- Details
- Category: คลัง
- Published: Tuesday, 02 December 2014 07:40
- Hits: 2608
'สมหมาย'จ่อขึ้นแวต 1% ชี้เงินเข้ากระเป๋ารบ.เฉียด 7 หมื่นล.
แนวหน้า : นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในปลายปีงบประมาณ 2558 คลังจะต้องพิจารณาปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ แวต ที่ขณะนี้จัดเก็บอัตรา 7% จากเพดาน 10% ซึ่งมีระยะเวลาจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2558 ในเบื้องต้นคาดจะขึ้นอัตรา 1% ก็เพียงพอแล้ว ถือว่า เป็นบันไดขั้นแรกในการเพิ่มการจัดเก็บรายได้ ซึ่งจะเพิ่มให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น โดยจากการประเมินของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง การเพิ่มแวต 1% จะทำให้รัฐบาลเก็บรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 6-7 หมื่นล้านบาท
นายสมหมาย กล่าวว่า ช่วงกลางเดือน ม.ค. 2558 รัฐบาลต้องเตรียมจัดทำงบประมาณปี 2559 ซึ่งจะมีการเพิ่มงบประมาณให้มากขึ้นจากปีงบประมาณ 2558 ประมาณ 12-13% หรือคิดเป็นเงินงบประมาณที่ 2.88 ล้านล้านบาท โดยจะเป็นงบประมาณแบบขาดดุล 2.5-3 แสนล้านบาท เพราะต้องใช้เงินดูแลด้านสังคม ด้านสาธารณสุข การศึกษา มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังต้องมีการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยในปีหน้ามีโครงลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้ง รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างให้ผู้ที่สนใจลงทุนเสนอราคาประมูลมาให้หน่วยงานที่รัฐผิดขอบพิจารณา มีโครงการถนนมอเตอร์เวย์ จากพัทยา-มาบตาพุด และบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่ต้องใช้เงินลงทุนมาก
ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการลงทุนบริหารจัดการน้ำวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งได้มีการยกเลิกโครงการเก่าทั้งหมด โดยเตรียมพิจารณาแผนการใหม่ แต่หากโครงการเดิมของรัฐบาลชุดเก่ามีประโยชน์ก็จะดึงเข้ามาใหม่
นายสมหมาย กล่าวว่า รัฐบาลได้เร่งโครงการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งใช้เงินลงทุนจากงบประมาณ เงินกู้ เงินของรัฐวิสาหกิจ และการร่วมลงทุนรัฐกับภาคเอกชน หรือ PPP ซึ่งได้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้การร่วมลงทุนสะดวกและง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังได้มีการแก้ไขกฎหมายต่างๆ เอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น
ทั้งนี้ ใน 3 เดือน ที่ผ่านมา ถือว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวมากขึ้น มีนักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง แต่รัฐบาลต้องระมัดวังการบริหารงานไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น หากไม่เช่นนั้นจะทำให้การบริหารงานประเทศของรัฐบาลยากลำบาก
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจปีหน้าก็จะมีความผันผวนจากการเคลื่อนย้ายเงินทุน ซึ่งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมมือดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับด้านเศรษฐกิจ
