WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1AA1A3A1พรชัย ฐีระเวช

เปิดลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 สำหรับประชาชนทั่วไปวันแรก 10 กุมภาพันธ์ 2565

     นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่าโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 (โครงการฯ ระยะที่ 4) จะมีการเปิดลงทะเบียนสำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (ประชาชนทั่วไปฯ) ในวันพรุ่งนี้เป็นวันแรก (วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565) ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 22.59 น. ต่อเนื่องทุกวัน จนกว่าจะครบจำนวนประมาณ 1 ล้านสิทธิ โดยช่องทางการลงทะเบียนแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

     1) กรณีเป็นประชาชนที่เคยได้รับสิทธิมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐที่มีการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com

      2) กรณีประชาชนที่ไม่มีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”  สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com

     ทั้งนี้ ในส่วนของความคืบหน้าโครงการฯ ระยะที่ 4 จากข้อมูลสะสม ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ณ เวลา 23.00 น. พบว่า มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 21.17 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายรวม 16,334.6 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 8,269.0 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 8,065.6 ล้านบาท และมียอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทตามร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 6,062.2 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 3,188.6 ล้านบาท ร้าน OTOP 783.8 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 5,993.9 ล้านบาท ร้านบริการ 283.3 ล้านบาท และกิจการขนส่งสาธารณะ 22.8 ล้านบาท ทั้งนี้ มีประชาชนที่กดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 แล้ว จำนวน 24.67 ล้านราย จากจำนวนผู้ใช้จ่ายโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 จำนวน 26.35 ล้านราย และมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 แล้วจำนวน 1.33 ล้านราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 205 ราย

QIC 720x100

      ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปฯ ที่ลงทะเบียนโครงการฯ ระยะที่ 4 สำเร็จ จะสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565

 

ความคืบหน้าการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4

      นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 (โครงการฯ ระยะที่ 4) โดยจากข้อมูลสะสม ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ณ เวลา 23.00 น. พบว่า มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 20.40 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายรวม 14,027.6 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 7,102.8 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 6,924.8 ล้านบาท และมียอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทตามร้านค้า

     ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 5,201.1 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 2,743.7 ล้านบาท ร้าน OTOP 675.8 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป  5,144.5 ล้านบาท ร้านบริการ 243.5 ล้านบาท และกิจการขนส่งสาธารณะ 19 ล้านบาท ทั้งนี้ มีประชาชนที่กดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 แล้ว จำนวน 24.51 ล้านราย จากจำนวนผู้ใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 จำนวน 26.35 ล้านราย และมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 แล้วจำนวน 1.33 ล้านราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 166 ราย

      ประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการฯ ระยะที่ 4 ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 สามารถกดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4

sme 720x100

    ผ่านแอปพลิเคชัน 'เป๋าตัง'อย่างต่อเนื่อง และประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ขอให้เตรียมรอลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 ผ่านแอปพลิเคชัน“เป๋าตัง” หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565

    ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงการคลังได้เน้นย้ำให้ประชาชนและผู้ประกอบการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการฯ ระยะที่ 4 และอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ของผู้ไม่หวังดีที่เสนอจะช่วยหาประโยชน์จากโครงการ โดยไม่ได้ทำการซื้อขายสินค้าหรือบริการจริงอย่างเด็ดขาดเพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิด เนื่องจากภาครัฐมีระบบการติดตามตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากพบการกระทำความผิดจะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้อีก และมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย

 

การใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ในช่วง 3 วันแรกที่ผ่านมา

      นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 (โครงการฯ) ที่ได้เปิดให้ประชาชนใช้จ่ายวันแรกเมื่อวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมาพบว่าจากข้อมูลสะสม ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ณ เวลา 15.00 น. มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 11.51 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายรวม 3,782.9 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 1,913 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 1,869.9 ล้านบาท

      ทั้งนี้ มีประชาชนที่กดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 แล้ว จำนวน 22.62 ล้านราย จากจำนวนผู้ใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 จำนวน 26.35 ล้านคน และมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 แล้วจำนวน 1.33 ล้านราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 37 ราย

      โฆษกกระทรวงการคลังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ตรวจสอบพบหลักฐานผู้ประกอบการกระทำความผิดเงื่อนไขโครงการฯ ในลักษณะไม่มีการซื้อขายสินค้าหรือบริการจริงซึ่งกระทรวงการคลังได้มีการระงับสิทธิผู้ประกอบการดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และจะเข้าสู่กระบวนการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนและผู้ประกอบการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4

วิริยะ 720x100

       และอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่างๆ ของผู้ไม่หวังดีที่เสนอจะช่วยหาประโยชน์จากโครงการฯ โดยไม่ได้ทำการซื้อขายสินค้าหรือบริการจริงอย่างเด็ดขาดเพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิด เนื่องจากภาครัฐมีระบบการติดตามตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากพบการกระทำความผิดจะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้อีก และมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย

     ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 แต่ยังไม่ได้กดยืนยันและเริ่มใช้จ่ายภายใต้โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 โฆษกกระทรวงการคลังได้กล่าวเชิญชวนให้ประชาชนรีบกดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ โดยสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ในช่วงเวลา 6.00 – 23.00 น. ของทุกวัน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ขอให้เตรียมรอลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน’เป๋าตัง’ หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565

      กระทรวงการคลังขอชี้แจงประเด็นกรณีการเริ่มต้นใช้โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ประจำวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565

     สาระสำคัญ : ชี้แจงประเด็นกรณีการเริ่มต้นใช้โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จากกรณีมีขอสังเกตเกี่ยวกับการเริ่มต้นใช้โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้

  1.          การที่รัฐบาลอ้างว่าประสบความสำเร็จนั้น ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง เพราะผู้มีรายได้น้อยไม่มีเงินเพียงพอที่จะเติมเงินเข้าไปในแอป "เป๋าตัง" ทำให้นโยบายนี้ไม่ได้ผลเท่าที่ควร
  2. ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่มีรายได้สูง การแจกเงินโดยไม่สร้างรากฐานทางเศรษฐกิจจะไม่ช่วยให้ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
  3. เสนอให้รัฐบาลเลิกแจกเงินแล้วเปลี่ยนมาเน้นการจ้างงาน ให้คนเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน

GC 720x100

คำชี้แจง :

  1.        โครงการคนละครึ่งที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี 2563 มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานราก โดยการที่รัฐบาลเข้าไปช่วยสนับสนุนลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในส่วนของค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และบริการ วันละไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวันนั้น ไม่ได้มีลักษณะของการแจกเงิน แต่เป็นการสนับสนุนให้ประชาชนส่งต่อกำลังซื้อไปยังผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มหาบเร่แผงลอย ให้สามารถมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง

      ในภาวะที่เศรษฐกิจถูกกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมากกว่า 1.3 ล้านร้านค้า และประชาชนมากกว่า 26 ล้านคน ได้ร่วมใช้สิทธิภายใต้โครงการ จึงกล่าวได้ว่า โครงการคนละครึ่งประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ สามารถเพิ่มเม็ดเงินจำนวนประมาณ 326,000 ล้านบาท เป็นรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยในโครงการ ทั้งยังหมุนเวียนต่อเนื่องไปช่วยขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การค้า การผลิต และการจ้างงานที่เกี่ยวเนื่องตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานได้จนถึงปัจจุบันด้วย

         และสำหรับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ซึ่งได้เริ่มใช้จ่ายแล้วเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ และจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เมษายน 2565 นั้น จะสามารถเพิ่มเม็ดเงินที่เข้าไปหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจในลักษณะเดียวกันได้อีกประมาณ 6.96 หมื่นล้านบาท และโดยวันแรกเพียงวันเดียว มีการใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวน 1,155 ล้านบาท โดยเป็นเงินของประชาชน 585 ล้านบาท

TU720x100

     และเป็นเงินที่รัฐบาลสนับสนุน 570 ล้านบาท นอกจากการลดภาระการใช้จ่ายของประชาชนผ่านโครงการคนละครึ่งดังกล่าวแล้ว กระทรวงการคลังยังได้ดำเนินโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษควบคู่กันไปด้วยเพื่อดูแลและบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ รวมถึงผู้ไม่มี โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ให้ได้อย่างทั่วถึงมากที่สุด

  1. กระทรวงการคลังขอเรียนว่า โครงการคนละครึ่งถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชุดมาตรการที่รัฐบาลใช้ดูแลเศรษฐกิจและสังคมจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงให้ความสำคัญและดำเนินการเพื่อเตรียมการสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภายหลังสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งรวมถึงมาตรการที่สนับสนุนการจ้างงานและการช่วยให้ภาคธุรกิจและประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจต่างๆ

      นอกจากนี้ ยังมีการใช้จ่ายเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืน สำหรับการดูแลประชาชนในระยะยาว กระทรวงการคลังยังมุ่งเป้าหมายสู่การยกระดับรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างสวัสดิการที่มั่นคงให้กับประชาชน ควบคู่กับการสร้างความรู้และทักษะทางการเงินที่จำเป็นรวมถึงความรู้เท่าทันเกี่ยวกับภัยทางการเงินต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาโครงการคนละครึ่งได้ทำหน้าที่สำคัญในเรื่องดังกล่าว โดยได้สามารถเสริมสร้างทักษะความรู้ความเข้าใจต่อการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) ให้กับประชาชนผ่านการใช้แอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ และ ‘ถุงเงิน’ อย่างก้าวกระโดดในระยะเวลาอันสั้น

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 08-5842-7102 , 08-5842-7103, 08-5842-7104 ,08-5842-7105

08-5842-7106, 08-5842-7107, 08-5842-7108 , 08-5842-7109 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)

ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected] ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1122 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

 

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BANPU 720x100

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!