- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 11 April 2017 11:36
- Hits: 7192
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ทรงตัว-ซึมเล็กน้อยหลังเข้าใกล้ช่วงสงกรานต์,เล็งกลุ่มพลังงานหนุนหลังราคาน้ำมันขึ้นต่อ
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะทรง ๆ ตัว ถึงซึมได้เล็กน้อย เนื่องจากไทยก็ใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ นักลงทุนคงจะอยากที่จะไปเที่ยวก่อนและชะลอการลงทุน ดังนั้น โอกาสที่ดัชนีฯจะปรับตัวขึ้นไปก็ไม่มาก ส่วนการขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายปันผลก็ไม่ได้สร้างความกดดันมากแล้ว
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน โดยตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ คงจะปรับตัวขึ้นต่อ ซึ่งนอกประเทศเวลานี้นักลงทุนก็ได้ผ่อนคลายสถานการณ์ในซีเรียบ้างแล้ว ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯทรงตัว กระแสเงินก็ไม่ผันผวน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวขึ้นต่อ ทำให้เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
พร้อมให้กรอบการแกว่งตัวไว้ที่ 1,579-1,587 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (10 เม.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,658.02 จุด เพิ่มขึ้น 1.92 จุด (+0.01%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,880.93 จุด เพิ่มขึ้น 3.11 จุด (+0.05%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,357.16 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด (+0.07%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 80.33 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 3.17 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 18.69 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 1.01 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 4.09 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 1.43 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.17 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 1.96 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 เม.ย.60) 1,581.19 จุด ลดลง 2.34 จุด (-0.15%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 122.39 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 เม.ย.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (10 เม.ย.60) ปิดที่ 53.08 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.6%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 เม.ย..60) ที่ 6.42 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.60 จับตาความขัดแย้งสหรัฐ-ซีเรีย,ใกล้หยุดยาว กรอบ 34.55-34.65
- กกร.ห่วงสหรัฐขึ้น "แบล็คลิสต์" ไทยเกินดุลการค้า กระทบสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ อาหาร ชิ้นส่วนรถยนต์ อัญมณีเครื่องประดับไทยได้สิทธิจีเอสพี แนะภาครัฐประเมินเชิงลึก เตรียมข้อมูลเจรจาสหรัฐ พาณิชย์เตรียมถก "อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์" รับมือนโยบาย "ทรัมป์" เร่งสรุปมูลค่าลงทุนในไทยจากธุรกิจสหรัฐ หวังใช้เป็นข้อมูลแจงเหตุได้ดุลการค้า ชี้ 18% มาจากบริษัทสหรัฐ
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือน เม.ย. ซึ่งมองในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 90.33 จุด ปรับลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และอยู่ในเกณฑ์ทรงตัวเป็นเดือนที่ 2 เช่นกัน โดยลดลง 18.06% จากเดือนก่อนที่ 110.24 จุด
- ผอ.สศค.เผย อนุมัติใบอนุญาตทำธุรกิจพิโก้ไฟแนนซ์แล้ว 20 รายจาก 155 รายที่ยื่นขอมา แต่ยังมีอีก 20 จังหวัดที่ไม่มีผู้ยื่นขออนุญาตซึ่งส่วนใหญ่อยู่ทางภาคใต้ ย้ำ คลังยังจะเดินสายประชาสัมพันธ์ใน 20 จังหวัดนี้ต่อหวังกระตุ้นให้เจ้าหนี้นอกระบบยอมเข้าสู่ระบบ
- รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุม รมว.คลังอาเซียน ครั้งที่ 21 ระหว่างวันที่ 6-7 เม.ย. ที่ประเทศฟิลิปปินส์ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้ลงนามในพิธีสารฉบับที่ 2 ว่าด้วยการกำหนดที่ทำการพรมแดน ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าผ่านแดน ร่วมกับ 6 ประเทศสมาชิกอาเซียน คือ ฟิลิปปินส์ บรูไน ดารุสซาลาม อินโดนีเซีย สปป.ลาว สิงคโปร์ และเวียดนาม
*หุ้นเด่นวันนี้
- MM (บมจ.มัดแมน) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีราคาขาย IPO ที่ 5.25 บาท/หุ้น ด้านบล.เคทีบี (ประเทศไทย) ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 6.90 บาท คาดปี 2560 เข้าสู่การเติบโตที่แท้จริง
"มัดแมน" เป็นบริษัทย่อยของ บมจ. ทรัพย์ศรีไทย (SST) ที่เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจไลฟ์สไตล์ จึงนำ MM เข้าจดทะเบียนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และเพิ่มขีดความสามารถในการขยายธุรกิจในระยะยาวของ MM รวมถึงสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่ม SST
- CPF (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 33 บาท แนวโน้มผลประกอบการใน 1Q60 จะยังอ่อนตัวลง QoQ เนื่องจากธุรกิจหมูได้รับผลกระทบจากราคาหมูที่ลดลง ส่วนธุรกิจกุ้งยังเป็นช่วง Low Season บวกกับได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในภาคใต้ ซึ่งกระทบไปถึงธุรกิจอาหารกุ้งด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามเรามองว่าผลประกอบการที่อ่อนตัวเป็นเพียงช่วงสั้น และจะเห็นการฟื้นตัวในระยะถัดไป
- HMPRO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 12 บาท แนวโน้มกำไร 1Q60 ยังทำได้ดี แม้จะคาดว่า -11.7% Q-Q เพราะฤดูกาล แต่ +34.6% Y-Y จากการเปิดสาขาใหม่ งาน Expo และ Product mix ที่ทำได้ดีจากการเพิ่ม House Brand ชดเชย SSSG ที่ยังติดลบได้ กำไรจะดีต่อเนื่องใน 2Q60 และทำจุดสูงสุดใน 4Q60 โดยคาดกำไรสุทธิทั้งปี +13.3% Y-Y ราคาหุ้นปัจจุบันมี PE 27 เท่า แม้ PEG 2 เท่าจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม แต่อยู่ในค่าเฉลี่ยของ HMPRO เอง
- TU (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 26 บาท ยังคงมองกำไรเติบโต 14-19% ในปี 2560-2562 ธุรกิจมีการดำเนินงานที่ดีขึ้น 1) แซลมอนที่ มีปัญหาจากลานินญ่า เริ่มคลี่คลายและพลิกกลับมาคุ้นทุน 2) Red Robster มี high season ไตรมาส 1 คาดส่งผลกำไร 1Q60 จะโตดี 3) อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 14.8% มาที่ 15.2%-16.1% ในปี 2560-2562 มอง PE ที่ 16x ยังไม่แพง
ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ ขณะจับตาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนในสหรัฐจะทยอยเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส, เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป ซึ่งจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพฤหัสบดี
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,717.55 จุด ลดลง 80.33 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,266.22 จุด ลดลง 3.17 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,280.87 จุด เพิ่มขึ้น 18.69 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,881.53 จุด ลดลง 1.01 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,129.23 จุด ลดลง 4.09 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,180.02 จุด ลดลง 1.43 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,739.35 จุด ลดลง 0.17 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,615.95 จุด ลดลง 1.96 จุด
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน, อัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค., ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.พ.
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงเทขายหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 0.43 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) จากแรงฉุดของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลงกันถ้วนหน้า
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 0.43 จุด หรือ -0.01% ปิดที่ 7,348.94 จุด
นักวิเคราะห์ตลาดจากแอคเซนโด มาร์เก็ตส์ ระบุว่า ตลาดหุ้นหลายแห่งเคลื่อนไหวไร้ทิศทาง เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำจากข้อมูลเศรษฐกิจระดับมหภาคและรายงานผลประกอบการของภาคธุรกิจที่สำคัญ โดยก่อนหน้านี้ ดัชนีตลาดหุ้นที่สำคัญเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจำกัดจากแรงกดดันของปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความตึงเครียดมากขึ้น
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ โดยหุ้นริโอ ทินโต ขยับลง 0.2% หุ้นแองโกล อเมริกัน ลดลง 0.1% หุ้นเกลนคอร์ ลดลง 0.8% ขณะที่หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส และเฟรสนิลโล ผู้ผลิตแร่มีค่ารายใหญ่ ร่วงลง 2.4% และ 2.5% ตามลำดับ จากแรงกดดันของราคาทองคำที่ปรับตัวลง และหุ้นแอนโตฟากาสตา ร่วงลง 2.1%
หุ้นกลุ่มธนาคารที่น่าจับตา หุ้นบาร์เคลย์ส ขยับขึ้น 0.4% แม้มีรายงานว่า นายเจส สเตลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารกำลังถูกทางการตรวจสอบ
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง ถึงแม้ราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นราว 1% เมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่าลิเบียได้ปิดท่อส่งน้ำมันในบ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยหุ้นบีพี ขยับลง 0.2% และหุ้นรอยัล ดัตช์ เชลล์ ขยับลง 0.2%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกสถานการณ์ซีเรีย,เลือกตั้งฝรั่งเศส
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรีย หลังจากเอกอัครราชทูตถาวรของสหรัฐประจำสหประชาชาติกล่าวว่า การโค่นล้มระบอบการปกครองของปธน.บาชาร์ อัล-อัสซาด ถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญสูงสุดของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เลือกตั้งในฝรั่งเศส
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 381.25 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,107.45 จุด ลดลง 27.83 จุด หรือ -0.54% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,348.94 จุด ลดลง 0.43 จุด หรือ -0.01% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,200.52 จุด ลดลง 24.54 จุด, -0.20%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปยังคงซบเซา เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ซีเรีย หลังจากนางนิกกี ฮาลีย์ เอกอัครราชทูตถาวรของสหรัฐประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า การโค่นล้มระบอบการปกครองของปธน.อัสซาด ถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญสูงสุดของปธน.ทรัมป์
ด้านนายบอริส จอห์นสัน รมว.ต่างประเทศอังกฤษ กล่าวว่า อังกฤษจะทำการหารือเกี่ยวกับการออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อซีเรียและรัสเซีย ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่ม G7 ที่อิตาลี ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นในวันนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์เลือกตั้งในฝรั่งเศส โดยซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยบทวิเคราะห์เกี่ยวกับสถานการณ์การเลือกตั้งในฝรั่งเศส โดยคาดว่า นายเอมมานูเอล มาครอง จะคว้าชัยในสนามเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ว่า นายฟรองซัวส์ ฟิยง จะเป็นผู้คว้าชัย
รายงานของซิตี้กรุ๊ประบุว่า มีความเป็นไปได้ถึง 35% ที่นายมาครองจะคว้าชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส และความเป็นไปได้ 30% ที่นายฟรองซัวส์ ฟิยง จะได้รับชัยชนะ
หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ดีดตัวขึ้น 0.4% ขณะที่หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 2.2%
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : หุ้นพลังงานหนุนดาวโจนส์ปิดบวก 1.92 จุด ตลาดจับตาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน และจากการที่นักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรีย อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนจะทยอยเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,658.02 จุด เพิ่มขึ้น 1.92 จุด หรือ +0.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,357.16 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด หรือ +0.07% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,880.93 จุด เพิ่มขึ้น 3.11 จุด หรือ +0.05%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นทรานส์โอเชียน พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นเฮสส์ ทะยานขึ้น 4%
หุ้นโฮล ฟู๊ดส์ มาร์เก็ต พุ่งขึ้น 10% หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า จานา พาร์ทเนอร์ วางแผนที่จะเข้าซื้อหุ้นจำนวน 9% ในบริษัทโฮล ฟู๊ดส์ มาร์เก็ต
หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิ้งส์ ขยับขึ้น 0.9% ขณะที่หุ้นสวิฟท์ ทรานส์ปอร์ทเตชัน พุ่งขึ้น 24% หลังจากมีรายงานว่าสวิฟท์วางแผนที่จะควบรวมกิจการกับบริษัทไนท์ ทรานส์ปอร์ทเตชัน คิดเป็นมูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย หลังจากนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐไม่ได้มีเป้าหมายสำคัญในการโค่นล้มประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาดออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ นายทิลเลอร์สันกล่าวว่า สหรัฐได้มุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ในซีเรีย ไม่ใช่การโค่นล้มรัฐบาลของปธน.บาชาร์ อัล-อัสซาด
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์และดัชนีหลักตัวอื่นๆได้ปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการซื้อขาย ก่อนที่บริษัทจดทะเบียนจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส, เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป ซึ่งจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพฤหัสบดีนี้
นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน โดยตลาดการเงินจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับสัญญาณว่า เฟดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหรือน้อยลงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน, อัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค., ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.พ.
อินโฟเควสท์