WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

91ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่ง Sideway up ขานรับกระแสเงินทุนไหลเข้า-เก็งงบฯ Q3/60

      นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up เนื่องจากกระแสเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้า และมีการเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 3/60 ด้วย ซึ่งฝ่ายวิจัยก็คาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/60 จะเติบโตเมื่อเทียบกับรายไตรมาส และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมไปถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวแข็งแกร่ง

        ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก แต่ขณะนี้ก็เริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง ทำให้ตลาดภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบราว 0.1-0.2%

       อย่างไรก็ตาม สัปดาห์นี้ยังต้องติดตามประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในหลายสาขาที่จะออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และให้ติดตามวุฒิสภาของสหรัฐฯจะพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณ ปี 2561 ซึ่งการพิจารณาตรงนี้เป็นก้าวสำคัญให้กับแผนปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับการพิจารณาในระยะถัดไป เนื่องจากมีความผูกพันกับงบประมาณด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,720-1,722 จุด ส่วนแนวต้าน 1,730-1,735 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 ต.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,956.96 จุด เพิ่มขึ้น 85.24 จุด(+0.37%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,624.00 จุด เพิ่มขึ้น 18.20 จุด (+0.28%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,557.64 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด (+0.18%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 96.61 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.24 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 84.38 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 16.14 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.91 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.54 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.93 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 37.00 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ต.ค.60) 1,726.67 จุด เพิ่มขึ้น 14.19 จุด (+0.83%)

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,243.21 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ต.ค.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 ต.ค.60) ปิดที่ระดับ 51.87 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.8%

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ต.ค.60) ที่ 7.28 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 33.06 แข็งค่าเล็กน้อยจากดอลล์อ่อน คาดกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 33.05-33.20

- "บิ๊กตู่"เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์น้ำ แผนงานรับมือน้ำ และการเยียวยาผู้ประสบภัย ด้านกรมชลประทานเตือน 17-19 ต.ค.นี้ กทม.ระวังน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนภาคใต้ให้ระวังช่วง 18 ต.ค. ด้าน ปภ. เผยเกิดอุทกภัยแล้ว 10 จังหวัด ประชาชนรับผลกระทบกว่า 1.4 แสนคน กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ พายุ "ขนุน" อ่อนกำลังลงแล้ว

- นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้เชื่อว่าจะขยายตัวได้ใกล้เคียง 4% ซึ่งหลายหน่วยงานได้ทยอยปรับขึ้นต่อเนื่อง บางแห่งให้เศรษฐกิจขยายตัวถึง 3.8% ในส่วนของกระทรวงการคลังจะมีการปรับประมาณการใหม่ในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งเดิมคาดว่าจะขยายตัวได้ 3.6%

- สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยถึงภาวะเศรษฐกิจการเกษตร ประจำเดือน ก.ย.ว่า ดัชนีราคาสินค้าเกษตรลดลง 6.12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าที่ปรับ ลดลงได้แก่ สุกร ไข่ไก่ และกุ้งขาว เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากไม่สอดคล้องกับความต้องการ ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีรายได้ของเกษตรกร เดือน ก.ย. 2560 เพิ่มขึ้นเพียง 0.48% โดยคาดการณ์เดือน ต.ค. ดัชนีรายได้เกษตรกรจะลดลงเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่เดือน พ.ย.คาดว่าอยู่ในระดับทรงตัว

- ผู้แทนสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือน ต.ค.ที่มองไป 3 เดือน ข้างหน้าอยู่ที่ 162.63 จุด ซึ่งเป็นครั้งแรก ที่อยู่ในเกณฑ์ร้อนแรงอย่างมากหรือเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่ทำดัชนีนี้ขึ้นมาเดือน ม.ค. 2558 เพิ่มขึ้นถึง 31.02% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่อยู่ระดับ 124.13 จุด ร้อนแรงปกติ

- คมนาคมเผยสร้างสายสีเขียวส่วนต่อขยายสมุทรปราการ-บางปู และคูคต-ลำลูกกาสะดุด หลังผลหารือภาระหนี้และค่าก่อสร้างสายสีเขียวยังไร้ข้อสรุป สั่ง กทม.เร่งจัดทำรายละเอียดเรื่องเงินก่อนหารือรอบใหม่ใน พ.ย.นี้

*หุ้นเด่นวันนี้

- PTTGC (ไอร่า) เป้า 105 บาท คาด 3Q/60 ฟื้นตัวโดดเด่น จากธุรกิจโรงกลั่นเป็นหลัก โดยคาด 3Q/60 มีกำไรสุทธิ 9,896 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50%qoq และ 59%yoy ปัจจัยหลักมาจากธุรกิจการกลั่น ตามค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น คาดค่าการกลั่นของ PTTGC ในช่วง 3Q/60 เฉลี่ยอยู่ที่ 7.5 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 6.1 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เมื่อ 2Q/60 โดยส่วนต่างการกลั่นของน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ PTTGC เพิ่มขึ้นถึง 22% qoq คาดอยู่ที่ 13.9 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่คาดอัตราการใช้กำลังผลิตใกล้เคียงกับ 2Q/60 อยู่ที่ 103% และคาดมีผลกำไรจากสต็อกน้ำมันประมาณ 1,400 ล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นในช่วง 3Q/60 ประมาณ 7.5 USD/bbl มาอยู่ที่เฉลี่ย 53.9 USD/bbl รวมถึงธุรกิจปิโตรเคมีในสายโอเลฟินส์ฟื้นตัว พร้อมคาดในปี 61 ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการเข้าซื้อกิจการปิโตรเคมีที่เดิมเป็นของ PTT คาดรับรู้กำไร ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี และคาดกำลังการผลิต เพิ่มขึ้นจากการเปิดดำเนินงานของโรงงาน mLLDPE กำลังการผลิต 434,000 ตันต่อปี

- IRPC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 7.40 บาท คาดกำไรสุทธิ 3Q60 ที่ 3.4 พันล้านบาท +174% Q-Q, +158% Y-Y จากการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น margin ทั้งโรงกลั่นและปิโตรเคมีขยายตัวรวมถึงกำไรจากสต๊อกน้ำมัน หากเป็นไปตามคาดกำไร 9M60 จะคิดเป็น 77% ของคาดการณ์ทั้งปีที่ 9.0 พันล้านบาท ยังเลือก IRPC เป็น top pick เพราะการเติบโตในปีหน้าไม่ต้องพึ่งพา margin ของอุตสาหกรรม และเป็นปีที่รับรู้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่มีการหยุดซ่อม

- AMATA (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 26.4 บาท ประเมินยอดขายที่ดินพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในปีก่อน และเข้าสู่ขาขึ้นในปี 2560-62 ตามการฟื้นตัวของ FDI และรวมทั้งความคืบหน้าของโครงการ EEC

- SCC (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อลงทุน"เป้า 600 บาท คาดกำไร 3Q60 จะทรงตัว 13,400 ล้านบาท (+1%QoQ, -5%YoY)  โดยกำไรหลักยังมาจากธุรกิจปิโตรเคมีสัดส่วน 81%  ส่วนธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง  และกระดาษ คาดกำไรจะยังอยู่ในระดับต่ำ SCC ได้แจ้งตลาดขายหุ้นใน Tien Phong Plastic แล้ว มีกำไรหลังภาษี 963 ล้านบาท คิดเป็น 1.75% ของประมาณการกำไรปีนี้  โดยยังคงประมาณการ ประเด็นที่ SCC มีกระแสเงินสดในรูป EBITDA สูง 8-9 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าลงทุนต่อปีประมาณ 5 หมื่นล้านบาท เน้นเป็นผู้นำของอาเซียน อนาคตสัดส่วนยอดขายและสินทรัพย์ในอาเซียนจะเพิ่มเป็น 40-50% จาก 24% ในปัจจุบัน คาดจ่ายเงินปันผลปีละประมาณ 19 บาท

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับตลาดวอลล์สตรีททำนิวไฮ

            ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขานรับดัชนีดาวโจนส์ S&P500 และ Nasdaq ที่ต่างก็ปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้

                ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 21,352.17 จุด เพิ่มขึ้น 96.61 จุด, +0.45% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,373.23 จุด ลดลง 5.24 จุด, -0.16% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 28,777.18 จุด เพิ่มขึ้น 84.38 จุด, +0.29% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,790.35 จุด เพิ่มขึ้น 16.14 จุด, +0.15% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,484.96 จุด เพิ่มขึ้น 4.91 จุด, +0.20%

                ส่วนดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,328.60 จุด เพิ่มขึ้น 5.54 จุด, +0.17% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,753.44 จุด ลดลง 0.93 จุด, -0.05% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 8,484.94 จุด เพิ่มขึ้น 37.00 จุด, +0.44%

                บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียช่วงเช้านี้ได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) เดือนต.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 30.2 จากระดับ 24.2 ในเดือนก.ย. โดยดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก

                นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเบื้องต้นเดือนต.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)

                ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาวุฒิสภาสหรัฐซึ่งเตรียมโหวตร่างงบประมาณประจำปี 2561 ในสัปดาห์นี้ เพื่อปูทางสู่การพิจารณากฎหมายปฏิรูปภาษีในปีนี้ หลังจากเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติอนุมัติงบประมาณวงเงิน 4.1 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณ 2561

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 8.47 จุด จากแรงฉุดของหุ้นคอนวาเทค

            ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) ด้วยแรงฉุดจากหุ้นคอนวาเทคที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์รายใหญ่แห่งนี้ ได้หั่นคาดการณ์ยอดขายตลอดทั้งปีนี้ สืบเนื่องจากผลประกอบการในไตรมาส 3 ที่ย่ำแย่จากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนหลายลูกที่พัดถล่มหลายประเทศในแถบทะเลแคริบเบียน

                ดัชนี FTSE 100 ลดลง 8.47 จุด หรือ -0.11% ปิดที่ 7,526.97 จุด

                ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้เป็นไปอย่างผันผวนก่อนปิดขยับลง ด้วยแรงฉุดจากหุ้นคอนวาเทคที่ร่วงลงถึง 27% ซึ่งส่งผลให้มูลค่าในตลาดของคอนวาเทคลดลงถึง 25% ภายหลังจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายตลอดทั้งปีนี้ สืบเนื่องจากอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนหลายลูกที่พัดถล่มหลายประเทศในแถบทะเลแคริบเบียนได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตอุปกรณ์การแพทย์ในโรงงานที่สาธารณรัฐโดมินิกัน

                หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นขานรับข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิตของจีนที่ปรับตัวดีเกินคาดในเดือนก.ย. โดยหุ้นอันโตฟากาสตา เพิ่มขึ้น 1.9% หุ้นแองโกล อเมริกัน ขยับขึ้น 0.5% หุ้นเกลนคอร์ เพิ่มขึ้น 1.5% และหุ้นริโอ ทินโต ขยับขึ้น 0.8%

                หุ้นจดทะเบียนรายใหญ่ที่น่าจับตา หุ้น GKN ร่วงลง 3.4% หลังบริษัทด้านวิศวกรรมรายใหญ่แห่งนี้ได้ออกรายงานเตือนเกี่ยวกับผลกำไรที่อาจหดตัวลง

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดขยับลง เหตุวิตกการเมืองสเปน

            ตลาดหุ้นยุโรป ปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสเปน หลังจากรัฐบาลสเปนขีดเส้นตายให้ผู้นำแคว้นกาตาลุญญาแสดงท่าทีที่ชัดเจนภายในวันพฤหัสบดีนี้ว่า เขาได้ประกาศนำแคว้นกาตาลุญญาแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปนหรือไม่

                ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลงปิดที่ระดับ 391.41 จุด จากระดับของวันศุกร์ที่ 391.55 จุด

                ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,526.97 จุด ลดลง 8.47 จุด, -0.11% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 13,003.70 จุด เพิ่มขึ้น 11.83 จุด, +0.09% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,362.88 จุด เพิ่มขึ้น 11.14 จุด, +0.21%

                ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองในสเปนยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นยุโรป โดยล่าสุดนางโซรายา แซนซ์ เดอ ซานตามาเรีย รองนายกรัฐมนตรีสเปน กล่าวว่า รัฐบาลสเปนจะให้เวลาแก่นายคาร์เลส ปุกเดมองต์ ผู้นำแคว้นกาตาลุญญาอีกครั้งจนถึงวันพฤหัสบดีนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสเปน หรือ 15.00 น.ตามเวลาไทย ในการแถลงอย่างชัดเจนว่า เขาได้ประกาศนำแคว้นกาตาลุญญาแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปนหรือไม่

                นางซานตามาเรียกล่าวว่า นายปุกเดมองต์ ผู้นำแคว้นกาตาลุญญา ยังคงไม่ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนว่า เขาได้ประกาศนำแคว้นกาตาลุญญาแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปนหรือไม่ โดยนายปุกเดมองต์ได้ยื่นหนังสือถึงรัฐบาลสเปนเมื่อวานนี้ ซึ่งระบุเพียงว่า เขาต้องการพบนายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเรียกร้องให้การเจรจาดังกล่าวมีขึ้นในช่วง 2 เดือนข้างหน้า

                ทั้งนี้ หากนายปุกเดมองต์ประกาศนำแคว้นกาตาลุญญาแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน รัฐบาลสเปนก็จะใช้มาตรา 155 แห่งรัฐธรรมนูญสเปน ในการยกเลิกสิทธิในการปกครองตนเองของแคว้นกาตาลุญญา ขณะที่รัฐบาลสเปนจะเข้าปกครองโดยตรง พร้อมกับปลดคณะรัฐบาลของนายปุกเดมองต์ พร้อมกับจัดการเลือกตั้งใหม่

                หุ้นกลุ่มธนาคารของสเปนร่วงลง นำโดยหุ้นบังโค เด ซาบาเดลล์ ดิ่งลง 2.8% และหุ้นธนาคารบีบีวีเอ ร่วงลง 1.8%

                ส่วนดัชนี IBEX 35 ตลาดหุ้นสเปน ปรับตัวลง 0.8% ปิดที่ระดับ 10,181.40 จุด โดยดัชนีตลาดหุ้นสเปนปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก : ดอลล์แข็งค่าเทียบเงินสกุลหลัก รับข้อมูล CPI สหรัฐ, ถ้อยแถลง เยลเลน

                สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีทิศทางการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ขณะที่ตลาดแรงงานก็อยู่ในภาวะที่แข็งแกร่ง

                ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1809 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1819 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3260 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3291 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7859 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7885 ดอลลาร์

                ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.89 เยน จากระดับ 111.87 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9749 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9744 ฟรังก์สวิส

                ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.10% สู่ระดับ 93.188 เมื่อคืนนี้

                ดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนภายหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 2.2% ในเดือนก.ย. หลังจากปรับตัวขึ้น 1.9% ในเดือนส.ค.

                นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยบวกจากถ้อยแถลงของนางเยลเลน ซึ่งขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนาซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารเพื่อการพัฒนาระหว่างทวีปอเมริกา (IDB) ในกรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเยลเลนระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างมั่นคง เช่นเดียวกับตลาดแรงงานก็อยู่ในภาวะที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้สามารถรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้

                ถ้อยแถลงล่าสุดของเยลเลนทำให้เกิดกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้

                นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเบื้องต้นเดือนต.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)

                อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!