WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET19ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบคาดแรงซื้อพลังงาน-แบงก์ประคองตลาด วอลุ่มบางก่อนหยุดยาว

      นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยในวันนี้จะแกว่งตัวในกรอบแคบ เหมือนในช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงซื้อที่สลับเข้ามาในหุ้น 2 กลุ่มหลักทั้งพลังงานและแบงก์ ทำให้คาดว่าหุ้นทั้งสองกลุ่มจะยังคงเป็นกลุ่มที่ช่วยประคองตลาดได้ต่อไปในวันนี้ จากราคาน้ำมันที่ยังขยับขึ้นต่อเนื่องจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และการเข้ามาเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 1/60 ของกลุ่มแบงก์ที่มีแนวโน้มออกมาดี จะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มแบงก์

       "วันนี้หุ้นกลุ่มพลังงานและแบงก์น่าจะยังประคองได้อยู่ แต่คงไม่แนะนำให้ไล่ราคา เพราะเดี๋ยวตลาดก็จะหยุด คงต้องรอดูหลังจากนั้น อีกทั้งหุ้นทั้งสองกลุ่มก็ปรับขึ้นมาพอสมควรแล้ว คงเป็นลักษณะการต่อรองราคาหรือซื้อเมื่ออ่อนตัว และคงจะมีการเล่นหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กตามประเด็นข่าวที่มีเข้ามาในแต่ละกลุ่มด้วย"นายคณฆัส กล่าว

        พร้อมทั้งแนวรับบริเวณ 1,575 และ 1,571 จุด และแนวต้านบริเวณ 1,587-1,590 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 เม.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,651.30 จุด ลดลง 6.72 จุด (-0.03%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,866.77 จุด ลดลง 14.15 จุด (-0.24%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,353.78 จุด ลดลง 3.38 จุด (-0.14%)

       - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 155.77 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.13 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 19.55 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 0.86 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.17 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.01 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 0.62 จุด

       - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 เม.ย.60) 1,582.78 จุด เพิ่มขึ้น 1.59 จุด (+0.10%)

        - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 765.69 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 เม.ย.60

       - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 เม.ย.60) ปิดที่ 53.40 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.6%

       - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 เม.ย..60) ที่ 6.39 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 34.54/56 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังดอลล์อ่อนค่าจากวิตกสถานการณ์ความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี

      - ตลท.เผยหุ้น IPO เข้าตลาด 9 บริษัท หนุน 4 เดือนแรกมาร์เก็ตแคปหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 9.39 หมื่นล้านบาท ประเมินครึ่งปีหลังยังคึกคัก หวังไทยแลนด์ฟิวเจอร์ ฟันด์และกองรีทที่มีสินทรัพย์ในต่างประเทศ เข้าจดทะเบียน ด้านเมย์แบงก์ฯ มองหุ้นไอพีโอเคลื่อนไหวไม่หวือหวา เหตุมีหุ้นเข้าระดมทุนจำนวนมาก แนะนักลงทุนถือยาวมากขึ้น

      -  คสช.เตรียมใช้มาตรา 44 ส่งเสริมตั้งมหาวิทยาลัยในอีอีซี หวังสร้างความชื่อมั่นและเร่งนักลงทุนตัดสินใจ ด้านครม.แก้ร่างกฎหมายใหม่ เพิ่มอำนาจบอร์ดให้สั่งการรวดเร็ว หวังแข่งขันเพื่อนบ้าน ด้านครม.เปลี่ยนชื่อร่าง พ.ร.บ.ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก เป็นร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พร้อมเพิ่มเติมพื้นที่อื่นนอกจาก 3 จังหวัดเดิมได้ ลงมติจัดตั้ง "ซูเปอร์บอร์ด" มี "พล.อ.ประยุทธ์" นั่งประธาน ปลดล็อกการลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออก เอื้อการแก้ระเบียบ-กฎหมายส่งเสริมการลงทุน ขณะบอร์ดอีอีซี อนุมัติงบกว่า 100 ล้านศึกษาไฮสปีดเทรนด์เชื่อม 3 สนามบิน คาดเปิดประมูลในปีนี้

       - ครม.เห็นชอบให้จัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 60 หรืองบกลาง ในรายการค่าใช้จ่ายส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศ วงเงิน 6,281.52 ล้านบาท ให้กับ 9 หน่วยงาน ดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่สำคัญรวม 33 โครงการ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าก้าวสู่ประเทศไทยยุค 4.0 ได้ เช่น โครงการของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งการจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการครบวงจร โครงการพัฒนาผู้ประกอบการสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ เป็นต้น

        - ธนารักษ์เตรียมปิดจ็อบโครงการพัฒนาที่ดินหมอชิต มูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาท หลังอัยการสูงสุดตรวจร่างเรียบร้อย ลุยปั้นศูนย์การค้าเต็มรูปแบบ คาดเสนอครม.อนุมัติหลังสงกรานต์ และเซ็นสัญญาได้ภายในพ.ค.นี้

*หุ้นเด่นวันนี้

      - SEAFCO (เออีซี) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 14.10 บาท หลังมองปี 60-61 คาดว่าจะมีกำไรโตเฉลี่ยปีละ32.9% จากการรับรู้ Backlog ในมือกว่า 1.5 พันล้านบาท อีกทั้งแนวโน้มการรับงานใหม่ยังสดใสอย่างมากด้วยแรงหนุนโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ อาทิ รถไฟฟ้า 3 สาย ทั้งสีส้ม,ชมพู,เหลือง ขณะที่ยังมี Upside 18.5%

       - TOP (ไอร่า) ราคาเป้าหมาย 89 บาท ผลงาน Q1/60 ยังคงแข็งแกร่งจากค่าการกลั่นสูงที่ 6-7 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลในช่วงท่องเที่ยวและฤดูหนาวส่งผลให้ความต้องการดีเซลและน้ำมันอากาศยานเพิ่มขึ้น ล่าสุดค่าการกลั่นสิงคโปร์สูงขึ้นมาที่ 6.0-7.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนต่างปิโตรเคมีทั้งพาราไซลีนและเบนซีน Q1/60 เพิ่มสูงขึ้นด้วย ขณะที่ตลาดจับตาโรงงาน Reliance ในอินเดียกำลังผลิตอะโรเมติกส์ 2.2 ล้านตัน/ปีเลื่อนเปิดไปเป็น Q2/60 อีกทั้งแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้มีกำไรจากสต็อกน้ำมัน

      - EA (ธนชาต) แนะ"ซื้อ"ให้ราคาเป้าหมาย 34 บาท เนื่องจากแนวโน้มกำไรเติบโตรอบใหม่จากอุปกรณ์กักเก็บพลังงาน คาดกำไรโตเฉลี่ย 33% ในปี 60-62 ด้วย ROE ที่สูงกว่า 30% แม้จะมีประเด็นความไม่แน่นอนที่ดิน ส.ป.ก.จบลงแล้ว แต่คาดว่าโรงไฟฟ้าพลังงานลมหนุมานจะมีความล่าช้าออกไปอีกราว 5-6 เดือน

ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ วิตกสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี

                ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ หลังนักลงทุนชะลอการซื้อขายเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในคาบสมุทรเกาหลี

                ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,592.10 จุด ลดลง 155.77 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,283.84 จุด ลดลง 5.13 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,068.91 จุด ลดลง 19.55 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,831.56 จุด ลดลง 0.86 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,128.17 จุด เพิ่มขึ้น 4.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,170.58 จุด ลดลง 4.17 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,735.83 จุด ลดลง 0.01 จุด

                หนังสือพิมพ์โรดอง ซินมุน ของเกาหลีเหนือ รายงานว่า เกาหลีเหนืออาจทำการโจมตีสหรัฐด้วยระเบิดนิวเคลียร์ หากมีสัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังเตรียมการโจมตีเกาหลีเหนือ โดยเกาหลีเหนือจะไม่เพียงโจมตีฐานทัพสหรัฐในเกาหลีใต้ หรือในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่จะโจมตีแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐ

                ทั้งนี้ คำขู่ของเกาหลีเหนือดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่กองเรือรบของสหรัฐกำลังแล่นเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก

                นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกาหลีเหนือมักทำการทดสอบนิวเคลียร์เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น โดยในวันเสาร์นี้ จะเป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 105 ของนายคิม อิล ซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ และเป็นปู่ของนายคิม จอง อึน ผู้นำคนปัจจุบัน ส่วนในวันที่ 25 เม.ย. จะเป็นวันครบรอบ 85 ปีแห่งการก่อตั้งกองทัพประชาชนเกาหลี

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นเหมืองทองพุ่ง หนุนฟุตซี่ปิดบวก 16.56 จุด

                ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทองคำที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง สืบเนื่องจากความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในเกาหลีเหนือและซีเรีย ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนได้ระมัดระวังการซื้อขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่นทองคำกันมากขึ้น นอกจากนี้ ดัชนี FTSE 100 ยังได้แรงหนุนจากหุ้นจดทะเบียนรายใหญ่อย่างเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป

                ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 16.56 จุด หรือ +0.23% ปิดที่ 7,365.50 จุด

                บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อวานนี้ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทองคำทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ด้วยแรงหนุนจากราคาทองคำที่พุ่งขึ้นราว 1.6% เมื่อคืนนี้ สืบเนื่องจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความตึงเครียดมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนหันไปซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำกันมากขึ้น

                หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส ทะยานขึ้น 4.8% และหุ้นเฟรสนิลโล พุ่งขึ้น 4.4%

                หุ้นจดทะเบียนรายใหญ่ที่น่าจับตา หุ้นเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป ผู้ผลิตสินค้าหรูรายใหญ่ เพิ่มขึ้น 0.4% หลังหลุยส์ วิตตอง เปิดเผยยอดขายพุ่งขึ้น 15% ในไตรมาสแรกของปีนี้

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : วิตกความตึงเครียดคาบสมุทรเกาหลี,ซีเรีย ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

                ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีและซีเรีย โดยเกาหลีเหนือประกาศความพร้อมที่จะใช้มาตรการตอบโต้ที่รุนแรงกับสหรัฐ หลังจากที่สหรัฐได้ส่งกองเรือรบเข้าใกล้น่านน้ำคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่สถานการณ์ซีเรียส่อเค้าว่าจะตึงเครียดมากขึ้น หลังจากที่ประชุม G7 คว้าน้ำเหลวออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียกรณีสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย

                ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.02% แตะที่ 381.18 จุด

                ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,139.35 จุด ลดลง 61.17 จุด หรือ -0.50% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,365.50 จุด เพิ่มขึ้น 16.56 จุด หรือ +0.23% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,101.86 จุด ลดลง 5.59 จุด หรือ -0.11%

                ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดในต่างประเทศทวีความรุนแรงขึ้น โดยนายแองเจลิโน อัลฟาโน รมว.ต่างประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นประธานจัดการประชุม G7 ในสัปดาห์นี้ กล่าวว่า G7 ไม่สามารถบรรลุฉันทามติในการออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย กรณีที่ให้การสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย

                ทั้งนี้ นายอัลฟาโนมองว่า การกดดันให้รัสเซียอยู่ในภาวะจนมุม จะถือเป็นการดำเนินการที่ผิด

                ทางด้านหนังสือพิมพ์โรดอง ซินมุน ของเกาหลีเหนือ รายงานว่า เกาหลีเหนืออาจทำการโจมตีสหรัฐด้วยระเบิดนิวเคลียร์ หากมีสัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังเตรียมการโจมตีเกาหลีเหนือ โดยคำขู่ดังกล่าวของเกาหลีเหนือมีขึ้น ขณะที่กองเรือรบของสหรัฐกำลังแล่นเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก

                นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งในฝรั่งเศสก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการซื้อขายในตลาด โดยโพลล์ล่าสุดบ่งชี้ว่า นายฌอง-ลุค เมเลนชอน ซึ่งฝักใฝ่ในลัทธิสังคมนิยมและมีมุมมองในด้านลบต่อยูโรโซน พลิกกลับมามีคะแนนคู่คี่สูสีนายฟรองซัวส์ ฟิยง และนางมารีน เลอเปน

                หุ้นไดอะล็อก เซมิคอนดัคเตอร์ ร่วงลง 14% หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

                อย่างไรก็ตาม หุ้นหลุยส์ วิตตอง ขยับขึ้น 0.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเพิ่มขึ้น 15% ในไตรมาสแรกปีนี้

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 6.72 จุด วิตกภาวะตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี,ซีเรีย

            ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศได้ส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงหุ้น โดยรายงานล่าสุดระบุว่า เกาหลีเหนืออาจโจมตีสหรัฐด้วยนิวเคลียร์ หากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสหรัฐเตรียมการโจมตีเกาหลีเหนือ รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงระหว่างรัสเซียและสหรัฐ หลังจากสหรัฐระบุว่ารัสเซียให้การสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้

                ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,651.30 จุด ลดลง 6.72 จุด หรือ -0.03% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,353.78 จุด ลดลง 3.38 จุด หรือ -0.14% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,866.77 จุด ลดลง 14.15 จุด หรือ -0.24%

                นักลงทุนวิตกกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างประเทศอาจรุนแรงและบานปลาย หลังจากหนังสือพิมพ์โรดอง ซินมุน ของเกาหลีเหนือ รายงานว่า เกาหลีเหนืออาจทำการโจมตีสหรัฐด้วยระเบิดนิวเคลียร์ หากมีสัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังเตรียมการโจมตีเกาหลีเหนือ โดยเกาหลีเหนือจะไม่เพียงโจมตีฐานทัพสหรัฐในเกาหลีใต้ หรือในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่จะโจมตีแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐ

                ทั้งนี้ คำขู่ของเกาหลีเหนือดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่กองเรือรบของสหรัฐกำลังแล่นเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก

                นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกาหลีเหนือมักทำการทดสอบนิวเคลียร์เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น โดยในวันเสาร์นี้ จะเป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 105 ของนายคิม อิล ซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ และเป็นปู่ของนายคิม จอง อึน ผู้นำคนปัจจุบัน ส่วนในวันที่ 25 เม.ย. จะเป็นวันครบรอบ 85 ปีแห่งการก่อตั้งกองทัพประชาชนเกาหลี

                ส่วนความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและรัสเซียนั้น ล่าสุดนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐระบุว่า รัสเซียให้การสนับสนุนรัฐบาลของปธน.อัสซาด พร้อมกับยื่นคำขาดว่า รัสเซียจะต้องเลือกระหว่างการเป็นพันธมิตรกับสหรัฐและประเทศที่มีจุดยืนเหมือนกับสหรัฐ หรือจะยังคงสนับสนุนปธน.อัสซาดของซีเรีย รวมทั้งอิหร่าน และกลุ่มฮิสบอลลาห์

                ทางด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า ขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐกำลังถึงจุดที่ยากลำบากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดสงครามเย็น และคาดหวังว่าสหรัฐจะเห็นพ้องกับการให้นานาชาติทำการสอบสวนเกี่ยวกับการใช้อาวุธเคมีของซีเรีย

                หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิ้งส์ อิงค์ (UAL) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ร่วงลง 1.1% หลังจากมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอในโลกโซเชียลของเหตุการณ์ที่ชายชาวเอเชียคนหนึ่งกำลังถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 3 คนลากตัวลงจากเครื่องบินของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ที่ท่าอากาศยานโอแฮร์ ในชิคาโก ซึ่งสร้างความไม่พอใจในโลกโซเชียล

                หุ้นแอปเปิลปิดร่วงลง 1.1% หลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ สูญเสียตำแหน่งอันดับหนึ่งในฐานะแบรนด์ที่ดีที่สุดของนิตยสาร Laptop Magazine

                หุ้นซูเปอร์แวลู ทะยานขึ้น 5.5% หลังจากซูเปอร์แวลูประกาศซื้อกิจการยูนิไฟด์ โกรเซอร์ส ในวงเงิน 375 ล้านดอลลาร์

                นักวิเคราะห์จากเวดบุช ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า นอกเหนือจากประเด็นทางการเมืองระหว่างประเทศแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่ยังชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส, เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป ซึ่งจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพฤหัสบดีนี้

                นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน, อัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค., ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.พ.

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!