WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET26ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์กรอบจำกัดแม้ยังไร้ปัจจัยใหม่แต่คงบวกสวนทางตลาดภูมิภาค

    นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้หลังจากที่ได้ปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ตลาดฯยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา อาจทำให้การรีบาวด์อยู่ในกรอบจำกัดได้

    ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ มองว่าอาจเป็นการพักตัวก็ได้หลังจากที่ได้ปรับขึ้นไปในช่วงก่อนหน้านี้ เพราะตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯก็ยังไม่บ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะต้องรีบขึ้นดอกเบี้ย ดังนั้น ตลาดโดยรวมมองว่าเป็นการพักตัวเพื่อรอปัจจัยใหม่

     "ตลาดบ้านเราวันนี้อาจจไม่เป็นไปตามตลาดภูมิภาคก็ได้ เพราะในทางเทคนิคเห็นว่าดัชนีฯได้ลงมาในแนวดิ่ง ก็น่าจะรีบาวน์ขึ้นได้แต่อาจอยู่ในกรอบจำกัด"นายธนเดช กล่าว

     สำหรับการประชุมธนาคารกลางายุโรป (ECB) วันนี้ (8 ก.ย.) ก็ยังมีความคาดหวังว่าจะมีมาตรการเพิ่ม อย่างการขยายวงเงินซื้อพันธบัตร เพราะพันธบัตรจะหมดอายุในเดือน มี.ค.60

พร้อมให้นแนวรับ 1,477 จุด ส่วนแนวต้าน 1,500 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (7 ก.ย.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,526.14 จุด ลดลง 11.98 จุด (-0.06%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,283.93 จุด เพิ่มขึ้น 8.02 จุด (+0.15%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,186.16 จุด ลดลง 0.32 จุด (-0.01%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 28.44 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.98 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 37.45 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 17.12 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.08 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.96 จุด

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ก.ย.59) 1,487.20 จุด ลดลง 9.70 จุด (-0.65%)

     - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 437.11 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ก.ย.59

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (7 ก.ย.59) ปิดที่ 45.50 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 1.5%

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 ก.ย.59) ที่ 5.89 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 34.66 ทิศทางอ่อนค่าตามภูมิภาค จับตา Fund Flow - ผลประชุม ECB คืนนี้

     - หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เสนอให้มีการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักการข้อกำหนดขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) โดยจะมีการแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ในหลายประเด็น ทำให้ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายรวมตัวกันแถลงจุดยืนต่อการแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยฯ ในวันนี้

    - รมว.คมนาคม เผยรัฐบาลมีแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางในช่วงระยะ 8 ปี (2558-2565) คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2 ล้านล้านบาท อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร 10 สายทาง รถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง และรถไฟฟ้าความเร็วสูง 4 เส้นทาง ทั้งนี้ได้ร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาบุคลากรและผู้ประกอบการรองรับ

    - ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานปริมาณการชาระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใด หรือผ่านทางเครือข่าย (อี-เพย์เมนต์) ล่าสุดในเดือน มิ.ย.59 พบว่า มีปริมาณ อี-เพย์เมนต์รวม 175 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 42 ล้านรายการ หรือ 31.33%

     - กบง.สั่งตรึงราคาแอลพีจี เดือน ก.ย.ที่ 20.29 บาท/กก. มีมติลดเงินเก็บเข้ากอง ทุนเชื้อเพลิง หักลบกับราคา ต้น ทุนที่เพิ่มขึ้น 23.41 สตางค์/กก. พร้อมรับทราบ พ.ร.บ.กองทุนน้ำมัน เตรียมตั้งสำนักงาน

     - ทูตพาณิชย์ประเมินส่งออกปี 60 โต 3% หลังมองเศรษฐกิจโลก-คู่ค้าดีขึ้น เตรียมชง "อภิรดี" เคาะวันที่ 9 ก.ย.นี้ ด้าน "สุวิทย์" มอบนโยบาย ขอให้ช่วยขับเคลื่อนนโยบายประเทศไทย 4.0 รุกส่งออกสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม ใช้นวัตกรรมเข้าช่วย

     - พาณิชย์เรียกเก็บ อากรเอดีท่อเหล็กไร้สนิมจาก เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน เวียด นาม อัตรา 2.38-310.74% หลังทุ่มตลาดไทยจนผู้ประกอบการเสียหาย พร้อมเปิดไต่สวนเหล็กแผ่นรีดเย็นเคลือบสังกะสี แบบจุ่มร้อน

*หุ้นเด่นวันนี้

       - CPN (โกลเบล็ก) เป้า 75 บาท ผู้นำธุรกิจค้าปลีกให้เช่าที่มีแผนเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่องปีละ 2-3 แห่ง โดยได้ปรับประมาณการกำไรปี 59 เพิ่มขึ้นเป็น 8,572 ล้านบาทเติบโต 9% พร้อมคาดกำไรปี 60 โต +5% เป็น 9 พันลบ. จากการเปิดสาขาใหม่ 3 แห่งที่นครราชสีมา ภูเก็ตเฟส 2 และมหาชัย ส่วนปี 61 จะเริ่มรับรู้รายได้โครงการคอนโดฯใกล้ศูนย์การค้าสาขาเชียงใหม่ ระยอง และขอนแก่น

   - CPF (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 42 บาท ยังประเมินราคาหมู+ไก่ยืนสูง ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์เช่น กากถั่วเหลือง ข้าวโพดปรับตัวลงสวนทาง ทำให้คาดแนวโน้ม H2/59 จะโตเด่น โดยเฉพาะไตรมาส 3/59 เป็น High season นอกจากนี้ วันนี้มีข่าวไก่จีนขาดแคลน ส่งผลให้หลายประเทศเพิ่มการนำเข้าไก่จากไทย ประเมินแนวรับ 31 บาท และ 30 บาท (กำหนด 30 บาท เป็นจุด Stop loss) แนวต้านแรก 32 บาท และ 33.5 บาท

     - BEAUTY (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 10.20 บาท ช่วง H2/59 คาดกำไรโตเด่นทั้ง HoH และ YoY จากเข้าสู่ High Season บวกกับ คงแผนขยายช่องทางจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนการจัดกิจกรรมการตลาดต่อเนื่อง หนุนทั้งปี 59 คาดกำไรโต 36.0%YoY และโตต่อ 29.8%YoY ในปี 60 + Upside 16% และคาดให้ Div. Yield ปีละ 2%

     - EPG (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 17.50 บาท ปี 59/60 คาดกำไรปกติโต 32.9%YoY และโตต่อ 19.2%YoY ในปี 60/61 จากการโตทั้งธุรกิจฉนวนยาง อุปกรณ์ยานยนต์ และบรรจุภัณฑ์ อีกทั้งคาด TJM จะมีผลดำเนินงานที่ดีขึ้นหลังเปลี่ยนระบบจัดซื้อสินค้า และธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะกลับมาโตหลังใช้เครื่องจักรใหม่ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และมี Upside 22%

    - SCI (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 13.50 บาท คาดจะพลิกเป็นกำไรได้ในไตรมาส 3 จากการรับรู้รายได้ในโครงการสายส่งไฟฟ้า 500 kV และรอเซ็นสัญญาอีก 2 โครงการมูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาท ช่วยหนุนการเติบโตได้ 3-4 ปีข้างหน้า

     - KSL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ทยอยซื้อลงทุน"เป้า 4.60 บาท จัดเป็น Top Pick ของกลุ่มน้ำตาลกำลังจะผ่านกำไรที่แย่ที่สุดในปีนี้ใน Q3-Q4/59 ก่อนจะสดใสในปี 60 โดยคาดกำไร Q3 (พ.ค.-ก.ค.) -20% Q-Q, -37% Y-Y ธุรกิจชะลอลงทั้ง 3 ประเภท โดยธุรกิจน้ำตาลแย่ลง ราคาขายถูกล็อคไว้ตั้งแต่ปีก่อนในระดับต่ำ ธุรกิจไฟฟ้าและเอธานอลแผ่วลง พร้อมปรับกำไรสุทธิปีนี้ลง 30% เป็นทรงตัวจากปีก่อน แต่คาดปีหน้าโตสูง 42% ตามราคาน้ำตาลสูงขึ้นจากภาวะขาดดุลน้ำตาล

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ เหตุวิตกเศรษฐกิจสหรัฐ

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในเช้าวันนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ครั้งล่าสุด โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวเล็กน้อยในเดือนก.ค.และส.ค.

    ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.3% สู่ระดับ 141.70 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,984.00 จุด ลดลง 28.44 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,089.95 จุด ลดลง 1.98 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,704.36 จุด ลดลง 37.45 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,241.95 จุด ลดลง 17.12 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,064.96 จุด เพิ่มขึ้น 3.08 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,894.38 จุด เพิ่มขึ้น 0.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,691.53 จุด เพิ่มขึ้น 1.96 จุด

     ทั้งนี้ เฟดเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟดทั้ง 12 เขตเมื่อวานนี้ ซึ่งระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวเล็กน้อยในเดือนก.ค.และส.ค. โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของเฟดทั้ง 12 เขตทั่วประเทศมีการรายงานแรงกดดันจากค่าจ้างที่ค่อนข้างต่ำ และมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 20.53 จุด หลังผู้ว่าฯแบงก์ชาติอังกฤษชี้ศก.แข็งแกร่ง

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) หลังจากนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกางอังกฤษระบุว่า ความเสี่ยงที่อังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยนั้น ได้ปรับตัวลดลง เนื่องจากธนาคารกลางอังกฤษได้ดำเนินการหลายอย่างหลังจากที่อังกฤษตัดสินใจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป

      ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 20.53 จุด หรือ 0.30% แตะที่ 6,846.58 จุด

      ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากนายคาร์นีย์แสดงท่าทีสนับสนุนการใช้มาตรการต่างๆของธนาคารกลางอังกฤษเพื่อรับมือกับผลกระทบจากการการที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit โดยเขาระบุว่า ข้อมูลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษมีความแข็งแกร่งกว่าที่ธนาคารกลางได้คาดการณ์ไว้เล็กน้อย

      หุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งรวมถึงหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ และหุ้นบีพี นำตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นมาปิดเหนือระดับ 47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

      หุ้นแอชทีด กรุ๊ป ผู้ให้บริการเช่าอุปกรณ์การก่อสร้างยักษ์ใหญ่เพิ่มขึ้น 3.3% หลังระบุว่า ผลประกอบการสำหรับตลอดทั้งปีของบริษัทอาจจะสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 20.53 จุด หลังผู้ว่าฯแบงก์ชาติอังกฤษชี้ศก.แข็งแกร่ง

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) หลังจากนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกางอังกฤษระบุว่า ความเสี่ยงที่อังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยนั้น ได้ปรับตัวลดลง เนื่องจากธนาคารกลางอังกฤษได้ดำเนินการหลายอย่างหลังจากที่อังกฤษตัดสินใจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป

     ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 20.53 จุด หรือ 0.30% แตะที่ 6,846.58 จุด

     ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากนายคาร์นีย์แสดงท่าทีสนับสนุนการใช้มาตรการต่างๆของธนาคารกลางอังกฤษเพื่อรับมือกับผลกระทบจากการการที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit โดยเขาระบุว่า ข้อมูลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษมีความแข็งแกร่งกว่าที่ธนาคารกลางได้คาดการณ์ไว้เล็กน้อย

      หุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งรวมถึงหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ และหุ้นบีพี นำตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นมาปิดเหนือระดับ 47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

      หุ้นแอชทีด กรุ๊ป ผู้ให้บริการเช่าอุปกรณ์การก่อสร้างยักษ์ใหญ่เพิ่มขึ้น 3.3% หลังระบุว่า ผลประกอบการสำหรับตลอดทั้งปีของบริษัทอาจจะสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ตลาดจับตาการประชุม ECB วันนี้

      ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มส่งออก หลังจากสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่า ECB อาจจะขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตร

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 350.16 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,557.66 จุด เพิ่มขึ้น 27.70 จุด หรือ +0.61% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,752.98 จุด เพิ่มขึ้น 65.84 จุด หรือ +0.62% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,846.58 จุด เพิ่มขึ้น 20.53 จุด หรือ +0.30%

     ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มที่ต้องพึ่งพาการส่งออก โดยหุ้นโฟล์คสวาเกน พุ่งขึ้น 1% หลังจากโฟล์คสวาเกน เปิดเผยความคืบหน้าในการเจรจากับบริษัท China Anhui Jianghuai Automobile Co. เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีน

     อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีรายงานเมื่อวานนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.หดตัวลง 1.5% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.3% สะท้อนให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีอ่อนแรงลงในช่วงเริ่มต้นไตรมาส 3

     นักลงทุนจับตาการประชุม ECB ในวันนี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่า ECB อาจจะขยายช่วงเวลาในการซื้อพันธบัตร

     ก่อนหน้านี้ นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวว่า ECB จะรอดูข้อมูลเศรษฐกิจมากขึ้นในปีนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

      ทั้งนี้ โครงการซื้อพันธบัตรจำนวน 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2560 หรืออาจนานกว่านั้น หากมีความจำเป็น หรือจนกระทั่งสภาบริหารของ ECB เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อมีความยั่งยืนสอดคล้องกับเป้าหมายของ ECB

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 11.98 จุด หลังเฟดเผยศก.สหรัฐขยายตัวเล็กน้อย

   ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ครั้งล่าสุด โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวเล็กน้อยในเดือนก.ค.และส.ค. อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ยังคงปรับตัวขึ้น ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดตลาดในแดนบวก ขานรับบริษัทแอปเปิล อิงค์ ประกาศเปิดตัว "ไอโฟน 7"

     ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,526.14 จุด ลดลง 11.98 จุด หรือ -0.06% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,186.16 จุด ลดลง 0.32 จุด หรือ -0.01% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,283.93 จุด เพิ่มขึ้น 8.02 จุด หรือ +0.15%

     ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟดทั้ง 12 เขตเมื่อวานนี้ ซึ่งระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวเล็กน้อยในเดือนก.ค.และส.ค. โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของเฟดทั้ง 12 เขตทั่วประเทศมีการรายงานแรงกดดันจากค่าจ้างที่ค่อนข้างต่ำ และมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

     เฟดยังระบุด้วยว่า ในหลายเขตของเฟดมีการรายงานแรงกดดันจากค่าแรงที่เพิ่มขึ้นสำหรับแรงงานทักษะสูง และมีการรายงานปัญหาในการหาผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการจ้างงานบางตำแหน่ง พร้อมระบุว่า ในภาพรวมนั้น ราคาผู้บริโภคยังคงเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย และการใช้จ่ายของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในเขตส่วนใหญ่

     นอกจากนี้ ดาวโจนส์ยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต โดยหุ้นวอล-มาร์ท ดิ่งลง 1.3% สเปราท์ ฟาร์เมอร์ส มาร์เก็ตส์ ร่วงลง 13.7% หุ้นโฮล ฟู๊ดส์ มาร์เก็ต ดิ่งลงกว่า 5% หุ้นโครเกอร์ ปรับตัวลงกว่า 4%

    อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น และจากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐอาจทำให้เฟดยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ โดยนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ได้ปรับลดความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่มีการขยายตัวต่ำเกินคาด

    ส่วนดัชนี NASDAQ ปิดตลาดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดตัว "ไอโฟน 7" ของบริษัทแอปเปิล อิงค์ เมื่อวานนี้ โดยหุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 0.6% ขณะที่ ADRs (American Depositary Receipts) หรือ "ใบรับฝากหุ้น" ของบริษัทนินเทนโด ทะยานขึ้นกว่า 26% หลังจากนายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิล อิงค์ ยืนยันว่า สาวกแอปเปิลสามารถดาวน์โหลดเกม Super Mario ได้จาก App Store

    นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนในวันพรุ่งนี้ ทางการสหรัฐจะเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค.

-อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!