- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 04 September 2017 14:12
- Hits: 3945
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนลงตามตลาดภูมิภาคหวั่นเศรษฐกิจโลกรับผลกระทบสถานการณ์เกาหลีเหนือ
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะอ่อนตัวลงแต่ไม่มาก เนื่องจากปัจจัยจากต่างประเทศกรณีเกาหลีพัมนาขีปนาวุธที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นผลสำเร็จ และสามารถยิงได้ในระยะไกล ส่งผลให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะคว่ำบาตรประเทศคู่ค้าเกาหลีเหนือ ซึ่งจีนเป็นหนึ่งในเป้าหมาย เพราะทำการค้าติดต่อกับเกาหลีเหนือราว 90% หากมีการกีดกันการค้าจริงก็อาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบ
ส่วนบ้านเรายังไม่มีปัจจัยเด่น วันนี้ติดตามการประมูลรถไฟทางคู่ และหุ้น SCB ขึ้นเตรื่องหมาย XD เพื่อจ่ายปันผล ซึ่งอาจมีผลต่อดัชนีฯราว 0.5 จุด และพรุ่งนี้ก็จะมีหุ้นในกลุ่มแบงก์ตัวอื่นขึ้น XD อีก อาจมีผลต่อดัชนีฯราว 0.9 จุด
พร้อมให้แนวรับ 1,616-1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625-1,626 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 ก.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,987.56 เพิ่มขึ้น 39.46 จุด (0.18%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,435.33 จุด เพิ่ม 6.67 จุด (+0.10%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,476.55 จุด เพิ่มขึ้น 4.90 จุด (+0.20%)
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 75.51 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.60 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 71.45 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 9.38 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 40.80 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 2.87 จุด
ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องจากเป็นวันหยุดพิเศษ (Special Public Holiday)
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 ก.ย.60) 1,618.42 จุด เพิ่มขึ้น 2.26 จุด (+0.14%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 147.65 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 ก.ย.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 ก.ย.60) ปิดที่ 47.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 ก.ย.60) ที่ 11.01 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.19 นลท.จับตาผลประชุม ECB วันพฤหัสนี้ มองกรอบวันนี้ 33.15-33.25
- กลุ่มทุนจีนรุกหนักเคลื่อนทัพจับมือเอกชนไทยชิงเค้กงานประมูลโครงสร้างพื้นฐานกว่า 8 แสนล้าน ใช้กลยุทธ์ "หั่นราคา" สู้คู่แข่ง วงการรับเหมาหวั่นงานประมูลส่วนใหญ่ตกอยู่ในมือทุนจีน ยักษ์ใหญ่น้ำมันจีนดอดพบพลังงานสนใจร่วมประมูลปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณและบงกช ด้านบีโอไอคาดปีนี้ทุนจีนและฮ่องกงไต่ขึ้นอันดับ 2 ลงทุนไทย ขณะ 6 เดือนแรกยื่นขอลงทุนแล้วกว่าหมื่นล้าน
- ก.ล.ต.เร่งใช้มาตรการลงโทษแพ่ง หวังกดดันและลดจำนวนผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ เน้นทั้งเรียกเงินคืน และสั่งปรับเต็มวงเงินตั้งแต่ 50,000 บาทถึง 1 ล้านบาท พร้อมให้ความร่วมมือทุกหน่วยงานแกะรอยเอาผิดอย่างถึงที่สุด
- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC SCB) ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยทั้งปี 2017 ที่ 0.5%YOY จากเดิม 0.6%YOY เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศยังอ่อนแอ โดยเฉพาะรายได้ภาคเกษตรที่หดตัว 2.7%YOY ในเดือนกรกฎาคมตามราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดที่ลดลง ขณะที่การจ้างงานนอกภาคเกษตรก็ยังซบเซา โดยหดตัวลง 1.2%YOY ในช่วง 7 เดือนแรก ส่งผลให้การบริโภคในประเทศยังคงชะลอลงและราคาสินค้ายังไม่ปรับขึ้นมากนัก
- อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายชี้การจัดเก็บภาษีค่าความหวาน 16 กันยายน ไม่ส่งผลกระทบความต้องการใช้ในภาคอุตสาหกรรมเครื่องดื่มมากนัก แต่กังวลผู้บริโภคจะเข้าใจผิดว่าบริโภคน้ำตาลแล้วเป็นพิษกับร่างกาย แนะภาครัฐควรเร่งให้ความรู้การบริโภคน้ำตาลที่พอดีต่อร่างกายควบคู่การออกกำลังกายจะเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนกว่า
*หุ้นเด่นวันนี้
- กลุ่มรับเหมารอประมูลรับไฟทางคู่ โดยทั้ง 3 เส้นทางที่เหลือ คือ งานอุโมงค์มาบกะเบา-จิระ, ลพบุรี-ปากน้ำโพสัญญา 1-2, และประจวบคีรีขันธ์-ชุมพรสัญญา 1-2 จะเปิดให้ e-auction ในช่วง 4-7 ก.ย.17 ซึ่งหลังจาก ITD ได้งานรถไฟทางคู่ไปแล้ว 2 สัญญา และ STEC ได้ 1 สัญญาคือ นครปฐม-หัวหินสัญญา 2 ทำให้การแข่งขันหลังจากนี้มีแนวโน้มเบาลง ถือเป็นปัจจัยบวกกับกลุ่มรับเหมาโดยรวม โดยเฉพาะผู้รับเหมาหลักที่ยังได้งานไม่มากทั้ง CK STEC UNIQ รวมถึงงานฐานรากอย่าง SEAFCO (ฟินันเซัย ไซรัส)
- PLANB (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 7.5 บาท ราคาหุ้นยัง Laggard ขณะที่คาดการณ์กำไร 2H60 มีแนวโน้มขยายตัวแกร่ง และกำไรปี 2560-2561 เติบโตสูง 62-40%
- WICE (เมย์แบงก์ กิมเอ็ม) "ซื้อสะสม" เป้า 5.25 บาท แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังทำคาด All time High จากเข้า high season และ ประโยชน์จาก M&A ให้ sysnergy ทันทีที่ EBIT margin พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 60-61 เติบโต 46% และ 19% ตามลำดับ เป็นผลมาจากการส่งออก-นำเข้าของไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และ แผงโซลาร์เซล
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเช้านี้ เหตุวิตกเกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นและเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากเกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 เมื่อวานนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,615.96 จุด ลดลง 75.51 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,369.72 จุด เพิ่มขึ้น 2.60 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,881.71 จุด ลดลง 71.45 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,585.44 จุด ลดลง 9.38 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,316.89 จุด ลดลง 40.80 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,274.39 จุด ลดลง 2.87 จุด ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้ เนื่องจากเป็นวันหยุดพิเศษ (Special Public Holiday)
เกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ในช่วงเช้าวานนี้ โดยสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐได้ตรวจพบแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวขนาด 5.1 ในบริเวณใกล้กับสถานที่ทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
ทางด้านนายจิม แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ได้ออกมาเตือนเกาหลีเหนือว่า หากเกาหลีเหนือกระทำการใดๆที่เป็นการคุกคามสหรัฐและประเทศพันธมิตรของสหรัฐ ก็จะต้องเผชิญกับการตอบโต้ทางทหารครั้งใหญ่ ซึ่งจะเป็นการตอบโต้ที่รุนแรงและยากที่เกาหลีเหนือจะต้านทานได้
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ทวีตข้อความล่าสุดว่า รัฐบาลสหรัฐจะระงับการทำธุรกรรมทางการค้ากับทุกประเทศที่ดำเนินธุรกิจกับเกาหลีเหนือ
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 7.88 จุด รับ PMI ภาคการผลิตแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) ขานรับดัชนี PMI ภาคการผลิตสหราชอาณาจักรเดือนส.ค. ที่พุ่งสูงสุดในรอบ 4 เดือน
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 7.88 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 7,438.50 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นแอนโตฟากาสตา เพิ่มขึ้น 2.2% หุ้นเกลนคอร์ บวก 2.1% หุ้นแองโกล อเมริกัน บวก 1.3%
เมื่อวานนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 56.9 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน และสูงเป็นอันดับ 2 ในรอบกว่า 3 ปี จากระดับ 55.3 ในเดือนก.ค.
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับคาดการณ์เฟดชะลอขึ้นดบ., ECB ส่งสัญญาณลด QE อย่างค่อยเป็นค่อยไป
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ที่ต่ำกว่าคาด ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.6% ปิดที่ 376.14 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,142.64 จุด เพิ่มขึ้น 86.80 จุด หรือ 0.72% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,123.26 จุด เพิ่มขึ้น 37.67 จุด หรือ 0.74% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,438.50 จุด เพิ่มขึ้น 7.88 จุด หรือ 0.11%
หุ้นวอลโว่พุ่ง 7.3% หลังบริษัทเผยผลกำไรจากการดำเนินงานที่สูงกว่า 10%
หุ้นวิเวนดี บริษัทข้ามชาติจากฝรั่งเศส ทะยาน 5.2% หลังเผยผลประกอบการไตรมาส 2
หุ้นไมโคร โฟกัส บริษัทไอทีและซอฟต์แวร์จากอังกฤษ พุ่ง 7.5% หลังเสร็จสิ้นการเทคโอเวอร์ธุรกิจซอฟต์แวร์ของบริษัท ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ ด้วยมูลค่า 8.8 พันล้านดอลลาร์ และก้าวขึ้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร
นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ออกมาส่งสัญญาณว่าจะลดวงเงิน QE อย่างค่อยเป็นค่อยไป
นายอีวาลด์ โนวอตนี สมาชิกกรรมการบริหารของ ECB กล่าวว่า ECB จะทำการหารือเกี่ยวกับการถอนตัวจากโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างระมัดระวัง
"ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าเราจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรอย่างกะทันหันหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อให้มีการปรับนโยบายสู่ระดับปกติอย่างระมัดระวัง ซึ่งนี่จะเป็นการหารือที่มีความสมเหตุสมผล" นายโนวอตนีกล่าว
ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากที่หลายประเทศในยุโรปเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 57.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2554 จากระดับ 56.6 ในเดือนก.ค.
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนีดีดตัวขึ้นแตะระดับ 59.3 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นอันดับ 3 นับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2554 จากระดับ 58.1 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของฝรั่งเศส ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 55.8 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2554 จากระดับ 54.9 ในเดือนก.ค.
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอิตาลี ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 56.3 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง จากระดับ 55.1 ในเดือนก.ค.
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 39.46 จุด หลังนลท.ลดคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (1 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ที่ต่ำกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 39.46 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 21,987.56 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 4.90 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 2,476.55 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่ม 6.67 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 6,435.33 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.3%
นอกจากนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.8 ในเดือนส.ค. จากระดับ 53.3 ในเดือนก.ค.
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 96.8 ในเดือนส.ค. แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 97.4 และต่ำกว่าระดับ 97.6 ซึ่งเป็นตัวเลขเบื้องต้นที่มีการเปิดเผยเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน หลังจากอยู่ที่ระดับ 93.4 ในเดือนก.ค.
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างของสหรัฐลดลง 0.6% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 1.21 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2559 หลังจากร่วงลง 1.4% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค.
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปีนี้ และจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง จนกว่าจะถึงเดือนมิ.ย.ปีหน้า
ขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดงบดุลวงเงิน 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย. โดยจะลดการถือครองพันธบัตรจากพอร์ทของเฟด
อินโฟเควสท์