WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET19ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นขึ้นแต่ไม่แรง เกาะติดตัวเลขศก.ธปท.-ครม.-MSCI ปรับน้ำหนัก

   นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่คงจะไม่แรงเหมือนอย่าง 2 วันที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยหนุนจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลกลับเข้ามาอีกครั้ง หลังจากที่มีความชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า แต่ยังต้องติดตามการส่งสัญญาณจากเฟดต่อไป

   ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบเล็กน้อย หลังตลาดสหรัฐฯปิดทำการเมื่อวานนี้ และมีการพักการซื้อขายน้ำมันด้วย อย่างไรก็ดี คงจะต้องรอการกลับมาเทรดของตลาดสหรัฐฯ และดูทิศทางราคาน้ำมันอีกครั้งด้วย

     ส่วนบ้านเราวันนี้ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศออกมาในวันนี้ ซึ่งก็คาดว่จะชะลอตัวลงจากช่วงก่อนหน้านี้ และให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะมีการพิจารณาเรื่องรถไฟทางคู่หรือไม่ และการปรับน้ำหนักหุ้นตาม MSCI ก็จะเริ่มใช้วันนี้

พร้อมให้แนวรับ 1,418-1,420 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430-1,432 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการ (30 พ.ค.59) เนื่องในวัน Memorial Day

   - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 38.56 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.14 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 12.06 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 3.66 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 4.66 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 32.58 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.10 จุด

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 พ.ค.59) 1,424.12 จุด เพิ่มขึ้น 11.45 จุด (+0.81%)

      - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 446.61 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 พ.ค.59

     - ตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการ (30 พ.ค.59) เนื่องในวัน Memorial Day

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 พ.ค.59) ที่ 5.55 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 35.63 แข็งค่าสอดคล้องภูมิภาคหลังดอลล์อ่อน แนวโน้มยังแกว่งแคบรอปัจจัยใหม่

    - นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่เหมาะสำหรับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่องยาวนาน ทำให้นักลงทุนหันมาซื้ออสังหาฯ เพื่อการลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมระดับบนที่นักลงทุนคาดหวังผลตอบแทนดีในอนาคต ซึ่งในปีนี้คอนโดฯ ระดับบนจะเปิดตัวประมาณ 9,000 ยูนิต หรือมีมูลค่า 1 ใน 3 ของตลาดอสังหาฯ รวมในส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มูลค่า 3.5 แสนล้านบาท ขณะที่ตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง-ล่าง เป็นตลาดที่มีความต้องการอยู่ แต่ผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังประสบปัญหาหนี้ครัวเรือน

     - รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวถึงสรุปผลขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจหอการค้า 5 ภาค ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวมของหอการค้าไทยอยู่ที่ 42 จุด ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 22.8 จุด ซึ่งต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนให้เห็นว่านักธุรกิจไทยยังไม่มั่นใจต่อเศรษฐกิจไทยปีนี้ เนื่องจากการส่งออกที่ลดลงเพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมถึงการบริโภคภายในประเทศก็มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากปัญหาภัยแล้งและราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้เกษตรกรมีรายได้น้อยและมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น

     - ค่าเงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยขึ้นไปถึงระดับ 111.26 ระหว่างการซื้อขายเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ภายหลัง เจเน็ต เยลเลน ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า เฟดอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สอดคล้องกับรายงานการประชุมเดือน เม.ย. ที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.

   - สศค.เผยดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจเดือนเมษายนส่งสัญญาณดีขึ้น นำโดยการเบิกจ่ายภาครัฐ ขณะที่การบริโภค การลงทุนเอกชนเริ่มกระเตื้อง รายได้เกษตรกรกลับมาบวก ในรอบ 4 เดือน ขณะที่การส่งออกพลิกมาติดลบ

  - นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 31 พ.ค. 2559 กระทรวงการคลังจะเสนอปรับปรุงมาตรการกระตุ้นให้เอกชนลงทุน จากเดิมที่กำหนดให้เป็นโครงการลงทุนทั้งหมดให้เสร็จ ภายในปีนี้ ถึงได้สิทธิหักลดหย่อนภาษี 2 เท่า เป็นโครงการที่เริ่มลงทุนในปี 2559 แต่ไม่จำเป็นต้องเสร็จภายในปีเดียว ก็สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า เพื่อแก้ไขปัญหาเอกชนยังไม่ลงทุนเพราะไม่สามารถใช้มาตรการลดหย่อนได้

    - คมนาคมเตรียมชงรถไฟทางคู่ 4 สายเข้า ครม. พร้อมเสนอไฮสปีดเทรน 2 เส้น หัวหิน-ระยอง ให้ สคร.ตั้งคณะกรรมการพีพีพี ปรับใหม่แอร์พอร์ตลิงก์ลากยาว พญาไทถึงดอนเมือง

*หุ้นเด่นวันนี้

    - BJCHI (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 8.8 บาท ประเด็นเรื่องการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก (Fed ขึ้นดอกเบี้ย) คาดจะทำให้การประมูลงานรับเหมาฯ ด้านพลังงาน เริ่มฟื้นตัว และ Valuation ไม่แพงด้วย PE 7.7 เท่า และ Dividend yield 8% ด้านเทคนิคส่งสัญญาณซื้อ หลัง Breakout กรอบ Sideway ที่ 6.10 บาท โดยประเมินแนวรับ 6.10, 6.05 บาท แนวต้านแรก 6.60 บาท

   - กลุ่มส่งออก (KCE, SVI, SMT) จากประเด็นเรื่องโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในเดือน มิ.ย.นี้ จะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบดอกสหรัฐฯ และส่งสัญญาณเรื่องเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้น คาดจะเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ (เคจีไอ)

   - KAMART (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 9.50 บาท ปี 59 คาดกำไรโต 25%YoY หลังธุรกิจเครื่องสำอางยังมีทิศทางสดใสจากผลิตภัณฑ์เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นและมีมาร์จิ้นที่ดีขึ้นจากแบ่งบรรจุสินค้าเอง อีกทั้งยังมีการคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพและมีแผนขยายช่องทางจัดจำหน่ายทั้งในและตปท. และมี Upside 20% และคาดให้ Div. yield ปีละ 3.4%

     - SMT (โกลเบล็ก) เป้า Consensus 8.10 บาท Q1/59 พลิกจากขาดทุนเป็นกำไร 38 ล้านบาท และคาดว่าจะยังคงเติบโตต่อเนื่องใน Q2/59 จากการเน้นผลิตสินค้ามาร์จิ้นสูง ด้านผู้บริหารคาดปี 2559 รายได้และกำไรเติบโต ตามเป้าหมายบริษัทที่จะเพิ่มรายได้ขึ้นราว 13% YoY เป็น 8 พันลบ. นำโดยสินค้า Value added โดยเฉพาะ IC Packaging ที่เติบโตสูงมาก อีกทั้งยอดขายจากผลิตภัณฑ์ใหม่ราว 1.6 พันลบ. แม้ว่าสินค้า MMA จะลดลงราว 5% และได้อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง

     - SCC (ฟันันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป็นหุ้นขนนาดใหญ่ที่ราคา laggard กว่าหุ้นใหญ่ตัวอื่น ขณะที่ราคาหุ้นยังมี upside เมื่อเทียบกับเป้าหมาย 550 บาท ส่วนต่าง HDPE-แนฟทาใน 2QTD ยังปรับสูงขึ้น 3% Q-Q มาอยู่ที่ US$780/ตัน ราคาปูนซีเมนต์ไม่ทรุดลงไปจากไตรมาสก่อนและมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นในช่วง 2H16

     - SAWAD (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 53.80 บาท แนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q16 ชะลอตามฤดูกาล คาด -2% Q-Q เป็น 412 ล้านบาท จากการตั้งสำรองหนี้สูญที่สูง และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่คาดลดลงจากปีก่อนที่ 25% เหลือประมาณ 22% เพราะการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น ชดเชยไม่ได้กับสินเชื่อที่คาดขยายตัวได้ 4-5% Q-Q แต่ยังมองบวกต่อการกระจายธุรกิจทั้งแนวตั้ง (การบริหารหนี้ NPL) และแนวนอน (ขยายสินเชื่อไปสู่ประเภทอื่นเช่น รถเพื่อการเกษตร และรถจักรยานยนต์ รวมถึงสินเชื่อ SME และสินเชื่อให้ผู้ประกอบการใน CLMV) โดยยังคาดกำไรปีนี้ +31.7% Y-Y

ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ ขณะนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ

   ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ประธานเฟดมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย และจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจตัวอื่นๆของสหรัฐต่อไป

    ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับขึ้นไม่ถึง 0.1% แตะที่ระดับ 128.28 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.15 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,029.46 จุด ลดลง 38.56 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,822.59 จุด เพิ่มขึ้น 0.14 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,617.33 จุด ลดลง 12.06 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,532.21 จุด ลดลง 3.66 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,962.47 จุด ลดลง 4.66 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,829.33 จุด เพิ่มขึ้น 32.58 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,628.77 จุด ลดลง 1.10 จุด

     ทั้งนี้ สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในคืนนี้ตามเวลาไทย ได้แก่ การใช้จ่าย-รายได้ส่วนบุคคลเดือนเม.ย., ดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค.โดย S&P/Case-Shiller และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.

 ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับข้อมูลเศรษฐกิจเยอรมนี,ฝรั่งเศส

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของฝรั่งเศสและเยอรมนี รวมทั้งการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการในวันหยุดธนาคารของอังกฤษ

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.14% ปิดที่ 350.14 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,529.40 จุด เพิ่มขึ้น 14.66 จุด หรือ +0.32% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,333.23 จุด เพิ่มขึ้น 46.92 จุด หรือ +0.46% ส่วนตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการในวันจันทร์ที่ 30 พ.ค.เนื่องในวันหยุดธนาคารของอังกฤษ

    ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มรถยนต์ โดยหุ้นเดมเลอร์ ปรับตัวขึ้น 1.5% หุ้นเฟียต ไคร์สเลอร์ ออโต้โมบิล พุ่งขึ้น 2.8%

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยสำนักงานสถิติของรัฐบาลเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ค่าแรงในเยอรมนีเพิ่มขึ้น 2.1% ในไตรมาสแรก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยคาดว่าปัจจัยที่ช่วยหนุนค่าแรงเพิ่มขึ้นนั้น มาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ

    ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (Insee) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 0.6% สูงกว่าที่ประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 0.5% เนื่องจากผู้บริโภคมีการใช้จ่ายมากขึ้น

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 30 พ.ค. เนื่องในวัน Memorial Day

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!