WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

25ภาวะตลาดหุ้นไทยv : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามภูมิภาค คลายกังวลสถานการณ์เกาหลีเหนือ,Fund Flow ไหลเข้าหนุน

      นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก หลังคลายความกังวลสถานการณ์ในเกาหลีเหนือ หลังจากที่เกาหลีเหนือไม่ได้ยิงขีปนาวุธในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างที่ตลาดมีความกังวล ก็น่าจะทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากที่ได้ขายออกไปก่อนหน้านี้ อีกทั้ง Fund Flow ยังคงไหลเข้าอยู่

      อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นไปของดัชนีฯคงจะยังไม่สามารถผ่านระดับ 1,650 จุด เพราะในทางเทคนิคได้เข้าเขต Overbought อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติยังทำ short ในตลาดอนุพันธ์ด้วย ทำให้ต้องระมัดระวังการลงทุน

พร้อมให้แนวรับ 1,628 จุด ส่วนแนวต้าน 1,650 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 ก.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,797.79 จุด เพิ่มขึ้น 13.01 จุด (+0.06%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,360.19 จุด ลดลง 37.68 จุด (-0.59%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,461.43 จุด ลดลง 3.67 จุด (-0.15%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 166.57 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 209.22 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 20.21 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 11.14 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 10.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.37 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 14.18 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ก.ย.60) 1,635.61 จุด เพิ่มขึ้น 2.95 จุด (+0.18%)

                - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,586.91 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ก.ย.60

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 ก.ย.60) ปิดที่ 47.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.61 ดอลลาร์ หรือ 3.28%

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 ก.ย.60) ที่ 9.82 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 33.14 แนวโน้มกลับมาแข็งค่า ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้

                - รัฐมนตรีเมตินำทัพธุรกิจญี่ปุ่นร่วม 600 บริษัทพบ "ประยุทธ์" วันนี้ ไขข้อข้องใจสอบถาม 3 ประเด็นใหญ่ เกี่ยวกับการลงทุนของญี่ปุ่นในพื้นที่อีอีซี ท่ามกลางการรุกหนักของจีนในไทย หวังใช้เป็นฐานข้อมูลตัดสินใจ ขณะที่ไทยยันให้ความร่วมมือทุกประเทศพร้อมเปิดกว้างรับการลงทุน ด้าน "อุตตม" เผย 5-6 บริษัทยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นปักหลักใช้ไทยฐานผลิตอุตสาหกรรรมแห่งอนาคต มั่นใจปีหน้า เห็นเม็ดเงินลงทุนอีอีซีขั้นต่ำแสนล้านบาท

                - คลังเตรียมเสนอครม.พรุ่งนี้ อนุมัติโครงสร้างภาษี "สุรา-ยาสูบ" ใหม่ แบ่งอัตราจัดเก็บ ตามราคาสินค้า "ถูก-แพง" หวังสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพผู้บริโภค-รายได้ภาครัฐ มั่นใจไม่ขัดกฎหมาย ดับบลิวทีโอด้านผู้นำเข้าบุหรี่นอกจับตาภาษีใหม่ หนุนรัฐให้น้ำหนักคำนวณภาษีฝั่งปริมาณ เหตุบุหรี่ราคาถูก-แพงเสียเท่ากัน  เผยขึ้นภาษีบุหรี่รอบที่ผ่านมา ดันราคาบุหรี่นอกพุ่ง

                - ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ตลาดอสังหาฯ มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นพิจารณาจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ได้แก่ การส่งออกปรับตัวดีขึ้น การลงทุนภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้น จะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นและกล้าตัดสินใจซื้อบ้าน เมื่อภาวะเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นแนวโน้มเอ็นพีแอลปรับลดลง ก็เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์จะลดความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อลงและปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ตลาดปรับตัวดีขึ้น คาดการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปีจะไม่ต่ำกว่า 1.08 แสนหน่วย เพิ่มขึ้น 2.9% จากปี 2559

                - ความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน ระยะทาง 16.4 กิโลเมตร วงเงิน 1.21 แสนล้านบาทนั้น จะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในสัญญาก่อสร้างงานโยธา วงเงิน 9 หมื่นล้านบาท และสัญญางานเดินรถที่จะเป็นเอกชนรายเดียวทั้งสองเส้น คือ สายสีส้มตะวันตกและสีส้มตะวันออก

                - รัฐบาลตั้งเป้าส่งเสริมการท่องเที่ยวปี 2561 สร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2560 หรือมูลค่า 3.03 ล้านล้านบาท เน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่มุ่งให้ นักท่องเที่ยวใช้เวลาพำนักอยู่ในไทยนานขึ้นผ่านมาตรการต่างๆ พร้อมทั้งอาศัยแรงเสริมจากผลสำรวจของต่างประเทศที่จัดอันดับให้ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถใช้เวลาท่องเที่ยวระยะยาวแต่คุ้มค่ามากที่สุด

                - ส.อ.ท.มองอีอีซีหนุนไทยศูนย์กลางการลงทุน และฐานอุตสาหกรรม แต่พบปัญหา พ.ร.บ.อีอีซีล่าช้า ปริมาณน้ำมีใช้แค่ 10 ปี แนะรัฐต้องเร่งจัดหาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน

                - รฟท.ยอมรับภาระหนี้ 3.2 หมื่นล้านบาท ขอบริหารเดินรถสายสีแดง บางซื่อ-รังสิตเอง ชงแผนเข้าคนร. 25 ก.ย.นี้ ด้านเอกชนหนุนสร้างรถไฟรางเบาขอนแก่น ควัก 3 หมื่นล้านบาทลงทุนเอง

*หุ้นเด่นวันนี้

                - PTT (ธนชาต) "ซื้อ"เพิ่มเป้าเป็น 450 บาท หลังปรับเพิ่มประมาณการที่สะท้อนถึง 1) มุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อธุรกิจปลายน้ำ 2) กำไรของธุรกิจก๊าซมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แม้จะสมมติให้ปริมาณขายเติบโตอย่างจำกัด 3) การปลดล็อคมูลค่าจากการนำบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (PTTOR) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดจะเข้าในช่วง 2H61F หรือ 1H62F

                - MTLS (ไอร่า) เป้า 39 บาท คาดกำไรสุทธิปี 60 เพิ่มขึ้น 61% อยู่ที่ 2,354 ล้านบาท หรือ 1.11 บาท/หุ้น ภายใต้ผลประกอบการ 2H/60 ดีกว่า 1H/60 หลังได้รับปัจจัยหนุนจาก New Loans คาดอยู่ที่ 55,000 ล้านบาท (1H/60 ทำได้แล้ว 26,000 ล้านบาท) และได้ประโยชน์จากการประหยัดขนาดของสาขาที่เปิดเมื่อปี 59 จำนวน 724 สาขา ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดนับแต่ก่อตั้งบริษัท และเริ่มรับรู้รายได้เต็มปี ขณะที่คาด OPEX ปรับเพิ่มขึ้นไม่มาก โดยคาด Cost to Income ที่ 41%

                - COMAN (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 8.10 บาท ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนผลประกอบการที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และการขยายตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่โดดเด่น รวมถึงการรับรู้กำไรที่สดใสของซินเนเจอร์ใน 2H60 โดยซื้อขายบน PE2561 ซึ่งเป็นช่วงกำไรกลับเข้าสู่ระดับปกติเพียง 20 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มท่องเที่ยวที่ 30 เท่า ขณะที่เงินสดในมือสูง 2 บาท/หุ้นและไม่มีหนี้ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ นักลงทุนคลายวิตกเกาหลีเหนือ

            ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวล หลังจากเกาหลีเหนือไม่ได้ทดลองยิงขีปนาวุธในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตามที่หลายๆฝ่ายหวั่นเกรง

                ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,441.39 จุด เพิ่มขึ้น 166.57 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,365.35 จุด เพิ่มขึ้น 0.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,877.69 จุด เพิ่มขึ้น 209.22 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,630.16 จุด เพิ่มขึ้น 20.21 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,354.86 จุด เพิ่มขึ้น 11.14 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,239.29 จุด เพิ่มขึ้น 10.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,780.27 จุด เพิ่มขึ้น 0.37 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 8,036.93 จุด เพิ่มขึ้น 14.18 จุด

      ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด หลังรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนในเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้น 8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สู่ระดับ 8.533 แสนล้านเยน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

      ด้านดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดขยับขึ้นในวันนี้ หลังจากทางการจีนเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

      สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวันเสาร์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 1.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการขยายตัว 1.4% ในเดือนก.ค.

      ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ปรับตัวขึ้น 6.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี  ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการขยายตัว 5.5% ในเดือนก.ค.

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นเหมืองร่วง ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 19.38 จุด

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง หลังจากทางการจีนเปิดเผยข้อมูลการค้าที่น่าผิดหวังในเดือนส.ค.

     ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,377.60 จุด ลดลง 19.38 จุด หรือ -0.26% และตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลงทั้งสิ้น 0.8%

     หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง นำโดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 3.8% และหุ้นอันโตฟากัสตา ดิ่งลง 3.7% หลังจากสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 6.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงหลังจากที่พุ่งขึ้น 11.2% ในเดือนก.ค. ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 14.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 14.7% ในเดือนก.ค.

      ทั้งนี้ การชะลอตัวของยอดส่งออก ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าเดือนส.ค.ของจีนร่วงลง 14% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 286.5 ล้านล้านหยวน (4.4 หมื่นล้านดอลลาร์)

       ส่วนหุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 1.8% หุ้นคิงฟิสเชอร์ ดิ่งลง 3.6% และหุ้นเน็กซ์ ร่วงลง 0.6%

       นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา รวมทั้งความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนืออาจจะยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปในวันเสาร์ที่ 9 ก.ย. ซึ่งเป็นวันชาติเกาหลีเหนือ

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปบวกในกรอบจำกัด เหตุยูโรแข็งค่า, ตลาดจับตาเกาหลีเหนือ

       ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) แต่เป็นการปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินยูโรที่แข็งค่า และความวิตกกังวลว่าเกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติในวันนี้

      ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.15% ปิดที่ 375.51 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,113.49 จุด ลดลง 1.13 จุด หรือ -0.02% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,303.98 จุด เพิ่มขึ้น 7.35 จุด หรือ +0.06% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,377.60 จุด ลดลง 19.38 จุด หรือ -0.26%

       ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างผันผวน อันเนื่องจากนักลงทุนจับตาสถานการณ์เกาหลีเหนือ ท่ามกลางกระแสความกังวลว่า เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติในวันนี้ หลังจากที่ทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ไปเมื่อวันอาทิตย์

       นายลี นัค ยอน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ กล่าวเตือนว่า เกาหลีเหนืออาจทำการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันชาติของเกาหลีเหนือ

      "มีการคาดการณ์กันว่าเกาหลีเหนืออาจทำการยั่วยุต่อไปโดยการยิงขีปนาวุธ ICBM ในวันที่ 9 ก.ย." เขากล่าว

     ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือได้ทำการทดลองนิวเคลียร์ในการเฉลิมฉลองวันชาติในวันที่ 9 ก.ย.ปีที่แล้ว

      นอกจากนี้ตลาดจับตาสถานการณ์พายุเฮอร์ริเคนเออร์มาในสหรัฐ ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าพายุจะพัดถล่มรัฐฟลอริดาในวันนี้

       หุ้นเหมืองแร่ปรับตัวลง โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 3.8% และหุ้นอันโตฟากัสตาลดลง  3.7%

      หุ้นกรีนคิง ร่วงลง 16% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายลดลง

       หุ้นอั๊คโซ่โนเบล ซึ่งบริษัทสีสัญชาติเนเธอร์แลนด์ ลดลง 0.6% หลังจากเจ้าหน้าที่การเงินสูงสุดลาออกด้วยปัญหาด้านสุขภาพ

         ตลอดสัปดาห์นี้ Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.17%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 13.01 จุด หลังหุ้นประกันภัยฟื้นตัว

      ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (8 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นประกันภัย แต่ดัชนี S&P500 และ NASDAQ ปิดปรับตัวลง อันเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับพายุเฮอร์ริเคนเออร์มาที่กำลังจะเคลื่อนถล่มรัฐฟลอริดาและการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

       ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,797.79 จุด เพิ่มขึ้น 13.01 จุด หรือ +0.06% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,461.43 จุด ลดลง 3.67 จุด หรือ -0.15% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,360.19 จุด ลดลง 37.68 จุด หรือ -0.59%

     หุ้นประกันภัยปรับตัวสูงขึ้น นำโดยหุ้นทราเวลเลอร์ที่หนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเมื่อวันศุกร์ ภายหลังจากหุ้นกลุ่มนี้ร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากความกังวลต่อผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา หลังจากที่รัฐเท็กซัส และลุยเซียนาถูกกระหน่ำด้วยพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ก่อนหน้านี้

      ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ (NHC) แถลงว่า พายุเฮอร์ริเคนเออร์มาได้ลดระดับความรุนแรงลงสู่ระดับ 4 จากระดับ 5 ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี NHC เตือนว่าพายุดังกล่าวยังคงมีอันตรายอย่างมาก ขณะที่คาดว่าจะพัดถล่มชายฝั่งรัฐฟลอริดาในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

       อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงวิตกกังวลว่า เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติในวันเสาร์ที่ 9 ก.ย.

       นายลี นัค ยอน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ กล่าวเตือนว่า เกาหลีเหนืออาจทำการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ในวันเสาร์ที่ 9 ก.ย. ซึ่งเป็นวันชาติของเกาหลีเหนือ

       "มีการคาดการณ์กันว่าเกาหลีเหนืออาจทำการยั่วยุต่อไปโดยการยิงขีปนาวุธ ICBM ในวันที่ 9 ก.ย." เขากล่าว

       ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือได้ทำการทดลองนิวเคลียร์ในการเฉลิมฉลองวันชาติในวันที่ 9 ก.ย.ปีที่แล้ว

หุ้นประกันภัยปรับตัวขึ้น โดยหุ้นทราเวลเลอร์พุ่งขึ้นกว่า 3%

หุ้นธนาคารปรับตัวขึ้น โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 0.63%

หุ้นเทคโนโลยีปรับตัวลง โดยหุ้นแอปเปิลร่วง 1.63%

ขณะที่หุ้นอีควิแฟกซ์ ซึ่งเป็นบริษัทฐานข้อมูลด้านการเงินและสินเชื่อยักษ์ใหญ่ ร่วงลง 13.7% ซึ่งหนักที่สุดในบรรดาหุ้นในดัชนี S&P500 หลังบริษัทระบุว่า ข้อมูลลูกค้า 143 ล้านคนถูกแฮ็ค

                        อินโฟเควสท์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!