- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 14 August 2014 10:58
- Hits: 2706
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าโมเมนตัมเป็นบวก-ลุ้นทำ New High เล็งเม็ดเงินต่างชาติ
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโมเมนตัมเป็นบวกได้อยู่ โดยให้จับตาดูจะขึ้นทำ New High ได้ไหม โดยมี High เดิมที่ 1,545 จุด ถ้าทะลุได้ก็จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,560 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,530 จุด
ทั้งนี้ ตลาดฯมีความคาดหวังจากเม็ดเงินต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุน เนื่องจากต่างประเทศมีปัญหาเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะปลอดภัยในการลงทุน เพราะตลาดบ้านเราเวลานี้ไม่ได้มีปัจจัยลบอะไร และยังจะมีการพิจารณางบประมาณปี 58 ด้วย อีกทั้งยังอยู่ในช่วงของการเล่นเก็งกำไรตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และก็ยังมีการเล่นเรื่องปันผลด้วย รวมทั้งในช่วงปลายเดือนก็จะมีงานไทยแลนด์ โฟกัส ทำให้นักลงทุนต่างชาติอาจจะเข้ามาซื้อก่อนก็ได้ สำหรับทริกเกอร์ ฟันด์ มองว่าส่วนใหญ่จะเข้าซื้อไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก หลังจากที่ดาวโจนส์ได้ปรับตัวขึ้นไปได้ดีเมื่อคืนที่ผ่านมาจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะไม่เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาไม่ดีนัก นอกจากนี้ยังมีลุ้นจีนที่จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอีกหรือเปล่า
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(13 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,651.80 จุด เพิ่มขึ้น 91.26 จุด(+0.55%),ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,946.72 จุด เพิ่มขึ้น 12.97 จุด(+0.67%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,434.13 จุด เพิ่มขึ้น 44.88 จุด (+1.02%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 70.75 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.34 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 3.84 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 45.10 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.33 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 6.65 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 70.97 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.17 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(13 ส.ค.)1,544.55 จุด เพิ่มขึ้น 24.24 จุด(+1.59%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,713.82 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 ส.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(13 ส.ค.)ที่ 97.59 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 22 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(13 ส.ค.)ที่ 3.30 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเช้าเปิดที่ 31.94/96 แนวโน้มแข็งค่าจากเงินไหลเข้า-มั่นใจเสถียรภาพการเมือง
- คสช.ไฟเขียวแผนลงทุนเคเบิลใต้น้ำ 3 เส้นทางเชื่อมระบบอินเทอร์เน็ตไทย-โลก ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมของทีโอที วงเงินรวม 5.9 พันล้านบาท สั่งปลัดไอซีทีชี้แจงซูเปอร์บอร์ดก่อนเดินหน้าลงทุนตามแผนระยะเวลา 3 ปี ขณะที่ ทีโอที-กสท แจงเข้าประชุมซูเปอร์บอร์ดรับนโยบายตามที่ส่งแผนเทิรน์อะราวด์ สคร.ทีโอทีไม่ส่งรายงานเพิ่มเติมเหตุ รอบอร์ดใหม่ประชุมสัปดาห์หน้า ส่วน กสท เร่งจัดทำแผนฟื้นฟูงบประมาณ 5 ปี
- ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงแนวโน้มอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที)ในรอบเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2557 ว่ายังไม่สามารถคาดการณ์ได้ชัดเจนว่าจะมีทิศทางอย่างไร โดยเฉพาะความเป็นไปได้ที่จะมีการตรึงค่าเอฟทีเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชนนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายภาครัฐ การตัดสินใจของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์)และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ว่าจะมีนโยบายอย่างไร
- คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)อนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอเพื่อลงทุนขยายและก่อสร้างทางหลวงจำนวน 6 เส้นทาง เงินลงทุน 7,316.75 ล้านบาท โดยกำชับให้เบิกจ่ายงบในปีนี้
- "กบข." ปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยเท่าตลาด หนุนพอร์ตลงทุนหุ้นเกือบ 10% ขณะที่"ต่างชาติ-สถาบัน" วานนี้ แห่ซื้อหุ้นไทยดันดัชนีพุ่ง 24 จุด วอลุ่มแน่นเฉียด 57,000 ล้านบาท ด้านบล.บัวหลวงเตรียมออกกองทุนลุยลงทุนตลาดหุ้นเอเชียปีหน้า สอดรับจังหวะเปิดเออีซี
- อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยเดือนกรกฎาคม 2557 มีผู้ประกอบการยื่นขอจัดตั้งใหม่จำนวน 5,592 ราย เพิ่ม 8% จากเดือนมิถุนายนปี 2557 แต่ลดลง 13% เทียบเดือนกรกฎาคมปี 2556 ส่วนการยื่นเลิกกิจการ จำนวน 1,477 ราย เพิ่มขึ้น 15% จากเดือนมิถุนายนปีนี้ และเพิ่ม 6% เทียบกรกฎาคมปีก่อน ซึ่งตรวจสอบสถิติย้อนหลังพบว่าจำนวนทำสถิติสูงสุดในรอบปี 2557 ทั้งยอดตั้งบริษัทใหม่และยอดเลิกกิจการ
ส่วนยอด 7 เดือนแรกปีนี้ ตั้งบริษัทใหม่รวม 35,058 ราย ลดลง 7,727 ราย หรือลดลง 18% ขณะที่ยอดเลิกกิจการ จำนวน 7,327 ราย เพิ่มขึ้น 536 ราย หรือ เพิ่ม 8% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยธุรกิจที่ตั้งใหม่และเลิกกิจการมากสุดอันดับแรกของเดือนกรกฎาคม และช่วง 7 เดือน ยังคงเป็นธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ โดยแนวโน้มธุรกิจจัดตั้งใหม่จะดีขึ้นต่อเนื่อง หลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และขับเคลื่อนตามนโยบายและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)แล้ว
*หุ้นเด่นวันนี้
- QH(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 5.20 บาท กำไรสุทธิ 2Q57 สอดคล้องคาดแต่สูงกว่าที่ตลาดฯประมาณการไว้ โดยกำไรลดลง 12% y-o-y แต่เพิ่มขึ้น 55% q-o-q เป็น 979 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1H57 เป็น 1.6 พันล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 54% เทียบกับประมาณการปีนี้, แนวโน้มเป็นบวก คาดกำไรสุทธิ 4Q57 เพิ่มขึ้นได้ดีจากคอนโดฯใหญ่จะสร้างเสร็จและโอนเป็นรายได้มาก จุดเด่นคืออสังหาฯฟื้นตัวได้ดี-เร็ว, รายได้แน่นอนทำให้มั่นคง และเงินลงทุนให้ผลตอบแทนสูง
- AOT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ กำไรสุทธิ 3Q14 (เม.ย.-มิ.ย.) ลดลง 33% Q-Q และ 21% Y-Y ไม่ต่างจากธุรกิจสายการบินและโรงแรมที่ถูกกระทบจากการเมืองและเป็นช่วง low season โดยยังคงคาดกำไรปี 2014-15 โต 28% Y-Y และ 18%
- CPF(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 35.50 บาท หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติใน 2Q14 ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้น 16% Q-Q และพลิกจากขาดทุนในปีก่อน และเป็นกำไรสูงสูดในรอบ 8 ไตรมาส จากการฟื้นตัวของราคาหมูในประเทศและธุรกิจต่างประเทศ ส่วนธุรกิจไก่ทรงตัว โดยยังคงประมาณการกำไรปี 2014-15
- MFEC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 9.10 บาท กำไร 2Q57 ทำสถิติสูงสุดใหม่ 111 ล้านบาท เติบโต 217% qoq และ 51% yoy จากการส่งมอบงานค้าง โดยเฉพาะงานราชการ ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นถึง 111% qoq และ 6% yoy เป็น 1,795 ล้านบาท ยืนยันผลงานผ่านจุดต่ำสุดใน 1Q57 พร้อมปรับประมาณการปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 55% และปี 58 อีก 41% กำไรในปีนี้คาด 265 ล้านบาท เติบโต 14% yoy และ 306 ล้านบาทในปี 58 เติบโต 16% yoy หลัง 1H57 ผลงานดีกว่าคาด
ตลาดหุ้นเอเชียบวกขึ้นเช้านี้ จากคาดการณ์เฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ซบเซา ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 147.56 จุด เมื่อเวลา 9.23 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,284.38 จุด เพิ่มขึ้น 70.75 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,221.54 จุด ลดลง 1.34 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,894.18 จุด เพิ่มขึ้น 3.84 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,276.41 จุด เพิ่มขึ้น 45.10 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,065.69 จุด เพิ่มขึ้น 3.33 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,308.06 จุด เพิ่มขึ้น 6.65 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,057.21 จุด เพิ่มขึ้น 70.97 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,854.87 จุด ลดลง 3.17 จุด
หุ้นเทลสตรา คอร์ป บริษัทโทรศัพท์รายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 1.5% ขณะที่หุ้นแฟร์แฟกซ์ มีเดีย พุ่ง 6.2% หลังกำไรสูงเกินคาด
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ทรงตัว หลังจากที่ขยายตัว 0.2% ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากชาวอเมริกันชะลอการซื้อรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าตามห้างสรรพสินค้า นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ถึงอุปสงค์ของผู้บริโภคที่อ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
ข้อมูลค้าปลีกที่อ่อนแอของสหรัฐทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ ซึ่งกระแสคาดการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับถ้อยแถลงในการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดที่ระบุว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรจะสิ้นสุดลงตามกำหนดในปีนี้ก็ตาม
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 24.26 จุด รับข้อมูลแรงงานสดใส
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) หลังจากข้อมูลด้านแรงงานปรับตัวสดใส ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษส่งสัญญาณว่าจะไม่เร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 24.26 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 6,656.68 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวในแดนบวก ขานรับข้อมูลด้านแรงงาน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของอังกฤษในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ลดลง 132,000 ราย สู่ระดับ 2.08 ล้านราย ส่วนอัตราว่างงานในช่วงไตรมาสดังกล่าวก็ลดลงเช่นกัน สู่ระดับ 6.4%
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคนำตลาดพุ่งขึ้น โดยหุ้นสเวิร์น เทรนท์และหุ้นยูไนเต็ด ยูทิลิตีส์ กรุ๊ป ต่างทะยานขึ้นกว่า 1%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ผลประกอบการเอกชนสดใส หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเอกชน รวมถึงบริษัทอีออน เอสอี
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.4% ปิดที่ 330.02 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,198.88 จุด พุ่งขึ้น 129.41 จุด หรือ +1.43% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,194.79 จุด เพิ่มขึ้น 32.63 จุด หรือ +0.78% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,656.68 จุด เพิ่มขึ้น 24.26 จุด หรือ +0.37%
หุ้นอีออน เอสอี ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภครายใหญ่ของยุโรป พุ่งขึ้น 4.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 อยู่ที่ 1.53 พันล้านยูโร ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.46 พันล้านยูโร
ขณะที่หุ้นสวิส ไลฟ์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่ พุ่งขึ้น 7.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 484 ล้านฟรังค์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 456 ล้านฟรังค์
หุ้นเมอร์ค ดีดตัวขึ้น 3.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการครึ่งปีแรกอยู่ที่ 845.7 ล้านยูโร ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 837 ล้านยูโร
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของอังกฤษในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ลดลง 132,000 ราย สู่ระดับ 2.08 ล้านราย ส่วนอัตราว่างงานในช่วงไตรมาสดังกล่าวปรับตัวลดลงสู่ระดับ 6.4%
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 91.26 จุด จากคาดการณ์เฟดยังไม่ขึ้นดบ.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้ๆนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ซบเซาในเดือนก.ค.
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,651.80 จุด เพิ่มขึ้น 91.26 จุด หรือ +0.55% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,434.13 จุด เพิ่มขึ้น 44.88 จุด หรือ +1.02% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,946.72 จุด เพิ่มขึ้น 12.97 จุด หรือ +0.67%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐทรงตัวในเดือนก.ค. เนื่องจากชาวอเมริกันชะลอการซื้อรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าตามห้างสรรพสินค้า แม้ว่ายอดขายอาหารและเสื้อผ้าจะเพิ่มขึ้นก็ตาม นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ถึงอุปสงค์ของผู้บริโภคที่อ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ทรงตัว หลังจากที่ขยายตัว 0.2% ในเดือนมิ.ย. แต่ถ้าไม่นับรวมยอดขายรถยนต์ ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ขยับขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน
ข้อมูลค้าปลีกที่อ่อนแอของสหรัฐทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ ซึ่งกระแสคาดการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับถ้อยแถลงในการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดที่ระบุว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรจะสิ้นสุดลงตามกำหนดในปีนี้ก็ตาม
หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวผันผวน โดยหุ้นเมซี ร่วงลง 5.51% หลังจากบจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายในปี 2557
หุ้น Amazon.com พุ่งขึ้น 2.18% หลังจากรายงานของ ChannelAdvisor ระบุว่า ยอดขายของ Amazon.com ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้
หุ้นอีเบย์ ปรับตัวลง 0.9% หลังจากรายงานของ ChannelAdvisor ระบุว่า อัตราการขยายตัวของยอดขายของอีเบย์ในเดือนก.ค.อยู่ที่ 9.7% ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 12% ในเดือนมิ.ย.
นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ในอิรักอย่างใกล้ชิด หลังจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า สหรัฐกำลังพิจารณาเรื่องการส่งที่ปรึกษาทางการทหารจำนวนเพิ่มเติมมากกว่า 100 คน เข้าไปในอิรักเพื่อช่วยหาทางบรรเทาความยากลำบากของพลเมืองในท้องถิ่น ซึ่งถูกกลุ่มหัวรุนแรงของรัฐอิสลามอิรักและเลแวนต์ (ISIL) ปิดล้อมบนเทือกเขาทางเหนือของอิรัก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และข้อมูลราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ค.
World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ
ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ส.ค.2557
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,651.80 จุด เพิ่มขึ้น 91.26 จุด +0.55%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,434.13 จุด เพิ่มขึ้น 44.88 จุด +1.02%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,946.72 จุด เพิ่มขึ้น 12.97 จุด +0.67%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,656.68 จุด เพิ่มขึ้น 24.26 จุด +0.37%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,198.88 จุด เพิ่มขึ้น 129.41 จุด +1.43%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,194.79 จุด เพิ่มขึ้น 32.63 จุด +0.78%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,231.31 จุด เพิ่มขึ้น 68.19 จุด +0.74%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,213.63 จุด เพิ่มขึ้น 52.32 จุด +0.35%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,062.36 จุด เพิ่มขึ้น 20.89 จุด +1.02%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,507.90 จุด ลดลง 15.20 จุด -0.28%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,514.70 จุด ลดลง 15.60 จุด -0.28%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,222.88 จุด เพิ่มขึ้น 1.28 จุด +0.06%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,986.24 จุด เพิ่มขึ้น 2.75 จุด +0.04%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,890.34 จุด เพิ่มขึ้น 200.93 จุด +0.81%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,858.04 จุด เพิ่มขึ้น 7.65 จุด +0.41%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,168.27 จุด เพิ่มขึ้น 35.87 จุด +0.70%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,301.41 จุด ลดลง 1.98 จุด -0.06%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,918.95 จุด เพิ่มขึ้น 38.18 จุด +0.15%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้ๆนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ซบเซาในเดือนก.ค.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,651.80 จุด เพิ่มขึ้น 91.26 จุด หรือ +0.55% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,434.13 จุด เพิ่มขึ้น 44.88 จุด หรือ +1.02% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,946.72 จุด เพิ่มขึ้น 12.97 จุด หรือ +0.67%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเอกชน รวมถึงบริษัทอีออน เอสอี
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.4% ปิดที่ 330.02 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,198.88 จุด พุ่งขึ้น 129.41 จุด หรือ +1.43% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,194.79 จุด เพิ่มขึ้น 32.63 จุด หรือ +0.78% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,656.68 จุด เพิ่มขึ้น 24.26 จุด หรือ +0.37%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) หลังจากข้อมูลด้านแรงงานปรับตัวสดใส ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษส่งสัญญาณว่าจะไม่เร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 24.26 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 6,656.68 จุด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ซบเซาในเดือนก.ค.
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.30% ปิดที่ 1,314.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 19.845 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 2.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,469.9 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 3.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 881.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร แม้มีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ ปิดที่ 97.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) หลังจากมีรายงานว่ายอดค้าปลีกของสหรัฐในเดือนก.ค.ออกมาย่ำแย่กว่าคาดการณ์ของตลาด
ค่าเงินยูโรแทบไม่เปลี่ยนแปลงเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3369 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3368 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6688 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6811 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 102.45 เยน เทียบกับระดับ 102.23 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9073 ฟรังค์ จากระดับ 0.9077 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9304 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9276 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 871.00 จุด เพิ่มขึ้น 35.00 จุด, +4.19%
อินโฟเควสท์