- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 06 September 2016 18:36
- Hits: 2789
โบรกฯ คาดพรุ่งนี้ SET รีบาวน์ทางเทคนิคในกรอบจำกัด เป็นจังหวะทยอยซื้อหุ้นเป้าหมาย หลังเจอแรงขายหนักกด P/E เหลือ 14 เท่า
โบรกฯ คาดพรุ่งนี้หุ้นไทยรีบาวน์ทางเทคนิคกรอบแคบ ชี้เป็นจังหวะเก็บหุ้นเป้าหมาย หลังเจอแรงขายหนักกด P/E ลดเหลือ 14 เท่า แนะทยอยซื้อ EPG-K-TACC-SCB-CK ประเมินแนวรับ 1,495 จุด +/- แนวต้าน 1,505-1,510 จุด
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นในลักษณะรีบาวน์ทางเทคนิค หลังวานนี้มีแรงเทขายหนัก(Panic sell) ด้วยปัจจัยเฉพาะตัวภายในประเทศ อีกทั้งดัชนีฯ ฟื้นตัวในวันนี้ ส่วนหนึ่งเนื่องจากตลาดฯ ความคลายกังวลเรื่องโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 21 ก.ย. นี้ เพราะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ประกาศออกมาเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนต่ำกว่าคาด
"เป็นเทคนิคอลรีบาวน์ บวกกับคลายกังวลเรื่องเฟดขึ้นดบ. หลังตัวเลขการจ้างงานแม้จะออกมาดี แต่ก็ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ที่จริงควรจะสะท้อนเมื่อวาน แต่เจอแรงขายหนัก จึงมาตอบรับวันนี้" นายสมชายกล่าว
ทั้งนี้ แม้ตลาดตลาดจะคลายความกังวลว่าเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ แต่ระบุไม่ได้ 100% ว่าเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยจริง ๆ ขณะที่ดัชนีฯ ที่ปรับตัวลงแรงวานนี้ ทำให้หุ้นไทยที่แพงในช่วงก่อนหน้าเริ่มลดความแพงลง จาก P/E สูงถึง 17 เท่า ลดลงมาเหลือประมาณ 14 เท่า
สำหรับ พรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยรีบาวน์ทางเทคนิคต่อ แต่กรอบการฟื้นตัวจำกัด เพราะยังมีประเด็นเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยเฟดกดดันอยู่ แม้ตลาดฯ จะคาดหวังว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะประชุมในวันที่ 8 ก.ย. นี้ จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมก็ตาม แต่เป็นเพียงความคาดหวังของตลาดฯ เท่านั้น และหากท้ายที่สุด ECB ยังไม่มีมาตรการอะไรเพิ่มเติม จะส่งผลเป็นกลางต่อบรรยากาศการลงทุน ส่วนกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติวานนี้ยังคงซื้อสุทธิ ทั้งๆ ที่ดัชนีฯ ปรับลงแรง เพราะด้วยสภาพคล่องการเงินโลกสูงมาก
ด้านกลยุทธ์ การเก็งกำไรลำบากมากขึ้น เพราะดัชนีฯ มีแนวโน้มแกว่งตัวแคบ ๆ และดัชนีฯปรับตัวลดลงแรงจากแรงขายแบบ panic sell ทำให้หุ้นเป้าหมายหลายตัวมีความน่าสนใจเข้าซื้อเพื่อถือลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว โดยเฉพาะหุ้นที่อิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ อาทิ EPG-K-TACC-SCB-CK พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,495 จุด +/- แนวต้าน 1,505-1,510 จุด
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
