WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

33ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ตามตลาดตปท.,จับตาประชุมเฟดกลางเดือนนี้

      นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้ตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดสหรัฐฯ ตลาดในยุโรป รวมถึงตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกกัน เนื่องจากคลายความกังวลที่เกาหลีเหนือไม่ยิงขีปนาวุธในวันชาติ และพายุเฮอร์ริเคนเออร์มาได้ลดความแรงลงมาเหลือระดับ 1 แล้ว ซึ่งความเสียหายจะไม่มากเท่าไร

      อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 19-20 ก.ย.ที่จะถึงนี้ โดยให้เล็งไปที่ประเด็นการปรับลดขนาดงบดุล ส่วนเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยคงจะยังไม่ขึ้น แต่น่าจะไปปรับขึ้นในเดือน ธ.ค. และก็ยังต้องติดตามสถานการณ์ในเกาหลีเหนือต่อไปด้วย

      ส่วนบ้านเราจะเห็นได้ว่านักลงทุนต่างชาติเริ่มขายสุทธิออกมา ซึ่งทำให้อาจไปกดดันตลาดบ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,634 จุด ส่วนแนวต้าน 1,643 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

       - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 ก.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,057.37 จุด พุ่งขึ้น 259.58 จุด (+1.19%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,432.26 จุด เพิ่มขึ้น 72.07 จุด (+1.13%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,488.11 จุด เพิ่มขึ้น 26.68 จุด (+1.08%)

       - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้  ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 190.37 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.07 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 113.57 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 38.17 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 12.94 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.17 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.45 จุด

       - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 ก.ย.60) 1,637.54 จุด เพิ่มขึ้น 1.93 จุด (+0.12%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 358.30 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ก.ย.60

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 ก.ย.60) ปิดที่ 48.07 ดอลลาร์/บาร์เรล  เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 1.2%

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 ก.ย.60) ที่ 9.73 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 33.11 แนวโน้มอ่อนค่าหลังดอลล์แข็ง จับตาเงินทุนไหลเข้า-ติดตามประชุมเฟดช่วงกลางเดือนนี้

                - คลัง จี้ 'แบงก์ชาติ'"ลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ สกัดบาทแข็ง ลั่นเงินเฟ้อไร้ปัญหาเหตุยังต่ำกว่าเป้าหมาย ห่วงดอกเบี้ยบอนด์ระยะสั้นต่ำกว่า"อาร์พี"เปิดช่องแบงก์โกยกำไรส่วนต่าง พร้อมกำชับดูแลค่าเงินหลังแข็งนำภูมิภาค ธปท.ระบุชัด ลดดอกเบี้ยช่วยฟื้นเศรษฐกิจได้แค่ช่วงสั้น เผยที่ผ่านมาเข้าแทรกแซงค่าเงินเป็นระยะหวังป้องปัญหาบาทแข็งเร็ว

                - สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเรื่องให้สามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพมาหักลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลธรรมดา โดยจะให้หักลดหย่อนรวมกับเบี้ยประกันชีวิตต้องมีวงเงินไม่เกิน 1 แสนบาท/ปี โดยจะให้ลดหย่อนภาษีเบี้ยประกันสุขภาพได้ 1.5 หมื่นบาท และยืนยันว่าจะไม่มีการขยายวงเงินเพิ่มเติมอีก คาดว่าจะสามารถเริ่มใช้ลดหย่อนภาษีได้ทันในปีภาษีนี้                - 'ประยุทธ์' เปิดทำเนียบรับ นักลงทุนญี่ปุ่นเกือบ 600 รายให้คำมั่นเดินหน้า อีอีซีต่อเนื่อง ชี้บรรจุในแผนยุทธศาสตร์ชาติ มีกฎหมาย คณะกรรมการรองรับ เผยจัดงบลงทุนฯ โครงสร้างพื้นฐาน 6 แสนล้านใน 5 ปีชวนทุนญี่ปุ่นร่วมพัฒนาฐานผลิตเชื่อมซีแอลเอ็มวี "สมคิด" เตรียมขยายความร่วมมือสู่เมืองท้องถิ่นโยงพัฒนา รายอุตสาหกรรม ขณะรมว.เมติ แจงพร้อมหนุนพัฒนาอุตฯไฮเทคในไทย

                - การบินไทยประกาศขึ้นค่าตั๋วโดยสารต่างประเทศ เริ่ม 19 ก.ย. เส้นทางยุโรปแพงสุดพุ่งพรวดไป-กลับเพิ่ม 66 เหรียญสหรัฐ ชี้ปีหน้าแข่งดุ โลว์คอสต์แอร์ไลน์รับมอบเครื่องบินใหม่ 1 พันลำ ตะวันออกกลางแห่เปิดบินมาไทย

*หุ้นเด่นวันนี้

                - PLANB (ธนชาต) 'ซื้อ'เป้า 7.3 บาท คาดว่ากำไรจะพลิกฟื้นจาก 1H60 แม้ยังไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้ แต่ความต้องการเริ่มเพิ่มขึ้น ทำให้อัตราการใช้พื้นที่โฆษณาเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ากำไรจะเติบโต 33% y-y ใน 2H60F และ 40% ในปี 2561 เชื่อว่า PLANB เป็น laggard play เทียบกับ WORK ที่ราคาปรับขึ้น 89% ใน YTD และกลุ่มฯ ที่ 13%

                - GGC (ยูโอบี เคย์เฮียน) ผู้ผลิตไบโอดีเซลและ Fatty Alcohol รายใหญ่ในไทย คาดผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังฟื้นตัวจากการไม่มี stock loss มากเช่นไตรมาส 2/60 และเข้าสู่ High season ของธุรกิจช่วงปลายปี

                - GFPT (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) 'ซื้อเก็งกำไร' เป้า 22 บาท จากการปรับประมาณการกำไรสะท้อนอัตรากำไรเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการเติบโตของการส่งออกไก่โดดเด่น ราคาไก่ในประเทศเพิ่มขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ยังต่ำ ประกอบกับมีการขยายกำลังการผลิตไก่ของ GFPT และ GFN อีกทั้งเพิ่มกำลังการผลิตไก่ปรุงสุกของ McKey            

                - HARN (เออีซี) 'ซื้อ'เป้า 4.14 บาท ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ HARN โดยช่วง 2H60 คาดกำไรโต 114.4%YoY หนุนด้วยการรวมผลประกอบการจาก CM (ธุรกิจระบบทำความเย็น) และ QIIS (ธุรกิจระบบพิมพ์ดิจิทัล) นอกจากนี้ยังมีแผนเพิ่มสินค้านวัตกรรมและแผนเจาะตลาดCLM หนุนให้ปี 60 กำไรโตเด่น 171.6%YoY และคาดให้ Div.Yield ปีนี้ 4%

       - COMAN (ฟินันเซีย ไซรัส) 'ซื้อ'เป้า 8.10 บาท ในฐานหุ้น Turnaround ที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง ประชุม Opp. Day วานนี้ได้ข้อมูลเชิงบวกมากขึ้น โดยสิ่งที่กังวลมากที่สุดคือ ผลประกอบการของ MSL ไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งปัจจุบันได้มีการลดขนาดธุรกิจลง นั่นหมายถึงผลประกอบการ 2H60 ที่เป็น High Season ของธุรกิจซอฟแวร์ในโรงแรมอยู่แล้ว จะได้ประโยชน์เพิ่มเติมจากการรวมซินเนเจอร์อย่างเต็มที่ด้วย

ตลาดหุ้นเอเชียดีดขึ้นเช้านี้ ขานรับวอลล์สตรีทพุ่งแรง,นักลงทุนคลายกังวลพายุเออร์มา

     ตลาดหุ้นเอเชียปรัวตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืน ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากพายุเฮอร์ริเคน "เออร์มา" อ่อนกำลังลง และไม่ได้สร้างความเสียหายมากเท่ากับที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้

       ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,736.14 จุด เพิ่มขึ้น 190.37 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,381.49 จุด เพิ่มขึ้น 5.07 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 28,068.70 จุด เพิ่มขึ้น 113.57 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,610.33 จุด เพิ่มขึ้น 38.17 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,372.02 จุด เพิ่มขึ้น 12.94 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,240.68 จุด เพิ่มขึ้น 12.17 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,782.29 จุด ลดลง 0.45 จุด

      ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ (NHC) รายงานว่า พายุเฮอร์ริเคนเออร์มาได้อ่อนกำลังลง โดยมีความรุนแรงอยู่ที่ระดับ 1 ขณะที่เคลื่อนตัวในรัฐฟลอริดา และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงจนกลายเป็นพายุดีเปรสชั่นในช่วงบ่ายวันนี้

      นอกจากนี้ ตลาดยังคลายความวิตกกังวลหลังจากที่เกาหลีเหนือไม่ได้ทดสอบยิงขีปนาวุธหรือนิวเคลียร์ ซึ่งผิดไปจากที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธในวันเสาร์ที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติ เหมือนกับที่เคยยิงทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ฉลองวันชาติเมื่อปีที่แล้ว

       นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมเดือนส.ค. โดย NFIB, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 35.99 จุด ตลาดคลายวิตกพายุเออร์มา,คาบสมุทรเกาหลี

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) ด้วยแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มประกันภัย สืบเนื่องจากตลาดคลายความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนเออร์มาในรัฐฟลอริดา ซึ่งคาดว่าจะสร้างความเสียหายน้อยกว่าที่ตลาดประมาณการไว้ในเบื้องต้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังเกาหลีเหนือไม่ได้ทดสอบยิงขีปนาวุธในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตามที่หลายๆฝ่ายหวั่นเกรง

      ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 35.99 จุด หรือ +0.49% แตะที่ 7,413.59 จุด

       ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ดัชนี FTSE 100 ดีดตัวขึ้น หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ซึ่งเดิมคาดว่าจะทวีกำลังรุนแรงเป็นพายุระดับ 5 ขณะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม พายุเออร์มาได้พัดขึ้นฝั่งด้วยความรุนแรงระดับ 4 ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 1 ในเวลาต่อมา ขณะที่ล่าสุดพายุลูกนี้กำลังเคลื่อนตัวไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้และพื้นที่แถบชายฝั่งตะวันตกของฟลอริดา

        หุ้นกลุ่มประกันภัยปรับตัวขึ้นตามทิศทางของหุ้นกลุ่มเดียวกันในยุโรป โดยหุ้นพรูเด็นเชียล เพิ่มขึ้น 1.6%

        หุ้นจดทะเบียนรายใหญ่ที่น่าจับตา หุ้นแอสตราเซเนกา พุ่งขึ้น 2.1% หลังบริษัทเภสัชภัณฑ์รายใหญ่ดังกล่าวเปิดเผยว่า การทดลองรักษาโรคมะเร็งปอดได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับหุ้นกลุ่มประกันพุ่งหลังพายุเออร์มาอ่อนกำลัง

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มประกัน หลังจากมีรายงานว่า พายุเฮอร์ริเคน "เออร์มา" ได้อ่อนกำลังลงขณะเคลื่อนตัวเข้าสู่รัฐฟลอริดาของสหรัฐ และไม่ได้สร้างความเสียหายมากเท่ากับที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังคลายความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่เกาหลีเหนือไม่ได้ยิงขีปนาวุธหรือทดสอบนิวเคลียร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

       ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1% ปิดที่ 379.43 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.

      ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,475.24 จุด พุ่งขึ้น 171.26 จุด หรือ +1.39% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,176.71 จุด เพิ่มขึ้น 63.22 จุด หรือ +1.24% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,413.59 จุด เพิ่มขึ้น 35.99 จุด หรือ +0.49%

     หุ้นกลุ่มประกันดีดตัวขึ้น หลังจากศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ (NHC) รายงานว่า พายุเฮอร์ริเคนเออร์มาได้อ่อนตัวลง โดยมีความรุนแรงอยู่ที่ระดับ 1 ขณะที่เคลื่อนตัวในรัฐฟลอริดา และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงจนกลายเป็นพายุดีเปรสชั่นในช่วงบ่ายของวันนี้

       หุ้นมิวนิค รีอินชัวรันซ์ พุ่งขึ้น 4.1% หุ้นสวิส รี พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นฮันโนเวอร์ ริค พุ่งขึ้น 5.4% และหุ้นบีซลีย์ ปรับขึ้น 4.3%

       นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่เกาหลีเหนือไม่ได้ทดสอบยิงขีปนาวุธหรือนิวเคลียร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งผิดไปจากที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธในวันเสาร์ที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติ เหมือนกับที่เคยยิงทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ฉลองวันชาติเมื่อปีที่แล้ว

        นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ รวมทั้งคงวงเงินซื้อหุ้นกู้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่นล้านปอนด์ ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา

       สถาบันวิจัยเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติของอังกฤษ (NEIESR) คาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้า พร้อมกับคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอังกฤษมีแนวโน้มขยายตัว 0.4% ในช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 259.58 จุด ตลาดคลายกังวลพายุเออร์มา,เกาหลีเหนือ

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากพายุเฮอร์ริเคน "เออร์มา" อ่อนกำลังลง และไม่ได้สร้างความเสียหายมากเท่ากับที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังคลายความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่เกาหลีเหนือไม่ได้ยิงขีปนาวุธหรือทดสอบนิวเคลียร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,057.37 จุด พุ่งขึ้น 259.58 จุด หรือ +1.19% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,488.11 จุด เพิ่มขึ้น 26.68 จุด หรือ +1.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,432.26 จุด เพิ่มขึ้น 72.07 จุด หรือ +1.13%

       ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักเมื่อคืนนี้ หลังจากศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ (NHC) รายงานว่า พายุเฮอร์ริเคนเออร์มาได้อ่อนตัวลง โดยมีความรุนแรงอยู่ที่ระดับ 1 ขณะที่เคลื่อนตัวในรัฐฟลอริดา

       ทั้งนี้ NHC คาดว่า พายุเออร์มาจะอ่อนแรงลงกลายเป็นพายุโซนร้อน และจะอ่อนกำลังลงจนกลายเป็นพายุดีเปรสชั่นในช่วงบ่ายของวันนี้

       นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่เกาหลีเหนือไม่ได้ทดสอบยิงขีปนาวุธหรือนิวเคลียร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งผิดไปจากที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธในวันเสาร์ที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติ เหมือนกับที่เคยยิงทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ฉลองวันชาติเมื่อปีที่แล้ว

       หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นำโดยหุ้นบริษัทประกัน โดยหุ้นยูนิเวอร์แซล อินชัวรันซ์ โฮลดิ้งส์ และหุ้นเอชซี ไอ กรุ๊ป ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 12% ขณะที่หุ้นเฮอริเทจ อินชัวรันซ์ ทะยานขึ้น 21% และหุ้นนอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป ปรับตัวขึ้น 1.7%

       หุ้นมาสเตอร์การ์ด พุ่งขึ้น 3.5% ขณะที่หุ้นวีซ่า ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง ปรับตัวขึ้น 1.7%

      หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.81% ก่อนที่บริษัทแอปเปิล อิงค์ จะเปิดตัว "ไอโฟน เอ็กซ์" ในวันนี้ เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 10 ปีของการผลิตไอโฟน ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่า แอปเปิลจะเปิดตัวไอโฟน 8 และไอโฟน 8 พลัส โดยจะไม่มีการออกรุ่นไอโฟน 7 เอส และไอโฟน 7 เอสพลัส

     หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 5.9% หลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาระงับการผลิตและขายรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงแบบดั้งเดิม

     นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมเดือนส.ค. โดย NFIB, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และ

       ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!