 เช่นเดียวกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. การลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือhttps://welfare.mof.go.th ดำเนินการได้ ดังนี้
1.1 กรณีผู้ลงทะเบียนเป็นคนโสดหรือไม่มีครอบครัว สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์โดยไม่ต้องนำเอกสารไปยื่นที่หน่วยงานรับลงทะเบียน ทั้งนี้ การกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มในเว็บไซต์จะต้องใช้ข้อมูลจากบัตรประจำตัวประชาชนในการกรอกข้อมูล และข้อมูลอื่นๆ ที่กำหนด เมื่อลงทะเบียนตามขั้นตอนเสร็จสมบูรณ์แล้วระบบจะแสดงข้อความว่า งกระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้วง ขอให้ผู้ลงทะเบียนเข้ามาตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์อีกครั้ง โดยกดปุ่ม งตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน’ในวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไปเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2565เป็นต้นไป
1.2 กรณีผู้ลงทะเบียนที่มีครอบครัว สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ได้เช่นเดียวกัน แต่เมื่อลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์เสร็จสมบูรณ์แล้วจะต้องพิมพ์แบบฟอร์มลงทะเบียนที่มีข้อมูลครบถ้วนแล้ว พร้อมทั้งลงลายมือชื่อในเอกสารให้ครบถ้วนทั้งผู้ลงทะเบียนและสมาชิกในครอบครัว เพื่อนำไปยื่น ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน ซึ่งจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้ลงทะเบียน รวมถึงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรพร้อมลงลายมือชื่อในกรณีที่คู่สมรสและบุตรที่ไม่ได้เดินทางมาแสดงตัวที่หน่วยงานรับลงทะเบียนด้วย อย่างไรก็ดี ในกรณีคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียนเดินทางมาแสดงตัว ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนพร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชนก็ไม่จำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียน
2. กรณีที่ผู้ลงทะเบียนสะดวกลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ผู้ลงทะเบียนจะต้องกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนให้ครบถ้วน พร้อมทั้งลงลายมือชื่อในเอกสารให้ครบถ้วนทั้งผู้ลงทะเบียนและสมาชิกในครอบครัว เพื่อนำไปยื่น ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน ซึ่งจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้ลงทะเบียนรวมถึงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรพร้อมลงลายมือชื่อในกรณีที่คู่สมรสและบุตรไม่ได้เดินทางมาแสดงตัวที่หน่วยงานรับลงทะเบียน อย่างไรก็ดี ในกรณีคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียนเดินทางมาแสดงตัว ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนพร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชนก็ไม่จำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียน
3. ผู้ลงทะเบียนที่เป็นผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาลงทะเบียนแทนได้ ทั้งนี้หนังสือมอบอำนาจสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของโครงการฯหรือติดต่อขอรับได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วยโดยการเปิดรับลงทะเบียนในครั้งนี้จะจัดให้มีผู้ช่วยอำนวยความสะดวกในการรับลงทะเบียนตามจุดรับลงทะเบียน โดยจะเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ หรือพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อความคุ้นเคยกับผู้ลงทะเบียนและสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ กระทรวงการคลังมีความร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในการขอความอนุเคราะห์ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มเปราะบางในพื้นที่ ในการลงทะเบียน
การลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) ปี 2565 จะเริ่มเปิดลงทะเบียนวันแรกวันจันทร์ที่ 5 กันยายน 2565
ถึงวันพุธที่ 19 ตุลาคม 2565 โดยสามารถลงทะเบียนได้ผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 7 หน่วยงาน ได้แก่ สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานคลังจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา หรือสามารถลงทะเบียนผ่านทาง https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th สำหรับการลงทะเบียนโครงการฯ ปี 2565 ในครั้งนี้จะเป็นการลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด ดังนั้น ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรฯ) ในปัจจุบันและผู้ที่ไม่เคยมีบัตรฯ จะต้องลงทะเบียนใหม่ทุกคน
สำหรับ ผู้ที่ต้องการจะลงทะเบียนสามารถเลือกที่จะลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ หรือลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนได้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. การลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ดำเนินการได้ ดังนี้
1.1. กรณีผู้ลงทะเบียนเป็นคนโสดหรือไม่มีครอบครัว สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์โดยไม่ต้องนำเอกสารไปยื่นที่หน่วยงานรับลงทะเบียน ทั้งนี้ การกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มในเว็บไซต์จะต้องใช้ข้อมูลจากบัตรประจำตัวประชาชนในการกรอกข้อมูล และข้อมูลอื่นๆ ที่กำหนด เมื่อลงทะเบียนตามขั้นตอนเสร็จสมบูรณ์แล้วระบบจะแสดงข้อความว่า “กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว” ขอให้ผู้ลงทะเบียนเข้ามาตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน ผ่านเว็บไซด์อีกครั้ง โดยกดปุ่ม ‘ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน’ ซึ่งจะทราบผลการลงทะเบียนในวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป
1.2. กรณีผู้ลงทะเบียนที่มีครอบครัว สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ได้เช่นเดียวกัน แต่เมื่อลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์เสร็จสมบูรณ์แล้วจะต้องพิมพ์แบบฟอร์มลงทะเบียนที่มีข้อมูลครบถ้วนแล้ว พร้อมทั้งลงลายมือชื่อในเอกสารให้ครบถ้วนทั้งผู้ลงทะเบียนและสมาชิกในครอบครัว เพื่อนำไปยื่น ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน ซึ่งจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้ลงทะเบียน รวมถึงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรพร้อมลงลายมือชื่อในกรณีที่คู่สมรสและบุตรไม่ได้เดินทางมาแสดงตัวที่หน่วยงานรับลงทะเบียน อย่างไรก็ดี หากคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียนเดินทางมาแสดงตัว ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนพร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชนก็จะไม่จำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียน
2. กรณีที่ผู้ลงทะเบียนสะดวกลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ผู้ลงทะเบียนจะต้องกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนให้ครบถ้วน พร้อมทั้งลงลายมือชื่อในเอกสารให้ครบถ้วนทั้งผู้ลงทะเบียนและสมาชิกในครอบครัว เพื่อนำไปยื่น ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน ซึ่งจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้ลงทะเบียน รวมถึงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรพร้อมลงลายมือชื่อ
ในกรณีที่คู่สมรสและบุตรไม่ได้เดินทางมาแสดงตัวที่หน่วยงานรับลงทะเบียน อย่างไรก็ดี หากคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียนเดินทางมาแสดงตัว ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนพร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชนก็จะไม่จำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียน
3. กรณีผู้ลงทะเบียนเป็นผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาลงทะเบียนแทนได้ ทั้งนี้ แบบฟอร์มการลงทะเบียนและหนังสือมอบอำนาจสามารถดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ของโครงการฯ
การเปิดรับลงทะเบียนในครั้งนี้จะจัดให้มีผู้ช่วยอำนวยความสะดวกในการรับลงทะเบียนตามจุดรับลงทะเบียน โดยจะต้องเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ หรือพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อความคุ้นเคยกับผู้ลงทะเบียนและสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ กระทรวงการคลังมีความร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในการขอความอนุเคราะห์ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มเปราะบางในพื้นที่ ในการลงทะเบียน
โฆษกกระทรวงการคลังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้สนใจที่จะลงทะเบียนโครงการฯ สามารถศึกษาข้อมูลเช่น คุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน ระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ ช่องทางการลงทะเบียน เป็นต้น เพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th นอกจากนี้ ผู้ที่มีบัตรฯ ในปัจจุบัน ช่วงเวลาที่มีการเปิดรับลงทะเบียนยังคงได้รับสวัสดิการอย่างต่อเนื่อง
จนกว่าจะมีการประกาศให้เริ่มใช้สวัสดิการสำหรับผู้ได้รับสิทธิรอบใหม่ รวมถึงขยายเวลาการหมดอายุบนหน้าบัตรฯ ออกไปด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้น ผู้ที่มีบัตรฯ ในปัจจุบัน จะยังคงได้รับสวัสดิการเหมือนเดิม และสามารถใช้สิทธิได้เหมือนเดิมทุกประการ จนกว่าจะมีการประกาศให้เริ่มใช้สวัสดิการสำหรับผู้ได้รับสิทธิรอบใหม่ซึ่งกระทรวงการคลังจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง
สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง โทร 094-858-9794 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)