- Details
- Category: คลัง
- Published: Thursday, 03 March 2022 12:24
- Hits: 12241
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จัดประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายโครงการ ‘สลาก 80’ ในเขตพื้นที่ภาคกลางและ กทม. พร้อมเริ่มจำหน่าย งวด 2 พ.ค. 2565
ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 3 อาคารออกรางวัล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นประธานในการจัดประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเป็นตัวแทนจำหน่ายโครงการ ‘สลาก 80’ และทำการคัดเลือกแบบการจัดเรียงลำดับแบบสุ่ม (Random Sort) โดยเริ่มจากผู้สมัครเข้าร่วมโครงการในพื้นที่ส่วนกลาง และจะลงพื้นที่ไปจัดอบรมและทำการคัดเลือกในภูมิภาคต่างๆ ตามลำดับ ซึ่งจะประกาศให้ทราบต่อไป
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า จากการที่สำนักงานสลากฯ ได้เปิดโครงการ “สลาก 80” ในระยะที่ 1 จำนวน 78 จุด ได้รับการตอบรับที่ดี คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงได้มีการขยายผลโดยเปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายเข้าร่วมโครงการระยะที่ 2 ในปี 2565 มีตัวแทนจำหน่ายสลากทั่วประเทศ สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้น 4,790 ราย โดยเบื้องต้น สำนักงานสลากฯ ได้ตรวจสอบหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของผู้สมัครแล้ว ผลปรากฏว่ามีผู้ผ่านเกณฑ์ จำนวน 3,768 ราย ไม่ผ่าน จำนวน 1,022 ราย ทั้งนี้ มีเขต/อำเภอ ที่ไม่มีผู้สมัครรวมถึงไม่มีผู้ผ่านเกณฑ์ จำนวน 292 เขต/อำเภอ จาก 67 จังหวัด สำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์ จะต้องเข้ารับฟังการชี้แจงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเป็นตัวแทนจำหน่ายโครงการ
สำหรับ ในพื้นที่ส่วนกลาง ได้แก่ กรุงเทพ ปริมณฑล และจังหวัดต่างๆ ในภาคกลาง จะทำการชี้แจงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเป็นตัวแทนจำหน่ายโครงการ ‘สลาก 80’ และทำการคัดเลือกแบบการจัดเรียงลำดับแบบสุ่ม (Random Sort) พร้อมอบรมตัวแทนจำหน่ายสลาก ในวันนี้ วันที่ 10 - 11 มีนาคม 2565 ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 3 อาคารออกรางวัล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จังหวัดนนทบุรี ซึ่งทั้ง 3 วันที่จัดอบรมนี้ มีจำนวนผู้เข้าร่วมอบรมที่สำนักงานสลากฯ ส่งหนังสือเชิญไปทั้งสิ้น 1,234 ราย
ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร 448 ราย , ปริมณฑล (นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ปทุมธานี) 294 ราย และ ภาคกลาง (พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม ราชบุรี สมุทรสาคร เพชรบุรี สุพรรณบุรี) 492 ราย โดยทั้ง 3 วัน จะแบ่งการอบรมเป็นรอบ รอบละไม่เกิน 70 ราย เพื่อให้เป็นไปตาม มาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ เมื่อรับฟังการชี้แจงและเงื่อนไขฯ เรียบร้อยแล้ว หากมีความพร้อมที่จะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด สำนักงานสลากฯ จะนำรายชื่อตัวแทนจำหน่ายสู่การคัดเลือกแบบการจัดเรียงลำดับแบบสุ่ม (Random Sort)
พันโท หนุน ศันสนาคม กล่าวต่อไปอีกว่า ในส่วนกระบวนการคัดเลือกนั้น หากจุดจำหน่ายสลากมีตัวแทนจำหน่ายสลากหลายรายได้แจ้งไว้เป็นสถานที่เดียวกัน เมื่อมีตัวแทนรายหนึ่งเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกให้ถือว่าจุดจำหน่ายนั้นได้รับสิทธิตามโครงการแล้ว สำหรับ ตัวแทนจำหน่ายรายอื่นที่แจ้งจุดจำหน่ายเป็นสถานที่เดียวกันไว้แต่ไม่ได้รับการคัดเลือกจะไม่มีสิทธิขึ้นบัญชีสำรองตามโครงการนี้ และหากรายใดไม่สามารถเข้าร่วมรับฟัง
การชี้แจงด้วยตนเองตามวัน เวลา ดังกล่าว ก็สามารถมอบอำนาจให้ผู้แทนมาแทนได้ หรือจะเข้าร่วมกิจกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ Zoom Meeting ตามที่สำนักงานสลากฯ กำหนด แต่ถ้าผู้มีรายชื่อแต่ไม่ร่วมกิจกรรมชี้แจงฯ โดยไม่มีเหตุอันควร หรือไม่ได้มอบอำนาจให้ผู้ใดเข้าร่วมกิจกรรมแทนทางช่องทางที่กำหนด จะถือว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการดังกล่าวและสำนักงานฯ จะไม่นำรายชื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวในตอนท้ายว่า โครงการ "สลาก 80" ระยะที่ 2 ที่พร้อมจำหน่ายตั้งแต่งวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 เป็นอีกมาตรการหนึ่งในหลายๆ มาตรการที่สำนักงานสลากฯ ดำเนินการขึ้นเพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสลากได้ในราคาที่กำหนด และการจำหน่ายผ่านระบบแอปพลิเคชัน’เป๋าตัง’ และ’ถุงเงิน’ นอกจากจะทำให้ประชาชนซื้อสลากได้ตามราคาที่กำหนดแล้ว ยังเป็นไปตามวิถีชีวิตใหม่ ที่ไร้การสัมผัสธนบัตร สะดวกสบาย และปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ด้วย
รมต.สำนักนายกฯ แถลงความคืบหน้าแก้ปัญหาสลากเกินราคา พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบเข้มข้น ขายสลากผ่านแพลตฟอร์ม คาด 2 เดือนสลากราคาลง เตรียมแก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ เพิ่มโทษขายเกินราคา
วันนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2565 ) เวลา 15.00 น. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี รองประธานฯ และหัวหน้าชุดเฉพาะกิจในการตรวจสอบและติดตามผู้ค้าสลากเกินราคา พร้อมด้วย พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมกันแถลงต่อผู้สื่อข่าว ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ รับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาตามโรดแมปของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เปิดให้ตัวแทนจำหน่ายสลาก สมัครเข้าร่วมโครงการ "สลาก80" เพื่อเป็นจุดที่ประชาชนจะสามารถซื้อสลากได้ในราคา 80 บาท รวม 1,000 จุดทั่วประเทศ หลังจากปิดรับสมัคร ตัวแทนจำหน่ายประเภทบุคคลทั่วไป ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สมัครเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งสิ้นจำนวน 4,790 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ และจะดำเนินการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายแต่ละจังหวัดตามหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ในงวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565
ในส่วนของการเปิดรับลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งฯ ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 มกราคม 2565 นั้น มีผู้ลงทะเบียนสมัครจำนวน 1,039,868 ราย โดยเป็นผู้ลงทะเบียนสมัครรายใหม่ ปี 2565 จำนวน 903,492 ราย และเป็นผู้สมัครลงทะเบียนรายเดิมปี 2558 จำนวน 136,376 ราย และสำนักงานฯ ได้มีประกาศให้ผู้สมัครเข้ามาตรวจสอบข้อมูลและยืนยันความถูกต้องข้อมูลตนเอง เมื่อวันที่ 7 – 13 กุมภาพันธ์ 2565 ขณะนี้อยู่ระหว่าง เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเพื่อคัดกรองคุณสมบัติกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
สำหรับ แนวทางการตรวจสอบคุณสมบัติ คัดกรอง หาผู้จำหน่ายสลากจริงในราคา 80 บาท สำหรับผู้ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ รายเดิม ปี 2558 ซึ่งยังสามารถทำรายการได้นั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ ได้ เตรียมจัดทำคิวอาร์โค้ด ให้กับผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ เพื่อให้ประชาชนที่ซื้อสลาก สแกนแจ้งข้อมูล เพื่อยืนยันว่าเป็นผู้จำหน่ายสลากด้วยตนเองจริง นอกจากนี้ จะตรวจสอบจากรายการซื้อ-ขายสลากผ่านระบบแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” ในขณะเดียวกันสำนักงานได้เตรียมลงพื้นที่ร่วมกับ หน่วยงานภายนอกที่มีความน่าเชื่อถือเป็นผู้ทำการสำรวจและตรวจสอบผู้ลงทะเบียนซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ ไปพร้อมๆ กันกับการให้ผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ ยืนยันตัวตนกับหน่วยงานที่สำนักงานฯ กำหนด
ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมาย และการเพิ่มมาตรการ หลักเกณฑ์การปฏิบัติในการรับสลากไปจำหน่าย เพื่อให้เกิดผลชัดเจนในการปฏิบัติ นั้น สำนักงานสลากฯ ได้เสนอต่อที่ประชุมว่า ได้มีการกำหนดมาตรการลงโทษตัวแทนจำหน่ายนิติบุคคล ประเภท สมาคม องค์กร มูลนิธิ ที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา รวมถึงการตรวจพบบนแพลตฟอร์มของกลุ่มบุคคลที่จำหน่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยกำหนดช่วงระยะเวลาในการตรวจสอบ เป็น 4 ครั้ง
ครั้งที่ 1 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธันวาคม 2564 – งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 รวม 4 งวด
ครั้งที่ 2 ตั้งแต่งวดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 – งวดวันที่ 1 เมษายน 2565 รวม 4 งวด
ครั้งที่ 3 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 เมษายน 2565 – งวดวันที่ 1 มิถุนายน 2565 รวม 4 งวด
ครั้งที่ 4 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565 – งวดวันที่ 1 สิงหาคม 2565 รวม 4 งวด
หากตรวจพบการกระทำความผิด ครั้งที่ 1 สำนักงานฯ จะมีหนังสือแจ้งเตือนให้ตรวจสอบ ควบคุมสมาชิก หากตรวจพบการกระทำความผิดซ้ำในครั้งต่อไป สมาคม องค์กร มูลนิธิ จะต้องถูกปรับลดจำนวนสลากที่สำนักงานฯ จัดสรรให้ โดยหากตรวจพบการกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 2 จะปรับลดสลากลงร้อยละ 25 ของจำนวนสลากที่ตรวจพบการกระทำความผิด โดยจะมีผลในงวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2565 หากตรวจพบการกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 3 จะปรับลดสลากลงร้อยละ 50 ของจำนวนสลากที่ตรวจพบการกระทำความผิดโดยจะมีผลในงวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 หากตรวจพบการกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 4 จะปรับลดสลากลงร้อยละ 100 ของจำนวนสลากที่ตรวจพบการกระทำความผิด โดยจะมีผลในงวดวันที่ 16 กันยายน 2565 ทั้งนี้ ในที่ประชุมเห็นว่า ควรพิจารณา บทลงโทษให้มีความเข้มข้น เด็ดขาดมากกว่านี้
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปอีกว่า ขณะนี้ ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ทั้ง 3 คณะ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานเชิงรุก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย
- คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากเกินราคา มีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (นายเสกสกล อัตถาวงศ์) เป็นประธานอนุกรรมการ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล) เป็นรองประธาน และที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสมพาศ นิลพันธ์) เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ
- คณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการทางกฎหมายในการแก้ไขปัญหาการเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลกินราคา มีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายชาญกฤช เดชวิทักษ์) เป็นประธานอนุกรรมการ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นายมงคลชัย สมอุดร) เป็นรองประธาน และผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ
- คณะอนุกรรมการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ มีอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธานอนุกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือผู้แทน เป็นรองประธาน และผู้อำนวยการสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะ จะเริ่มทำงานทันที เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนงานไปได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว เป็นไปตามวัตถุประสงค์
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำว่า คณะกรรมการและสำนักงานสลากฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเร่งดำเนินแนวทางตลอดจนมาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาและคลี่คลายความรุนแรงของปัญหาราคาสลาก ในขณะเดียวกัน การแก้ปัญหาราคาสลากอย่างยั่งยืนนั้น จะต้องใช้เวลาและต้องใช้หลายมาตรการประกอบกัน
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองประธานคณะกรรมการ ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจในการตรวจสอบและติดตามผู้ค้าสลากเกินราคา กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการว่า กรอบอำนาจหน้าที่ของชุดเฉพาะกิจนี้ จะเป็นการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงกรณีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา และประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงติดตามผลการดำเนินงานของส่วนราชการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการรายงานผลการดำเนินการ ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งขณะนี้ ได้เริ่มทำงานแล้ว
โดยได้มีการตรวจสอบรายชื่อตัวแทนรายย่อยทั้งหมด และเร็วๆ นี้ จะลงพื้นที่อย่างเข้มข้น เพื่อขยายผลการตรวจสอบอย่างเป็นรูปธรรม ตนคาดว่า ภายใน 2 เดือน ปัญหาราคาสลากจะลดความรุนแรงลง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาสำหรับการแก้ปัญหาในระยะยาว ตนจะเสนอแก้ไข พระราชบัญญัติสำนักงานสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อกำหนดบทลงโทษผู้ค้าที่กระทำผิดขายช่วง ขายเกินราคา จากปัจจุบันมีโทษปรับเพียง 10,000 บาท ทำให้ผู้ขายเกินราคาไม่เกรงกลัว และยอมเสียค่าปรับ ดังนั้น ต้องเสนอบทลงโทษที่เข้มข้นขึ้นและจะเข้าไปตรวจสอบการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ โดยจะนำกฎหมายอื่นๆ มาเป็นเครื่องมือในการทำงานด้วย
รมต.สำนักนายกฯ แถลงความคืบหน้าแก้ปัญหาสลากเกินราคา พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบเข้มข้น ขายสลากผ่านแพลตฟอร์ม คาด 2 เดือนสลากราคาลง เตรียมแก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ เพิ่มโทษขายเกินราคา
28 กุมภาพันธ์ 2565 ) เวลา 15.00 น. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี รองประธานฯ และหัวหน้าชุดเฉพาะกิจในการตรวจสอบและติดตามผู้ค้าสลากเกินราคา พร้อมด้วย พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมกันแถลงต่อผู้สื่อข่าว ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ รับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาตามโรดแมปของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เปิดให้ตัวแทนจำหน่ายสลาก สมัครเข้าร่วมโครงการ "สลาก80" เพื่อเป็นจุดที่ประชาชนจะสามารถซื้อสลากได้ในราคา 80 บาท รวม 1,000 จุดทั่วประเทศ หลังจากปิดรับสมัคร ตัวแทนจำหน่ายประเภทบุคคลทั่วไป ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สมัครเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งสิ้นจำนวน 4,790 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ และจะดำเนินการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายแต่ละจังหวัดตามหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ในงวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565
ในส่วนของการเปิดรับลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งฯ ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 มกราคม 2565 นั้น มีผู้ลงทะเบียนสมัครจำนวน 1,039,868 ราย โดยเป็นผู้ลงทะเบียนสมัครรายใหม่ ปี 2565 จำนวน 903,492 ราย และเป็นผู้สมัครลงทะเบียนรายเดิมปี 2558 จำนวน 136,376 ราย และสำนักงานฯ ได้มีประกาศให้ผู้สมัครเข้ามาตรวจสอบข้อมูลและยืนยันความถูกต้องข้อมูลตนเอง เมื่อวันที่ 7 – 13 กุมภาพันธ์ 2565 ขณะนี้อยู่ระหว่าง เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเพื่อคัดกรองคุณสมบัติกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
สำหรับ แนวทางการตรวจสอบคุณสมบัติ คัดกรอง หาผู้จำหน่ายสลากจริงในราคา 80 บาท สำหรับผู้ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ รายเดิม ปี 2558 ซึ่งยังสามารถทำรายการได้นั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ ได้ เตรียมจัดทำคิวอาร์โค้ด ให้กับผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ เพื่อให้ประชาชนที่ซื้อสลาก สแกนแจ้งข้อมูล เพื่อยืนยันว่าเป็นผู้จำหน่ายสลากด้วยตนเองจริง นอกจากนี้ จะตรวจสอบจากรายการซื้อ-ขายสลากผ่านระบบแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” ในขณะเดียวกันสำนักงานได้เตรียมลงพื้นที่ร่วมกับ หน่วยงานภายนอกที่มีความน่าเชื่อถือเป็นผู้ทำการสำรวจและตรวจสอบผู้ลงทะเบียนซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ ไปพร้อมๆ กันกับการให้ผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ ยืนยันตัวตนกับหน่วยงานที่สำนักงานฯ กำหนด
ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมาย และการเพิ่มมาตรการ หลักเกณฑ์การปฏิบัติในการรับสลากไปจำหน่าย เพื่อให้เกิดผลชัดเจนในการปฏิบัติ นั้น สำนักงานสลากฯ ได้เสนอต่อที่ประชุมว่า ได้มีการกำหนดมาตรการลงโทษตัวแทนจำหน่ายนิติบุคคล ประเภท สมาคม องค์กร มูลนิธิ ที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา รวมถึงการตรวจพบบนแพลตฟอร์มของกลุ่มบุคคลที่จำหน่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยกำหนดช่วงระยะเวลาในการตรวจสอบ เป็น 4 ครั้ง
ครั้งที่ 1 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธันวาคม 2564 – งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 รวม 4 งวด
ครั้งที่ 2 ตั้งแต่งวดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 – งวดวันที่ 1 เมษายน 2565 รวม 4 งวด
ครั้งที่ 3 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 เมษายน 2565 – งวดวันที่ 1 มิถุนายน 2565 รวม 4 งวด
ครั้งที่ 4 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565 – งวดวันที่ 1 สิงหาคม 2565 รวม 4 งวด
หากตรวจพบการกระทำความผิด ครั้งที่ 1 สำนักงานฯ จะมีหนังสือแจ้งเตือนให้ตรวจสอบ ควบคุมสมาชิก หากตรวจพบการกระทำความผิดซ้ำในครั้งต่อไป สมาคม องค์กร มูลนิธิ จะต้องถูกปรับลดจำนวนสลากที่สำนักงานฯ จัดสรรให้ โดยหากตรวจพบการกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 2 จะปรับลดสลากลงร้อยละ 25 ของจำนวนสลากที่ตรวจพบการกระทำความผิด โดยจะมีผลในงวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2565 หากตรวจพบการกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 3 จะปรับลดสลากลงร้อยละ 50 ของจำนวนสลากที่ตรวจพบการกระทำความผิดโดยจะมีผลในงวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 หากตรวจพบการกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 4 จะปรับลดสลากลงร้อยละ 100 ของจำนวนสลากที่ตรวจพบการกระทำความผิด โดยจะมีผลในงวดวันที่ 16 กันยายน 2565 ทั้งนี้ ในที่ประชุมเห็นว่า ควรพิจารณา บทลงโทษให้มีความเข้มข้น เด็ดขาดมากกว่านี้
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปอีกว่า ขณะนี้ ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ทั้ง 3 คณะ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานเชิงรุก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย
- คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากเกินราคา มีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (นายเสกสกล อัตถาวงศ์) เป็นประธานอนุกรรมการ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล) เป็นรองประธาน และที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสมพาศ นิลพันธ์) เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ
- คณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการทางกฎหมายในการแก้ไขปัญหาการเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลกินราคา มีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายชาญกฤช เดชวิทักษ์) เป็นประธานอนุกรรมการ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นายมงคลชัย สมอุดร) เป็นรองประธาน และผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ
- คณะอนุกรรมการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ มีอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธานอนุกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือผู้แทน เป็นรองประธาน และผู้อำนวยการสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะ จะเริ่มทำงานทันที เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนงานไปได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว เป็นไปตามวัตถุประสงค์
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำว่า คณะกรรมการและสำนักงานสลากฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเร่งดำเนินแนวทางตลอดจนมาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาและคลี่คลายความรุนแรงของปัญหาราคาสลาก ในขณะเดียวกัน การแก้ปัญหาราคาสลากอย่างยั่งยืนนั้น จะต้องใช้เวลาและต้องใช้หลายมาตรการประกอบกัน
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองประธานคณะกรรมการ ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจในการตรวจสอบและติดตามผู้ค้าสลากเกินราคา กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการว่า กรอบอำนาจหน้าที่ของชุดเฉพาะกิจนี้ จะเป็นการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงกรณีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา และประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงติดตามผลการดำเนินงานของส่วนราชการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการรายงานผลการดำเนินการ ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการชุดใหญ่
ซึ่งขณะนี้ ได้เริ่มทำงานแล้ว โดยได้มีการตรวจสอบรายชื่อตัวแทนรายย่อยทั้งหมด และเร็วๆ นี้ จะลงพื้นที่อย่างเข้มข้น เพื่อขยายผลการตรวจสอบอย่างเป็นรูปธรรม ตนคาดว่า ภายใน 2 เดือน ปัญหาราคาสลากจะลดความรุนแรงลง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาสำหรับการแก้ปัญหาในระยะยาว ตนจะเสนอแก้ไข พระราชบัญญัติสำนักงานสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อกำหนดบทลงโทษผู้ค้าที่กระทำผิดขายช่วง ขายเกินราคา จากปัจจุบันมีโทษปรับเพียง 10,000 บาท ทำให้ผู้ขายเกินราคาไม่เกรงกลัว และยอมเสียค่าปรับ ดังนั้น ต้องเสนอบทลงโทษที่เข้มข้นขึ้นและจะเข้าไปตรวจสอบการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ โดยจะนำกฎหมายอื่นๆ มาเป็นเครื่องมือในการทำงานด้วย