- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 25 August 2017 14:13
- Hits: 2315
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบรอผลคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าว-จะผันผวนไปตามคำตัดสิน
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งแคบรอผลคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวที่มี"ยิ่งลักษณ์"อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลยในวันนี้(25 ส.ค.) ก่อน และเมื่อคำพิพากษาฯออกมาแล้ว ตลาดฯก็จะผันผวนไปตามคำตัดสิน ซึ่งถ้าออกมาเป็นบวกดัชนีฯคงจะทะลุแนว 1,580 จุดขึ้นไปได้ แต่ถ้าผลออกมาเป็นลบดัชนีฯมีโอกาสไหลลงต่ำกว่าระดับ 1,570 จุด อย่างไรก็ดีขึ้นอยู่กับบทลงโทษด้วย แต่เชื่อว่าดัชนีฯไม่น่าจะหลุดแนว 1,560 จุด และมีโอกาสที่จะดีดกลับในระหว่างวันได้ อย่างไรก็ดี สามารถที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อไปได้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ในช่วงรอดูการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้
พร้อมให้แนวรับ 1,565-1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580-1,585 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,783.40 จุด ลดลง 28.69 จุด (-0.13%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,271.33 จุด ลดลง 7.08 จุด (-0.11%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,438.97 จุด ลดลง 5.07 จุด (-0.21%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 47.35 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 20.51 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 8.90 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.25 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.40 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ส.ค.60) 1,575.96 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด (+0.16%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,835.97 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ส.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 ส.ค.60) ปิดที่ 47.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 98 เซนต์ หรือ 2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ส.ค.60) ที่ 8.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.33 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค ตลาด Wait & See คดีจำนำข้าว
- 'ยิ่งลักษณ์-บุญทรง'พร้อมรับฟังคำพิพากษา 2 คดีข้าววันนี้ พร้อมสู้คดีถึงที่สุดหากถูกพิพากษาลงโทษ เล็งรวบรวมข้อมูลหาช่องทางอุทธรณ์ ระบุไม่มีอะไรน่ากังวล ขณะที่ "วิษณุ" แจงกรณีจำเลยคดีข้าวจีทูจีมาไม่ครบ สามารถอ่านคำพิพากษาเฉพาะคนที่มาได้หรือ เลื่อนอ่านคำพิพากษา แล้วแต่ดุลพินิจศาล "ยิ่งลักษณ์" โพสต์บอกมวลชนรอฟังข่าวที่บ้าน ชี้อาจไม่ได้เจอหน้าเพราะถูกกันพื้นที่
- ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) กล่าวว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยในปีนี้น่าจะเติบโตที่ระดับ 3.5% สูงขึ้นจากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 3.2% จากการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตได้ดี ซึ่งเติบโตได้ดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การปรับประมาณขึ้นครั้งนี้ได้รวมการขยายตัวในไตรมาส 2 ปีนี้ที่ 3.7% แล้ว
- กระทรวงคมนาคมจำเป็นต้องประกาศล้มประมูลโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน วงเงิน 3,387 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีเอกชนรายใดมายื่นข้อเสนอประกวดราคา ส่งผลให้ต้องประกาศยกเลิกโครงการเพื่อเปิดประมูลใหม่ตามเงื่อนไขจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาล แม้ว่าก่อนหน้านี้มีเอกชนซื้อซองไป 3 ราย ประกอบด้วย 1.บริษัท ไทย เทคโนโลยี แอนด์ เดเวลอปเมนท์ 2.บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป และ 3.กิจการร่วมค้า เจวีซีซี ช.ทวี
*หุ้นเด่นวันนี้
- BANUP (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 22 บาท แนวโน้มราคาถ่านหินดีขึ้น ปรับประมาณการกำไรขึ้น 51-95% ปี 2560-2561 ด้วยกำไรเติบโต 401% ปีนี้, PE 8x, PBV 1x, EV/EBITDA 6.7x และ Dividend yield 8.3% ด้านราคาหุ้นที่ underperform ราคาถ่านหินที่ปรับสูงขึ้นในช่วงตั้งแต่ พ.ค.
- KKP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 73 บาท เป็น 1 ใน 3 หุ้นกลุ่มแบงก์ที่ชอบมากสุด จุดเด่นอยู่ที่ปันผล ซึ่งประกาศจ่ายงวด 1H60 ที่ 2 บาท/หุ้น ขึ้น XD 5 ก.ย. 60 จ่ายจริง 22 ก.ย. 60 คิดเป็นผลตอบแทน 2.9% พร้อมคาดกำไร 3Q60 ฟื้นตัวราว 25% Q-Q เพราะค่าใช้จ่ายที่ฉุดกำไร 2Q60 จะไม่เกิดขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจะดีขึ้นจากงาน IB ส่วนกำไรทั้งปีคาดไว้ที่ 5,774 ลบ. +5% Y-Y ด้านราคาหุ้นที่วัดจาก Price Ratio เพิ่งเริ่มกลับมา Outperform กลุ่มแบงก์ในรอบ 1 เดือน จึงมีโมเมนตัมที่ดีต่อการปรับตัวขึ้นต่อ
- PPS (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 2.07 บาท รายงานกำไร 1H60 ที่ 33 ล้านบาทเติบโต 403%YoY และคิดเป็น 63% ของประมาณการกำไรที่ 51 ล้านบาท โดยรายได้เติบโตขึ้น 52%YoY เนื่องจากรับรู้งานโครงการในขนาดใหญ่ทั้งไอคอนสยาม สุวรรณภูมิเฟส 2 และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจาก 1Q60 ที่ 21% สู่ 27% เพราะการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น นอกจากนี้ไม่มีการตั้งสำรองหนี้สูญจำนวน 6 ล้านบาทเหมือนใน 2Q59 และมีการโอนกลับหนี้สงสัยจะสูญอีก 1.5 ล้านบาท พร้อมมีความเห็น คาดว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังมีโอกาสเติบโต หากได้งานเพิ่มจากการควบคุมการก่อสร้างรถไฟรางคู่ในเดือน ก.ย.นี้ การประมูลรถไฟความเร็วสูง และรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) มูลค่างานรวมราว 5 พันล้านบาท
ตลาดหุ้นเอเชียบวกเช้านี้ ขณะนักลงทุนจับตาประชุม แจ็กสัน โฮล
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยการนำของดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวที่เปิดในแดนบวก จากอานิสงส์การอ่อนค่าลงของสกุลเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงก็เปิดปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อเก็งกำไรของนักลงทุน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,401.12 จุด เพิ่มขึ้น 47.35 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,271.40 จุด ลดลง 0.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,539.11 จุด เพิ่มขึ้น 20.51 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,497.86 จุด เพิ่มขึ้น 8.90 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,381.47 จุด เพิ่มขึ้น 5.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,276.41 จุด เพิ่มขึ้น 4.25 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,772.10 จุด ลดลง 3.40 จุด
อย่างไรก็ดี นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายเพื่อจับตาดูการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในวันที่ 24-26 ส.ค.อย่างใกล้ชิด
การประชุมเศรษฐกิจประจำปีซึ่งจัดขึ้นโดยเฟด สาขาแคนซัส ซิตี้นั้น จะมีการหารือกันในประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งในสหรัฐและต่างประเทศ โดยมีผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก เดินทางมาเข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด, นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 24.41 จุด ก่อนเฟดเปิดฉากประชุมที่แจ็กสัน โฮล
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) ขณะนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นก่อนหน้าการประชุมสัมมนาเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งเปิดฉากวันแรกเมื่อวานนี้ โดยความเชื่อมั่นดังกล่าวได้สกัดปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ค่อนข้างน่าผิดหวังของสหราชอาณาจักร
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 24.41 จุด หรือ +0.33% ปิดที่ 7,407.06 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อวานนี้ ได้รับปัจจัยจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของอังกฤษที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ โดยนักวิเคราะห์จากโอแอนด์เอ กล่าวว่า แม้สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษจะเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษมีการขยายตัวที่ระดับ 0.3% ในไตรมาสที่ 2/2560 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 0.2% ในไตรมาสแรก แต่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนในอังกฤษในช่วงเวลาเดียวกันกลับชะลอตัวลง เนื่องจากมุมมองเชิงลบของภาคครัวเรือนที่มีต่ออัตราการขยายตัวของค่าแรงที่แท้จริง
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในวันที่ 24-26 ส.ค.อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่านางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งมีกำหนดจะขึ้นกล่าวในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางของนโยบายการเงินในอนาคตหรือไม่
หุ้นจดทะเบียนรายใหญ่ที่น่าจับตา หุ้นซีอาร์เอช พุ่งขึ้น 3.8% หลังบริษัทผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างดังกล่าว เปิดเผยว่าจะตัดขายหน่วยธุรกิจจัดจำหน่ายในอเมริกาให้กับบริษัทบีคอน รูฟิง ซัพพลาย อิงค์ วงเงิน 2.63 พันล้านดอลลาร์
หุ้น WPP ดีดตัวขึ้น 3% ภายหลังจากร่วงลง 11% ในวันพุธที่ผ่านมา หลังบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ดังกล่าวได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของธุรกิจในปี 2560
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย ขณะตลาดจับตาประชุม แจ็กสัน โฮล
ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล โดยคาดหวังว่าถ้อยแถลงของผู้เข้าร่วมการประชุม ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจส่งสัญญาณถึงทิศทางนโยบายการเงินในปีนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 374.51 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,180.83 จุด เพิ่มขึ้น 6.53 จุด หรือ +0.05% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,407.06 จุด เพิ่มขึ้น 24.41 จุด หรือ +0.33% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,113.13 จุด ลดลง 2.26 จุด หรือ -0.04%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปค่อนข้างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในวันที่ 24-26 ส.ค.อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่านางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับนโยบายการเงินหรือไม่ เช่นเดียวกับนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB และนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะเข้าร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกเช่นกัน
การประชุมที่แจ็กสัน โฮล ในปีนี้จัดขึ้นในช่วงเวลาที่เฟดมีแผนที่จะเริ่มดำเนินการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ขณะที่ ECB อยู่ในระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
หุ้นคาร์ฟูร์ ร่วงลง 2.1% หลังจากผลสำรวจบ่งชี้ว่า ส่วนแบ่งตลาดของคาร์ฟูร์ปรับตัวลดลงในระหว่างวันที่ 10 ก.ค.จนถึง 6 ส.ค.
หุ้นซีอาร์เอช พุ่งขึ้น 3.8% หลังบริษัทผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างรายงานเปิดเผยว่าจะตัดขายหน่วยธุรกิจจัดจำหน่ายในอเมริกาให้กับบริษัทบีคอน รูฟิง ซัพพลาย อิงค์ วงเงิน 2.63 พันล้านดอลลาร์
หุ้น WPP ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ดีดตัวขึ้น 3% หลังจากที่ร่วงลงไปกว่า 10% เมื่อวันพุธ ภายหลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายประจำปี 2560
สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรปที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษขยายตัว 0.3% ในไตรมาสที่ 2/2560 ซึ่งเป็นการขยายในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2555
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : วิตกการเมืองสหรัฐฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 28.69 จุด ตลาดจับตาประชุม แจ็กสัน โฮล
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เปิดฉากโจมตีแกนนำสภาคองเกรสในประเด็นการปรับเพิ่มเพดานหนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล โดยคาดหวังว่าถ้อยแถลงของผู้เข้าร่วมการประชุม ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจส่งสัญญาณถึงทิศทางนโยบายการเงินในปีนี้
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,783.40 จุด ลดลง 28.69 จุด หรือ -0.13% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,438.97 จุด ลดลง 5.07 จุด หรือ -0.21% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,271.33 จุด ลดลง 7.08 จุด หรือ -0.11%
ดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ หลังจากปธน.ทรัมป์ขู่ว่า เขาจะยอมให้รัฐบาลปิดการดำเนินงาน (ชัตดาวน์) หากรัฐสภาไม่อนุมัติงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก และล่าสุด ทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า ความวุ่นวายในสภาคองเกรสเป็นสิ่งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ถ้าหากแกนนำในสภาทำตามคำแนะนำของเขา ในการพ่วงร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐเข้ากับร่างกฎหมายทหารผ่านศึก
"ผมเคยเรียกร้องให้คุณมิทช์ แมคคอนเนล (แกนนำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา) และคุณพอล ไรอัน (ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ) พ่วงร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ เข้ากับร่างกฎหมายทหารผ่านศึก (ซึ่งได้ผ่านสภาแล้ว) เพื่อให้การอนุมัติเป็นไปอย่างง่ายดาย แต่พวกเขาก็ไม่ยอมทำตาม ส่งผลให้พรรคเดโมแครตเข้าขัดขวางการอนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ ทำให้เรื่องที่น่าจะง่ายกลายเป็นเรื่องยากในขณะนี้" ทรัมป์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า มาตรการปฏิรูปภาษีจะผ่านความเห็นชอบของสภาคองเกรสในปีนี้ และเชื่อว่า ท้ายที่สุดแล้วสภาคองเกรสจะมีมติให้เพิ่มเพดานหนี้
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในวันที่ 24-26 ส.ค.อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่านางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับนโยบายการเงินหรือไม่ เช่นเดียวกับนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB และนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะเข้าร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกเช่นกัน
การประชุมที่แจ็กสัน โฮล ในปีนี้จัดขึ้นในช่วงเวลาที่เฟดมีแผนที่จะเริ่มดำเนินการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ขณะที่ ECB อยู่ในระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
หุ้นทิฟฟานี แอนด์ โค ผู้จำหน่ายเครื่องประดับรายใหญ่ ร่วงลง 1.3% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 อยู่ที่ 92 เซนต์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ดัชนีหุ้นกลุ่นสินค้าผู้บริโภค ร่วงลง 1.3% โดยหุ้นวอลมาร์ท ร่วงลง 2% หุ้นโครเกอร์ ดิ่งลง 8.1% และหุ้นเจเอ็ม สมัคเกอร์ ร่วงลง 9.5% โดยได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทโฮลฟู้ดส์ มาร์เก็ต อิงค์ มีมติอนุมัติให้บริษัทอเมซอนดอทคอม อิงค์ เข้าซื้อกิจการโฮลฟู้ดส์
สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดและส่งผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 1.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.44 ล้านยูนิต สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9% สู่ระดับ 5.57 ล้านยูนิต ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 234,000 ราย โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 238,000 ราย
ส่วนในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนก.ค. ในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย
อินโฟเควสท์