- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 10 October 2017 11:14
- Hits: 3377
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-อิงอ่อนลงหลังไม่ผ่าน 1,700 จุด รอปัจจัยใหม่หนุน,จับตากลุ่มแบงก์ประกาศงบฯ
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ แต่ให้น้ำหนักไปทางอ่อนตัวลงหลังจากที่ยังไม่ผ่านแนว 1,700 จุด ทำให้นักลงทุนต่างรอปัจจัยใหม่เข้ามา โดยเฉพาะการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในงวดไตรมาส 3/60 ซึ่งจะเริ่มที่กลุ่มแบงก์ก่อนโดยจะเริ่มในกลางสัปดาห์นี้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย โดยแต่ละตลาดฯต่างก็รอดูการประกาศงบการเงินเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังจับตาการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ที่สูงขึ้นด้วย ซึ่งมองประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปลายปีนี้ และผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,690-1,692 ถัดไปเป็น 1,680-1,685 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,700 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (9 ต.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,761.07 จุด ลดลง 12.60 จุด (-0.06%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,579.73 จุด ลดลง 10.45 จุด (-0.16%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,544.73 จุด ลดลง 4.60 จุด (-0.18%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 31.16 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.81 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 8.33 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 12.50 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.04 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.34 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 10.17 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 ต.ค.60) 1,692.22 จุด ลดลง 3.75 จุด (-0.22%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 717.14 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ต.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (9 ต.ค.60) ปิดที่ระดับ 49.58 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.6%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 ต.ค.60) ที่ 7.17 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.35 นลท.รอติดตามรายงานการประชุมเฟด-ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯสัปดาห์นี้
- "ประยุทธ์" ปลื้มไอซีเอโอ ปลดธงแดงไทย ย้ำเดินหน้าพัฒนามาตรฐานการบินต่อเนื่อง ระบุอีก 10 สายการบิน ที่เหลือปลดล็อกเดือน ธ.ค.นี้ ขณะเอกชนตีปีก เปิดเส้นทางบินใหม่เพียบ ด้านกพท. ตั้งเป้าแก้ปัญหาการบินสหรัฐอเมริกาให้จบไตรมาสแรกปีหน้า หนุนการบินไทย บินเข้าสหรัฐ ต.ค.61
- นำเข้าหมูสหรัฐฯ เป็นเรื่อง "เกษตร" งัดข้อ "พาณิชย์" เมินปรับแก้กฎหมายที่ดูแล อ้างต้องดูแลเกษตรกรและผู้บริโภค ส่วนกลุ่มเอฟทีเอ วอทช์ ซัดรัฐไม่พูดความจริง ชี้ไทยมีสิทธิ์ปกป้องตัวเอง ยันเดินหน้าค้านแก้กฎหมาย ขณะที่ ปชป.จี้รัฐตอบ หวั่นปล่อยให้นำเข้าคนไทยเสี่ยงเป็นมะเร็ง ด้าน "พาณิชย์" แจงต้องทำตาม CODEX และกำลังหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภายในและผู้บริโภค
- ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยผลสำรวจไตรมาส 3 ปีนี้ ดัชนีราคาห้องชุดขยับขึ้นแรงกว่าบ้านแนวราบ นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า จากการสำรวจพบราคาห้องชุดในกลุ่มระดับราคาต่างๆ มีการปรับขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมากสุด ดังนี้ 1.กลุ่มระดับราคาล่างหรือราคาไม่เกิน 5 หมื่นบาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) ปรับราคาเพิ่มขึ้นมากสุด 11.7-13.7% 2.กลุ่มระดับ ลักซ์ชัวรี่หรือราคาสูงกว่า 2 แสนบาท/ตร.ม. ปรับราคาเพิ่มขึ้น 9.7-11.7%
- รมช.คลัง เปิดเผยว่า ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ ขณะนี้คณะกรรมาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อยู่ระหว่างการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวในวาระ 2 ซึ่งได้มีการขยายระยะเวลาการพิจารณาออกไปอีก 60 วัน จนถึงสิ้นเดือน พ.ย.นี้ และคาดว่าจะส่งให้ สนช.พิจารณาในวาระ 3 ได้ก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ได้ภายเดือน ม.ค.62
- เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นักลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชได้เข้าพบเพื่อหารือถึงการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยสนใจลงทุนคลัสเตอร์อุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ขณะนี้มีนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น กว่า 30 บริษัท สนใจลงทุนนำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์เข้ามาปรับเปลี่ยนกระบวนการการผลิต ถือเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล โดยนักลงทุนได้เข้ามารับฟังสิทธิประโยชน์จากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และคณะกรรมการนโยบายอีอีซีเพื่อประเมินการลงทุนอีกครั้ง
*หุ้นเด่นวันนี้
- TOA (บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย)) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สังกัดหมวดวัสดุก่อสร้าง โดยราคาขาย IPO 24 บาท/หุ้น บล.โกลเบล็ก ระบุว่า ราคา IPO คิดเป็น Current PER ที่ 24.4 เท่าเทียบกับบริษัทจดทะเบียนในต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกันมี PER เฉลี่ยที่ 32.48 เท่า ปัจจุบันกลุ่ม CONMAT ใน SET ซื้อขายที่ PER 13.3 เท่า
บริษัทฯมีผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร ผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวและผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น ครอบคลุมทุกระดับราคาและการใช้งาน โดยกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นช่างมืออาชีพ และลูกค้าที่ซื้อสินค้าด้วยตัวเอง (buy it yourself หรือ BIY)
- AMATA (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 32 บาท ร่าง พ.ร.บ. EEC ได้เข้า สนช. และผ่านว่าระแรกแล้ว คาดว่าจะประกาศเป็นกฎหมายได้ภายในสิ้นปีนี้ คาดว่า ปี 2561 จะเป็นปีแห่งการยื่นขอรับสิทธิ BOI จำนวนมาก ก่อนที่วัฏจักรการขายที่ดินนิคมฯรอบใหม่จะเริ่มขึ้นในปี 2562 จึงได้ปรับเพิ่มกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1-11% ในปี 2560-2563 จากการปรับเพิ่มสมมติฐานขายที่ดินที่สูงขึ้น และต้นทุนหนี้ลดลงจากการรีไฟแนนซ์ด้วยการออกพันธบัตร
- BIG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 5 บาท คาดกำไร 3Q60 เริ่มกลับมาฟื้นทั้ง Q-Q และ Y-Y เพราะผลจากการจัดงาน big pro days และไม่มีตั้งด้อยค่าเหมือน 2Q60 รวมถึงฐานที่ต่ำมากในปีก่อน แต่เนื่องจากแรงซื้อและการออกสินค้ารุ่นใหม่ของผู้ผลิตกล้องเพิ่งเร่งตัวในปลายไตรมาส ทำให้การฟื้นตัวยังไม่โดดเด่น แต่อย่างน้อยน่าจะสะท้อนว่าเจอจุดต่ำสุดแล้ว จึงคาดกำไรปีนี้ทรงตัว Y-Y ก่อนจะเพิ่มขึ้น 10% Y-Y ในปีหน้า PE2560-2561 เพียง 13-15 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มขายสินค้าไอทีที่ 25 เท่า
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนเช้านี้ ขณะนักลงทุนจับตาสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเช้านี้ หลังตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตาสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากมีการคาดการณ์ว่า เกาหลีเหนืออาจยิงทดสอบขีปนาวุธในวันนี้ ซึ่งตรงกับวันก่อตั้งพรรคแรงงานแห่งเกาหลี
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,425.63 จุด เพิ่มขึ้น 31.16 จุด, +1.30% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,292.37 จุด เพิ่มขึ้น 0.81 จุด, +0.02% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 28,334.92 จุด เพิ่มขึ้น 8.33 จุด, +0.03%
ส่วนดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 8,354.88 จุด ลดลง 12.50 จุด, -0.15% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,373.34 จุด ลดลง 1.04 จุด, -0.03% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,760.69 จุด ลดลง 3.34 จุด, -0.19% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,680.54 จุด ลดลง 10.17 จุด, -0.05%
นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีอย่างใกล้ชิด หลังจากสำนักข่าว RIA ของรัสเซียรายงานโดยอ้างคำกล่าวของสมาชิกรัฐสภารัสเซียว่า เกาหลีเหนือกำลังเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลที่จะสามารถไปไกลถึงชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐ
นายอันตัน โมโรซอฟ สมาชิกรัฐสภารัสเซีย และเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการต่างประเทศ กล่าวว่า "เกาหลีเหนือกำลังเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกล โดยพวกเขานำตัวเลขการคำนวณให้เราดู โดยเชื่อว่าจะสามารถไปไกลถึงชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐ"
นายโมโรซอฟกล่าว หลังจากที่เขาได้เดินทางเยือนกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือในวันที่ 2-6 ต.ค.
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า เกาหลีเหนืออาจยิงทดสอบขีปนาวุธในวันนี้ (10 ต.ค.) ซึ่งตรงกับวันก่อตั้งพรรคแรงงานแห่งเกาหลี
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : เงินปอนด์แข็งค่า ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 14.98 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีรายงานว่านางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมปรับคณะรัฐมนตรี โดยมีแนวโน้มว่านายบอริส จอห์นสัน รมว.ต่างประเทศ อาจถูกปลดออกจากตำแหน่ง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,507.89 จุด ลดลง 14.98 จุด หรือ -0.20%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากมีรายงานว่า นางเมย์เตรียมปรับคณะรัฐมนตรี โดยมีแนวโน้มที่นายบอริส จอห์นสัน รมว.ต่างประเทศ อาจถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังจากที่มีข่าวว่าพยายามท้าทายอำนาจของนางเมย์
ทั้งนี้ การแข็งค่าของเงินปอนด์ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทข้ามชาติในอังกฤษ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปของเงินสกุลอื่นๆ
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะปรับตัวลดลง หลังจากมาร์กิตและไฉซินเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย.ของจีน ร่วงลงแตะระดับ 50.6 จากระดับ 52.7 ในเดือนส.ค. โดยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ย.ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน
ทั้งนี้ หุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 3.4% หุ้นริโอทินโต ดิ่งลง 2.2% และหุ้นเกลนคอร์ ร่วงลง 1.3%
หุ้นอีซี่เจ็ท ร่วงลง 2.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของเอชเอสบีซีได้ปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นอีซีเจ็ท
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองทองคำดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส ขยับขึ้น 0.9% หุ้นฮอชชิลด์ ไมนิ่ง พุ่งขึ้น 4.3% และหุ้นอาคาเซีย ไมนิ่ง ปรับตัวขึ้น 3.7%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับตลาดหุ้นสเปนฟื้น,ผลผลิตอุตสาหกรรมเยอรมนีขยายตัว
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสเปน หลังจากมีรายงานว่า ประชาชนชาวคาตาลันในแคว้นกาตาลุญญาได้ออกมาประท้วงเพื่อคัดค้านการแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีขยายตัวได้ดีเกินคาด
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 390.21 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,365.83 จุด เพิ่มขึ้น 5.93 จุด หรือ +0.11% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ระดับ 12,976.40 จุด เพิ่มขึ้น 20.46 จุด หรือ +0.16% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,507.89 จุด ลดลง 14.98 จุด หรือ -0.20%
ตลาดหุ้นสเปนฟื้นตัวขึ้น โดยดัชนี IBEX 35 พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 1.2% หลังจากมีรายงานว่าประชาชนชาวคาตาลันหลายแสนคนที่ไม่สนับสนุนให้แยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน ได้ออกมาเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนในเมืองบาร์เซโลนาเพื่อต่อต้านการตัดสินใจของนายคาร์เลน ปุกเดมองต์ ผู้นำแคว้นกาตาลุญญา โดยผู้ประท้วงบางคนได้เรียกร้องให้มีการควบคุมตัวนายปุกเดมองต์ในข้อหาจัดการลงประชามติโดยฝ่าฝืนคำสั่งของศาล
ด้านนายกรัฐมนตรีมาริอาโน ราฮอยแห่งสเปน ได้ออกมาประกาศเตือนสภาบริหารแห่งแคว้นกาตาลุญญาว่า หากยังเดินหน้าแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน ตนจะสั่งถอดถอนคณะรัฐมนตรีกาตาลุญญาทั้งหมด พร้อมกับสั่งระงับสถานภาพ "แคว้นปกครองตนเอง" ของกาตาลุญญาอีกด้วย
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตานายปุกเดมองต์ที่เตรียมขึ้นกล่าวอภิปรายเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในรัฐสภากาตาลุญญาในวันนี้ ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่าเขาจะใช้โอกาสดังกล่าวในการประกาศเอกราชจากสเปน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนหลังจากกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ขยายตัว 2.6% เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.9%
หุ้นกลุ่มเหมืองทองคำดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส ขยับขึ้น 0.9% หุ้นฮอชชิลด์ ไมนิ่ง พุ่งขึ้น 4.3% และหุ้นอาคาเซีย ไมนิ่ง ปรับตัวขึ้น 3.7%
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะทั่วไปปรับตัวลดลง หลังจากมาร์กิตและไฉซินเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย.ของจีน ร่วงลงแตะระดับ 50.6 จากระดับ 52.7 ในเดือนส.ค. โดยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ย.ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน
ทั้งนี้ หุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 3.4% หุ้นริโอทินโต ดิ่งลง 2.2% และหุ้นเกลนคอร์ ร่วงลง 1.3%
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 12.60 จุด หลังหุ้นธุรกิจสุขภาพร่วง,ตลาดจับตาผลประกอบการแบงก์ใหญ่
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพปรับตัวลง หลังจากมีรายงานว่า บริษัทอเมซอนดอทคอม อิงค์ กำลังพิจารณาการลงทุนในธุรกิจเพื่อสุขภาพ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) และจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน และซิตี้กรุ๊ป
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,761.07 จุด ลดลง 12.60 จุด หรือ -0.06% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,544.73 จุด ลดลง 4.60 จุด หรือ -0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,579.73 จุด ลดลง 10.45 จุด หรือ -0.16%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มสุขภาพปรับตัวลง 0.67% นำโดยหุ้นเอ็กซ์เพรส สคริปส์ โฮลดิงส์ ดิ่งลง 5% หุ้นเมดโทรนิค ร่วงลง 3.61%
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพร่วงลงอย่างหนักนั้น มาจากรายงานที่ว่า บริษัทอเมซอนดอทคอม อิงค์ กำลังพิจารณาการลงทุนในธุรกิจเพื่อสุขภาพ หลังจากที่อเมซอนได้เข้าซื้อกิจการบริษัทโฮลฟู้ดส์ มาร์เก็ต อิงค์ ด้วยวงเงิน 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 42 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้มีกระแสคาดการณ์ว่า อเมซอนอาจตั้งร้านวางจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพและเวชภัณฑ์
หุ้น GE ร่วงลง 3.9% หลังจากมีรายงานว่า GE ได้แต่งตั้งนายเอ็ดเวิร์ด การ์เดน ผู้บริหารด้านการลงทุนของไทรอัน ฟันด์ เมเนจเมนท์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ GE ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะบริหารของบริษัท
หุ้นเอเอ็มซี เอนเตอร์เทนเมนท์ โฮลดิงส์ และหุ้นเรกัล เอนเตอร์เทนเมนท์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 4% หลังจากยอดจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์เรื่อง "Blade Runner 2049" ออกมาต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หุ้นที่มีทุนจดทะเบียนสูงในตลาดบางตัวได้ปรับฐานขึ้น โดยหุ้นวอลมาร์ท ดีดตัวขึ้น 1.9% หลังจากมีรายงานว่าผลประกอบการของบริษัทมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ขณะที่หุ้น Nvidia ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ พุ่งขึ้น 2.2%
นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป, ธนาคารแบล็คร็อค, แบงก์ ออฟ อเมริกา และเวลส์ ฟาร์โก
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างผลสำรวจของธอมสัน รอยเตอร์ว่า ผลกำไรในไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี และคาดว่ารายได้ในไตรมาส 3 จะเพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ รายงานการประชุมประจำวันที่ 19-20 ก.ย.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย., ยอดค้าปลีกเดือนก.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
อินโฟเควสท์
