WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET9โบรกฯ คาดพรุ่งนี้ SET ผันผวน จับตาผลโหวตกฎหมายสาธารณสุขสหรัฐฯคืนนี้ แนะเก็งกำไร หรือสะสมหุ้นพื้นฐาน

    โบรกฯ คาดพรุ่งนี้หุ้นไทย จะบวกหรือลบ ขึ้นอยู่กับผลโหวต พรบ. สาธารณสุขสหรัฐฯ ในคืนนี้ แนะเก็งกำไรระยะสั้นเน้นตั้งรับ ส่วนเล่นยาวเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน

    นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากวันก่อนปรับตัวลงตามดัชนีดาวโจนส์ที่ร่วงแรงกว่า 1% แต่เมื่อดัชนีดาวโจนส์ฟื้นตัว ตลาดหุ้นเอเชียรวมถึงหุ้นไทยจึงฟื้นตัวตามไปด้วย แต่ที่ดัชนีฯ บวกได้ไม่แรง เพราะยังต้องรอผลการโหวต พรบ. สาธารณสุข ของโดนัล ทรัมป์ ในคืนนี้

      ทั้งนี้ การโหวตพรบ. สาธารณสุข ของโดนัล ทรัมป์ ในรัฐสภาสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าเสียงโหวตค่อนข้างก้ำกึ่งว่าจะรับหรือไม่รับ ซึ่งหากโหวตไม่รับ จะทำให้รัฐบาลทรัมป์เสียความเชื่อมั่นพอสมควร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อนโยบายการลดภาษีที่ตลาดฯ ตอบรับไปแล้วล่วงหน้า เพราะพรบ. สาธารณสุข ระบุงบประมาณที่เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณรวม ที่รวมเรื่องนโยบายภาษีและการลงทุนพื้นฐานเอาไว้ด้วย

        "ร่างพรบ. นี้ ระบุงบประมาณ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงบใหญ่ที่รวมเรื่องภาษีธุรกิจและกาลงทุนพื้นฐานต่าง ๆ ถ้าไม่ผ่านก็จำเป็นต้องไปปรับแก้กันใหม่ ก็จะถูกเลื่อนหมด" นายวรุตม์กล่าว

     ส่วนการทำ Window dressing สำหรับปิดงวดบัญชี Q1/60 มองว่ามีความจำเป็นน้อยลงเมื่อเทียบกับอดีต เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีที่เติบโตรวดเร็วเอื้อให้ผู้จัดการกองทุนจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ฉะนั้น อาจจะพอมีอยู่ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามากน้อยเพียงใด

  สำหรับ พรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยจะบวกหรือลบขึ้นอยู่กับผลโหวตพรบ. สาธารณสุข ของสหรัฐฯ ในคืนนี้ หากโหวตผ่านดัชนีฯ มีโอกาสพุ่งแรง แต่ถ้าไม่ผ่านก็มีโอกาสลงแรงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม พรรครีพลับริกันอาจจะไม่โหวตหรือเลื่อนการโหวตออกไป เพราะถ้าฝ่ายรีพลับรีกันโหวตไม่ผ่านเกิน 20 คน จะเป็นปัญหาใหญ่ เพราะฝ่ายเดโมแครตทั้งหมดน่าจะโหวตให้ไม่ผ่านแน่นอน ซึ่งถ้าเลื่อนออกไปจะก่อให้เกิดปัญหาคารังคาซัง จะทำให้ดัชนีฯ ไม่ไปไหน ซึ่งยังไม่สามารถประเมินกรอบแนวรับ - ต้านได้

  ด้านกลยุทธ์ สำหรับการเก็งกำไร เน้นตั้งรับ รอซื้อเมื่ออ่อนตัว ส่วนการซื้อลงทุนระยะยาว เป็นจังหวะของการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!