WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET30ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นเก็ง Fund flow ไหลเข้าหลังเวิลด์แบงก์เพิ่มคาด GDP ไทย

    นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ จากแรงหนุนเรื่องที่ธนาคารโลก (World Bank) ปรับคาดการณ์ตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยเป็นเติบโต 2.5% ในปีนี้ และคาดการณ์เติบโต 2.6% ในปีหน้า ทำให้น่าจะช่วยทำให้ Fund Flow ไหลเข้ามาเพิ่ม

      ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ

พร้อมให้แนวรับ 1,438 จุด ส่วนแนวต้าน 1,450-1,455 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 มิ.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,005.05 จุด เพิ่มขึ้น 66.77 จุด (+0.37%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,974.64 จุด เพิ่มขึ้น 12.89 จุด (+0.26%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,119.12 จุด เพิ่มขึ้น 6.99 จุด (+0.33%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 88.89 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.94 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.41 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.32 จุด

    ส่วน ตลาดหุ้นจีน ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลเรือมังกร

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 มิ.ย.59) 1,445.54 จุด เพิ่มขึ้น 3.12 จุด (+0.22%)

     - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,344.23 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.59

      - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 มิ.ย.59) ปิดที่ 51.23 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือ 1.7%

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 มิ.ย.59) ที่ 4.05 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 35.10/11 แนวโน้มยังแข็งค่าต่อหลังดอลล์อ่อน

      - ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ออกรายงานประเมินภาวะเศรษฐกิจโลกรอบครึ่งปี ปรับขึ้นคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของไทย ว่าจะขยายตัวได้ 2.5% ในปีนี้ จากคาดการณ์เดิมที่ 2% และจะขยายตัวขึ้น 2.6% ในปีหน้า จากคาดการณ์เดิมที่ 2.4% ซึ่งนับเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกที่ได้ปรับคาดการณ์จีดีพีเพิ่มจากรายงานเดิมเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากการลงทุนและบริโภคที่คาดจะขยายตัวขึ้น

   - นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์กว่า 14 ราย เช่น บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ และบริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ มาซื้อซองเพื่อเข้าประมูลเป็น ผู้ก่อสร้างบ้านในโครงการบ้านประชารัฐ กรมธนารักษ์ หลังจากเปิดให้ติดต่อขอเอกสารได้ตั้งแต่ 4 พ.ค.-2 มิ.ย.ที่ผ่านมา

    - ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) เดือน พ.ค. ทรงตัวที่ระดับ 42.7 แม้ว่าความกังวลในเรื่องภาวะภัยแล้งที่ส่งผลต่อรายได้และราคาอาหารจะลดลง รวมถึงมุมมองต่อการจ้างงานและรายได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา แต่ความกังวลเรื่องราคาพลังงานที่สูงขึ้นและจะส่งผลต่อภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้นตาม ยังเป็นแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นของครัวเรือนให้ อยู่ที่ต่ำกว่าระดับ 50 ในเดือน พ.ค.

      - "อาทิตย์ วุฒิคะโร" ในฐานะคณะกรรมการชี้นำยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการเพิ่มผลิตภาพนวัตกรรม และมาตรฐานภาคอุตสาหกรรม (สปริงบอร์ด) เผยที่ประชุมสปริงบอร์ดเห็นชอบในหลักยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ระยะ 20 ปี เพื่อกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนและพัฒนาอุตสาหกรรมไทยสู่อินดัสทรี 4.0 ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 โดยที่ประชุมได้แสดงความคิดเห็น 2 ประเด็นหลักเพื่อนำกลับไปหารือให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก่อนนำเสนอให้ที่ประคณะรัฐมนตรี พิจารณาเห็นชอบในมิ.ย.นี้ โดยเน้นกำหนดรายละเอียดและเป้าหมายเชิงบูรณาการให้ยุทธศาสตร์มีความเชื่อมโยงไทยไปสู่เศรษฐกิจโลก และเร่งรัดให้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวมีผลในทางปฏิบัติภายใน 1-2 ปีนี้ ภายใต้รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

*หุ้นเด่นวันนี้

     - CPN (เออีซี) "ซื้อ"เป้า Consensus 65 บาท  ปี 59 คาดกำไรโต 17.7%YoY หลังรับรู้รายได้เต็มปีของศูนย์การค้า 3 แห่งที่เปิดปีก่อน (เวสต์เกต, ระยอง,อีสต์วิลล์) ส่วนช่วง 2Q59 จะเปิดสาขาที่นครศรีธรรมราช และปีนี้ยังมีแผนปรับปรุงพื้นที่อีก  4 แห่งซึ่งคาดหนุนปรับขึ้นค่าเช่าได้ 3-4% ต่อปี และคาดให้ Div. Yield ปีละ 1.5%

     - EPG (เออีซี) "ซื้อ"เป้า Consensus 17 บาท ปี 59/60 (เม.ย.59-มี.ค.60) คาดกำไรโต 25%YoY และโตต่อ 17%YoY ในปี 60/61 จากออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในธุรกิจยานยนต์  ธุรกิจฉนวน และธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก หลังออกสินค้าใหม่ ๆ ขณะที่บ.ย่อย TJM คาดจะพลิกมีกำไรได้จากที่ทัผลขาดทุนในปีก่อน

     - INTUCH (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 64 บาท ประเด็นผลักดันราคาหุ้นมาจาก ดีล TOT และการปรับประมาณการเพิ่มขึ้น พร้อมปรับประมาณการกำไร FY59-60 ลง 3-13% เนื่องจากการตัดค่าเสื่อมจากค่าใบอนุญาตที่สูงขึ้น แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้น 7% เพื่อสะท้อนมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากใบอนุญาต 900 MHz

      - PTT (โกลเบล็ก) เป้า 322 บาท คาดกำไรปี 59 ที่ 66,590 ล้านบาท +23%YoY จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น รวมถึงธุรกิจสำรวจและผลิต และธุรกิจก๊าซมีแนวโน้มผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงแยกก๊าซฯ และมี Sentiment เชิงบวกจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นยืนเหนือ 50 USD/Barrel นอกจากนี้ บริษัทวางแผนขยายแนวท่อก๊าซฯ และเปิดสถานีจำหน่ายน้ำมันในต่างประเทศเพิ่มเติม พร้อมเตรียมนำธุรกิจ Non-oil ส่วน Retail เข้าจดทะเบียนในตลท.

     - AH (เคทีบี) เป้า 14.50 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q59 จะปรับตัวลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล เนื่องจากมีวันหยุดมาก อย่างไรก็ตาม คาดกำไรสุทธิจะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY ได้ต่อเนื่อง จากแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้จากการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงมีสัดส่วนรายได้สูงขึ้น สำหรับภาพรวมทั้งปี 2559 คาดว่ารายได้จะเติบโตราว 4% YoY ตามทิศทางเดียวกันกับภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2559 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.9 – 2 ล้านคัน ทรงตัวถึงดีขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม คาดกำไรสุทธิปี 2559 จะเพิ่มขึ้น 18% YoY เป็น 370 ล้านบาท จากอัตรากำไรสุทธิที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นผลจาก product mix ที่จะมีสัดส่วนรายได้ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงมากขึ้น และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างจริงจัง

ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวแดนลบเช้านี้ หลังเยนแข็งค่าฉุดหุ้นญี่ปุ่นร่วง

    ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังเงินเยนแข็งค่าฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง แม้ราคาน้ำมันที่ดีดตัวจะหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.1% สู่ระดับ 132.19 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.05 น.ตามเวลาโตเกียว

   ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,742.03 จุด ลดลง 88.89 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,028.02 จุด เพิ่มขึ้น 0.94 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,871.79 จุด เพิ่มขึ้น 9.41 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,657.53 จุด ลดลง 0.32 จุด

    ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจีน ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลเรือมังกร

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 16.99 จุด ขานรับข้อมูลภาคอุตสาหกรรมขยายตัว

     ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ม.ย.) จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังอังกฤษเปิดเผยข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวในเดือนเม.ย.

    ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 16.99 จุด หรือ 0.27% แตะที่ 6,301.52 จุด

    ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษในเดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% เทียบรายเดือน ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2555 และผิดไปจากที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะปรับตัวลดลง หลังจากที่ขยับขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนมี.ค.

     เมื่อเทียบเป็นรายปีแล้ว ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.6% ซึ่งสวนทางคาดการณ์เช่นกัน หลังจากที่หดตัว 0.2% ในเดือนมี.ค.

     สำนักงานสถิติอังกฤษระบุว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมนั้นเป็นผลจากภาคการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกเภสัชภัณฑ์ ส่วนสภาพอากาศที่หนาวผิดปกตินั้นก็ช่วยหนุนการผลิตก๊าซและไฟฟ้าเช่นกัน

     หุ้นเจ เซนสเบอรี ดีดตัวขึ้น 1.6% หลังจากที่ร่วงลงในช่วงก่อนหน้านี้ หลังบริษัทเปิดเผยว่า ยอดขายเมื่อเทียบกับร้านเดียวกันปรับตัวลดลงจากปีก่อน 0.8% ในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2560

   หุ้นดับเบิ้ลยูเอ็ช สมิธ ลดลง 0.3% หลังร้านเครื่องเขียนและหนังสือรายใหญ่ของอังกฤษเปิดเผยยอดขายที่ทรงตัวของกลุ่มบริษัท

     หุ้นเทสโก้เพิ่มขึ้น 2.4% หลังสำนักข่าวสกายนิวส์รายงานว่า เทสโก้กำลังเตรียมขายร้านค้าปลีก Kipa ในตุรกีและร้านอาหาร Giraffe ในสหราชอาณาจักร

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ หลังเวิล์ดแบงก์หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลก

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ เนื่องจากการค้าและการลงทุนชะลอตัวลง

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.5% ปิดที่ 344.56 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,448.73 จุด ลดลง 27.13 จุด หรือ -0.61% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,217.03 จุด ลดลง 70.65 จุด หรือ -0.69% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,301.52 จุด เพิ่มขึ้น 16.99 จุด หรือ +0.27%

    ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากธนาคารโลกระบุว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนามีแนวโน้มขยายตัว 3.5% ในปี 2559 ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค. และคาดว่าเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว จะขยายตัว 1.7% ในปีนี้ ซึ่งลดลง 0.5% จากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค.

     ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐลงสู่ระดับ 1.9% และลดคาดการณ์เศรษฐกิจญี่ปุ่นลงสู่ระดับ 0.5% ในปีนี้

     ทั้งนี้ ธนาคารโลกระบุว่า เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเผชิญกับความเสี่ยงในช่วงขาลง ซึ่งรวมถึงการชะลอตัวของประเทศขนาดใหญ่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่, ภาวะการซื้อขายในตลาดการเงินที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว, ภาวะชะงักงันที่เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว, ภาวะตกต่ำของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกิดขึ้นยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ และความไม่แน่นนอนทางด้านการเมืองระหว่างประเทศและนโยบายที่นำมาบังคับใช้

    หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นยูนิเครดิต ดิ่งลง 4.6% หุ้นบังโค ป๊อปปูเลร์ เอสพานอล ร่วงลง 4% และหุ้นยูโรแบงก์ เออร์กาเซียส์ ดิ่งลง 3.7%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 66.77 จุด รับราคาน้ำมันพุ่งต่อเนื่อง

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) โดยดาวโจนส์ยืนเหนือระดับ 18,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 เดือน เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้

    ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,005.05 จุด เพิ่มขึ้น 66.77 จุด หรือ +0.37% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,974.64 จุด เพิ่มขึ้น 12.89 จุด หรือ +0.26% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,119.12 จุด เพิ่มขึ้น 6.99 จุด หรือ +0.33%

      ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยเมื่อคืนนี้ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นไปยืนเหนือระดับ 18,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 เดือน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ภายหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 532.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน

    หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 6.4% และหุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 7.2%

    ขณะที่หุ้นกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นนูคอร์ คอร์ป พุ่งขึ้น 2.8% และหุ้นพีพีจี อินดัสทรีส์ ปรับขึ้น 3%

    หุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพดีดตัวขึ้นหลังจากบริษัทหลายแห่งประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผล โดยหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นเอชซีเอ โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 2.2% และหุ้นซิกนา คอร์ป ปรับขึ้น 1.7%

  นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.และเดือนก.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ย่ำแย่กว่าที่คาดไว้ และการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

    นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคส่งเดือนเม.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนมิ.ย.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 มิ.ย.2559

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,005.05 จุด เพิ่มขึ้น 66.77 จุด, +0.37%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,974.64 จุด เพิ่มขึ้น 12.89 จุด, +0.26%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,119.12 จุด เพิ่มขึ้น 6.99 จุด, +0.33%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,448.73 จุด ลดลง 27.13 จุด, -0.61%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,217.03 จุด ลดลง 70.65 จุด, -0.69%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,301.52 จุด เพิ่มขึ้น 16.99 จุด, +0.27%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,862.38 จุด เพิ่มขึ้น 14.29 จุด, +0.50%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,657.85 จุด ลดลง 2.77 จุด, -0.17%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,020.66 จุด เพิ่มขึ้น 10.99 จุด, +0.04%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,916.06 จุด ลดลง 17.93 จุด, -0.36%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,297.88 จุด ลดลง 30.36 จุด, -0.14%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,722.79 จุด เพิ่มขึ้น 12.25 จุด, +0.16%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,927.16 จุด ลดลง 8.89 จุด, -0.30%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,370.00 จุด ลดลง 1.00 จุด, -0.02%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,441.10 จุด เพิ่มขึ้น 0.10 จุด, +0.00%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,027.08 จุด เพิ่มขึ้น 15.45 จุด, +0.77%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,830.92 จุด เพิ่มขึ้น 155.47 จุด, +0.93%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,715.48 จุด เพิ่มขึ้น 35.58 จุด, +0.41%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) โดยดาวโจนส์ยืนเหนือระดับ 18,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 เดือน เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,005.05 จุด เพิ่มขึ้น 66.77 จุด หรือ +0.37% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,974.64 จุด เพิ่มขึ้น 12.89 จุด หรือ +0.26% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,119.12 จุด เพิ่มขึ้น 6.99 จุด หรือ +0.33%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ เนื่องจากการค้าและการลงทุนชะลอตัวลง

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.5% ปิดที่ 344.56 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,448.73 จุด ลดลง 27.13 จุด หรือ -0.61% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,217.03 จุด ลดลง 70.65 จุด หรือ -0.69% ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,301.52 จุด เพิ่มขึ้น 16.99 จุด หรือ +0.27%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ม.ย.) จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังอังกฤษเปิดเผยข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวในเดือนเม.ย.

   ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 16.99 จุด หรือ 0.27% แตะที่ 6,301.52 จุด

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 15 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) เพราะแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยกระตุ้นแรงซื้อทองคำให้คึกคักขึ้นด้วย

   สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 15.30 ดอลลาร์ หรือ 1.23% ปิดที่ 1,262.30 ดอลลาร์/ออนซ์

   สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 59.10 เซนต์ หรือ 3.60% ปิดที่ 16.985 ดอลลาร์/ออนซ์

    สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 12.60 ดอลลาร์ หรือ 1.26% ปิดที่ 1,012.00 ดอลลาร์/ออนซ์

    สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 9.05 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 561.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบร่วงลงมากกว่า 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกันระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงเช่นกัน โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด

    สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 51.23 ดอลลาร์/บาร์เรล 

    สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 52.51 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนได้ปรับลดการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.นี้

    เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1400 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1365 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะระดับ 1.4508 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4564 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7472 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7455 ดอลลาร์สหรัฐ

    ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 106.86 เยน จากระดับ 107.29 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9587 ฟรังก์ จากระดับ 0.9650 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2711 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2767 ดอลลาร์แคนาดา

 

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 610.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด, +0.66%

  อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!