- Details
- Category: คลัง
- Published: Monday, 27 April 2020 20:09
- Hits: 3528
'ธนกร'เผย'อุตตม'ส่งผช.ปลัดเยี่ยมสาวใหญ่กินยาเบื่อหนูทวงเงินเยียวยา 5 พัน แจงตรวจสอบแล้วเงินจะเข้าบัญชี 29 เม.ย. ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่น.ส.อัญกาญจน์ บู๊ประเสริฐ อายุ 59 กินยาเบื่อหนูเพื่อฆ่าตัวตาย เนื่องจากเข้าใจว่าจะไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทว่า จากการตรวจสอบทราบว่า น.ส.อัญกาญจน์คิดว่าตัวเองจะไม่ได้รับเงินเยียวยา จึงมาตะโกนที่หน้ากระทรวงการคลัง ก่อนที่จะกินยาเบื่อหนู เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงเร่งส่งตัวไปที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ
ทั้งนี้ เบื้องต้นนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อทราบข่าวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงมอบหมายให้นายสันติ อ่ำศรีเวียง ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการคลัง และนายศักดา ชนะภัย หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เดินทางไปเยี่ยมน.ส.อัญกาญจน์ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ พร้อมทั้งมอบกระเช้าเพื่อให้กำลังใจ ซึ่งล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบนั้นทราบว่า น.ส.อัญกาญจน์ผ่านการคัดกรองได้รับเงินเยียวยา 5000 บาทแล้ว โดยเงินจะเข้าบัญชีในวันที่ 29 เมษายน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้อธิบายและทำความเข้าใจแล้ว นอกจากนี้ กระทรวงการคลังกำลังเร่งจ่ายเงินเยียวยา พร้อมทั้งสั่งการให้เร่งทบทวนสิทธิ์ให้กับประชาชนที่ยื่นทบทวนสิทธิ์โดยเร็วที่สุด ซึ่งล่าสุดยื่นทบทวนแล้วกว่า 3 ล้านคน
ความคืบหน้ามาตรการเยียวยา 5,000 บาท เงินถึงมือผู้ได้รับผลกระทบแตะ 7.5 ล้านราย และการลงพื้นที่ปฏิบัติงานของผู้พิทักษ์สิทธิกระทรวงการคลัง
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้ามาตรการเยียวยา 5,000 บาท ในช่วงวันที่ 8-24 เมษายน 2563 ได้โอนเงินให้ผู้ได้รับสิทธิแล้ว 4.9 ล้านราย คิดเป็นจำนวนเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท ในช่วงวันที่ 27-28 เมษายน 2563 มีกำหนดทยอยโอนเงินให้ผู้ได้รับสิทธิอีก 1.5 ล้านราย และในวันที่ 29 เมษายน 2563 จะดำเนินการโอนเงินเยียวยาให้อีก 1.1 ล้านราย ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดต่อวันตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการ ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 8-29 เมษายน 2563 จะมีผู้ได้รับเงินเยียวยารวม 7.5 ล้านราย คิดเป็นเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ มีความคืบหน้าในด้านอื่นที่น่าสนใจ ได้แก่ มีผู้ขอยกเลิกการลงทะเบียน 9.4 แสนราย ขอทบทวนสิทธิ 3.4 ล้านราย ขอสละสิทธิ 1,675 ราย และมีกลุ่มขอข้อมูลเพิ่มเติมจำนวน 6.3 ล้านราย ได้เข้ามากรอกแบบสอบถามออนไลน์เรียบร้อยแล้ว 5.2 ล้านราย ยังคงเหลือผู้ไม่มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีก 1.1 ล้านราย จึงขอให้เร่งเข้ามากรอกแบบสอบถามที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เพื่อประโยชน์ในการรับสิทธิจากมาตรการอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ หลังจากที่ได้เปิดให้ผู้ไม่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ขอทบทวนสิทธิได้นั้น กระทรวงการคลังได้มอบหมาย "ผู้พิทักษ์สิทธิ" จำนวนกว่า 23,000 คน สับเปลี่ยนลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติงานทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2563 เป็นต้นมา ไม่เว้นวันหยุดราชการ เพื่อทำหน้าที่ยืนยันตัวตนและตรวจสอบการประกอบอาชีพตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานสังกัดกระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และรวมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจอื่น ทั้งนี้ ในหลายพื้นที่ผู้พิทักษ์สิทธิได้ร่วมเดินทางไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยด้วย โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติงานและหน้าที่ของผู้พิทักษ์สิทธิ ดังนี้
1) ผู้พิทักษ์สิทธิจะโทรศัพท์นัดหมายผู้ทบทวนสิทธิล่วงหน้าทุกราย
2) เมื่อลงพื้นที่ไปพบผู้ทบทวนสิทธิ ผู้พิทักษ์สิทธิจะมีการแสดงตนอย่างชัดเจน (อาจขอให้ผู้พิทักษ์สิทธิแสดงบัตรประจำตัวหรือเอกสารหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานได้)
3) จะมีการใช้แอพพลิเคชั่น 'ผู้พิทักษ์สิทธิ' ที่ติดตั้งในโทรศัพท์มือถือของฝ่ายเจ้าหน้าที่ เป็นเครื่องมือในการขอยืนยันตัวตนของผู้ทบทวนสิทธิ และถ่ายภาพหลักฐานต่างทุกขั้นตอน
4) ข้อมูลที่สำรวจและจัดเก็บจะถูกส่งตรงจากแอปพลิเคชันกลับมายังฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ขอทบทวนสิทธิ ดำเนินการดังต่อไปนี้
1) เมื่อท่านได้ยื่นความประสงค์ขอทวบทวนสิทธิผ่านเว็บไซต์แล้ว ขอให้เตรียมบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง ตลอดจนเอกสารและหลักฐานแสดงการประกอบอาชีพล่วงหน้าให้พร้อม เช่น ภาพถ่ายการประกอบอาชีพตามอาชีพที่ได้ลงทะเบียนไว้ ใบอนุญาตประกอบอาชีพ ภาพถ่ายกับสถานประกอบการ เป็นต้น
2) ผู้พิทักษ์สิทธิมีหน้าที่ยืนยันตัวตนและตรวจสอบการประกอบอาชีพตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ โดยไม่มีอำนาจพิจารณาคุณสมบัติว่าท่านจะได้รับเงินเยียวยาหรือไม่
อนึ่ง ขอให้ระมัดระวังการแอบอ้างหลอกลวงโดยผู้ไม่หวังดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากท่านไม่ได้ยื่นขอทบทวนสิทธิ กระทรวงการคลังจะไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่ลงไปนัดหมายพบปะกับท่านแต่อย่างใด
Call Center ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1144 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3421, 3422, 3423, 3424, 3425, 3427, 3429, 3430, 3572 (ในวันและเวลาราชการ)
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web