- Details
- Category: คลัง
- Published: Thursday, 23 October 2014 21:34
- Hits: 3030
กรมบัญชีกลางบี้ส่วนราชการ เบิกจ่ายงบลงทุน อัดเงินเข้าระบบ
แนวหน้า : นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลางเปิดเผยว่า ได้ออกคำสั่งให้ผู้บริหารของกรมบัญชีกลางติดตามการเบิกจ่ายของหน่วยงานส่วนราชการต่างๆ ประมาณ 35 หน่วยงาน ที่มีงบลงทุนเกินกว่า 1,000 ล้านบาท โดยในส่วนของอธิบดีกรมบัญชีกลางดูแล 5 หน่วยงานใหญ่ คือ กรมทางหลวง สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ กรมการท่องเที่ยว เพื่อให้มีการเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนปีงบประมาณ 2558
การเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนปีงบประมาณ 2558 ดังกล่าว เป็นไปตามมติของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ระบุให้หน่วยงานต่างๆ เซ็นสัญญาการก่อหนี้แผนการลงทุนภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2557 ในโครงการไม่เกิน 500 ล้านบาท ส่วนโครงการเกิน 500 ล้านบาทขึ้นไป ได้ให้เวลาอย่างช้าที่สุดภายในไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2558
พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้ผู้บริหารของกรมบัญชีกลางเข้าหารือกับผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ เพื่อที่จะได้ทราบว่ามีปัญหาติดขัดในการเบิกจ่ายส่วนไหน เพื่อหาทางแก้ไขและเดินหน้าเซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง โดยที่ไม่ต้องรอให้หน่วยงานนั้นทำเรื่องมาสอบถามในภายหลัง ซึ่งต้องใช้เวลานานส่งผลให้การเบิกจ่ายได้ไม่ตามเป้า โดยปีงบประมาณ 2558 ตั้งเป้าการเบิกจ่ายในภาพรวมไว้ 96% และตั้งเป้าเบิกจ่ายงบลงทุน 87%
นอกจากนี้ กรมบัญชีกลาง ยังได้มีคำสั่งให้คลังเขตและคลังจังหวัด รับผิดชอบติดตามเร่งรัดการก่อหนี้ และการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของหน่วยงานในพื้นที่ รวมทั้งงบจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ซึ่งมีงบประมาณส่วนนี้รวมกันถึง 1.8 หมื่นล้านบาท หากเร่งเบิกจ่ายได้รวดเร็วจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ของประเทศให้ดีขึ้น
สำหรับ การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 ในช่วงเดือนแรกถึง 17 ตุลาคม 2557 วงเงิน 2.57 ล้านล้านบาท เบิกจ่ายได้ 2.02 แสนล้านบาท หรือ 7.85% สูงกว่าช่วงเดียวกันที่ผ่านมาที่เบิกจ่ายได้ 5.73% ด้านการเบิกจ่ายงบเหลื่อมปีวงเงิน 1.7 แสนล้านบาท สามารถเบิกจ่ายได้แล้ว 6,941 ล้านบาท หรือ 1.05%
ขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ยังไม่มีการเซ็นสัญญาโครงการลงทุน เนื่องจากเพิ่งเริ่มต้นปีงบประมาณ มีเพียงหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมที่มีการเซ็นสัญญาก่อสร้างโครงการและมีการเบิกจ่ายเงินไปบางส่วนแล้ว อย่างไรก็ตามคาดว่าการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 จะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ เพราะมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายที่รัฐบาลออกมามีประสิทธิภาพเพียงพอทำให้การเบิกจ่ายรวดเร็วมากขึ้น
สำหรับ ความล่าช้าของการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นผลมาจากการประมูลแบบอี-อ๊อกชั่น ซึ่งที่ผ่านมากรมบัญชีกลางได้ออกประกาศผ่อนปรน เช่น หากมีผู้ประมูลรายเดียวไม่สามารถประมูลแบบอี-อ๊อกชั่นได้ ให้เรียกผู้ประมูลรายนั้นมาต่อรองราคาได้เลย แต่หน่วยงานส่วนใหญ่ก็ยังไม่กล้าดำเนินการต้องทำเรื่องมาให้กรมบัญชีกลางยืนยันเป็นรายกรณี ซึ่งเราก็เร่งทำหนังสือตอบกลับไปเพื่อให้การเบิกจ่ายทำได้รวดเร็ว
ไล่บี้หน่วยราชการเร่งเบิกจ่าย ประจินเคาะงบลงทุนคมนาคมพ.ย.
ไทยโพสต์ : พระรามหก *บัญชีกลางสั่งผู้บริหารประกอบหน่วยงานดันเซ็นงบลงทุนก้อนใหญ่ หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ 'ประจิน' เตรียมสรุปแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมเดินหน้านิคมอุตสาหกรรมซ่อมบำรุงอากาศยาน
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ได้ออกคำสั่งให้ผู้บริหารของกรมบัญชีกลางมีหน้าที่ ติดตามการเบิกจ่ายของหน่วย งานต่างๆ ประมาณ 35 หน่วย งาน ที่มีงบลงทุนเกินกว่า 1 พันล้านบาท โดยในส่วนของ อธิบดีกรมบัญชีกลางดูแล 5 หน่วยงานใหญ่ คือ กรมทางหลวง สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สำนัก งานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และกรมการท่องเที่ยว เพื่อให้มีการเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนปีงบประมาณ 2558 ให้เป็นไปตามมติของรัฐบาล ที่ให้เซ็นสัญญาภายในวันที่ 25 ธ.ค.2557 ในโครงการไม่เกิน 500 ล้านบาท และภายในไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2558 สำหรับโครงการที่เกิน 500 ล้านบาท โดยปีงบประมาณ 2558 ตั้งเป้าการเบิกจ่ายในภาพรวมไว้ 96% และตั้งเป้าเบิกจ่ายงบลงทุน 87%
นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางยังได้มีคำสั่งให้คลังเขตและคลังจังหวัดรับผิดชอบติดตามเร่งรัดการก่อหนี้ และการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของหน่วยงานในพื้นที่ รวมทั้งงบจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ซึ่งมีงบประมาณส่วนนี้รวมกันถึง 1.8 หมื่นล้านบาท หากเร่งเบิกจ่ายได้รวดเร็วจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ของประเทศให้ดีขึ้น
สำหรับ การเบิกจ่ายงบ ประมาณปี 2558 ในช่วงเดือน แรกถึง 17 ต.ค.2557 วงเงิน 2.57 ล้านล้านบาท เบิกจ่ายได้ 2.02 แสนล้านบาท หรือ 7.85% สูงกว่าช่วงเดียวกันที่ผ่านมาที่เบิกจ่ายได้ 5.73%
ด้าน พล.อ.อ.ประจิน จั่น ตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีมติ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติและติดตามความคืบหน้าการดำเนินการลงทุนพัฒนาโครง สร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่กระทรวงคมนาคมเสนอตาม กรอบยุทธศาสตร์จะใช้ระยะเวลา 8 ปี ระหว่างปี 2558-2565 ซึ่งยังไม่มีการระบุตัวเลขกรอบวงเงินลงทุนทั้งหมดที่ชัดเจน เนื่องจากปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำตัวเลขเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทุกด้านให้ได้ข้อสรุปทั้งหมด โดยเชื่อว่าจะสามารถสรุปตัวเลขภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
อย่างไรก็ดี ตัวเลขที่สำ นักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษา เบื้องต้นที่จะใช้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท ในส่วนนี้ยังไม่รวมงานก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 และโครงการก่อสร้างรถไฟรางมาตรฐาน 1.435 เมตร ดังนั้นหากพิจารณาตามเนื้องานที่มีอยู่ การที่จะลงทุนมากกว่า 2 ล้านล้านบาท จึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เป็นไปตามปริมาณงานที่อยู่ในกรอบยุทธศาสตร์
รมว.คมนาคมยังกล่าวถึงกรอบการลงทุนการขนส่งทางอากาศในส่วนของการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมซ่อมบำรุงอากาศยานว่า ล่าสุดมอบหมายให้นายวรเดช หาญประเสริฐ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ทำการศึกษารายละเอียด โดยจะมีการรื้อฟื้นแผนงาน เดิมที่จะมีการศึกษาพัฒนา นิคมอุตสาหกรรมซ่อมบำรุงอากาศยาน จังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้แผนงานดังกล่าวเดินหน้าโดยเร็ว