WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET44ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์อิงแดนบวก ราคาน้ำมันทะลุ 50 เหรียญฯ-เงินไหลเข้าหนุน

     นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ แต่ยังให้น้ำหนักอิงทางด้านบวกมากกว่า เนื่องจากมีปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยผลักดันดัชนีตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น

    นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนจากกระแสเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาในช่วงนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่รีบปรับเพิ่มขึ้นดอกเบี้ยใน 1-2 เดือนนี้ ซึ่งกระแสเงินทุนที่ไหลเข้ามาเป็นอีกแรงขับเคลื่อนให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น

   ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดทำการแล้วในเช้าวันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวทั้งบวกและลบประมาณ 0.1%

พร้อมให้แนวต้าน 1,450 จุด แนวรับ 1,440 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (7 มิ.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,938.28 จุด เพิ่มขึ้น 17.95 จุด (+0.10%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,961.75 จุด ลดลง 6.96 จุด (-0.14%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,112.13 จุด เพิ่มขึ้น 2.72 จุด (+0.13%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 47.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.67 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 33.97 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 24.76 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.09 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 9.37 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.04 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 13.72 จุด

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 มิ.ย.59) 1,442.42 จุด ลดลง 1.00 จุด (-0.07%)

    - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,820.48 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.59

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (7 มิ.ย.59) ปิดที่ 50.36 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 1.4%

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 มิ.ย.59) ที่ 3.95 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

   - เงินบาทเปิด 35.23 ทรงตัวจากวานนี้ แต่แนวโน้มยังแข็งค่าหลังดอลล์อ่อน ลุ้นหลุด 35.20 หรือไม่

    - ครม.ไฟเขียวร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่คาดบังคับใช้ในปี 2560 เว้นภาษีบ้านอยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ส่วนบ้านหลังที่สองเก็บตั้งแต่ล้านแรก อัตรา 0.03-0.3% ที่ดินเกษตรเสียอัตรา 0.05-0.1% ขณะที่อาคารพาณิชย์ เสียภาษีเพดานสูงสุด 2% ส่วนที่ดินรกร้างเสียเพดานสูงสุด 5% คลังคาดจัดเก็บรายได้เพิ่ม 3 หมื่นล้านบาท ขณะผู้ประกอบการอสังหาฯชี้กระทบขายบ้านหลังที่ 2 คาดคนขายที่ดินมากขึ้น ส่วนแบงก์รอประเมิน คาดส่งผลกระทบเอ็นพีเอ

    - ครม.เห็นชอบร่างกฎหมายปิโตรเลียม-ส่งให้ สนช.พิจารณา คาดอีก 4 เดือนแล้วเสร็จ สั่งพลังงานศึกษาตั้งบรรษัทปิโตรเลียมแห่งชาติ"กฤษฎีกา" เล็งตั้งคณะทำงานพิเศษเร่งออกกฎหมายลูกให้เร็วขึ้น  กรมเชื้อเพลิงฯ คาดเลื่อนเปิดสำรวจปิโตรเลียมรอบ 21 เป็น ก.ค.ปีหน้า "รสนา" อัดรัฐซื้อเวลาสั่งศึกษาตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติ

    - กกร.ห่วงกระทบลงทุนต่างชาติ หลังศาลฎีกา ตัดสินตามเกณฑ์กรมสรรพากรให้รวมบัญชีทุกโครงการที่ได้สิทธิบีโอไอคำนวณภาษี หวั่นต่างชาติไม่มั่นใจมาลงทุน เตรียมเสนอ กรอ.แก้ปัญหาด่วน คาดลงทุนครึ่งปีหลังฟื้นตามงบอัดฉีดภาครัฐ

   - สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยความไม่แน่นอนดอกเบี้ยสหรัฐกดดัน ดัชนีเชื่อมั่นเดือนมิ.ย.ลดลง โดยเฉพาะ "ความเชื่อมั่นต่างชาติ" ลดลงครั้งแรกรอบ 5 เดือน พร้อมประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ หวังภาครัฐกระตุ้นการลงทุนช่วงครึ่งปีหลัง

   - โบรกเกอร์เตรียมปรับประมาณการดัชนีเพิ่ม หลังเห็นทิศทางกำไรเติบโตดีกว่าคาด ประเมิน "แบงก์-วัสดุก่อสร้าง" น่าลงทุน ด้าน "สมาคม บล." คาดดัชนียืน 1,400 จุดได้ หากไร้ปัจจัยลบกระทบ เตือนนักลงทุน กำไรบริษัทจดทะเบียนปีนี้โต 30% เกิดจากกลุ่มพลังงานที่ผิดปกติ ชี้แท้จริงโตเพียงแค่ 3%

*หุ้นเด่นวันนี้

     - TASCO (เคจีไอ) เป้าพื้นฐาน 46.2 บาท ประเมินแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 2/59 จะเติบโตราว 15-20% QoQ จากราคายางมะตอยที่ฟื้นตัว (ราคาขายในประเทศ +50% จากราคาเฉลี่ยในไตรมาส 1/59 และราคาขายต่างประเทศ +60% จากราคาเฉลี่ยในไตรมาส 1/59) ขณะที่ปริมาณขายคาดจะทรงตัว QoQ (จะเข้าสู่ High Season ในครึ่งปีหลัง) และคาดสัญญาซื้อน้ำมันในราคาพิเศษ (ถูกกว่าราคาตลาดฯ) จะเป็นตัวหนุนอัตรากำไรให้ยังอยู่ในระดับที่สูง

   - TKS (เออีซี) แนะ"ซื้อ"เป้า 10.80 บาท ปี 59-60 คาดกำไรโตปีละ 13.3% จาก 1) Backlog ปัจจุบัน 900 ลบ. 2) แนวโน้มสดใสของ TBSP และ SYNEX 3) การเพิ่มสินค้าใหม่ที่มีนวัตกรรมและ 4) รุกตลาด CLM + Upside 28% และคาดให้ Div. Yield ปีละ 7%

    - SEAFCO (ธนชาต) แนะ"ซื้อ"เป้าหมายพื้นฐาน 13.50 บาท คาดการณ์กำไรเติบโตสูง 39-44% y-y ในปี 59-60 จากงานฐานรากที่เพิ่มขึ้น ด้วย PE ต่ำ 15x ปีนี้ และจะลดลงเหลือ 9-11x ในปี 60-61 ต่ำกว่ารับเหมาฯ ขนาดใหญ่มาก

ตลาดหุ้นเอเชียขยับขึ้นเช้านี้ ขณะจับตายอดส่งออก-นำเข้าจีน

   ตลาดหุ้นเอเชียบวกขึ้นเล็กน้อยในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลยอดส่งออก ยอดนำเข้า และดุลการค้าของจีนเดือนพ.ค. ซึ่งจะมีการรายงานในวันนี้

    ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับขึ้นไม่ถึง 0.1% แตะที่ 131.47 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,722.49 จุด เพิ่มขึ้น 47.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,932.38 จุด ลดลง 3.67 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,294.27 จุด ลดลง 33.97 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,704.66 จุด เพิ่มขึ้น 24.76 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,013.72 จุด เพิ่มขึ้น 2.09 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,857.46 จุด เพิ่มขึ้น 9.37 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,658.58 จุด ลดลง 2.04 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นพลังงานพุ่ง หนุนฟุตซี่ปิดบวก 11.13 จุด

    ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นกลุ่มค้าปลีก

   ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 11.13 จุด หรือ 0.18% แตะที่ 6,284.53 จุด

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นหลังหุ้นบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้นกว่า 3.7% ทำสถิติพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากการปรับลดค่าใช้จ่ายและการต้นทุนลงหลังจากที่บริษัทได้เข้าซื้อบริษัทบีจี กรุ๊ป

    หุ้นเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป พุ่งขึ้นมากกว่า 2% หลังรายงานบ่งชี้ว่า ธุรกิจค้าปลีกของบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : ถ้อยแถลง เยลเลน หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่ง

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) ขานรับนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงมุมมองในด้านบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งไม่ได้กำหนดกรอบเวลาว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนเม.ย.

    ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.1% ปิดที่ 346.26 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,475.86 จุด เพิ่มขึ้น 52.48 จุด หรือ +1.19% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,287.68 จุด พุ่งขึ้น 166.60 จุด หรือ +1.65% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,284.53 จุด เพิ่มขึ้น 11.13 จุด หรือ +0.18%

    ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นขานรับนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุม "World Affairs Council of Philadelphia" ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แม้ตัวเลขการจ้างงานเดือนพ.ค.ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์

   ขณะเดียวกัน ประธานเฟดไม่ได้ระบุกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และกล่าวว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้

     นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนเม.ย.เทียบรายเดือน ซึ่งดีดตัวขึ้นหลังจากที่ได้หดตัวลงสองเดือนติดต่อกัน และยังเหนือกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 0.6%

    หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นโบลิเดน พุ่งขึ้น 2% หุ้นอินเมอร์ซิส ดีดตัวขึ้นกว่า 2% หุ้นเฟรสนิลโล ปรับขึ้น 0.5% อย่างไรก็ตาม หุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 2.4%

      หุ้นเดมเลอร์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนี พุ่งขึ้น 1.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยแผนการปรับลดพนักงานลงกว่า 1,200 ตำแหน่งในโรงงานที่อเมริกาเหนือ

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 17.95 จุด รับราคาน้ำมันฟื้น

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และการแสดงมุมมองเศรษฐกิจในด้านบวกของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพร่วงลงอย่างหนัก

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,938.28 จุด เพิ่มขึ้น 17.95 จุด หรือ +0.10%  ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,961.75 จุด ลดลง 6.96 จุด หรือ -0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,112.13 จุด เพิ่มขึ้น 2.72 จุด หรือ +0.13%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยเมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นไปยืนเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากเหตุการณ์โจมตีบ่อน้ำมันในไนจีเรียส่งผลให้การผลิตน้ำมันภายในประเทศปรับตัวลง

     นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดได้แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ตัวเลขการจ้างงานเดือนพ.ค.ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ ขณะเดียวกันประธานเฟดไม่ได้ระบุกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และกล่าวว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้

    ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล และหุ้นเชฟรอน ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 1.5%

     หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้น หลังจากสายการบินเจ็ทบลูประกาศเพิ่มค่าธรรมเนียมการบินภายในประเทศ ซึ่งกระตุ้นให้สายการบินอื่นๆปรับขึ้นค่าธรรมเนียมตาม

   หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นพัลท์ กรุ๊ป พุ่งขึ้น 4.1% หลังจากพัลท์ กรุ๊ป รายงานว่า บริษัทอิลเลียต เมเนจเมนท์ ได้เข้าซื้อหุ้นในพัลท์ กรุ๊ป ขณะที่หุ้นเลนนาร์ คอร์ป และโทลล์ บราเธอร์ส

    อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพและหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง ซึ่งส่งผลให้ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลงหนักสุดในบรรดาหุ้นที่คำนวณในดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ หุ้นไบโอเจน ดิ่งลง 13% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าคาดการณ์

   สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตร ปรับตัวลงในไตรมาส 1 สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่วนต้นทุนแรงงานต่อหน่วย ซึ่งเป็นมาตรวัดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สำคัญ เพิ่มขึ้น 4.5% ในไตรมาส 1

    นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคส่งเดือนเม.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนมิ.ย.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 มิ.ย. 2559

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,938.28 จุด เพิ่มขึ้น 17.95 จุด, +0.10%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,961.75 จุด ลดลง 6.96 จุด, -0.14%+

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,112.13 จุด เพิ่มขึ้น 2.72 จุด, +0.13%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,475.86 จุด เพิ่มขึ้น 52.48 จุด, +1.19%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,287.68 จุด เพิ่มขึ้น 166.60 จุด, +1.65%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,284.53 จุด เพิ่มขึ้น 11.13 จุด, +0.18%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,848.09 จุด เพิ่มขึ้น 16.81 จุด, +0.59%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,660.62 จุด เพิ่มขึ้น 11.63 จุด, +0.71%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,933.99 จุด เพิ่มขึ้น 37.96 จุด, +0.78%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,328.24 จุด เพิ่มขึ้น 298.02 จุด, +1.42%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,710.54 จุด เพิ่มขึ้น 112.32 จุด, +1.48%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,936.04 จุด เพิ่มขึ้น 1.95 จุด, +0.07%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,371.00 จุด เพิ่มขึ้น 10.60 จุด, +0.20%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,441.00 จุด เพิ่มขึ้น 10.00 จุด, +0.18%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,011.63 จุด เพิ่มขึ้น 25.79 จุด, +1.30%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,675.45 จุด เพิ่มขึ้น 95.42 จุด, +0.58%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,679.90 จุด เพิ่มขึ้น 82.79 จุด, +0.96%

           

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และการแสดงมุมมองเศรษฐกิจในด้านบวกของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพร่วงลงอย่างหนัก

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,938.28 จุด เพิ่มขึ้น 17.95 จุด หรือ +0.10%  ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,961.75 จุด ลดลง 6.96 จุด หรือ -0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,112.13 จุด เพิ่มขึ้น 2.72 จุด หรือ +0.13%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) ขานรับนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงมุมมองในด้านบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งไม่ได้กำหนดกรอบเวลาว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนเม.ย.

          ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.1% ปิดที่ 346.26 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,475.86 จุด เพิ่มขึ้น 52.48 จุด หรือ +1.19% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,287.68 จุด พุ่งขึ้น 166.60 จุด หรือ +1.65% ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,284.53 จุด เพิ่มขึ้น 11.13 จุด หรือ +0.18%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นกลุ่มค้าปลีก

          ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 11.13 จุด หรือ 0.18% แตะที่ 6,284.53 จุด

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ทองคำปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดยังคงได้รับแรงหนุนหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,247.00 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 5.30 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 16.394 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 2.90 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 999.40 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 4.85 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 552.15 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 50.36 ดอลลาร์/บาร์เรล 

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 51.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ระบุกกรอบเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งล่าสุด

          เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1365 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1371 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4564 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4457 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7455 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7377 ดอลลาร์สหรัฐ

          ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 107.29 เยน จากระดับ 107.37 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9650 ฟรังก์ จากระดับ 0.9700 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2767 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2815 ดอลลาร์แคนาดา

 

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 606.00 จุด ลดลง 1.00 จุด, -0.16%

      อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!