WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซต์เวย์ เล็งแรงหนุนจากทริกเกอร์ ฟันด์ทยอยลงทุน

  นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซต์เวย์ ถึงไซต์เวย์ อัพ แม้ว่าปัจจัยจากต่างประเทศจะกดดัน จากความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศ ทั้งจากยูเครน, อิรัก และฉนวนกาซ่าด้วย

  อย่างไรก็ดี บ้านเราก็จะมีการพิจารณาเรื่องงบประมาณปี 2558 เป็นวาระแรกในการพิจารณา ซึ่งตลาดมองว่าเป็นผลดีเพราะเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า นอกจากนี้วันนี้จะเป็นวันแรกที่เม็ดเงินจากกองทุนทริกเกอร์ ฟันด์ ประมาณ 5-6 กองที่ได้ขายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเริ่มทยอยเข้ามาลงทุนในตลาดฯ

 ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคในเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,510-1,514 จุด ส่วนแนวต้าน 1,526-1,532 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(12 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,560.54 จุด ลดลง 9.44 จุด (-0.06%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,933.75 จุด ลดลง 3.17 จุด(-0.16%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,389.25 จุด ลดลง 12.08 จุด (-0.27%)

 - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 49.55 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 36.83 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 8.10 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.21 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.45 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.59 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.86 จุด

 - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(8 ส.ค.)1,520.31 จุด ลดลง 1.96 จุด(-0.13%)

 - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,114.49 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ส.ค.57

 - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(12 ส.ค.)ที่ 97.37 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 71 เซนต์

 - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(12 ส.ค.)ที่ 2.68 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 - เงินบาทเช้าเปิดที่ 32.02 จากแรงขายดอลล์-เงินไหลเข้า

  - "ประยุทธ์" ประชุมซูเปอร์บอร์ด ถกแนวทางแผนฟื้นฟู 6 รัฐวิสาหกิจขาดทุนเร่งด่วน สคร. เผยยังมีอีกหลายรัฐวิสาหกิจที่จะต้องเข้าสู่แผนฟื้นฟู "เอสเอ็มแบงก์" เน้น 4 ด้านฟื้นฟูยันไม่ลดพนักงาน-ปิดสาขา ด้านรฟท. เสนอรัฐรับภาระดอกเบี้ยปีละ 3 พันล้าน เตรียมนำที่ดิน 3 แปลงพัฒนาหารายได้ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร เสนอแยกบัญชีโครงการพื้นฐานและการเดินรถ

 - แบงก์ชาติเผยสถาบันการเงินปล่อยกู้ในระบบเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน 3.33 หมื่นล้านบาท สำหรับกลุ่มธุรกิจที่ได้สินเชื่อเพิ่ม พบอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลนำโด่ง 5.76 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจจัดหาที่อยู่อาศัย ขณะที่ธุรกิจขอสินเชื่อจากแบงก์ไปปล่อยกู้ต่อ รวมถึงธุรกิจประกันภัยได้รรับสินเชื่อลดลงถึง 1.19 แสนล้านบาท ภายในไตรมาสเดียว

 - รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เห็นชอบแนวทางการพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ให้เป็นวาระแห่งชาติ มั่นใจว่าในระยะยาว 3-5 ปีข้างหน้าจะมีส่วนสำคัญในการสร้างเอสเอ็มอีให้เข้มแข็งและผลักดันเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ และจะเป็นช่องทางสำคัญในการระดมทุนเพื่อแข่งขันในระดับสากล โดยเฉพาะการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558 จากปัจจุบันมีปัญหาเรื่องแหล่งที่มาของเงินทุนเนื่องจากสถาบันการเงินมีเงื่อนไขการกู้เงินที่เข้มงวดตามสภาพธุรกิจ

   - อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมยังคงตัวเลขเป้าหมายการส่งออกสินค้ายานยนต์ปีนี้ไว้ที่ 10% คิดเป็นมูลค่า 20,582.43 ล้านเหรียญสหรัฐ เช่นเดียวกับการส่งออกสินค้าชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนต์ที่ขยายตัว 10% หรือมูลค่า 13,183.94 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากแนวทางของอุตสาหกรรมยานยนต์มีทิศทางดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการที่บอร์ดบีโอไอเริ่มอนุมัติโครงการต่างๆ ที่ค้างอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มยานยนต์ที่มีการอนุมัติโครงการมาแล้วกว่าแสนล้านบาท และหากโครงการอีโคคาร์ 2 แล้วเสร็จจะช่วยให้ตลาดยานยนต์คึกคักมากขึ้น

*หุ้นเด่นวันนี้

  - AAV(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 5.20 บาท ผลงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q57 มีแนวโน้มเห็นภาพการฟื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญใน 2H57 และต่อเนื่องถึงปี 2558 คาดกำไรสุทธิจะทำได้ถึง 1.67 พันล้านบาท เติบโต 231% yoy จากปี 2557 คาด 3Q57 จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว หลัง Load Factor เดือนก.ค.เริ่มกลับมาที่ 81% บวกกับความคาดหวังเชิงบวกต่อการยกเลิกค่าธรรมเนียมวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีน-ไต้หวัน 3 เดือนนับตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.จะช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยว

 - MINT(ฟินันเซีย ไซรัส)กำไรสุทธิ 2Q14 แข็งแกร่งใกล้เคียงคาด ลดลง 57% Q-Q เพราะเป็น low season แต่โตสูงถึง 44% Y-Y ทั้งที่มีปัญหาการเมือง MINT ได้รับผลกระทบจำกัดเพราะกระจายความเสี่ยงของรายได้ไปยังธุรกิจโรงแรมต่างประเทศและธุรกิจอาหารถึง 50% ของรายได้รวม เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2014 โต 22% Y-Y และปรับกำไรปี 2015 ขึ้นเล็กน้อย 6% เป็นเติบโต 20% Y-Y คงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 40 บาท และยังคงเป็น Top pick ของกลุ่ม

 - SINGER(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 26 บาท กำไรสุทธิใน 2Q14 ลด 35% Q-Q และ 37% Y-Y แย่กว่าคาดถึง 25% จากรายได้ที่ต่ำกว่าคาด และค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าคาด อย่างไรก็ตาม พัฒนาการที่ดีขึ้นคือ NPL ลดลงเป็น 6.2% หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่เกือบ 7% ใน 1Q14 โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2014-15 ที่คาดโต 9% และ 17% ตามลำดับ

  - IFEC(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 6.65 บาท ปี 57 ตั้งไข่..ปีหน้าเติบโตจากธุรกิจพลังงานทางเลือก

  - BTS(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 11.20 บาท ปี 58 รถไฟฟ้า-โฆษณาหนุน หลังการเมืองนิ่ง ลุ้นเปิดประมูลรถไฟฟ้า

ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ หลัง GDP ญี่ปุ่นหดตัวจับตาผลประกอบการเอกชน

     ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของภาคเอกชน ขณะที่ญี่ปุ่นเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 หดตัว 6.8% เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่มีการขึ้นภาษีการบริโภค

            ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) เคลื่อนไหวเล็กน้อยที่ระดับ 146.59 จุด เมื่อเวลา 9.44 น.ตามเวลาโตเกียว

            ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,111.76 จุด ลดลง 49.55 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,726.24 จุด เพิ่มขึ้น 36.83 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,155.02 จุด ลดลง 8.10 จุด

            ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,046.68 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,298.80 จุด ลดลง 4.59 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,853.25 จุด เพิ่มขึ้น 2.86 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 0.40 จุด หลังพุ่งแรงวานนี้

            ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) หลังการทะยานขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์เมื่อวานนี้ โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง แม้หุ้นพรูเดนเชียลปรับตัวขึ้น

            ดัชนี FTSE 100 ลดลง 0.40 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 6,632.42 จุด

            หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของยุโรป ร่วงลง 1% หลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน

            ส่วนหุ้นพรูเดนเชียลดีดตัวขึ้น 2.2% เนื่องจากบริษัทรายงานว่าผลกำไรจากการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกพุ่งขึ้นเกินคาด

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : วิตกสถานการณ์ยูเครน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

            ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง รวมถึงบริษัทเฮงเคล

            ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 328.74 จุด

            ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,162.16 จุด ลดลง 35.54 จุด หรือ -0.85% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,069.47 จุด ลดลง 111.27 จุด หรือ -1.21% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,632.42 จุด ลดลง 0.40 จุด หรือ -0.01%

            ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครน หลังจากสำนักข่าวอิทาร์-ทาสรายงานว่ารัฐบาลรัสเซียได้ส่งรถบรรทุกจำนวน 280 คันมุ่งหน้าไปทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงอาหาร ยา และน้ำดื่ม

            อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตุการณ์ทางการเมืองกังวลว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัสเซียอาจจะเป็นการแทรกซึมกิจการภายในของยูเครน

            หุ้นเฮงเคล ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์รายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 5.3% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังจากชะลอตัวลง อันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในยูเครนและตะวันออกกลาง

            หุ้น Hargreaves Lansdown ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่ของอังกฤษ ดิ่งลง 2.9% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

            นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศยุโรปในวันนี้ โดยเยอรมนีและฝรั่งเศสจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. ขณะที่อังกฤษจะเปิดเผยตัวเลขว่างงานเดือนก.ค. และสหภาพยุโรปจะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 9.44 จุด เหตุวิตกสถานการณ์อิรัก,ยูเครน

            ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองในยูเครนและอิรัก นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ค.ในวันพุธนี้

            ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,560.54 จุด ลดลง 9.44 จุด หรือ -0.06% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,389.25 จุด ลดลง 12.08 จุด หรือ -0.27% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,933.75 จุด ลดลง 3.17 จุด หรือ -0.16%

            ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากทางการสหรัฐไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในวันอังคาร และฤดูการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเอกชนกำลังจะสิ้นสุดลง ดังนั้น นักลงทุนจึงหันมาจับตาสถานการณ์ในต่างประเทศ รวมถึงความขัดแย้งทางการเมืองในยูเครนและอิรัก

            สำหรับสถานการณ์ในอิรักนั้น ประธานาธิบดีฟูอัด มัสซูม แห่งอิรัก ได้ประกาศแต่งตั้งนายไฮดาร์ อัล-อาบาดี เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่และจะจัดตั้งรัฐบาลในสัปดาห์หน้า ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวได้รับการขานรับจากสหรัฐและสหประชาชาติ แต่ถูกคัดค้านจากนายนูรี อัล-มาลิกี นายกรัฐมนตรีคนก่อนที่อยู่ในอำนาจมานานถึง 8 ปี

            หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันเบรนท์ โดยหุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี ร่วงลง 2.4% หุ้นคินเดอร์ มอร์แกน ร่วงลง 1.6% และหุ้นไพโอเนียร์ รีซอสเซส ปรับตัวลง 2%

            หุ้นอินเตอร์เซพ ฟาร์มาซูติคอล พุ่งขึ้น 17% ขณะที่หุ้นนิวมอนท์ ไมนิง ดีดตัวขึ้น 2%

            นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนในสัปดาห์นี้ รวมถึงบริษัทค้าปลีกรายใหญ่อย่างวอล-มาร์ท ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทเอกชนจะออกมาแข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วย

            นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ โดยในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค. และจากนั้นในเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย สหรัฐจะเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ส.ค.2557

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,560.54 จุด                         ลดลง 9.44 จุด        -0.06%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,389.25 จุด                        ลดลง 12.08 จุด       -0.27%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,933.75 จุด                        ลดลง 3.17 จุด        -0.16%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,632.42 จุด                      ลดลง 0.40 จุด        -0.01%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,069.47 จุด                           ลดลง 111.27 จุด      -1.21%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,162.16 จุด                        ลดลง 35.54 จุด       -0.85%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,163.12 จุด                          ลดลง 9.79 จุด        -0.11%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,161.31 จุด                      เพิ่มขึ้น 30.79 จุด      +0.20%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,041.47 จุด                        เพิ่มขึ้น 2.10 จุด       +0.10%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,523.10 จุด             เพิ่มขึ้น 73.70 จุด      +1.35%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,530.30 จุด                เพิ่มขึ้น 73.30 จุด      +1.34%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,221.59 จุด                     ลดลง 3.06 จุด        -0.14%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,983.49 จุด                 เพิ่มขึ้น 26.83 จุด      +0.39%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,689.41 จุด                           เพิ่มขึ้น 43.39 จุด      +0.18%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,132.40 จุด           เพิ่มขึ้น 19.16 จุด      +0.37%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,303.39 จุด                      ลดลง 3.06 จุด        -0.09%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,850.39 จุด                      เพิ่มขึ้น 1.07 จุด       +0.06%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,880.77 จุด                        เพิ่มขึ้น 361.53 จุด     +1.42%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองในยูเครนและอิรัก นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ค.ในวันพุธนี้

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,560.54 จุด ลดลง 9.44 จุด หรือ -0.06% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,389.25 จุด ลดลง 12.08 จุด หรือ -0.27% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,933.75 จุด ลดลง 3.17 จุด หรือ -0.16%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง รวมถึงบริษัทเฮงเคล

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 328.74 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,162.16 จุด ลดลง 35.54 จุด หรือ -0.85% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,069.47 จุด ลดลง 111.27 จุด หรือ -1.21% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,632.42 จุด ลดลง 0.40 จุด หรือ -0.01%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) หลังการทะยานขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์เมื่อวานนี้ โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง แม้หุ้นพรูเดนเชียลปรับตัวขึ้น

          ดัชนี FTSE 100 ลดลง 0.40 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 6,632.42 จุด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองในยูเครนและในอิรักอย่างใกล้ชิด

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 1,310.6 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 19 เซนต์ ปิดที่ 19.905 ดอลลาร์/ออนซ์

          ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ ปิดที่ 1,472.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 3.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 878.00 ดอลลาร์/ออนซ์

            สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2557

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 71 เซนต์ ปิดที่ 97.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.66 ดอลลาร์ ปิดที่ 103.02 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2556

            ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเทียบยูโรเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) หลังจากความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของนักลงทุนเยอรมนีอ่อนแรงลงในเดือนส.ค.      

          ค่าเงินยูโรร่วงลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3368 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3383 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6811 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6786 ดอลลาร์

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 102.23 เยน เทียบกับระดับ 102.18 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9077 ฟรังค์ จากระดับ 0.9065 ฟรังค์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9276 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9262 ดอลลาร์สหรัฐ

            ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 836.00 จุด เพิ่มขึ้น 44.00 จุด, +5.56%

                อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!