WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งแคบ รอการประชุมที่แจ๊คสัน โฮล-รอปัจจัยใหม่หนุน

    นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบ ทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดฯยังเฝ้ารอดูปัจจัยจากนอกประเทศในการประชุมของธนาคารกลางโลกที่เมืองแจ๊คสัน โฮล ซึ่งต้องมาดูว่าหลังการประชุมแล้วตลาดฯจะตีความไปทางไหน แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะส่งผลบวกต่อตลาดฯ

   ส่วนการตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้อยู่แล้ว จึงไม่ส่งผลต่อตลาดฯ อย่างไรก็ดีมองว่าตลาดฯมีโอกาสที่ผันผวนได้ และมีแรงซื้อเข้ามาบ้าง จากการเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัว เพื่อรอปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามาหนุนตลาดฯ ซึ่งเท่าที่ดูก็มีเรื่องการตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.), การยกเลิกใช้กฎอัยการศึก และการเปิดซองประมูลรถไฟฟ้าต่าง ๆ

   พร้อมให้แนวรับ 1,545-1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,555-1,558 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

   - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(21 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,039.49 จุด เพิ่มขึ้น 60.36 จุด(+0.36%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,992.37 จุด เพิ่มขึ้น 5.86 จุด(+0.29%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,532.10 จุด เพิ่มขึ้น 5.62 จุด(+0.12%)

   - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 31.85 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.49 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 119.63 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 19.69 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.03 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.14 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.41 จุด

   - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(21 ส.ค.)1,551.41 จุด เพิ่มขึ้น 0.64 จุด (+0.04%)

   - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 70.43 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ส.ค.57

   - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(21 ส.ค.)ที่ 93.96 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 51 เซนต์

   - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(21 ส.ค.)ที่ 4.79 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

   - เงินบาทเปิด 31.95/97 รอผลประชุมที่"แจ็คสัน โฮล"-ตัวเลขศก.ยุโรป

  - ประธานเครือสหพัฒน์ ประเมินเศรษฐกิจปีนี้ ฟื้นยาก จี้รัฐบาลใหม่เร่งเครื่องส่งออก เพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ กู้กำลังซื้อ หลัง 2-3 เดือนที่ผ่านมาการจับจ่ายไม่ดีดังคาด กำชับบริษัทในเครือประคองธุรกิจไม่ให้ "ขาดทุน" สิงห์โอดยอดขายครึ่งปีทรงตัว ขณะที่ภาพรวมตลาดเบียร์ครึ่งปีแรกโตต่ำสุดในรอบทศวรรษ "ไทยเบฟ"ยอดขายสินค้าเชิงปริมาณติดลบ

    - สมาคมตราสารหนี้ เผยช่วง 1-19 ส.ค. เงินต่างชาติไหลออก 3.35 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการขายทำกำไรในตราสารหนี้ระยะสั้น ประเมินเงินลงทุนระยะยาวยังไหลเข้าต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยการเมืองไม่กระทบโดยตรงชี้นักลงทุนมองพื้นฐานเศรษฐกิจประเทศสำคัญกว่า คาดแนวโน้มซัพพลายตราสารหนี้ในอนาคตดีขึ้นจากการขาดดุลงบประมาณ-การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มั่นใจไม่กระทบตลาด เหตุดีมานด์ปัจจุบันยังมีรองรับอีกมาก

    - แบงก์ชาติเผยธุรกิจเกี่ยวกับกิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ยอดหนี้เพิ่มขึ้นมากที่สุดในระบบ 3.39 พันล้านบาท รองมาเป็นอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ธุรกิจขายส่ง ขายปลีก ซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ ระบุหนี้เพิ่มเกิดจากลูกหนี้ใหม่ก่อตัวในธุรกิจอุปโภคบริโภคและกิจกรรมอสังหาริมทรัพย์มากที่สุด ขณะเดียวกันกิจกรรมอสังหาริมทรัพย์กลับมาเป็นรีเอ็นทรีใหม่

   - สำนักวิจัย ซีไอเอ็มบี ไทย ระบุหลังเลือกนายกรัฐมนตรี-ตั้งครม.ช่วยหนุนเชื่อมั่นเศรษฐกิจช่วงที่เหลือได้ แต่ไม่มากนัก เหตุมี 3 ปัจจัยเสี่ยงหลัก "หนี้ครัวเรือน-ส่งออก-ขาดแคลนแรงงาน" ถ่วง ฝากรัฐบาลใหม่สร้างความต่อเนื่องในโครงสร้างภาครัฐ

  - บอร์ด ทอท.สั่งชะลอสุวรรณภูมิเฟส 2 วงเงิน 6.2 หมื่นล้านบาท เปลี่ยนไปลงทุนก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านตะวันออก (Multi Terminal) 2.4 หมื่นล้านบาทแทน ใช้เงินน้อย ก่อสร้างเร็ว รับได้ 20 ล้านคนต่อปีเท่ากัน คุ้มค่ากว่า ไม่กระทบสภาพคล่อง พร้อมอนุมัติ "เมฆินทร์" ลาออกตามคาด "ประสงค์" เผยออกแบบสมัครใจไม่ต้องจ่ายชดเชย ยันไม่ได้กดดัน

   - ประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ นัดแรกวันที่ 22 ส.ค.จะหารือเรื่องการจัดสรรโควตาสลาก 43 ล้านฉบับที่เป็นของรายย่อย ส่วนกลาง ภูมิภาค มูลนิธิ สมาคม 96 แห่ง รวมทั้งโควตาสลากคนพิการอีก 2 ล้านฉบับ ซึ่งคณะกรรมการชุดก่อนมีมติเห็นชอบให้ต่ออายุโควตาอีก 1 ปีตามสัญญาโดยจะหมดอายุงวดเดือน มิ.ย. 2558

*หุ้นเด่นวันนี้

    - AOT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"บอร์ดทอท.สั่งเลื่อนโครงการก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 ไปเป็นปี 2024-2027 ที่ใช้เงินลงทุนสูง 6.2 หมื่นล้านบาท แต่เปลี่ยนเป็นลงทุนก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแทน มองว่าเป็นประโยชน์กับ AOT มากกว่า เพราะใช้เงินน้อยลงกว่าครึ่ง(ค่าเสื่อมราคาก็น้อยลง) คือใช้เงินลงทุน 2.4 หมื่นล้านบาท แต่แก้ปัญหาความหนาแน่นของผู้โดยสารได้เพราะรองรับผู้โดยสารได้ใกล้เคียงกันคือ 20 ล้านคน/ปี อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามปัญหาความแออัดของเครื่องบินและ runway ที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ จะสรุปแผนภายใน 2 เดือนก่อนขออนุมัติจากครม.ภายในสิ้นปีนี้ และคาดว่าจะเปิดประกวดราคาก่อสร้างได้ในปี 2015 มีแนวโน้มปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2015 ขึ้นจากเดิม 250 บาท เนื่องจากกระแสเงินสดที่คาดว่าจะสูงขึ้นกว่าเดิม

  - GUNKUL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 22 บาท การทำธุรกิจครบวงจรทำให้ GUNKUL จะได้ประโยชน์มากที่สุดสำหรับโอกาสที่จะได้รับงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ภาครัฐจะเปิดรับซื้อไฟฟ้าใหม่ รวมถึงโอกาสที่จะเข้าซื้อใบอนุญาติของโครงการโซลาร์ฟาร์มที่จะได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ค้างอยู่ 576MW ซึ่งไม่ได้รวมอยู่ในประมาณการของเรา จากโครงการที่มีอยู่ปัจจุบันทำให้เราคาดกำไรปกติปี 2014 โตก้าวกระโดด 142% Y-Y และขยายตัวอีก 12% Y-Y ในปี 2015 จากโรงไฟฟ้าพลังงานลม 120 MW และ Gas Engine 25MW โรงที่ 2 ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง

    - MINT(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 40 บาท น่าสนใจในประเด็น การกระจายความเสี่ยงธุรกิจที่ดี มีแผนขยายธุรกิจน่าสนใจและมีแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ล่าสุด MINT ได้ร่วมทุนกับ BreadTalk's ในการต่อยอดธุรกิจอาหารในประเทศ (ถือหุ้น 50% ใน BTM Thailand) และยังลงทุนในธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ในแอฟริกาที่มีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยวสูง ส่วนกำไร 2Q57 เติบโต 44% y-o-y แต่ลดลง 57% q-o-q เป็น 617 ล้านบาท ถือว่าสอดคล้องกับประมาณการ

    - SAMTEL(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 20.20 บาท คาดจะ Outperform ตลาดใน 2H57 จากโอกาสของการชนะงานประมูลขนาดใหญ่ เช่น Smart Classroom มูลค่า 2,900 ล้านบาท, โครงการ CUTE มูลค่า 2,500 ล้านบาท และงานเคเบิลใต้น้ำของ TOT ฯลฯ และ 2Q57 เป็นไตรมาสที่มีกำไรต่ำสุดของปี 2557 แล้ว และจะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 2H57 เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้ Backlog เป็นจำนวนมากในครึ่งปีหลัง อีกทั้งยังมี Valuation น่าสนใจ

ตลาดหุ้นเอเชียบวกขึ้นเช้านี้ รับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคการผลิตและยอดขายบ้านมือสอง

   ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 148.58 จุด เมื่อเวลา 9.23 น.ตามเวลาโตเกียว

  ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,618.05 จุด เพิ่มขึ้น 31.85 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,113.73 จุด เพิ่มขึ้น 119.63 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,273.07 จุด เพิ่มขึ้น 19.69 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,048.24 จุด เพิ่มขึ้น 4.03 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,332.23 จุด เพิ่มขึ้น 8.14 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,876.22 จุด เพิ่มขึ้น 1.41 จุด

   ตลาดหุ้นเอเชียได้รับปัจจัยหนุนหลังจากที่มาร์กิต อิโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค.ของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 58.0 จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 55.8 โดยดัชนี PMI เดือนส.ค.ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2553 อันเป็นผลมาจากการจ้างงานในภาคการผลิตขยายตัวอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งอย่างมาก

   ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 2.4% แตะที่ 5.15 ล้านยูนิต โดยยอดขายบ้านมือสองปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และมีอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 10 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

   ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 ส.ค. ปรับตัวลง 14,000 ราย สู่ระดับ 298,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงสู่ระดับ 302,000 ราย สะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงานสหรัฐ

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 22.18 จุด ขานรับยอดค้าปลีกสดใส

    ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) หลังจากยอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด

    ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 22.18 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 6,777.66 จุด

    ตลาดหุ้นลอนดอนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือนก.ค. ซึ่งไม่รวมเชื้อเพลิงรถยนต์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่ได้ปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนมิ.ย. และปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ที่ 0.4%

    หุ้นแอสทราเซเนกาพุ่ง 3% ส่วนหุ้นชโรเดอร์ดีดตัวขึ้น 2.7% หลังเอชเอสบีซีปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก จากคาดการณ์อีซีบีกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเดือนนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า การชะลอตัวของภาคการผลิตและภาคบริการในยูโรโซนอาจจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น

    ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.7% ปิดที่ 337.51 จุด

    ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,401.53 จุด เพิ่มขึ้น 86.96 จุด หรือ +0.93% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,292.93 จุด เพิ่มขึ้น 52.14 จุด หรือ +1.23% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,777.66 จุด เพิ่มขึ้น 22.18 จุด หรือ +0.33%

    ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อีซีบีอาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของทั้งภาคบริการและภาคการผลิตในยูโรโซน โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทย มาร์กิต อิโคโนมิคส์ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนส.ค.ปรับลงที่ 52.8 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จาก 53.8 ในเดือนก.ค.

    ทั้งนี้ เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 0.3-0.4% ในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็นระดับที่อาจจะไม่กระตุ้นให้เกิดการฟื้นตัวอย่างแท้จริงในตลาดแรงงาน โดยอัตราว่างงานอยู่ในระดับสูงเกินไป แม้แต่ในช่วงก่อนที่เศรษฐกิจของภูมิภาคจะได้รับผลกระทบจากความสถานการณ์การเมืองโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการสร้างงานในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ได้หยุดชะงักลงในเดือนส.ค.

    หุ้น Raiffeisen Bank International AG (RBI) พุ่งขึ้น 11% หลังจากทางธนาคารยืนยันว่าจะยังคงดำเนินธุรกิจในรัสเซีย และคาดว่ามาตรการคว่ำบาตรที่ชาติตะวันตกดำเนินการต่อรัสเซียนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของธนาคารมากนัก

    หุ้นแอร์ เบอร์ลิน ทะยานขึ้น 18% หลังจากสายการบินรายใหญ่แห่งนี้ได้เปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาส 2 อยู่ที่ 8.6 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่ขาดทุนสูงถึง 38 ล้านยูโร

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 60.36 จุด รับข้อมูลศก.สหรัฐแข็งแกร่ง

     ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีภาคการผลิตและยอดขายบ้านมือสอง

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,039.49 จุด เพิ่มขึ้น 60.36 จุด หรือ +0.36% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,532.10 จุด เพิ่มขึ้น 5.62 จุด หรือ +0.12% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,992.37 จุด เพิ่มขึ้น 5.86 จุด หรือ +0.29%

    ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย มาร์กิต อิโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค.ของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 58.0 จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 55.8 โดยดัชนี PMI เดือนส.ค.ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2553 อันเป็นผลมาจากการจ้างงานในภาคการผลิตขยายตัวอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งอย่างมาก

    ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 2.4% แตะที่ 5.15 ล้านยูนิต โดยยอดขายบ้านมือสองปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และมีอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 10 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

    ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 ส.ค. ปรับตัวลง 14,000 รายสู่ระดับ 298,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงสู่ระดับ 302,000 ราย สะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงานสหรัฐ

   นักลงทุนจับตาดูการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล มลรัฐไวโอมิง ซึ่งเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21-23 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "Re-Evaluating Labor Market Dynamics" ซึ่งบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลาง นักเศรษฐศาสตร์ รัฐมนตรีคลัง และเจ้าหน้าด้านอื่นๆจากทั่วโลก จะเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินในการประชุมดังกล่าว

   ทั้งนี้ นักลงทุนต่างก็จับตาดูนางเยลเลน ประธานเฟด ที่จะแสดงความคิดเห็นด้านตลาดแรงงานในวันที่ 22 ส.ค. ขณะที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารรกลางยุโรป (อีซีบี) ก็จะเข้าร่วมปาฐกถาในการประชุมครั้งนี้ด้วย

    หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปิดบวก 4.1% หลังจากมีรายงานว่าทางธนาคารยอมจ่ายเงิน 1.665 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีความกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS)

   หุ้นอีเบย์ พุ่งขึ้น 4.7% หลังจากมีรายงานว่าอีเบย์อาจจะแยกธุรกิจการชำระเงิน PayPal ในปีหน้า ขณะที่หุ้นฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด พุ่งขึ้น 5.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ไตรมาส

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ส.ค.2557

  ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,039.49 จุด                         เพิ่มขึ้น 60.36 จุด     +0.36%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,532.10 จุด                     เพิ่มขึ้น 5.62 จุด      +0.12%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,992.37 จุด                       เพิ่มขึ้น 5.86 จุด      +0.29%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,777.66 จุด                   เพิ่มขึ้น 22.18 จุด     +0.33%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,401.53 จุด                            เพิ่มขึ้น 86.96 จุด     +0.93%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,292.93 จุด                        เพิ่มขึ้น 52.14 จุด     +1.23%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,253.38 จุด                           ลดลง 34.67 จุด      -0.37%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,586.20 จุด                     เพิ่มขึ้น 131.75 จุด    +0.85%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,044.21 จุด                         ลดลง 28.57 จุด      -1.38%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,634.00 จุด       เพิ่มขึ้น 4.80 จุด      +0.09%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,638.90 จุด            เพิ่มขึ้น 4.30 จุด      +0.08%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,230.46 จุด                     ลดลง 9.75 จุด       -0.44%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,994.10 จุด                              ลดลง 165.66 จุด     -0.66%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,206.14 จุด     เพิ่มขึ้น 15.97 จุด     +0.31%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,874.81 จุด                      ลดลง 4.08 จุด       -0.22%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,324.09 จุด                       เพิ่มขึ้น 0.44 จุด      +0.01%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,360.11 จุด                        เพิ่มขึ้น 45.82 จุด     +0.17%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีภาคการผลิตและยอดขายบ้านมือสอง

 ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,039.49 จุด เพิ่มขึ้น 60.36 จุด หรือ +0.36% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,532.10 จุด เพิ่มขึ้น 5.62 จุด หรือ +0.12% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,992.37 จุด เพิ่มขึ้น 5.86 จุด หรือ +0.29%

  ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเดือนนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า การชะลอตัวของภาคการผลิตและภาคบริการในยูโรโซนอาจจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น

   ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.7% ปิดที่ 337.51 จุด

   ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,401.53 จุด เพิ่มขึ้น 86.96 จุด หรือ +0.93% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,292.93 จุด เพิ่มขึ้น 52.14 จุด หรือ +1.23% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,777.66 จุด เพิ่มขึ้น 22.18 จุด หรือ +0.33%

    ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) หลังจากยอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด

    ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 22.18 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 6,777.66 จุด

    สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ความแข็งแกร่งของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น อาจจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 19.8 ดอลลาร์ หรือ 1.53% ปิดที่ 1275.4  ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 8.2 เซนต์ ปิดที่ 19.415 ดอลลาร์/ออนซ์

          ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 9.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,419.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 11.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 879.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีภาคการผลิตและยอดขายบ้านมือสอง

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ ปิดที่ 93.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ ปิดที่ 102.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

               ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอดูการแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ที่การประชุมสุดยอดของผู้ว่าการธนาคารกลางทั่วโลก

          ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3281 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3262 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6585 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6599 ดอลลาร์

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 103.80 เยน เทียบกับระดับ 102.71 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9114 ฟรังค์ จากระดับ 0.9132 ฟรังค์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9302 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9289 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,096.00 จุด เพิ่มขึ้น 35.00 จุด, +3.30%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!