WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET64ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบไร้ปัจจัยใหม่ เชื่อหลังสงกรานต์ Fund Flow ไหลเข้าชัดเจนขึ้น

     นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบเหตุยังไร้ปัจจัยใหม่ โดยเชื่อแม้ Fund Flow ยังไหลเข้าแต่จะเข้ามาชัดเจนหลังเทศกาลสงกรานต์และการเลือกตั้งชัดเจนก็จะขึ้นด้วย แนะติดตามการประกาศงบไตรมาส 1/60 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐคืนนี้

       นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งแคบ เนื่องจากไม่มีปัจจัยให้ตื่นเต้น อย่างไรก็ดี เชื่อว่ายังมี Fund Flow ไหลเข้า แต่น่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนหลังจากเทศกาลสงกรานต์ผ่านไปแล้ว เช่นเดียวกับความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งครั้งใหม่ของไทยด้วย แนะนำติดตามงบไตรมาส 1/60 กลุ่มแบงก์ที่ใกล้จะประกาศออกมาแล้ว.

      ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้แกว่งแคบ ขณะที่ตลาดฯ ยังรอติดตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่จะประกาศในคืนวันนี้

    พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,590 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 เม.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,662.95 จุด เพิ่มขึ้น 14.80 จุด (+0.07%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,878.95 จุด เพิ่มขึ้น 14.47 จุด (+0.25%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,357.49 จุด เพิ่มขึ้น 4.54 จุด (+0.19%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 117.92 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง0.39 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 26.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง4.82 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.37 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.26 จุด และดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 5.67 จุด

       - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 เม.ย.60) 1,582.12 จุด ลดลง 1.70 จุด (-0.11%)

      - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 370.28 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 เม.ย.60

       - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 เม.ย.60) ปิดที่ 51.70 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.1%

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด ( 5 เม.ย..60) ที่ 6.76 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 34.64 จับตาผู้นำสหรัฐฯ-จีนเจรจา,ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ

      - สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพระราชพิธี ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 ทรงขอคนไทยร่วมกันคงไว้ซึ่งประชาธิปไตย ด้านนายกฯ แจงโรดแมพเดินหน้ากำหนดยุทธศาสตร์ชาติควบคู่การปฏิรูป ชี้รัฐบาลจบภารกิจหลังเลือกตั้ง ด้าน"วิษณุ"เผยจากนี้แม่น้ำ 5 สายทยอยยุติบทบาท ระบุรัฐธรรมนูญใหม่เพิ่มสิทธิเสรีภาพประชาชน

      -  พรรคการเมืองใหญ่ยืนยันพร้อมลงสนามเลือกตั้งตามกติกา รธน.ใหม่ ประสานเสียงร้องขอ คสช.ปลดล็อกเดินหน้าทำกิจกรรมการเมือง "ภูมิใจไทย"ปัดข่าวสปท.-ทหารร่วมพรรค ขณะที่"เพื่อไทย"ห่วงคำสั่ง ม.44 กระทบการทำงานรัฐบาลใหม่"มีชัย"โต้นักวิชาการยืนยันเลือกตั้งไม่ทันปี 60 แต่ไม่ลากยาวไปจนถึงปี 62 ระบุแม้ไม่ผ่านสนช.จะแก้ไขเฉพาะประเด็นใช้เวลาไม่นาน

       - "วิกรม"ระบุอีอีซีประสบความสำเร็จหากทำได้จริงตามแผน เชื่อนักลงทุนกลับมามองไทยน่าสนใจ ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน 1.5 ล้าน ล้านบาทและความต่อเนื่อง ด้าน "คณิศ" เตรียมชงบอร์ด อีอีซีครั้งหน้า เพิ่มเขตส่งเสริมเพิ่ม 3 แห่ง "ท่าเรือ-เมดิคัลฮับ อุตฯป้องกันประเทศ" ขณะกนอ.จับมือสอท.ศึกษาตั้ง นิคมฯ New S-Curve อีก 1-2 พันไร่ รองรับอุตฯแบตเตอรี่และชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า

      - แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทรถยนต์ที่ผลิตรถยนต์ อีโคคาร์ได้เสนอให้กรมสรรพสามิตลดภาษีรถยนต์อีโคคาร์ให้ต่ำลง รวมถึงขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมผ่อนผันเงื่อนไขการผลิตรถยนต์ เช่น อนุญาตให้เพิ่มขนาดรถยนต์ให้ใหญ่ขึ้น เพื่อจูงใจการลงทุนเพิ่ม

    - นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) เปิดเผยว่า ผลกระทบต่อการส่งออกไทยไปยังสหรัฐจะไม่มากจนน่าตกใจ หากสหรัฐสอบสวนการขาดดุลการค้ากับ 16 ประเทศ รวมทั้งไทย เพราะสินค้าที่ส่งออกโดยตรงบางอย่างไม่สามารถหาแหล่งผลิตทดแทนได้ และซื้อจากไทยราคาดีที่สุด

*หุ้นเด่นวันนี้

     - CPF (เคทีบี) แนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 37.00 บาท มองมีความน่าสนใจจากการเติบโตผ่านการเข้าซื้อกิจการมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจในประเทศพัฒนาแล้ว ทำให้ไม่ต้องเผชิญมาตรการกีดกันทางการค้าเพิ่มขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาลงทุนและสร้างแบรนด์ แม้ปีที่ผ่านมาบริษัทจะมีการซื้อกิจการในระดับที่มากกว่าปกติ แต่เราคาดจะยังเห็นการเติบโตผ่านการเข้าลงทุนในอนาคตอันสั้นเพิ่มเติมอีกได้ มองแนวโน้มกำไรที่ทรงตัวต่ำเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้แล้ว ขณะที่อุตสาหกรรมเองผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ราคาสุกรเริ่มทรงตัว ขณะที่การเลี้ยงกุ้งดีขึ้นใน Q1/60 คาดรับผลบวกไก่ส่งออกตั้งแต่ Q3/60 เป็นต้นไป

     - TISCO (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะนำ"ซื้อ"ราคาพื้นฐาน 78 บาท เป็นหนึ่งใน Top pick ในกลุ่มธนาคารของเราในปีนี้ คาดกำไรจะยกฐานขึ้นตั้งแต่ Q1/60 เป็นต้นไป โดยจะทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1,356 ล้านบาท +5% Q-Q, +8% Y-Y จากการตั้งสำรองลดลง Loan Yield ดีขึ้นและต้นทุนการเงินยังอยู่ในระดับต่ำ แนวโน้มกำไรจะดีขึ้นอีกใน H2/60 หลังรวมธุรกิจสินเชื่อรายย่อยจาก STNB

       - CPN (ไอร่า) แนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 69 บาท คาดปี 60 ยังโตได้ดีต่อเนื่อง รายได้และกำไรสุทธิ 29,643 ล้านบาท และ 10,087 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% และ 9% ตามลำดับ เข้าร่วมพัฒนาโครงการร่วมทุน Mixed-Use กับ ดุสิตธานี บนพื้นที่ 23 ไร่ เป็นบวกในระยาว จากทำเลกลางใจเมือง คาดช่วยขยายพอร์ตโครงการใน กทม.ที่เริ่มมีพื้นที่ที่จำกัด และยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการจากแผนโครงการยังไม่ชัดเจน เบื้องต้นคาดจะใช้เงินลงทุนราว 17,393 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จปี 67

ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ นักลงทุนจับตา ทรัมป์ พบ สี จิ้นผิง

        ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันนี้

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,714.98 จุด เพิ่มขึ้น 117.92 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,280.62 จุด ลดลง 0.39 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,247.01 จุด ลดลง 26.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,892.98 จุด ลดลง 4.82 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,154.87 จุด เพิ่มขึ้น 2.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,171.22 จุด ลดลง 4.37 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,740.82 จุด เพิ่มขึ้น 1.26 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,559.65 จุด ลดลง 5.67 จุด

       นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การพบปะกันระหว่างปธน.สี จิ้นผิง และปธน.ทรัมป์ จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 6-7 เม.ย.ตามเวลาสหรัฐ ณ รีสอร์ท Mar-a-Lago เมืองปาล์มบีช ในรัฐฟลอริดา ซึ่งมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ปธน.สีและปธน.ทรัมป์จะหารือกันในประเด็นการค้า รวมถึงประเด็นนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

     การประชุมผู้นำของ 2 ชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐและจีนนั้น ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งให้กระทรวงพาณิชย์และผู้แทนการค้าสหรัฐ เร่งหาสาเหตุที่ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้ามูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ จาก 16 ประเทศ ซึ่งรวมถึงการขาดดุลการค้ากับจีน

       นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค. ในวันนี้ ขณะที่โพลล์สำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมี.ค.จะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 235,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 28.48 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณเริ่มปรับลดขนาดงบดุลบัญชี

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) หลังจากที่ปิดบวกต่อเนื่องสองวันทำการก่อนหน้านี้ สืบเนื่องจากแรงกดดันหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณที่จะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลบัญชีลงในปีนี้

      ดัชนี FTSE 100 ลดลง 28.48 จุด หรือ -0.39% ปิดที่ 7,303.20 จุด

      ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลงเมื่อวานนี้ ภายหลังจากเฟดได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 14-15 มี.ค. ซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ต้องการให้เฟดเริ่มปรับลดขนาดงบดุลบัญชีลงจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ หากเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงเป็นไปตามการคาดการณ์

      นักลงทุนบางส่วนยังระมัดระวังการซื้อขายเพื่อจับตาดูการประชุมระดับผู้นำระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ซึ่งจัดขึ้นที่รีสอร์ท Mar-a-Lago ในรัฐฟลอริดา

       หุ้นจดทะเบียนรายใหญ่ที่น่าจับตา หุ้นอีซีเจ็ท พุ่งขึ้น 4.2% หลังสายการบินราคาประหยัดดังกล่าวเปิดเผยว่า จำนวนผู้โดยสารของสายการบินพุ่งขึ้น 7.3% ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

       หุ้นยูนิลีเวอร์ เพิ่มขึ้น 1% หลังบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ได้ประกาศแผนซื้อหุ้นกลับคืนมูลค่า 5 พันล้านยูโรในปีนี้ และเตรียมจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น 12% ตามแผนปรับกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ หลังจากยูนิลีเวอร์ได้ปฏิเสธข้อเสนอขอซื้อกิจการจากบริษัทคร๊าฟท์ ไฮน์ซ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารรายใหญ่ของสหรัฐ ด้วยวงเงิน 1.43 แสนล้านดอลลาร์

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย เหตุนลท.ชะลอเทรดก่อน ทรัมป์ พบ สี จิ้นผิง

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) โดยบรรยากาศการซื้อขายค่อนข้างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่การพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 6-7 เม.ย.ตามเวลาสหรัฐ ณ รีสอร์ท Mar-a-Lago ในรัฐฟลอริดา นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในคืนนี้

       ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 380.77 จุด

       ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,303.20 จุด ลดลง 28.48 จุด หรือ -0.39% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,230.89 จุด เพิ่มขึ้น 13.35 จุด หรือ +0.11% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,121.44 จุด เพิ่มขึ้น 29.59 จุด หรือ +0.58%

       หุ้นยูนิลีเวอร์ ปรับตัวขึ้น หลังจากบริษัทประกาศแผนการซื้อคืนหุ้นในปีนี้ และมีแผนที่จะเพิ่มการจ่ายเงินปันผล 12%

       หุ้นบีจีที ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่ของยุโรป ดีดตัวขึ้น 2.5% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2560

       อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดส่วนใหญ่ปิดในแดนบวก แต่บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย ก่อนที่การพบปะกันระหว่างปธน.สี จิ้นผิง และปธน.ทรัมป์ จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 6-7 เม.ย.ตามเวลาสหรัฐ ณ รีสอร์ท Mar-a-Lago เมืองปาล์มบีช ในรัฐฟลอริดา ซึ่งมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ปธน.สีและปธน.ทรัมป์จะหารือกันในประเด็นการค้า รวมถึงประเด็นนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

        การประชุมผู้นำของ 2 ชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐและจีนนั้น ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งให้กระทรวงพาณิชย์และผู้แทนการค้าสหรัฐ เร่งหาสาเหตุที่ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้ามูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ จาก 16 ประเทศ ซึ่งรวมถึงการขาดดุลการค้ากับจีน

       นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค. ในวันนี้ ขณะที่โพลล์สำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมี.ค.จะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 235,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 14.80 จุด ตลาดจับตา ทรัมป์ พบ สี จิ้นผิง

      ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ซึ่งบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันนี้ และก่อนการพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ซึ่งจะจัดขึ้นที่รีสอร์ท Mar-a-Lago ในรัฐฟลอริดา

       ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,662.95 จุด เพิ่มขึ้น 14.80 จุด หรือ +0.07% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,357.49 จุด เพิ่มขึ้น 4.54 จุด หรือ +0.19% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,878.95 จุด เพิ่มขึ้น 14.47 จุด หรือ +0.25%

       ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 เม.ย. ปรับตัวลดลง 25,000 ราย สู่ระดับ 234,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะอยู่ที่ 250,000 ราย โดยข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนซึมซับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 14-15 มี.ค. ซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ต้องการให้เฟดเริ่มปรับลดขนาดงบดุลบัญชีลงจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ หากเศรษฐกิจยังคงเป็นไปตามการคาดการณ์

     หุ้นซันโนโก้ พุ่งขึ้น 20% หลังจากบริษัทเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นเจ้าของเครือข่ายร้านค้าสะดวกซื้อ "เซเว่น อีเลฟเว่น" ระบุว่า ทางบริษัทจะเข้าซื้อร้านค้ากว่า 1 พันแห่งของซันโนโก้ ซึ่งเป็นสถานีบริการน้ำมันและร้านค้าสะดวกซื้อของสหรัฐ ในวงเงิน 3.3 พันล้านดอลลาร์

      หุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกดีดตัวขึ้น โดยหุ้นโคล์ท คอร์ป พุ่งขึ้นกว่า 2% หุ้นเบด บาร์ธ แอนด์ บียอนด์ พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นแอล แบรนด์ ทะยานขึ้น 11%

    อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การพบปะกันระหว่างปธน.สี จิ้นผิง และปธน.ทรัมป์ จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 6-7 เม.ย.ตามเวลาสหรัฐ ณ รีสอร์ท Mar-a-Lago เมืองปาล์มบีช ในรัฐฟลอริดา ซึ่งมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ปธน.สีและปธน.ทรัมป์จะหารือกันในประเด็นการค้า รวมถึงประเด็นนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

      การประชุมผู้นำของ 2 ชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐและจีนนั้น ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งให้กระทรวงพาณิชย์และผู้แทนการค้าสหรัฐ เร่งหาสาเหตุที่ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้ามูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ จาก 16 ประเทศ ซึ่งรวมถึงการขาดดุลการค้ากับจีน

        นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค. ในวันนี้ ขณะที่โพลล์สำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมี.ค.จะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 235,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!