WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

bull market4ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบ,จับตาแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

    นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบ ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ทั้งนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิมากขึ้น แต่ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าตรงนี้ทำให้หลายตลาดต่างจับตาดูอยู่

      อย่างไรก็ดี ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงาน และตัวเลขการว่างงานของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ ส่วนตลาดบ้านเราก็คาดว่าจะมีการเลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัว พร้อมให้แนวรับ 1,395 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (27 พ.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,873.22 จุด เพิ่มขึ้น 44.93 จุด (+0.25%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,933.50 จุด เพิ่มขึ้น 31.74 จุด (+0.65%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.06 จุด เพิ่มขึ้น 8.96 จุด (+0.43%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 138.88 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 6.40 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 53.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.01 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.55 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 6.36 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 4.51 จุด

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 พ.ค.59) 1,412.67 จุด เพิ่มขึ้น 11.03 จุด (+0.79%)

     - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,653.41 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 พ.ค.59

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (27 พ.ค.59) ปิดที่ 49.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.3%

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 พ.ค.59) ที่ 5.25 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 35.78/80 ทิศทางยังอ่อนค่า หลังประธานเฟดหนุนขึ้นดอกเบี้ย-GDP สหรัฐดี

    - แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต จัดเก็บภาษีรวมกันให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพื่อให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวได้จริง เพราะแม้ว่า 7 เดือนของปีงบประมาณ 2559 รัฐบาลจะมีรายได้เกินเป้า 7.05 หมื่นล้านบาท แต่เกินเป้าจากรายได้การประมูล 4จี 4.82 หมื่นล้านบาท และจากรัฐวิสาหกิจ 1.68 หมื่นล้านบาท ขณะที่ 3 กรมจัดเก็บภาษีรวมกันต่ำกว่าเป้า 2.94 หมื่นล้านบาท หรือ 2.4% โดยจัดเก็บได้ 1.21 ล้านล้านบาท

    - แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีวาระการพิจารณาเรื่องสำคัญ ได้แก่ แนวทางการบริหารจัดการแหล่งก๊าซธรรมชาติที่สัมปทานจะสิ้นสุดอายุในปี 2565-2566 โดยได้จัดทำแนวทางบริหารไว้ 2 ทางเลือก คือ 1.เจรจากับผู้รับสัมปทานรายเดิม คือบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิตจำกัด และบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม 2.การเปิดประมูลโดยมีเงื่อนไขที่รัฐบาลจะต้องได้ผลประโยชน์มากกว่าเดิมที่ใช้สัญญาระบบไทยแลนด์ทรี

    - "สมคิด" เล็งชง ครม.คลอดมาตรการบีโอไอเพิ่ม พร้อมผ่อนเกณฑ์ลดภาษีหวังจูงใจเอกชนลงทุนเพิ่ม รับสภาพส่งออกฟื้นยากหลังเศรษฐกิจโลกยังไม่มีแววฟื้นหันดันเศรษฐกิจในประเทศ

    - พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ประธานกรรมการบริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานมือถือของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือเอไอเอส ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.58 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการส่งมอบกุญแจและไม่ให้เจ้าหน้าที่ของทีโอทีเข้าพื้นที่สถานีฐานเพื่อควบคุมการทำงานของทรัพย์สินภายในสถานีฐาน และไม่ให้ทีโอทีร่วมบริหารโครงข่ายโทรคมนาคมด้วย ทำให้ทีโอทีเสียโอกาสตรวจสอบข้อมูลและจำนวนลูกค้าทั้งหมดที่ค้างในระบบ รวมทั้งเสียโอกาสตรวจสอบจำนวนเลขหมายลูกค้าเอไอเอสที่ย้ายไปอย่างผิดกฎหมาย เพื่อนำมาคำนวณความเสียหายในการฟ้องคดีกับเอไอเอส โดยให้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ประธานบอร์ดทีโอทีทราบโดยเร็วที่สุด

    - นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ฮ่องกงจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการเจราทางการค้าสำหรับการจัดทำความตกลงการค้าเสรี(เอฟทีเอ) อาเซียน-ฮ่องกง ครั้งที่ 7 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง สิ้นสุดวันที่ 2 มิ.ย.59 โดนตนจะเป็นประธานร่วมฝ่ายอาเซียนสำหรับการประชุมในครั้งนี้ ซึ่งจะหารือต่อเนื่องในเรื่องการเปิดตลาดการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน กฎถิ่นกำเนิดสินค้า และกฎเกณฑ์กฎหมาย ถือว่าเป็นการประชุมที่มีความสำคัญมาก เพราะอาเซียนและฮ่องกงได้กำหนดให้มีข้อสรุปในปี 59 และเหลือการประชุมอีกครั้งเดียวในเดือน ส.ค.นี้ ส่วนการเจรจาครั้งที่ 8 ครั้งสุดท้าย จะเน้นการเจรจาเปิดตลาดสินค้าและบริการ และจัดทำรายละเอียดในประเด็นคงค้างต่างๆให้จบ

*หุ้นเด่นวันนี้

     - ADVANC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 180 บาท ผู้บริหารคงเป้าการดำเนินงานและงบลงทุน และย้ำถึงประโยชน์ของการกลับมามีคลื่น 900MHz อย่างน้อยก็ทำให้ค่าใช้จ่ายในการแย่งชิงลูกค้า 2G ไม่จำเป็นอีกต่อไป และยังสามารถเพิ่ม 4G coverage สิ้นปีนี้จากเป้าเดิม 60% เป็น 80% แน่นอนว่าค่าใบอนุญาตที่สูงมากทำให้ตลาดไม่คาดหวังกับการเติบโตของกำไรในปีนี้ (คาด -20% Y-Y) แต่ผู้บริหารมั่นใจว่าจะจ่ายปันผลได้ 100% ของกำไรตามเดิมอย่างน้อยก็ในปีนี้ ซึ่งเราคาด 10 บาท/หุ้น คิดเป็น yield 6% ราคาหุ้นที่รับข่าวร้ายไปมากแล้วจึงยังน่าสนใจลงทุน

      - EPG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 15 บาท นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่อาจผิดหวังกับกำไรสุทธิทั้งปี 58/59 (สิ้นสุดมี.ค.59) ที่ +125% Y-Y แต่สำหรับฟินันเซียฯถือว่าเป็นไปตามคาด กำไร 4Q59 (ม.ค.-มี.ค.) ที่ -1.5% Q-Q (+95% Y-Y) เพราะธุรกิจฉนวนยางและชิ้นส่วนพลาสติกรถถูกกระทบจาก low season และบาทที่แข็งค่า

   - PTL (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดว่าผลประกอบการได้ผ่านช่วงต่ำสุดไปแล้ว จาก 1) อัตรากำลังการผลิตของโรงงานที่ระดับ 80-90% เทียบกับ 70-80% ในปีก่อน 2) spread ที่อยู่ในระดับสูงจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และ 3) ค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากการลงทุนทางด้านเทคโนโลยี อีกทั้ง PTL ได้ตั้งสำรองในประเทศตุรกีและอเมริกาไปทั้งหมดแล้วในปี 58

     - CK (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 32 บาท ปรับประมาณการกำไรปี 59 เพิ่มขึ้นเป็น 2,421 ล้านบาท (+10%YoY) เพราะคาดว่าจะรับรู้งานส่วนเพิ่มจากเขื่อนไซยะบุรีอีก 1.4 หมื่นล้านบาทในปีนี้ ทำให้เป้ารายได้ก่อสร้างอยู่ที่ 4.9 หมื่นล้านบาท และคาดว่าไตรมาส 2 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของ CK เนื่องจากเริ่มรับรู้งานส่วนเพิ่มของไซยะบุรีตามที่กล่าวไปแล้วและได้รับเงินปันผลจาก TTW ราว 230 ล้านบาทช่วยหนุนผลประกอบการ ส่วนงานภาครัฐมีความคืบหน้ามากขึ้นทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีเหลือง มอเตอร์เวย์บางประอิน-โคราช และบางใหญ่-กาญจนบุรีที่เปลี่ยนรูปแบบเป็น Public Private Partnership (PPP) ซึ่งให้เอกชนมาร่วมลงทุนคาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในปลายปีนี้  และสุวรรณภูมิเฟส 2 จะเปิดประมูลปลายเดือนมิ.ย. มูลค่ารวมรวม 2.5 หมื่นล้านบาท

ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ หลังประธานเฟดหนุนขึ้นดอกเบี้ย

    ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

    ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับลง 0.2% สู่ระดับ 128.21 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.05 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,973.72 จุด เพิ่มขึ้น 138.88 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,814.65 จุด ลดลง 6.40 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,523.67 จุด ลดลง 53.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,476.62 จุด เพิ่มขึ้น 13.01 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,969.72 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,796.15 จุด ลดลง 6.36 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,632.68 จุด ลดลง 4.51 จุด

    นางเยลเลนกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีรับมอบรางวัล Radcliffe Award จากสถาบันแรดคลิฟสำหรับการศึกษาขั้นก้าวหน้า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าหากเศรษฐกิจมีการขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่ง หนุนฟุตซี่ปิดบวก 5.14 จุด

    ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด

   ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,270.79 จุด เพิ่มขึ้น 5.14 จุด หรือ +0.08%

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวก เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นแบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ พุ่งขึ้น 1.1% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ปรับขึ้น 0.8% และหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ขยับขึ้น 0.6%

     หุ้นรอยัล เมล์ ซึ่งเป็นบริษัทไปรษณีย์รายใหญ่ของอังกฤษ ทะยานขึ้น 2% หลังจากมีรายงานว่ากลุ่มสหภาพแรงงานให้ตัดสินใจยกเลิกการประท้วงในวันที่ 31 พ.ค.และวันที่ 1 มิ.ย.

     อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเยลเลนจะกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีรับมอบรางวัล Radcliffe Award จากสถาบันแรดคลิฟสำหรับการศึกษาขั้นก้าวหน้า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการไปก่อนที่ประธานเฟดจะเริ่มกล่าวสุนทรพจน์ในวาระดังกล่าว

    นักวิเคราะห์ของเครดิต สวิสคาดว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเดือนก.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการทำประชามติเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยเฟดจะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 14-15 มิ.ย. ก่อนที่อังกฤษจะมีการจัดทำประชามติในวันที่ 23 มิ.ย. ส่วนการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในเดือนก.ค.จะมีขึ้นในวันที่ 26-27 ก.ค.

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ตลาดจับตา เยลเลน กล่าวสุนทรพจน์

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายพร้อมกับจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด เพื่อจับสัญญาณว่านางเยลเลนจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.2% ปิดที่ 349.64 จุด และตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นราว 3.4%

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,514.74 จุด เพิ่มขึ้น 2.10 จุด, +0.05% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,286.31 จุด เพิ่มขึ้น 13.60 จุด หรือ +0.13% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,270.79 จุด เพิ่มขึ้น 5.14 จุด หรือ +0.08%

    นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเยลเลนจะกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีรับมอบรางวัล Radcliffe Award จากสถาบันแรดคลิฟสำหรับการศึกษาขั้นก้าวหน้า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการไปก่อนที่ประธานเฟดจะเริ่มกล่าวสุนทรพจน์ในวาระดังกล่าว

    นักวิเคราะห์ของเครดิต สวิสระบุในรายงานว่า ข้อมูลทางเศรษฐกิจสอดคล้องกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. แต่เนื่องจากอังกฤษจะมีการจัดทำประชามติเกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในเดือนมิ.ย.เช่นกัน ก็คาดว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเดือนก.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการทำประชามติดังกล่าว

   ทั้งนี้ เฟดจะทำการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 14-15 มิ.ย. ก่อนที่อังกฤษจะมีการจัดทำประชามติในวันที่ 23 มิ.ย. ส่วนการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในเดือนก.ค.จะมีขึ้นในวันที่ 26-27 ก.ค.

    หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นคอมเมิร์ซ แบงก์ พุ่งขึ้น 3.6% และหุ้นดอยช์แบงก์ทะยานขึ้น 3.4% ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเดมเลอร์พุ่งขึ้น 3.3% และหุ้นบีเอ็มดับเบิลยูปรับตัวขึ้น 2.3%

    ส่วนหุ้นอาดิดาส ปรับตัวลง 0.3% หลังจากมีรายงานว่าอาดิดาสได้ตัดขายธุรกิจ Mitchell & Ness ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์กีฬาในสหรัฐ

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 44.93 จุด รับ เยลเลน หนุนเฟดขึ้นดบ.

    ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (27 พ.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ประธานเฟดมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสแรกมีการขยายตัวได้ดีกว่าการประมาณการเบื้องต้น

      ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,873.22 จุด เพิ่มขึ้น 44.93 จุด หรือ +0.25% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,933.50 จุด เพิ่มขึ้น 31.74 จุด หรือ +0.65%  ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.06 จุด เพิ่มขึ้น 8.96 จุด หรือ +0.43%

       ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 2.1% ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 2.3% และดัชนี NASDAQ พุ่งขึ้น 4.3%

      ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนตัวผันผวน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเยลเลนจะกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีรับมอบรางวัล Radcliffe Award จากสถาบันแรดคลิฟสำหรับการศึกษาขั้นก้าวหน้า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

    ตลาดดีดตัวขึ้นหลังจากนางเยลเลนกล่าวในพิธีมอบรางวัลดังกล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าหากเศรษฐกิจมีการขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ และการจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้น

     "หากเศรษฐกิจยังคงขยายตัว และตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวขึ้น ซึ่งดิฉันก็คาดว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอย่างระมัดระวังก็ถือว่ามีความเหมาะสม" นางเยลเลนกล่าว

     นางเยลเลนยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้น หลังจากอยู่ในภาวะซบเซาในไตรมาสแรก ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ และราคาน้ำมันกำลังปรับตัวมีเสถียรภาพ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อไปสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% พร้อมกับกล่าวว่า ตลาดแรงงานใกล้เข้าสู่ภาวะการจ้างงานเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังมีความอ่อนแอในด้านค่าจ้าง และการเติบโตของประสิทธิภาพการผลิต

     นักวิเคราะห์มองว่า การแสดงความคิดเห็นของนางเยลเลนมีนัยสำคัญอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับอัตราดอกเบี้ยบที่จะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคตได้ ด้านนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.หรือก.ค.นี้

     ขณะที่นักวิเคราะห์ของเครดิต สวิสระบุในรายงานว่า ข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐสอดคล้องกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. แต่เนื่องจากอังกฤษจะมีการจัดทำประชามติเกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในเดือนมิ.ย.เช่นกัน ทำให้คาดว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเดือนก.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการทำประชามติดังกล่าว

    นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสแรก อยู่ที่ระดับ 0.8% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นซึ่งอยู่ที่ 0.5%

     หุ้นอัลตา ซาลอน คอสเมติก ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเครื่องสำอางรายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้นแข็งแกร่งถึง 9.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

    หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 1.5% จากรายงานที่ว่า กูเกิลชนะคดีสิทธิบัตร หลังจากที่มีคดีความฟ้องร้องในเรื่องดังกล่าวกับบริษัทออราเคิล คอร์ป

     หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี และหุ้นมาราธอน ออยล์ ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 1.6%

     * ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 30 พ.ค. เนื่องในวัน Memorial Day *

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 27พ.ค.2559

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,873.22 จุด เพิ่มขึ้น 44.93 จุด, +0.25%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,933.50 จุด เพิ่มขึ้น 31.73 จุด, +0.65%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,099.06 จุด เพิ่มขึ้น 8.96 จุด, +0.43%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,514.74 จุด เพิ่มขึ้น 2.10 จุด, +0.05%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,286.31 จุด เพิ่มขึ้น 13.60 จุด, +0.13%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,270.79 จุด เพิ่มขึ้น 5.14 จุด, +0.08%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,653.60 จุด เพิ่มขึ้น 286.92 จุด, +1.09%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,802.51 จุด เพิ่มขึ้น 29.20 จุด, +1.05%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,637.19 จุด เพิ่มขึ้น 6.10 จุด, +0.37%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,814.73 จุด เพิ่มขึ้น 30.16จุด, +0.63%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 20,576.77 จุด เพิ่มขึ้น 179.66 จุด, +0.88%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,411.68 จุด เพิ่มขึ้น 35.30 จุด, +0.48%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,821.05 จุด ลดลง 1.40 จุด, -0.05%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,405.90 จุด เพิ่มขึ้น 17.80 จุด, +0.33%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,469.70 จุด เพิ่มขึ้น 17.80 จุด, +0.33%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,969.17 จุด เพิ่มขึ้น 12.11 จุด, +0.62%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,834.84 จุด เพิ่มขึ้น 62.38 จุด, +0.37%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,463.61 จุด เพิ่มขึ้น 69.49 จุด, +0.83%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดบวกเมื่อวันศุกร์ (27 พ.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ประธานเฟดมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสแรกมีการขยายตัวได้ดีกว่าการประมาณการเบื้องต้น

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,873.22 จุด เพิ่มขึ้น 44.93 จุด หรือ +0.25% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,933.50 จุด เพิ่มขึ้น 31.74 จุด หรือ +0.65%  ดัชนีS&P500 ปิดที่ 2,099.06 จุด เพิ่มขึ้น 8.96 จุด หรือ +0.43%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (27 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายพร้อมกับจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด เพื่อจับสัญญาณว่านางเยลเลนจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.2% ปิดที่ 349.64 จุด และตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นราว 3.4%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,514.74 จุด เพิ่มขึ้น 2.10 จุด, +0.05% ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,286.31 จุด เพิ่มขึ้น 13.60 จุด หรือ +0.13% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,270.79 จุด เพิ่มขึ้น 5.14 จุด หรือ +0.08%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (27 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,270.79 จุด เพิ่มขึ้น 5.14 จุด หรือ +0.08%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อวันศุกร์ (27 พ.ค.) จากข่าวที่ว่าแคนาดาเริ่มกลับมาผลิตน้ำมัน หลังจากที่แหล่งผลิตน้ำมันได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟป่าในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 49.33  ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 27 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 49.32ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (27 พ.ค.) โดยสัญญาทองคำทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 8 วันทำการ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 6ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,216.70 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 7.40 เซนต์ หรือ 0.45% ปิดที่ 16.269ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 13.60 ดอลลาร์ หรือ 1.37% ปิดที่ 982.20ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปรับลง 4.65 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 539ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (27 พ.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยมุมมองดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ประธานเฟดมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต

          ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 110.43 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 109.70 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9944 ฟรังก์ จากระดับ0.9893 ฟรังก์

          ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1114 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.1190ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.4608 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4656ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7178  ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ0.7218 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 606.00 จุด เพิ่มขึ้น 5.00 จุด, +0.83%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!