WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET24ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นบวกหลังต่างชาติกลับมาซื้อเพิ่มแต่ยังขาดปัจจัยขับเคลื่อน

     นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสจะอยู่ในแดนบวกได้เล็กน้อย โดยเฉพาะจากประเด็นนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 2 พันล้านบาทเมื่อวานนี้ จากก่อนหน้าซื้อสุทธิแค่กว่า 400 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ตลาดฯ ยังไม่มั่นใจมากนัก คงจะต้องรอทิศทางการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติให้แน่นอนก่อน

     อีกทั้ง ตลาดฯ ขาดปัจจัยขับเคลื่อนอย่างชัดเจน และมีความเสี่ยงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมีโอกาสผันผวน ดังนั้น ตลาดฯจึงมีความเสี่ยงที่จะปรับฐานได้บ้าง

      ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบช่วง -0.5% ถึง +0.5% พร้อมให้กรอบการแกว่งตัวของตลาดหุ้นไทยวันนี้ไว้ที่ 1,530-1,545 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (22 ส.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,529.42 จุด ลดลง 23.15 จุด (-0.12%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,244.60 จุด เพิ่มขึ้น 6.22 จุด (+0.12%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,182.64 จุด ลดลง 1.23 จุด (-0.06%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 48.37 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.24 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 70.44 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 5.26 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.11 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.41 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย  ลดลง 6.32 จุด

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 ส.ค.59) 1,539.24 จุด เพิ่มขึ้น 0.48 จุด (+0.03%)

      - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,015.64 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ส.ค.59

      - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (22 ส.ค.59) ปิดที่ 47.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.47 ดอลลาร์ หรือ 3%

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 ส.ค.59) ที่ 4.28 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 34.63 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ ตลาดรอจับตาถ้อยแถลงประธานเฟด

     - ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานมูลค่าการใช้บัตรพลาสติกเพื่อ การชาระเงินในระบบธนาคารพาณิชย์ และบริษัทผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นันแบงก์) ล่าสุดในเดือน มิ.ย.ปีนี้ ว่า มีมูลค่ารวม 1.17 ล้านล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน 9,000 ล้านบาท หรือ 0.77% และลดลงจากเดือนก่อนหน้า 4.6 หมื่นล้านบาท หรือ 3.79%

    - คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ผันผวนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ราคาขายปลีกดีเซลในประเทศยังอยู่ที่ระดับ 24 บาท/ลิตร ซึ่งยังไม่น่ากังวล และยังไม่จำเป็นต้องใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปดูแล เนื่องจากเป็นเรื่องของกลไกตลาด

    - รายงานข่าวจากการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า มีผู้รับเหมาก่อสร้าง 4 รายใหญ่สนใจซื้อสองประมูลงานก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงในเฟสแรก ที่จะเริ่มพัฒนาโครงการอาคารพักอาศัยแปลงจี วงเงิน 460.53 ล้านบาท โดยจะเซ็นสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมาได้ภายในเดือน ก.ย.นี้ และเริ่มก่อสร้างในเดือน ต.ค.

    - ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ประเมินว่าการแข็งค่าของเงินบาทช่วงนี้อาจไม่ได้กระทบต่อการส่งออก เนื่องจากยังเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มไปกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค จากเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศที่ไหลเข้ามาทั่วทั้งภูมิภาค โดยเงินบาทที่แข็งค่า 4% ตั้งแต่ต้นปีสอดคล้องคู่ค้าและคู่แข่งสำคัญ เช่น มาเลเซียแข็งค่าขึ้นกว่า 7% เกาหลีใต้ 5.8% สิงคโปร์ 5.2% และเวียดนาม 1.9% เป็นต้น จึงไม่ส่งผลต่อความได้เปรียบเสียเปรียบต่อภาคส่งออกไทยมากนัก

     - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งกระทรวงการคลังคิดมาตรการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมให้กับผู้ประกอบการที่ไปลงทุนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากที่ลดให้แล้วอยู่ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มแรงจูงใจ เบื้องต้นคลังจะเสนอมาตรการภาษีเป็นแพ็กเกจ เช่น ให้ผู้ประกอบการที่เริ่มกิจการใหม่ไปลงทุนใน 3 จังหวัดภาคใต้ได้ลดหย่อนภาษีมากขึ้นและนานขึ้น

*หุ้นเด่นวันนี้

     - WICE (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 4.40 บาท กำลังขยายตัวดีทั้งธุรกิจเดิมที่การค้าระหว่างประเทศและค่าระวางเรือมีแต่จะดีขึ้น และการเข้ามาของ 2 ธุรกิจใหม่ คือ บริหารคลังสินค้าและการเข้าซื้อหุ้น SEL ส่งผลให้กำไรในช่วง 3 ปีข้างหน้าเติบโตสูง พร้อมประเมินกำไรปีนี้ที่ 98 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 149 ล้านบาทในปี 61 หรือเติบโตเฉลี่ยปี 59-61 ถึง 35% ต่อปี

    - TSR (เออีซี) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 7.50 บาท ช่วง H2/59 คาดกำไรสุทธิหดตัว 20.8%YoY จากปัญหาค่าใช้จ่ายหนี้สูญ กดดันให้ทั้งปี 59 คาดกำไรหดตัว 19.2%YoY ก่อนพลิกกลับมาโตต่อปีละ 53.4% ในปี 60-61 ด้วยแรงหนุนจากกลยุทธ์เชิงรุกทั้งการเพิ่มสาขา สินค้าใหม่ และ Telesales บวกกับ การสยายปีกจากแผนรุกตลาดประเทศลาว และธุรกิจใหม่สินเชื่อรายย่อย อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 33.9% และคาดให้ Div. Yield ปีละ 2.4%

     - BA (ยูโอบี เคย์เฮียน)"ทยอยซื้อสะสม"เนื่องจากช่วง Q2/59 ขาดทุนเนื่องจากค่าใช้จ่ายพิเศษทางด้านภาษีซึ่งเป็น one-time expense ทำให้ปัจจุบันราคาหุ้นยังขึ้นมาไม่มากหากเทียบกับหุ้นในกลุ่มการบิน ทั้งนี้ คาดผลการดำเนินงานปกติในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าช่วง H1/59 จากการเริ่มเข้าสู่ช่วง high season

    - TPCH (โกลเบล็ก) เป้า Consensus เฉลี่ย  23.77 บาท กำไร Q2/59 ที่ 51 ล้านบาท (+804% yoy , 60% qoq) และคาดว่าในช่วง H2/59 รายได้และกำไรก้าวกระโดดจากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้ามหาชัย (MGP) ที่เริ่ม COD ใน Q2/59 และโรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสง (TSG) จะ COD ใน Q3/59 ทั้งนี้ Consensus คาดกำไรปี 59 ที่ 250-280 ล้านบาท (+500% YoY)  และใน 25 ส.ค.ประกาศรายชื่อผู้ได้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ 36 Mw.

     - ARROW (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 22.30 บาท ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 59-60 ขึ้น 5-6% เป็น +14% Y-Y ปีนี้ (เดิมคาด +8% Y-Y) และ +12% Y-Y ปีหน้า (เดิม +13% Y-Y) เพราะรายได้จากงานรับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้าของบ.ลูก (ARROW ถือ 65%) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากรถไฟฟ้าสีต่างๆ สุวรรณภูมิเฟส 2 และงานกลุ่มสื่อสาร บวกกับ Economy of scales ที่ใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 75-80% ทำให้กำไร H2/59 ดีกว่าครึ่งปีแรก ปัจจุบันมี PE เพียง 12 เท่าและคาด Dividend yield 5% ต่อปี

ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ ขณะนักลงทุนจับตา เยลเลน แถลงวันศุกร์นี้

     ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ร่วงลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสันโฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันศุกร์นี้ ซึ่งอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

     ดัชนี  MSCI Asia Pacific ขยับขึ้นไม่ถึง 0.1% แตะที่ 139.07 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,549.82 จุด ลดลง 48.37 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,081.57 จุด ลดลง 3.24 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,927.47 จุด ลดลง 70.44 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,987.07 จุด เพิ่มขึ้น 5.26 จุด

    ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,044.27 จุด เพิ่มขึ้น 2.11 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,841.60 จุด เพิ่มขึ้น 0.41 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,684.75 จุด ลดลง 6.32 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วง ทุบฟุตซี่ปิดลบ 30.41 จุด

   ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) เนื่องจากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

    ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 30.41 จุด หรือ 0.44% แตะที่ 6,828.54 จุด

     ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

     สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวแสดงความคิดเห็นในการประชุมเศรษฐกิจซึ่งจัดขึ้นที่รัฐโคโลราโดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า เฟดใกล้จะบรรลุเป้าหมายเกี่ยวกับการจ้างงาน และการผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อเคลื่อนไหวที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า รองประธานเฟดยังคงเปิดกว้างสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

    หุ้นเฟรสนิลโลและหุ้นแองโกล อเมริกัน ต่างก็ร่วงลงไม่ต่ำกว่า 4% นำหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปิดลบทั้งกระดาน

    หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ และหุ้นบีพีต่างก็ปรับตัวลดลงหลังมีรายงานว่า อิรักต้องการเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมัน

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัว หลังน้ำมันร่วง,วิตกเฟดขึ้นดบ.

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัวเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนตลอดทั้งวัน เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน และจากการคาดการณ์ที่ว่า นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสันโฮล ในวันศุกร์นี้

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.1% ปิดที่ 340.43 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,389.94 จุด ลดลง 10.58 จุด หรือ -0.24% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,494.35 จุด ลดลง 50.01 จุด หรือ -0.47% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,828.54 จุด ลดลง 30.41 จุด หรือ -0.44%

    ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์และน้ำมัน WTI ร่วงลงเมื่อคืนนี้ ภายหลังจากบริษัทเบเกอร์ ฮิวส์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันของสหรัฐรายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด

     นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า นางเยลเลนอาจส่งสัญญาณในการประชุมประจำปีของเฟด ที่เมืองแจ็คสันโฮล ในวันศุกร์นี้ว่า เฟดอาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้

    นักวิเคราะห์จากธนาคารยูบีเอสคาดว่า นางเยลเลนจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่แจ็คสันโฮลครั้งนี้ พร้อมกับแสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ

    หุ้นซินเทนกา ซึ่งเป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชของสวิตเซอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 11% หลังจากบริษัทไชน่า เนชันแนล เคมิคอล หรือเคมไชน่า ได้เสนอซื้อกิจการซินเทนกา มูลค่า 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 23.15 จุดหลังน้ำมันร่วง,ตลาดจับตา เยลเลน แถลง

   ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง อันเนื่องมาจากรายงานที่ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันศุกร์นี้

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,529.42 จุด ลดลง 23.15 จุด หรือ -0.12% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,244.60 จุด เพิ่มขึ้น 6.22 จุด หรือ +0.12% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,182.64 จุด ลดลง 1.23 จุด หรือ -0.06%

     ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ร่วงลงกว่า 3% หลังจากบริษัทเบเกอร์ ฮิวส์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันของสหรัฐรายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด

     นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเยลเลนจะกล่าวสุทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดวันศุกร์นี้ โดยการประชุมประจำปีของเฟดในครั้งนี้ มีหัวข้อว่า "การออกแบบกรอบนโยบายการเงินอย่างยืดหยุ่นสำหรับอนาคต"

     ทั้งนี้ เฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ ได้จัดการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง นับตั้งแต่ปี 2525 โดยได้ทำการเชิญนักเศรษฐศาสตร์จากวอลล์สตรีท รวมทั้งบรรดานักวิชาการ ให้เข้าร่วมประชุมดังกล่าวพร้อมกับเจ้าหน้าที่เฟด โดยการประชุมจะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน

     นางเยลเลนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมในปีที่แล้ว โดยนางเยลเลนจะกล่าวแสดงมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ และอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

     หุ้นไฟเซอร์ปรับตัวลง 0.40% ขณะที่หุ้นเมดิเวชั่นทะยานขึ้น 19.74% หลังจากบริษัทไฟเซอร์แถลงเมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทจะเข้าซื้อกิจการของบริษัทเมดิเวชั่น ในข้อตกลงมูลค่าเกือบ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะช่วยให้ไฟเซอร์เป็นผู้นำด้านการรักษาโรคมะเร็ง และหนุนการเติบโตของรายได้และกำไรของบริษัท

     ทั้งนี้ ไฟเซอร์เสนอซื้อหุ้นเมดิเวชั่นด้วยเงินสด ในราคาหุ้นละ 81.50 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าถึง 21.35% เมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 67.16 ดอลลาร์

     นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ รวมถึงยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. และดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.จากเฟดสาขาริชมอนด์

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!