WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET64ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดภูมิภาคกังวลราคาน้ำมัน-หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ย

     นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากเวลานี้นักลงทุนได้หันกลับไปให้ความสนใจโอกาสความเป็นไปได้ของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมเดือนหน้า แม้ส่วนใหญ่ว่าจะคาดการณ์กันว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.มากกว่าก็ตาม

     นอกจากนี้ ราคามันได้ปรับตัวลง หลังจากที่อิรักอาจไม่ตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมัน ทำให้น้ำมันโดน take profit ออกมา และคาดว่าวันนี้บ้านเราหุ้นในกลุ่มพลังงานอาจจะโดนขายด้วย รวมไปถึงผลประกอบการของบริษทจดทะเบียนในต่างประเทศอย่างสหรัฐฯก็ออกมาไม่ดี ส่งผลกดดันดัชนีหุ้นดาวโจนส์

      ส่วนกลุ่ม ICT ก็คาดว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 3/59 จะออกมาไม่ดี คงรับผลจากรายจ่ายที่เกิดจากการประมูล 4G คงมีกลุ่มค้าปลีกที่น่าจะ perform ได้ดี จากที่เห็นว่าภาคการเกษตรฟื้นตัว ดังนั้น งบฯกลุ่มนี้น่าจะออกมาดีด้วย ซึ่งเข้ามาช่วยหนุนดัชนีฯเมื่อวานนี้ โดยรวมแล้วมองว่าน่าจะเป็นการสลับกลุ่มเล่นกัน

     พร้อมให้แนวรับ 1,500-1,493 จุด ส่วนแนวต้าน 1,510 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 ต.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,169.27 จุด ลดลง 53.76 จุด (-0.30%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,283.40 จุด ลดลง 26.43 จุด (-0.50%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,143.16 จุด ลดลง 8.17 จุด (-0.38%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 36.22 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.10 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 168.97 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 29.99 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 6.80 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 8.52 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.26 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 37.86 จุด

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ต.ค.59) 1,506.47 จุด เพิ่มขึ้น 6.10 จุด (+0.41%)

      - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 573.43 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ต.ค.59

      - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ต.ค.59) ปิดที่ 49.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 56 เซนต์ หรือ 1.1%

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ต.ค.59) ที่ 6.94 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 34.91 แข็งค่าต่อจากวานนี้หลังดอลล์อ่อน-รับเม็ดเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตร

      - กระทรวงการคลังติดตามภาวะเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะดำเนินมาตรการการคลังและการเงินเพิ่มเติมหากมีความจำเป็น ทั้งนี้มั่นใจว่าแรงส่งทางเศรษฐกิจยังมีมากพอจะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะถัดไป และรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจต่างๆ ได้

     - ครม.วานนี้อนุมัติโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ระยะที่ 2 โดยจัดสรรงบกลางปี 2560 วงเงิน 18,760 ล้านบาท ให้กับ 74,655 หมู่บ้านทั่วประเทศ แห่งละ 2.5 แสนบาท เพื่อนำไปพัฒนาและส่งเสริมความเข้มแข็ง ด้วยการนำเงินก้อนดังกล่าวไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของหมู่บ้าน หรือนำไปใช้ในกิจการที่เป็นสาธารณประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา และส่งเสริมการประกอบอาชีพของคนในชุมชน ตั้งแต่ พ.ย.59-ม.ค.60 หากเป็นโครงการที่ดำเนินการได้เองให้เบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2559

      - ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หนี้ครัวเรือนในปี 60 ยังจะมีสัดส่วนในระดับ 80% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) แต่สัดส่วนของหนี้ต่อจีดีพีน่าจะทยอยลดลงได้ ถ้าเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ในระดับที่ดี คนก็จะยังมีรายได้ดีขึ้นก็ช่วยให้สัดส่วนหนี้ลดลงและครัวเรือนยังมีศักยภาพในการชำระหนี้ได้

     - ศูนย์วิจัยกสิกรฯเผยสภาพคล่องแบงก์ก.ย.ตึงตัวสุดในรอบ 9 ปี แต่ยังไม่น่าห่วง ธปท.ประเมินไตรมาส 4 การบริโภคยังไม่ดีขึ้น กลุ่มอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ชะลอจ้างงานเพิ่ม

*หุ้นเด่นวันนี้

    - SQ (บมจ.สหกลอิควิปเมนท์) เทรดวันนี้วันแรก สังกัดหมวดบริการรับเหมาก่อสร้าง ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยเสนอขาย IPO ที่ 3.20 บาท/หุ้น ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินราคาพื้นฐานปีหน้า 4.30 บาท คาดกำไรปกติปี 59-61 โตสูงเฉลี่ย 75% ต่อปีเพราะรับรู้รายได้โครงการเหมืองหงสาและเหมืองแม่เมาะโครงการ 8 เต็มปีตั้งแต่ปี 59 กำไร H1/59 +136% Y-Y คิดเป็น 50% ของทั้งปีที่คาด

    บมจ.สหกลอิควิปเมนท์ เป็นผู้รับเหมาให้บริการทำเหมืองแร่แบบครบวงจรทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่วางแผน เปิดหน้าเหมือง ขุดขนแร่ และเป็นที่ปรึกษาด้านงานเหมือง มีคู่แข่งน้อยราย รายได้มั่นคงเพราะมี Backlog 3.7 หมื่นล้านบาทรองรับรายได้ 10 ปี

    - IHL-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. อินเตอร์ไฮด์ (IHL)) เทรดวันนี้วันแรก 104,999,374 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 3.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปีนับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งออกวันที่ 12 ต.ค.59 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 31 มี.ค.60 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 11 ต.ค.62

     - PTTGC (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 72.50 บาท คาดผลการดำเนินงานในช่วง Q3/59 จะมีกำไรสุทธิ 6,025 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 22% qoq ปัจจัยหลักมาจากกำไรจากสต็อกน้ำมัน แต่ค่าการกลั่นอ่อนตัวลง ในขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ฟื้นตัวขึ้นจากการกลับมาผลิตได้เต็มที่ในเดือน ส.ค. ส่วนราคา HDPE ทรงตัว พร้อมมองในปี 59 ผลงานฟื้น และคาดไม่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันอีก ในขณะที่ราคา HDPE คาดว่ายืนได้ที่ระดับ 1,100-1,200 USD/ton ในขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์เริ่มเข้าสู่ช่วงอุปทานส่วนเกินในช่วง Q4/59

    - CENTEL (ฟันันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" เป้าปีหน้า 46 บาท ธุรกิจโรงแรมที่กลับมาโตแข็งแกร่งโดยเฉพาะโรงแรมในมัลดีฟส์ที่เดิม ส่วนที่ใหม่ที่เคยพักแผนไป ล่าสุดเริ่มมีการเจรจา คาดว่ามีโอกาสเห็นการลงทุนในอนาคต พร้อมคาดกำไร Q3/59 -9% Q-Q, +9% Y-Y ส่วนผลกระทบจากการยกเลิกการจองโรงแรมยังจำกัดมาก

ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ เหตุผิดหวังผลประกอบการเอกชน-ข้อมูลศก.สหรัฐ

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืน หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่ผันผวน และหลังจากที่ Conference Board รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ปรับตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

   ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,329.03 จุด ลดลง 36.22 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,129.84 จุด ลดลง 2.10 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,396.14 จุด ลดลง 168.97 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,355.66 จุด ลดลง 29.99 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,030.37 จุด ลดลง 6.80 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,845.53 จุด ลดลง 8.52 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,675.17 จุด ลดลง 2.26 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,542.36 จุด ลดลง 37.86 จุด

     ทั้งนี้ Conference Board เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 98.6 ในเดือนต.ค. หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับ 104.1 ในเดือนก.ย. โดย Conference Board ได้ทำการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะธุรกิจ, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 31.24 จุด หลังหุ้นเหมืองแร่พุ่ง

     ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากทั้งผลผลิตและราคาเหล็กกล้าต่างก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นในตลาดจีน

    ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 31.24 จุด หรือ 0.45% แตะที่ 7,017.64 จุด

    หุ้นกลุ่มเหมืองแร่หนุนตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นริโอ ทินโต ต่างก็ปรับตัวขึ้นมากกว่า 2.5%

    หุ้นเซนต์ เจมส์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่ของอังกฤษ ทะยานขึ้น 2.9% หลังจากเปิดเผยว่า กองทุนภายใต้การบริหารของบริษัทมีผลการดำเนินงานที่มีกำไร

    หุ้นเนชั่นแนล เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 3.1% หลังเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นและคาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่ง

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ หลังหุ้นแบงก์อิตาลีร่วง

      ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นธนาคารของอิตาลี ซึ่งปัจจัยลบดังกล่าวได้สกัดแรงบวกจากรายงานที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนต.ค.ของเยอรมนีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.4% ปิดที่ 343.07 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,540.84 จุด ลดลง 11.74 จุด หรือ -0.26% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,757.31 จุด ลดลง 3.86 จุด หรือ -0.04% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,017.64 จุด เพิ่มขึ้น 31.24 จุด หรือ +0.45%

      ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงหลังจากหุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลีร่วงลงอย่างหนัก ภายหลังจากมีรายงานว่า ธนาคาร Banca Monte dei Paschi di Siena ของอิตาลีได้ธนาคารประกาศปรับลดจำนวนพนักงานลง 2,600 ตำแหน่ง รวมทั้งปิดสาขาต่างๆ 500 สาขา และลดขนาดของธุรกิจลง

     ทั้งนี้ หุ้นธนาคาร  Unione di Banche Italiane SpA ร่วงลง 3.7% และหุ้นธนาคาร Banca Popolare dell’Emilia Romagna ดิ่งลง 4.2%

     การร่วงลงของหุ้นธนาคารอิตาลีได้สกัดปัจจัยบวกจากรายงานของ  Ifo สถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นในเดือนต.ค. แตะที่ระดับ 110.5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี จากระดับ 109.5 ในเดือนก.ย.

     ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนต.ค.จะอยู่ที่ระดับ 109.6

     Ifo ระบุว่า ภาคการผลิตของเยอรมนีขยายตัวด้วยอัตราสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีในเดือนต.ค. เนื่องจากบริษัทต่างๆเพิ่มการจ้างงานเพื่อตอบสนองอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากสหรัฐและเอเชีย

     ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ปรับตัวขึ้น 4.6% หุ้นอันโตฟากัสตา เพิ่มขึ้น 3% และหุ้นริโอทินโต พุ่งขึ้น 4.5%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 53.76 จุด เหตุผลประกอบการผันผวน,ดัชนีความเชื่อมั่นถดถอย

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่ผันผวน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของ Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ปรับตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,169.27 จุด ลดลง 53.76 จุด หรือ -0.30% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,283.40 จุด ลดลง 26.43 จุด หรือ -0.50% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,143.16 จุด ลดลง 8.17 จุด หรือ -0.38%

      ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดอ่อนแรงลง หลังจาก Conference Board เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 98.6 ในเดือนต.ค. หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับ 104.1 ในเดือนก.ย. โดย Conference Board ได้ทำการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะธุรกิจ, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน

      ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะอยู่ที่ระดับ 101.5 ในเดือนต.ค.

      นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่ผันผวนของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสหรัฐ โดยหุ้นเวิร์ลพูล คอร์ป ทรุดฮวบลง 10.78% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาดในไตรมาส 3 และยังได้ปรับลดแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ลงด้วย

      หุ้นแคเทอร์พิลลาร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลง 1.76% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า รายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 9.16 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 9.8 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้

     ส่วนหุ้นเมิร์ค แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 1.98% หลังจากเปิดเผยกำไรในไตรมาส 3 ที่สูงกว่าคาดการณ์ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากยอดขายวัคซีน และยาที่ใช้รักษาโรคมะเร็งที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งจากการใช้มาตรการลดค่าใช้จ่าย

     ทั้งนี้ เมิร์คเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรสุทธิ 2.18 พันล้านดอลลาร์ หรือ 78 เซนต์/หุ้น โดยสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 1.83 พันล้านดอลลาร์ หรือ 64 เซนต์/หุ้น และหากไม่นับรวมรายการพิเศษ ทางบริษัทมีกำไร 1.07 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 98 เซนต์/หุ้น

     หุ้น 3M ร่วงลง 2.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ค่อนข้างทรงตัว และยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้

     หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในโลก ปรับตัวขึ้น 3.41% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 3 ที่ระดับ 2.71 พันล้านดอลลาร์ หรือ 96 เซนต์/หุ้น โดยสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 2.6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 91 เซนต์/หุ้น

    นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนต.ค.โดยมาร์กิต และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.

      อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!