- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 20 September 2017 12:09
- Hits: 3410
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งลงหลังต่างชาติพลิกมาขาย-เข้าเขต Overbought-ไร้ปัจจัยใหม่หนุน
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวลง หลังนักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิ และกองทุนในประเทศก็ขาย จึงอาจถูกมองว่าดัชนีฯปรับตัวขึ้นไปสูงแล้วหรือไม่ นอกจากนี้ ในทางเทคนิคก็เข้าเขตซื้อมากเกินไป (Overbought)
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ จากแรงขายทำกำไรในช่วงรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งต่างก็รอดูจะมีการกล่าวถึงการปรับลดงบดุลสหรัฐฯหรือไม่ อย่างไร อีกทั้งราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงเล็กน้อยด้วย รวมไปถึงตลาดฯยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่เข้ามา
นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราก็เริ่ม Outperform ตลาดภูมิภาคแล้ว ทำให้เริ่มมีแรงขายทำกำไรบ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,664 จุด ส่วนแนวต้าน 1,678 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (19 ก.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,370.80 จุด เพิ่มขึ้น 39.45 จุด (+0.18%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,461.32 จุด เพิ่มขึ้น 6.68 จุด (+0.10%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,506.65 จุด เพิ่มขึ้น 2.78 จุด (+0.11%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 1.95 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.66 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 47.88 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 7.56 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.77 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.18 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.37 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 ก.ย.60) 1,672.59 จุด เพิ่มขึ้น 2.39 จุด (+0.14%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 632.35 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ก.ย.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 ก.ย.60) ปิดทรงตัวที่ระดับ 49.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 43 เซนต์ หรือ 0.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 ก.ย.60) ที่ 8.51 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.08 ทรงตัวจากเย็นวานนี้ นลท.จับตาผลประชุม-ติดตามถ้อยแถลงประธานเฟดวันนี้
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.อีอีซี เตรียมส่งสนช.พิจารณา คาด 5 เดือนคลอดกฎหมาย เปิดทางลงทุนอีอีซี พร้อมตั้งกองทุนดูแลสิ่งแวดล้อม-เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ธปท.ขอเอี่ยวกำหนดนโยบายการใช้เงินตราต่างประเทศในอีอีซี หวั่นกระทบดูแลเสถียรภาพเงินทุนเคลื่อนย้ายขณะหอการค้า ประเมิน 500 ญี่ปุ่นเยือนไทยจับคู่ธุรกิจ 2 พันคู่ แจงญี่ปุ่นเร่งรัฐลงทุนรถไฟเร็วสูง ดึงดูดลงทุน
- ครม.อนุมัตินำเบี้ยประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท รวมวงเงินประกันชีวิตไม่เกิน 1 แสนบาท เริ่มทันทีปีภาษีนี้ ด้าน "คลัง" แจงไม่แยกหัสเหตุส่วนใหญ่ยังใช้สิทธิไม่เต็มวงเงินขณะ ค่ายประกันฯ ระบุช่วยรัฐลดภาระดูแลสุขภาพประชาชน ทั้งยังปลุกตลาดคึกคักขึ้น
- การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของคณะกรรมาธิการ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสียงส่วนใหญ่เห็นควรให้เว้นภาษีที่ดินเพื่ออยู่อาศัยไม่เกิน 20 ล้านบาท จากเดิมที่รัฐบาลเสนอให้เว้นไม่เกิน 50 ล้านบาท
- ก.ท่องเที่ยวฯปลื้มท่องเที่ยวไทย 8 เดือนแรก เติบโตดีทั้งยอดคนเที่ยวและรายได้ทะลุ 23.5 ล้านคน ทำเงินเกือบ 1.2 ล้านล้าน มั่นใจโค้งสุดท้ายโตอีก 10% ทั้งปีเข้าเป้า 2.7 ล้านล้าน แม้ปัจจัยเสี่ยงใน-นอกยังรุมเร้า
- เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นเฉพาะกลุ่มต่อร่างประกาศ กสทช.เรียกคืนคลื่นความถี่ที่ใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่าเพื่อนำมาจัดสรรใหม่ เพื่อนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคส่วนต่างๆ จากผู้ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม และหน่วยงานภาครัฐ ประกอบการพิจารณาจัดทำร่างประกาศ
*หุ้นเด่นวันนี้
- AOT (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 60 บาท คาดบันทึกค่าเช่าย้อนหลังตั้งแต่ปี 56-60 ไม่เกิน 1.5 พันล้านบาทปีนี้ กระทบคาดการณ์กำไรประมาณ 6-7% ขณะที่จะบันทึกค่าเช่าส่วนเพิ่ม 1 พันล้านบาท/ปี ตั้งแต่ ปี 61 เป็นต้นไป แม้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่จะปลดล็อกความกังวลต่อประเด็นนี้ และสามารถดำเนินการประมูลสัมปทานร้านค้าปลอดภาษี และโครงการ Airport City ได้
- CPF (ยูโอบี เคย์เฮียน) ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดและมีแนวโน้มเติบโตในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับเป็นหนึ่งในหุ้นใหญ่ที่ราคายัง Laggard ตลาดรวม
- TACC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 9 บาท กำไร 3Q60 อาจต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 30-35 ลบ. เพราะรายได้จาก Sanrio ที่เคยอยู่ใน 3Q59 ถูกเลื่อนเป็น 4Q60 และมีการลดขนาดธุรกิจกาแฟลดน้ำหนัก Vslim ลง แต่แนวโน้มกำไร 4Q60 จะดีมากจากทั้งโดนัททวิสต์ที่ขายดี และการออกสินค้าใหม่ใน พ.ย.60 รวมถึงการจัดแคมเปญใหญ่ในกัมพูชา จึงคงประมาณการเดิม
- CPN (โกลเบล็ก) "ซื้อเมื่ออ่อนตัว"เป้า 75 บาท ปีนี้ยังเหลือสาขาที่จะเปิดใหม่อีก 1 แห่งที่มหาชัยราวปลายปี คาดกำไรปี 60 ราว 9,540 ล้านบาท เติบโต 3%YoY และคาดกำไรปี 61 เติบโตราว 20% เป็น 1.15 หมื่นล้านบาทจากการเริ่มรับรู้โครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการมูลค่าราว 3 พันล้านบาท
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ รับวอลล์สตรีททำนิวไฮ นักลงทุนจับตาผลประชุมเฟด
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เมื่อคืนนี้ ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ก็ปิดทำนิวไฮด้วยเช่นกัน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,301.33 จุด เพิ่มขึ้น 1.95 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,352.18 จุด ลดลง 4.66 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 28,099.29 จุด เพิ่มขึ้น 47.88 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,568.58 จุด ลดลง 7.56 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,420.82 จุด เพิ่มขึ้น 4.77 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,220.77 จุด ลดลง 5.18 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,777.03 จุด เพิ่มขึ้น 0.37 จุด
ขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างจับตาผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดไม่น่าจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่มีแนวโน้มที่เฟดจะปรับลดงบดุลจากวงเงิน 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด โดยคาดว่านางเยลเลนจะแสดงความเห็นเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 58.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 21.97 จุด ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก, ปอนด์อ่อนค่า
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) ด้วยอานิสงส์จากการที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่า และแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ปรับตัวขึ้นขานรับรายงานยอดขายที่สดใสของห้างซูเปอร์มาร์เก็ตในอังกฤษ
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 21.97 จุด หรือ +0.30% ปิดที่ 7,275.25 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ได้รับปัจจัยหนุนจากการที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนก่อนหน้านี้ หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ส่งสัญญาณเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
นักลงทุนในตลาดจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดอาจจะประกาศแผนปรับลดงบดุลบัญชี ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มธนาคารที่มีการดำเนินงานในสหรัฐปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเอชเอสบีซี เพิ่มขึ้น 1.2% หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 1.1% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ เพิ่มขึ้น 1% และหุ้นบาร์เคลย์ส ขยับขึ้น 0.5%
หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้น หลังแคนตาร์ เวิลด์แพเนล รายงานว่า ยอดขายของซูเปอร์มาร์เก็ตในอังกฤษ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งถือเป็นการขยายตัวเกิน 3% เป็นเวลา 6 เดือนติดต่อกัน โดยหุ้นเจ เซนส์บิวรี พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นดับเบิลยูเอ็ม มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ต พุ่งขึ้น 2% และหุ้นเทสโก้ เพิ่มขึ้น 1%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นแบงก์หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ขณะนักลงทุนจับตาประชุมเฟด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.04% ปิดที่ 382.12 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,561.79 จุด เพิ่มขึ้น 2.40 จุด หรือ +0.02% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,237.44 จุด เพิ่มขึ้น 8.12 จุด หรือ +0.16% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,275.25 จุด เพิ่มขึ้น 21.97 จุด หรือ +0.30%
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น โดยหู้นธนาคารเอชเอสบีซี พุ่งขึ้น 1.19% หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ปรับตัวขึ้น 1.1% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ เพิ่มขึ้น 1% และหุ้นบาร์เคลย์ส ขยับขึ้น 0.5%
หุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเทสโก้ พุ่งขึ้น 1% หุ้นดับเบิลยูเอ็ม มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ตส์ พุ่งขึ้น 2% ส่วนหุ้นเจ เซนส์บิวรี ปรับตัวขึ้น 2.6% แม้มีรายงานว่าส่วนแบ่งตลาดของบริษัทปรับตัวลดลงในช่วง 12 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนหลังจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีพุ่งแตะระดับ 17.0 จุดในเดือนก.ย. จากระดับ 10.0 จุดในเดือนส.ค.
นักลงทุนจับตาการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่นักลงทุนเชื่อว่า เฟดอาจจะประกาศแผนปรับลดงบดุลบัญชี ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ นักลงทุนในตลาดยังรอดูว่า เฟดจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้หรือไม่ โดย CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 58.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 39.45 จุด นักลงทุนจับตาผลประชุมเฟด
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ปิดทำนิวไฮด้วยเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนเดินหน้าซื้อหุ้นกลุ่มการเงินอย่างคึกคัก พร้อมกับจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยนักลงทุนคาดว่าคณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการปรับลดงบดุล
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,370.80 จุด เพิ่มขึ้น 39.45 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,506.65 จุด เพิ่มขึ้น 2.78 จุด หรือ +0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,461.32 จุด เพิ่มขึ้น 6.68 จุด หรือ +0.10%
ดัชนี หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้น 0.8% เนื่องจากนักลงทุนยังคงส่งแรงซื้อเข้าหนุนอย่างคึกคัก ก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่อาจจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการปรับลดงบดุลจากวงเงิน 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์จากพีแอลซี ไฟแนนเชียลกล่าวว่า หากเฟดปรับลดงบดุล ก็จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐปรับตัวขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนผลกำไรของภาคธนาคาร ส่วนเมื่อคืนนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.241%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด โดยคาดว่านางเยลเลนจะแสดงความเห็นเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 58.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้
หุ้นกลุ่มสื่อสารพุ่งขึ้นและเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก โดยดัชนีหุ้นกลุ่มสื่อสารพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 2.78% ส่วนหุ้นเวอไรซอน และหุ้นเอทีแอนด์ที ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 2% ขณะที่หุ้นที-โมบาย พุ่งขึ้น 5.9% และหุ้นสปรินท์ ทะยานขึ้น 6.8%
หุ้นไมเคิล คอร์ส โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 3.4% หลังจากนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์อ็อพเพนไฮเมอร์ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นไมเคิล คอร์ส ขึ้นสู่ระดับ "outperform" จากระดับ "perform"
หุ้นเบสท์ บาย ร่วงลง 8% หลังจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ
สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ได้แก่ ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 2 พุ่งขึ้น 8.5% แตะระดับ 1.231 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 จากระดับ 1.135 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 โดยการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 2 ถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่การขาดดุล 1.50 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ของปี 2008
ขณะที่ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 0.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.18 ล้านยูนิต ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 1.19 ล้านยูนิตในเดือนก.ค
นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนก.ย. โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต
อินโฟเควสท์