- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 24 November 2016 10:15
- Hits: 2685
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนลงตามภูมิภาควิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยส่งผลดอลลาร์แข็ง-กดดัน Fund Flow
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะอ่อนตัวลง ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า เป็นการรับข่าวเต็มที่หลังจากที่มีรายงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ช่วงวันที่ 1-2 พ.ย.ออกมาเมื่อคืนนี้ แสดงให้เห็นความน่าจะเป็นที่ขึ้นถึง 100% แล้วที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่ามากตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่เงินบาทก็อ่อนค่า ทำให้ Fund Flow กลับมาไหลออกอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี มองว่าในวันพรุ่งนี้หรือสัปดาห์หน้าหลังจากที่ตลาดฯตอบรับเรื่องเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเต็มที่แล้ว เงินดอลลาร์สหรัฐฯก็อาจจะถูก take profit ออกมาได้ และนักลงทุนต่างชาติก็อาจจะกลับมาซื้อได้เช่นกัน
สำหรับ ตลาดหุ้นไทยก็ยังมีปัจจัยหนุนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯที่ออกมา และกำลังจะออกมาเพิ่มเติมอีก รวมถึงความคืบหน้าการลงทุนของภาครัฐฯ
พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,485-1,500 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (23 พ.ย.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,083.18 จุด เพิ่มขึ้น 59.31 จุด (+0.31%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,380.68 จุด ลดลง 5.67 จุด (-0.11%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,204.72 จุด เพิ่มขึ้น 1.78 จุด (+0.08%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 166.84 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.71 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 101.87 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 13.39 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.84 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.29 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.01 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 10.43 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 พ.ย.59) 1,496.36 จุด เพิ่มขึ้น 10.68 จุด (+0.72%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 713.53 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 พ.ย.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (23 พ.ย.59) ปิดที่ 47.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 พ.ย.59) ที่ 7.65 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.73 อ่อนค่าจากเย็นวานนี้ หลังดอลลาร์แข็งตอบรับข้อมูลศก.สหรัฐดี
- นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในปี 59 โดดเด่นทั้งปีสร้างผลตอบแทนสูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียนที่ 15% รวมทั้งมีสภาพคล่องเป็นอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นปีที่ 5 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยปีนี้ที่ 53,443 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 5.2 หมื่นล้านบาท และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดจากการระดมทุนของหุ้นใหม่ที่จดทะเบียนเข้าตลาด หลักทรัพย์ฯ (ไอพีโอ) สูงสุด
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยกเลิกการจัดเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะยาว เช่น ตลาดจีน อินเดีย ไต้หวัน มาเก๊า ฯลฯ ซึ่งเป็นมาตรการต่อเนื่องจากการยกเว้นค่าวีซ่าระยะเวลา 3 เดือน ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา
- นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกรถยนต์ในเดือน ต.ค. 2559 อยู่ที่ 1.03 แสนคัน ลดลง 7.23% เทีบบกับ ต.ค. 2558 มีมูลค่าส่งออก 5.39 หมื่นล้านบาท ลดลง 10.11% สาเหตุมาจากการส่งออกใน ตลาดสำคัญปรับตัวลดลง เช่น ตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกากลาง และอเมริกาใต้
- ร.ฟ.ท.เล็งขยายเวลาสัญญาสายสีแดง หลังล่าช้ากว่าแผน 400 วัน อ้างติดปัญหาเวนคืนที่ดิน มั่นใจไม่กระทบภาพรวมยังเปิดเดินรถได้ตามแผน มิ.ย.63 ด้าน"อาคม"ยันถ้า กทม.ไม่จ่ายให้ รฟม.เดินรถสายสีเขียวเอง
- คลังแจงแจกเงินคนรายได้น้อยไม่หวังผลต่อจีดีพี ต้องการให้ความช่วยเหลือครอบคลุมทุกกลุ่ม เล็งออกมาตรการเพิ่มอีกก่อนสิ้นปี เพื่อพยุงเศรษฐกิจระยะสั้น ด้านเอกชนมองเศรษฐกิจไทยปีหน้าเผชิญการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและธุรกิจ แนะปรับตัวตั้งรับ
*หุ้นเด่นวันนี้
- VNG (ไอร่า) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 18 บาท มีการปรับสายการผลิต PB บางส่วนไปเป็น MDF คาดแล้วเสร็จ 4Q/59 ส่งผลกำลังการผลิต MDF เพิ่มจาก 0.87 ล้านลบม.เป็น 1.17 ล้านลบม.และผลิต PB ลดลงจาก 1.14 ล้านลบม.เป็น 0.84 ล้านลบม.คาดส่งผลดีความสามารถการทำกำไร โดยเฉพาะอัตรากำไรขั้นต้น MDF เฉลี่ย 34% สูงกว่า PB ที่เฉลี่ย 25% และมีแผนเข้าประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวล พร้อมคาดปี 60 ผลงานมีโอกาสทำนิวไฮภายใต้การรับรู้กำลังการผลิตเต็มที่ ทั้ง MDF และ Laminate Flooring เพิ่มขึ้น 24% และ 19% ตามลำดับ และคาดกำไรสุทธิ 1,884 ล้านบาท โต 24% หรือ 1.20 บาท/หุ้น
- CK (แอพเพิล เวลธ์) "ซื้อ"เป้า 38 บาท Backlog ณ สิ้น 3Q59 อยู่ที่ 7.1 หมื่นล้านบาท โดยหาก BEM ชนะสัมปทานส่วนต่อขยายสีน้ำเงินจะส่งดัน Backlog เพิ่มขึ้นสู่ 9.6 หมื่นล้านบาท รองรับรายได้ราว 3-5 ปี ส่วนทิศทางจนถึงสิ้นปี 60 ยังโตได้ดีตามการประมูลโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม 1.10 แสนล้านบาท คาดเซ็นสัญญา Q1/60, สายสีเหลือง 5.19 หมื่นล้านบาท และสายสีชมพู 5.35 หมื่นล้านบาท คาดเซ็นสัญญา Q2/60 อีกทั้งมีรถไฟทางคู่อีก 5 เส้นทาง รวม 1.0 แสนล้านบาท คาดทยอยเปิดประมูล Q4/59-Q1/60
ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ เหตุวิตกประชุมโอเปกคว้าน้ำเหลว
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจว่าที่ประชุมโอเปกจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตน้ำมัน แม้ว่าอิรักส่งสัญญาณพร้อมที่จะลดกำลังการผลิตก็ตาม
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,329.78 จุด เพิ่มขึ้น 166.84 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,237.43 จุด ลดลง 3.71 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,574.82 จุด ลดลง 101.87 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,164.84 จุด ลดลง 13.39 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,985.11 จุด ลดลง 2.84 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,834.40 จุด ลดลง 5.29 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,629.37 จุด ลดลง 1.01 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 6,847.07 จุด เพิ่มขึ้น 10.43 จุด
นายไฮเดอร์ อัล-อาบาดี นายกรัฐมนตรีอิรัก กล่าวเมื่อวานนี้ว่า อิรักมีความพร้อมที่จะปรับลดการผลิตน้ำมันดิบตามแผนการของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการลดปริมาณน้ำมันในตลาด และผลักดันราคาน้ำมันให้ดีดตัวขึ้น
ท่าทีของผู้นำอิรักได้เปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้านี้ซึ่งเรียกร้องให้อิรักได้รับการยกเว้นจากมาตรการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยระบุว่าอิรักจำเป็นต้องมีรายได้จากการจำหน่ายน้ำมันเพื่อนำไปต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (IS)
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 2.01 จุด หลังอังกฤษปรับลดคาดการณ์ศก.
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) หลังจากนายฟิลิป แฮมมอนด์ คาดว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 2.01 จุด หรือ 0.03% แตะที่ 6,817.71 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลง หลังจากที่นายแฮมมอนด์กล่าวในการแถลงนโยบายเศรษฐกิจเป็นครั้งแรกว่า รัฐบาลอังกฤษจำเป็นต้องกู้เงินเพิ่มในช่วงอีก 5 ปีข้างหน้า พร้อมกับคาดว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะขยายตัวในอัตรา 1.4% ในปีหน้า ไม่ใช่ 2.2% ดังที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
หุ้นฟอกซ์ตัน กรุ๊ป ซึ่งเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ร่วงลง 14% หลังจากรัฐบาลอังกฤษมีคำสั่งห้ามไม่ให้บริษัทเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้เช่า
หุ้นเนชั่นแนล เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากนายแฮมมอนด์ระบุว่า อังกฤษจะลงทุนเพิ่มอีก 1.1 พันล้านปอนด์ในเครือข่ายการขนส่งในภูมิภาค
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ หลังหุ้นธนาคารผันผวน
ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวผันผวน อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากรายงานที่ว่า ดัชนี PMI เดือนพ.ย.ของยูโรโซนพุ่งแตะระดับสูงสุดในปีนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 340.77 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,529.21 จุด ลดลง 19.14 จุด หรือ -0.42% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,662.44 จุด ลดลง 51.41 จุด หรือ -0.48% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,817.71 จุด ลดลง 2.01 จุด หรือ -0.03%
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวผันผวน โดยหุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ ร่วงลง 1.7% หุ้นบังเกีย เอสเอ ดิ่งลง 2% และหุ้นเครดิต อากริโคล ปรับตัวลง 0.7% แต่หุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลีดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบังคา ป๊อปปูเลร์ เดอ มิลาโน ปรับขึ้น 1.4% และหุ้นบังโค ป๊อปปูเลร์ โซเซียตา โคออปเปอเรทีฟ ปรับตัวขึ้น 1.2%
หุ้นกลุ่มรถยนต์ดีดตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากหุ้นโฟลค์สวาเกน พุ่งขึ้น 2% และหุ้นพอร์ช ปรับขึ้น 2.1%
ตลาดหุ้นยุดรปได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า กิจกรรมทางด้านธุรกิจในยูโรโซนเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในปีนี้ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ มาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้น ซึ่งรวมทั้งภาคการผลิตและบริการของยูโรโซน ดีดตัวแตะ 54.1 ในเดือนพ.ย. จาก 53.3 ในเดือนต.ค.
ดัชนีที่ระดับ 50 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัว
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก : เงินดอลล์แข็ง รับเฟดส่งสัญญาณขึ้นดบ.,ข้อมูลศก.สดใส
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า กรรมการเฟดได้สนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 112.58 เยน จากระดับ 111.23 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0172 ฟรังก์ จากระดับ 1.0119 ฟรังก์
เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0545 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0616 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2446 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2396 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7384 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7395 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากรายงานการประชุมของเฟดบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโนบายการเงินของเฟดหลายคนได้สนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น หากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเอื้ออำนวย
ขณะที่ผลสำรวจของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 4.8% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2015 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5%
ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นในเดือนพ.ย. แตะระดับ 93.8 โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 91.6 รวมทั้งสูงกว่าระดับ 87.2 ในเดือนต.ค.
อินโฟเควสท์