- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 24 August 2017 16:15
- Hits: 1639
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวในกรอบ จับตาคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวพรุ่งนี้,มีความเสี่ยงเงินบาทอ่อนค่า
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ แม้ว่าจะไม่ค่อยกังวลเกี่ยวกับการเมืองในสหรัฐฯมากนัก แต่ก็รอผลการเมืองในประเทศ จากเรื่องคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ที่จะยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดฯ
นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงเงินบาทอ่อนค่าด้วย ทำให้ตลาดหุ้นไทยอาจจะ Underperform กว่าตลาดภูมิภาค โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะฟื้นตัวเล็กน้อย ทั้งนี้ การที่ดุลการค้าของไทยงวดเดือนก.ค.พลิกเป็นขาดดุลครั้งแรกในรอบ 27 เดือน แม้ว่าการส่งออกจะดีก็ตาม แต่ทำให้เห็นว่าจากนี้ไปการส่งออกของไทยน่าจะชะลอตัว และเงินบาทมีโอกาสที่จะอ่อนค่าลงไปถึงระดับ 33.8 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงก็จะเป็นตัวกดดันตลาดฯด้วย
อย่างไรก็ดี หากตลาดฯฟื้นตัวขึ้นก็คงอยู่ในกรอบจำกัด พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,568-1,577 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (23 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,812.09 จุด ลดลง 87.80 จุด (-0.40%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,278.41 จุด ลดลง 19.07 จุด (-0.30%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,444.04 จุด ลดลง 8.47 จุด (-0.35%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 240.56 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 7.85 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.72 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.52 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.19 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 68.28 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.26 จุด,
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 ส.ค.60) 1,573.38 จุด เพิ่มขึ้น 0.19 จุด (+0.01%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,024.77 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 ส.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (23 ส.ค.60) ปิดที่ 48.41 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ หรือ 1.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 ส.ค.60) ที่ 7.86 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.34 แนวโน้มอ่อนค่าหลังไทยขาดดุลการค้า-จับตาการประชุม Jackson Hole
- "พาณิชย์" ปรับเป้าส่งออก ปีนี้เป็น 5-6% หลังประเมินเศรษฐกิจโลกฟื้น ตลาดหลักเป็นบวก โดยเฉพาะคู่ค้าในเอเชีย เผย ก.ค.ยอดส่งออกขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 อยูที่ 10.5% พบไทยขาดดุลการค้าครั้งแรกรอบ 27 เดือน ด้าน "แบงก์ชาติ" ชี้ส่งออกโตเกินคาด เล็งปรับประมาณการทั้งปีใหม่ อาจสูงกว่า 5.7% ขณะเอกชนโวยส่งออกโตแต่บาทแข็ง ฉุดกำไรลดฮวบ
- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือน ก.ค. 2560 อยู่ที่ 83.9 ปรับตัวลดลงจากระดับ 84.7 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งปรับลดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และเป็นค่าดัชนีที่ลดต่ำสุดในรอบ 10 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2559
- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า สำนักงานได้ปรับประมาณการส่งออกปี 2560 ใหม่ จากเดิมเติบโต 3.5-5% ปรับเพิ่มเป็น 5-6% และมีโอกาสที่จะเติบโตได้เพิ่มถึง 6.5%
- บอร์ด ทอท. ไฟเขียว คิงพาวเวอร์บริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์เฟส 1 สนามบินดอนเมือง 10 ปี พร้อมยกเลิกสัญญาจ้างห้างหุ้นส่วน จำกัด พี เอ็น เก้าเก้าฯ หลังพบทำผิดสัญญาถูกร้องเรียนบ่อย เตรียมจับมือสายการบินตั้งบริษัทลูก 1.5 พันล้าน หวังยกระดับงานบริการ
- ประธานคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 ส.ค.60 จะประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อหาข้อยุติปัญหาที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นห่วง เพื่อเร่งผลักดันการจัดตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ และขายให้ได้โดยเร็วที่สุดภายในสิ้นปีนี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- SPORT-W6 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. สยามสปอร์ต ซินดิเคท (SPORT)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน68,509,584 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (1 ส.ค. 2560) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 29 ก.ย. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 31 ก.ค. 2561
- AOT (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 60 บาท ตัวเลขผู้โดยสารเดือน ก.ค. เติบโต 5.9% y-y โดย 10MFY60 AOT มีอัตราการเติบโตของผู้โดยสารรวม 7.4% และคาดจะโตต่อเนื่อง 7.5-8%ในเดือนหน้า
- SPALI (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 32 บาท (ก่อน XW 18 ก.ย.) Presales 1H60 โต 29% ที่ 13.3 พันล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และน่าจะถึงเป้าหมายที่ 27 พันล้านบาทในปีหน้าได้.มีแผนเปิด 4 โครงการคอนโดใหม่ใน 2H60 ซึ่งโครงการแรก Veranda ภาษีเจริญ ตอบรับดีด้วยยอดจอง 55% และอีก 3 แห่งจะเปิดตัวในเดือน ก.ย.นี้ คาดกำไร 2H60 +62%y-y
- MONO (ไอร่า) เป้า 4.20 บาท แนวโน้ม 2H/60 เติบโตต่อเนื่อง ภายใต้รายได้ค่าโฆษณาที่ยังมีโอกาสเติบโต จากอัตราค่าโฆษณาเฉลี่ยต่อนาทีของ MONO29 ที่แม้จะเติบโตกว่า 38% จาก 20,300 บาท เมื่อปี 59 มาเป็น 28,000 บาท ในช่วง 2Q/60 นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัว Platform ใหม่ "See ME" ในช่วง 4Q/60 เพื่อต่อยอดจาก Mthai.com ที่มียอดเข้าชมถึง 24 ล้านคนต่อเดือน โดยคาด "See ME" มีจุดแข็งในการให้ส่วนแบ่งรายได้ค่าโฆษณาต่อเจ้าของ Content ที่สูงกว่า Platform อื่น และคาดจะสามารถมีบทบาทในตลาดการโฆษณาดิจิตอลที่มีมูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท ในปี 60 คาดเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยผลักดันผลประกอบการของ MONO ในระยะยาวได้ ขณะที่คาดปี 60 สามารถพลิกกลีบมามีกำไรสุทธิ 160 ล้านบาท
- TMB (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 2.84 บาท เป็นหุ้นที่แอบปลื้มในกลุ่มแบงก์ เพราะ (1) สินเชื่อขยายตัวดีสุด (2) รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (3) จัดการต้นทุนทางการเงินและ NPL ได้ดี โดยคาดกำไร 3Q60 ที่ 2.4 พันล้านบาท +3% Q-Q, +30% Y-Y ส่วนทั้งปีคาด 9.8 พันล้านบาท +17% Y-Y และ P/BV อยู่ที่ 1.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 1.2 เท่า และราคาหุ้นเคลื่อนไหว Laggard โดย SETBANK ขึ้น 3% ใน 3 สัปดาห์ล่าสุด แต่ TMB แทบไม่ขยับ
ตลาดหุ้นเอเชียบวกเช้านี้ นักลงทุนเมินข่าว ทรัมป์ ขู่ชัตดาวน์รัฐบาล
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ แม้มีข่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ขู่ว่าจะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดการดำเนินงานลง ถ้าหากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,642.23 จุด เพิ่มขึ้น 240.56 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,414.66 จุด เพิ่มขึ้น 7.85 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,370.12 จุด เพิ่มขึ้น 3.72 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,267.57 จุด เพิ่มขึ้น 7.52 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,772.75 จุด ลดลง 0.19 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,366.36 จุด ลดลง 68.28 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,287.96 จุด เพิ่มขึ้น 0.26 จุด,
ในการปราศรัยที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ปธน.ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดการดำเนินงาน ถ้าหากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กำลังมีความขัดแย้งกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับการอนุมัติงบประมาณสำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก โดยถ้าหากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณชั่วคราวสำหรับการบริหารงานของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงงบในการสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโก หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐหลายแห่งก็ต้องปิดตัวลง เนื่องจากรัฐบาลขาดงบประมาณในการบริหารประเทศ
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดขยับขึ้น 0.91 จุด จากอานิสงส์เงินปอนด์อ่อนค่า
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมือคืนนี้ (23 ส.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน โดยตลาดได้อานิสงส์จากการที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโร ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แรงบวกถูกสกัดในระหว่างวันจากแรงกดดันของตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 0.91 จุด หรือ +0.01% ปิดที่ 7,382.65 จุด
ภาวะการซื้อขายที่ตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ หุ้นกลุ่มส่งออกได้ปัจจัยบวกจากการที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลง โดยค่าเงินปอนด์ร่วงลงหลุดระดับ 1.28 ดอลลาร์ และร่วงลง -0.0369% เมื่อเทียบกับยูโร ขณะที่นักวิเคราะห์จากแอคเซนโด มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับปอนด์นั้น มาจากข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 55.7 ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 55.8 ในเดือนส.ค.
หุ้นกลุ่มสื่อที่น่าจับตา หุ้นไอทีวี เครือข่ายสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ปรับตัวลง 1.9% และหุ้นเพียร์สัน สำนักพิมพ์รายใหญ่ ลดลง 1.4%
หุ้น WPP ร่วงลง 11% หลังบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ดังกล่าวได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของธุรกิจในปี 2560 สืบเนื่องจากการใช้จ่ายในภาคอุตสาหกรรมหลักๆ เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค และการค้าปลีก มีการชะลอตัวลง
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน เพิ่มขึ้น 1.2% และหุ้นอันโตฟากัสตา พุ่งขึ้น 2.3%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ หลัง PMI ภาคบริการยูโรโซนชะลอตัว,ตลาดจับตาประชุม แจ็กสัน โฮล
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) หลังจากไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนส.ค.ของยูโรโซน ชะลอตัวลงจากระดับของเดือนก.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 24-26 ส.ค. ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.5% ปิดที่ 373.92 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,174.30 จุด ลดลง 55.04 จุด หรือ -0.45% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,115.39 จุด ลดลง 16.47 จุด หรือ -0.32% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,382.65 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด หรือ +0.01%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงหลังจากไอเอชเอส มาร์กิต ระบุว่า สำหรับดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 54.9 ในเดือนส.ค. ปรับตัวลดลงจากระดับ 55.4 ในเดือนก.ค. และทำสถิติต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 57.4 ในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 56.6 ในเดือนก.ค. และทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 เดือน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองในสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้กล่าวปราศรัยที่รัฐแอริโซนาเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยระบุว่า เขายอมให้รัฐบาลปิดการดำเนินงาน (ชัตดาวน์) หากรัฐสภาไม่อนุมัติงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก
หุ้น WPP ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ร่วงลง 11% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายประจำปี 2560
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นอันโตฟากัสตา ปรับตัวขึ้น 1.2% และ 2.3% ตามลำดับ
นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันนี้ และสิ้นสุดในวันเสาร์นี้ เพื่อดูว่านางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะส่งสัญญาณอะไรเกี่ยวกับนโยบายการเงินในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมครั้งนี้หรือไม่ เช่นเดียวกับนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะเข้าร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกเช่นกัน
การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นในช่วงที่เฟดมีแผนที่จะเริ่มดำเนินการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ขณะที่ ECB อยู่ในระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 87.80 จุด วิตก ทรัมป์ ขู่ชัตดาวน์รัฐบาล
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองในสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดการดำเนินงานลง ถ้าหากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มขึ้นในวันนี้ ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,812.09 จุด ลดลง 87.80 จุด หรือ -0.40% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,444.04 จุด ลดลง 8.47 จุด หรือ -0.35% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,278.41 จุด ลดลง 19.07 จุด หรือ -0.30%
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงตั้งแต่ตลาดเปิดการซื้อขาย และเคลื่อนไหวในแดนลบจนกระทั่งปิดทำการ หลังจากปธน.ทรัมป์ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา โดยทรัมป์กล่าวว่า เขาจะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดการดำเนินงาน ถ้าหากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กำลังมีความขัดแย้งกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับการอนุมัติงบประมาณสำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก โดยถ้าหากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณชั่วคราวสำหรับการบริหารงานของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงงบในการสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโก หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐหลายแห่งก็ต้องปิดตัวลง เนื่องจากรัฐบาลขาดงบประมาณในการบริหารประเทศ
ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ออกรายงานเตือนว่า หากสภาคองเกรสสหรัฐประสบความล้มเหลวในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐในเวลาที่เหมาะสม ฟิทช์ก็อาจต้องปรับทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ โดยมีแนวโน้มปรับลดลงจากระดับ AAA ในขณะนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุด
สภาคองเกรสยังคงไม่มีการบรรลุข้อตกลงในการเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 19.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้สหรัฐเผชิญเผชิญความเสี่ยงในการผิดนัดชำระดอกเบี้ย และเงินต้นของพันธบัตร โดยหากรัฐบาลสหรัฐไม่มีงบประมาณที่จะบริหารประเทศ ก็จะส่งผลให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาล ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนต.ค.
หุ้นโลว์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ร่วงลง 3.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 2 ที่ระดับ 1.57 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.61 ดอลลาร์/หุ้น และรายได้อยู่ที่ 1.950 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.953 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปรับตัวลง 0.2% หลังจากคณะลูกขุนของศาลสูงในลอส แองเจลิส เคาน์ตี ตัดสินให้บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จ่ายเงินชดเชยจำนวน 417 ล้านดอลลาร์แก่ผู้บริโภครายหนึ่งซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งรังไข่ โดยระบุว่า บริษัทจอห์นสันต้องรับผิดชอบที่ไม่มีการแจ้งเตือนผู้บริโภรายนี้ เกี่ยวกับความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งจากการใช้ผลิตภัณฑ์แป้งเด็กจอห์นสัน
หุ้นโคตี้ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงาม ร่วงลง 5.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดเช่นกัน โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลงในเดือนก.ค. โดยร่วงลง 9.4% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 571,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากพุ่งแตะระดับ 630,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย.
นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "Fostering a Dynamic Global Economy"
ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.
อินโฟเควสท์