- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 26 August 2016 10:34
- Hits: 2105
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนลงกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย จับตาสัญญาณคืนนี้
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสอ่อนตัว เนื่องจากตลาดฯกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยจะต้องรอดูสัญญาณจากประธานเฟดในคืนวันนี้ที่จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ๊คสัน โฮล ซึ่งขณะนี้โอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอิง Fed Fund Future ได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 4% แล้ว ซึ่งโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ได้เพิ่มขึ้นเป็น 57% จากเดิม 53%
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,538-1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550-1,555 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 ส.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,448.41 จุด ลดลง 33.07 จุด (-0.18%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,212.20 จุด ลดลง 5.49 จุด (-0.11%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,172.47 จุด ลดลง 2.97 จุด (-0.14%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 70.40 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 12.27 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 18.45 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 6.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.35 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.89 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ส.ค.59) 1,544.10 จุด ลดลง 3.45 จุด (-0.22%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,023.92 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ส.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ส.ค.59) ปิดที่ 47.33 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 1.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ส.ค.59) ที่ 4.53 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.53/55 คาดวันนี้มีโอกาสหลุด 34.50 รอดูท่าทีเฟดคืนนี้
- นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม ให้นโยบายคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดแผนพัฒนาที่ดิน โดยเฉพาะที่ดินว่างกลางกรุงเทพมหานคร บริเวณบางซื่อ, กม.11, สถานีแม่น้ำ, มักกะสัน และ พื้นที่ต่างจังหวัดที่มีศักยภาพพอที่จะนำที่ดินมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สร้างรายได้ให้แก่ รฟท.
- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ต.ค.58-ก.ค.59) รัฐบาลมีรายได้ส่งคลัง 1.96 ล้านล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ 2.43 ล้านล้านบาท และกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 3.86 แสนล้านบาท จากเป้า 3.9 แสนล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ก.ค.59 อยู่ที่ 2.47 แสนล้านบาท
- ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เผยความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูของ 7 รัฐวิสาหกิจ ว่า ยังห่วงการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) หรือไอแบงก์ ที่ขณะนี้มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีเอฟ) พุ่งกว่า 50% ของสินเชื่อรวม ทำให้ต้องเร่งหาแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
- 'สมคิด' สั่ง ทอท.ยกระดับทุกสนามบินหลังลงนามก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 ทอท.ปิดทางแอร์เอเชียร่วมทุนดอนเมือง ยันลงทุนเองทั้งหมดตามแผนเดิม
*หุ้นเด่นวันนี้
- SCN (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 9.9 บาท รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/59 ที่ 71 ล้านบาทเติบโต 70%YoY แต่ลดลง 13%QoQ โดยตั้งเป้าขยายปั๊ม NGV เพิ่มอีก 5 สาขาและเพิ่มยอดขาย ICNG อีกเท่าตัวในปลายปีนี้ พร้อมปรับประมาณการกำไรปี 59 และ 60 เพิ่มขึ้น 5% และ 4% ตามลำดับ
- THAI (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดผ่านช่วงต่ำสุดช่วง low season ไปแล้ว หลังจากนี้คาดผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่องอย่างน้อยจนถึง Q1/60 จากช่วง high season นอกจากนี้ ยังได้รับผลบวกจากการท่องเที่ยวแรงต่อเนื่องโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวชาวจีนและการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ต้นทุนลดลงจากการปฏิรูปองค์กรในปี 58 และการรับรู้ต้นทุนราคาน้ำมันที่ต่ำเต็มที่เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำประกันราคาน้ำมันสูงถึง 80-90 เหรียญ/บาร์เรล
- TMT (เคจีไอ) "ซื้อ"เป้า 14.7 บาท ปรับประมาณการกำไรและปันผลขึ้น คาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น เดิม 1.0 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend yield 12.6% และแนวโน้มราคาเหล็กเริ่มฟื้นตัวและผ่านจุดต่ำสุดแล้ว คาดฟื้นต่อเนื่องช่วงที่เหลือของปีนี้ พร้อมคาดพักฐานเสร็จ ประเมินปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 13.6 บาท และ 14 บาท ตามลำดับ แนวรับ 12.6 บาท
- UNIQ (ไอร่า) เป้า 24.40 บาท คาดจะยังรักษาความสามารถทำกำไรที่ดีเช่นกัน คาด Gross Profit Margin เฉลี่ย 18.50 – 19.00% คาดช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายขายและบริหาร และดอกเบี้ยจ่าย ประมาณ 732 ล้านบาท และ 401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% และ 6% จากปี 58 ทำให้คาดกำไรสุทธิ จำนวน 1,053 ล้านบาท เติบโตโดดเด่นต่อเนื่องจากปี 58 หรือคิดเป็น 0.97 บาท/หุ้น และคาดเงินปันผลภายใต้ Payout Ratio ประมาณ 40% หรือ 0.39 บาท/หุ้น
ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงเช้านี้ เหตุนลท.ชะลอซื้อขายก่อนเยลเลนแถลงวันนี้
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล ในวันนี้
ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.3% สู่ระดับ 138.50 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,485.55 จุด ลดลง 70.40 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,069.85 จุด เพิ่มขึ้น 1.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,827.22 จุด เพิ่มขึ้น 12.27 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,097.02 จุด ลดลง 18.45 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,036.74 จุด ลดลง 6.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,876.58 จุด ลดลง 0.35 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,675.41 จุด ลดลง 4.89 จุด
ทั้งนี้ นางเยลเลนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ "เครื่องมือด้านนโยบายการเงินของเฟด" โดยนางเยลเลนจะแสดงมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ และอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 18.88 จุด หลังหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ร่วง
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 18.88 จุด หรือ 0.28% แตะที่ 6,816.90 จุด
หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ฉุดตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงหลังจากบริษัทมายแลน อิงค์ ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐ ได้ถูกโจมตีอย่างหนักเกี่ยวกับการปรับขึ้นราคายา "EpiPens" ซึ่งใช้รักษาอาการแพ้ขั้นรุนแรง
นอกจากนี้ ราคาหุ้นกลุ่มบริษัทผู้ผลิตยายังได้รับแรงกดดันหลังจากที่นางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตระบุว่า จะเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทยาปรับลดราคาลง
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตยาต่างปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นแอสทราเซเนกา ลดลง 1.4% หุ้นฮิคมา ฟาร์มาซูติคอลส์ ลดลง 3.5% หุ้นไชร์ ลดลง 2.5% และหุ้นแกลกโซสมิธไคลน์ลดลง 0.3%
หุ้นซีอาร์เอช ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น 2.9% หลังบริษัทปรับเพิ่มเงินปันผลจ่ายเฉพาะกาลและคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสำหรับตลอดทั้งปีก่อนหักค่าดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าไถ่ถอนหุ้นกู้สูงกว่า 3 พันล้านปอนด์
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ หลังความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีร่วงหนัก
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) หลังจากสถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีร่วงลงอย่างหนักในเดือนส.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล ในวันนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.8% ปิดที่ 342.02 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,406.61 จุด ลดลง 28.86 จุด หรือ -0.65% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,529.59 จุด ลดลง 93.38 จุด หรือ -0.88% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,816.90 จุด ลดลง 18.88 จุด หรือ -0.28%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากสถาบัน Ifo ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนส.ค.ลดลงสู่ระดับ 106.2 จากระดับ 108.3 ในเดือนก.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 108.5
นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเยลเลนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันนี้ โดยนางเยลเลนจะกล่าวในหัวข้อ "เครื่องมือด้านนโยบายการเงินของเฟด" พร้อมกับแสดงมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ และอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวลง โดยหุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา ร่วงลง 2.8% หุ้นโฟล์คสวาเกน ดิ่งลง 1.8% และหุ้นเดมเลอร์ เอจี ร่วงลง 1.5%
หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ร่วงลง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่า บริษัทมายแลน อิงค์ ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐ ได้ถูกโจมตีอย่างหนักเกี่ยวกับการปรับขึ้นราคายา "EpiPens" ซึ่งใช้รักษาอาการแพ้ขั้นรุนแรง โดยหุ้นฮิคมา ฟาร์มาซูติคอล และหุ้นเคียเจน ร่วงลง 3.5% และ 2.4% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นแอสตราเซเนกา ดิ่งลง 1.4%
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 33.07 จุด นักลงทุนชะลอเทรดก่อนเยลเลนแถลง
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล ในวันนี้
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,448.41 จุด ลดลง 33.07 จุด หรือ -0.18% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,212.20 จุด ลดลง 5.49 จุด หรือ -0.11% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,172.47 จุด ลดลง 2.97 จุด หรือ -0.14%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดอ่อนแรงลง ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นางเยลเลนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันนี้ โดยการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นในหัวข้อ "การออกแบบกรอบนโยบายการเงินอย่างยืดหยุ่นสำหรับอนาคต" ซึ่งที่ผ่านมานั้น เฟดมักจะแถลงนโยบายสำคัญในการประชุมดังกล่าว
ทั้งนี้ นางเยลเลนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ "เครื่องมือด้านนโยบายการเงินของเฟด" โดยนางเยลเลนจะแสดงมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ และอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
อย่างไรก็ตาม นางปริสซิลลา แฮนค็อก นักวิเคราะห์จากบริษัทเจพีมอร์แกน ระบุว่า นักลงทุนอาจประสบความผิดหวัง หากคาดการณ์ว่านางเยลเลนจะส่งสัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดในสัปดาห์นี้
นางแฮนค็อกเชื่อว่า นางเยลเลนจะยังคงรักษาท่าทีระมัดระวังอย่างมาก โดยจะยังคงจับตาปัจจัยที่หลากหลาย ซึ่งรวมทั้งการบริหารความเสี่ยง และภาวะทางการเงินในระดับโลก แม้เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายออกมาส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีผลต่อภาวะการซื้อขายในระหว่างวันนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสวนทางคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 261,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ส.ค.
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้นในเดือนก.ค. โดยดีดตัวขึ้น 4.4% หลังจากลดลง 4.2% ในเดือนมิ.ย.
หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่สอง หลังจากนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ได้ออกมาโจมตีบริษัทมายแลน อิงค์ (Mylan Inc.) ที่ปรับขึ้นราคายา "EpiPens" ซึ่งใช้รักษาอาการแพ้ขั้นรุนแรง โดยหุ้นมายแลน ปรับตัวลง 0.7% ขณะที่ซีวีเอส เฮลธ์ คอร์ป และหุ้นเอ็กซ์เพรส สคริปส์ โฮลดิง ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 3.4%
หุ้นดอลลาร์ เจนเนอรัล ดิ่งลง 18% และหุ้นดอลลาร์ ทรี ร่วงลงเกือบ 10% หลังจากบริษัทค้าปลีกทั้งสองแห่งนี้เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาด ขณะที่หุ้นวอลมาร์ทร่วงลง 1.4%
นอกเหนือจากถ้อยแถลงของนางเยลเลนในการประชุมที่แจ็คสัน โฮลวันนี้แล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ด้วย ซึ่งได้แก่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2/2559 และ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.
อินโฟเควสท์