WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET42ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นดีดขึ้นตามตปท.รับผลบวกราคาน้ำมันขึ้น-จีดีพี Q1/59 ของไทยดี

     นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า บรรยากาศการลงทุนของตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะดี และมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวก เนื่องจากดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น และราคาน้ำมันก็เป็นขาขึ้น อีกทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาส 1/59 ของไทยก็ออกมาดีด้วย จึงน่าจะหนุนหุ้นหลายกลุ่มขยับตัวขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มแบงก์

      โดยตลาดฯน่าจะมีแรงส่งให้ดัชนีฯขึ้นทดสอบแนวต้านแรกที่ 1,406 จุดก่อน หากผ่านได้ก็จะมีความคาดหวังต่อไปที่ 1,420 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,390 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 พ.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,710.71 จุด พุ่งขึ้น 175.39 จุด (+1.00%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,775.46 จุด เพิ่มขึ้น 57.78 จุด (+1.22%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,066.66 จุด เพิ่มขึ้น 20.05 จุด (+0.98%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 152.55 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.07 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 103.29 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.29 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.95 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.20 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.73 จุด

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 พ.ค.59) 1,397.63 จุด เพิ่มขึ้น 2.94 จุด (+0.21%)

     - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 566.69 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 พ.ค.59

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 พ.ค.59) ปิดที่ 47.72 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.51 ดอลลาร์ หรือ 3.3%

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 พ.ค.59) ที่ 4.74 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 35.38 ทรงตัวจากเย็นวานนี้ นักลงทุนรอปัจจัยใหม่กำหนดทิศทาง

     - นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในไตรมาสแรกปี 2559 ขยายตัวได้ 3.2% ต่อเนื่องจาก 2.8% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 แสดงถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นต่อเนื่องและยังเป็นอัตราที่สูงสุดในรอบ 3 ปี โดยมีแรงสนับสนุนจากหลายส่วนทั้งการท่องเที่ยว การใช้จ่ายภาครัฐ การใช้จ่ายภาคครัวเรือน

      -  แหล่งข่าวจากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส เปิดเผยถึงการยื่นซองประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่เหลือ 1 ใบอนุญาต ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ ว่า บริษัทคงเข้ายื่นประมูลและสนใจประมูล ที่ผ่านมาผู้บริหารมีการประชุมวางแผนประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การประมูลคงไม่มีปัญหา

     - นายนิธิศ มนุญพร กรรมการและ ผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานค้ำประกันสินเชื่อ บสย.ในรอบ 4 เดือน (1 ม.ค.-30 เม.ย. 2559) มียอดค้ำประกันทั้งสิ้น 3.08 หมื่นล้านบาท สามารถช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าถึงสินเชื่อจำนวน 9,187 ราย โดยมีกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล มียอดค้ำประกันมากที่สุด 2,942 ราย วงเงินอนุมัติ 1.21 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและใต้ มียอดค้ำประกันเฉลี่ย 4,000 ล้านบาท

     - "นิยต มาศะวิสุทธิ์" รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) เผยบริษัทยังคงตรึงราคาขายสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ถึงแม้ว่าในช่วงต้นปีกรมธนารักษ์มีการปรับราคาประเมินที่ดินใหม่ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของผู้ที่สนใจเข้ามาซื้อเอ็นพีเอ รวมทั้งได้จัดโปรโมชั่นฟรีค่าธรรมเนียมการโอน โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายขายเอ็นพีเอประมาณ 4,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีเอ็นพีเอทั้งหมดประมาณ 2 หมื่นล้านบาท มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ประมาณ 3.9 แสนล้านบาท

     - นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งและการกำกับการดำเนินงานกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.เพื่อสนับสนุนกองทุนเพื่อการลงทุนกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย พ.ศ. ...เพื่อให้สามารถนำเงินงบประมาณมาจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยได้ กรณีที่รายได้จากกองทุนไม่เพียงพอจ่ายผลตอบแทนขั้นต่ำที่ประกันไว้กับนักลงทุน

     - สนข.ยันระบบตั๋วร่วม 'บัตรแมงมุม' เสร็จแล้ว ส.ค.นี้ทดสอบสมบูรณ์ พร้อมส่งให้รถไฟฟ้า 4 สายติดตั้งได้ก่อน ทยอยให้บริการปีนี้ เปิดทาง 'ไฮสปีดเทรน-รถไฟทางคู่' ใช้ด้วย รอชง ครม.อนุมัติตั้งบริษัทบริหารจัดการ ให้ส่วนลดผู้ถือบัตรเริ่มต้นระยะ 2

*หุ้นเด่นวันนี้

      - BM (บมจ.บางกอกชีทเม็ททัล)เริ่มเทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยมีราคาเสนอขาย IPO ที่ 2.88 บาท/หุ้น ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินราคาพื้นฐาน 3.42 บาท จากคาดการณ์กำไรปีนี้โต 26% Y-Y ตามการเติบโตของทุกกลุ่มสินค้า และอิง PE 16 เท่าเท่ากับกลุ่ม IMM

    บมจ.บางกอกชีทเม็ททัล เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแปรรูปเหล็ก เช่น รางเดินสายไฟฟ้าและท่อร้อยสายไฟฟ้า ซึ่งทำรายได้หลัก 48% ของรายได้รวม อีก 26% เป็นชิ้นส่วนโลหะ เช่นตู้สื่อสาร ตู้ไฟฟ้า และตู้โลหะ สินค้าของบริษัทโตตามอุตสาหกรรมก่อสร้างจากการเร่งตัวของโครงการภาครัฐ การลงทุน 4G และอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร ส่วนกำไรปี 2559 คาดโตต่อเนื่อง 17% Y-Y

    - TOP (โกลเบล็ก) เป้า 68 บาท คาดกำไรปี 59 ที่ระดับ 1.4 หมื่นล่านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY จากธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจอะโรเมติกส์ รวมถึงการขาดทุน Stock Loss ลดลง และในปลาย 2Q59 บริษัทจะเริ่มเดินเครื่องโครงการ LABIX ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์เบนซีนและเคโรซีนเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นคาดว่าจะช่วยเพิ่มกำไรได้ราว 1 พันล้านบาทต่อปี พร้อมได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นยืนเหนือ 45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

    - PTTEP (เคทีบี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 82 บาท แม้จะมีแนวโน้มต้นทุนต่อหน่วยสูงขึ้นในช่วงที่เหลือของปีตามผลของฤดูกาลและจะได้รับผลกระทบจากการปรับราคาขายก๊าซธรรมชาติใน 2Q59 และ 4Q59 แต่ก็คาดว่าต้นทุนต่อหน่วยเฉลี่ยในปีนี้จะลดลงจากปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการที่ฟื้นตัวอย่างโดดเด่นได้ มอง sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานได้ปรับตัวดีขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในปัจจุบัน ขณะที่นักลงทุนเองยังคงต้องจับตาผลการพิจารณาเกี่ยวกับรูปแบบการต่อสัมปทานปิโตรเลียมซึ่งอาจส่งผลต่อราคาหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ

     - AP (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 6.60 บาท จากความสำเร็จของโครงการร่วมทุน ที่คาดจะเริ่มโอนรับรู้รายได้ตั้งแต่ในช่วง 2H59 ต่อเนื่องถึงปี 60 และความสามารถในการเร่งโอนโครงการหลังรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะเปิดให้บริการในช่วงเดือนส.ค.59 ทำให้คาด AP จะกลับมาเติบโตแข็งแกร่ง และคาด Dividend Yield ปี 59 ที่ 4%

      - TKS (เคจีไอ)"เก็งกำไร"เป้า Consensus 10.8 บาท จากประเด็นการเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็ม จากระบบแถบแม่เหล็กเป็นระบบชิปการ์ด ทั้งหมดเริ่มตั้งแต่วานนี้ และจะยกเลิกการใช้ระบบแถบแม่เหล็กภายในปี 2562 คาดเป็น Sentiment บวกต่อ บ.ลูกของ TKS อย่าง TBSP ซึ่งเป็นผู้ผลิตบัตรพลาสติกติดชิบการ์ด (TKS ถือหุ้น 19.9%) … TBSP มีโอกาสได้งานผลิตบัตรฯ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่รวม 60 ล้านใบที่ต้องเปลี่ยนระบบ สำหรับธุรกิจโรงพิมพ์ เข้าร่วมประมูลงานพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ คาดมูลค่า 200-300 ล้านบาท และได้งานพิมพ์ไปรษณียบัตรทายผลฟุตบอลยูโรมูลค่า 50 ล้านบาท พร้อมประเมินแนวรับ 8.25 บาท แนวต้าน 8.80 บาท ผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 9.0, 9.2 บาท (Stop loss 8.0 บาท)

ตลาดหุ้นเอเชียบวกขึ้นเช้านี้ รับตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่ง, ราคาน้ำมันฟื้น

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับอานิสงส์จากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืน หลังราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นมากกว่า 3%

    ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 126.63 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,618.95 จุด เพิ่มขึ้น 152.55 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,850.93 จุด เพิ่มขึ้น 0.07 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,987.24 จุด เพิ่มขึ้น 103.29 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,081.89 จุด เพิ่มขึ้น 14.29 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,973.86 จุด เพิ่มขึ้น 5.95 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,744.26 จุด เพิ่มขึ้น 8.20 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,619.48 จุด ลดลง 1.73 จุด

     ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ระบุในรายงานภาวะตลาดน้ำมันว่า ตลาดน้ำมันได้สิ้นสุดภาวะอุปทานล้นตลาดที่ได้ดำเนินมาเกือบ 2 ปีแล้ว หลังจากเกิดการชะงักงันในการผลิตน้ำมันทั่วโลก

     โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่า ตลาดได้เข้าสู่ภาวะขาดแคลนน้ำมันเร็วกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากอุปสงค์ปรับตัวเพิ่มขึ้น และการผลิตเริ่มชะลอตัวลง โดยภาวะชะงักงันของการผลิตน้ำมันในไนจีเรีย เวเนซุเอลา สหรัฐ และจีนนั้น ส่งผลให้การผลิตน้ำมันลดลงอย่างมากนับตั้งแต่เดือนมี.ค.

    นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ ยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI ในปีนี้ โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะมีค่าเฉลี่ยที่ระดับ 45 ดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 2 และอยู่ที่ 50 ดอลลาร์ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นเหมืองแร่พุ่ง หนุนฟุตซี่ปิดบวก 12.90 จุด

   ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) จากแรงช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ตลาดปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาโลหะฟื้นตัวขึ้น

    ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 12.90 จุด หรือ 0.21% แตะที่ระดับ 6,151.40 จุด

   ตลาดหุ้นลอนดอนดอนได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นอันโตฟากัสตาต่างก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3.3% หลังราคาโลหะปรับตัวเพิ่มขึ้น

   อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนรับแรงกดดันจากการทำประชามติในเรื่องการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกภาพสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนมิ.ย.นี้ ในขณะที่กลุ่มล็อบบี้รายใหญ่ของอังกฤษได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษลง โดยระบุว่า การถอนตัวออกจากสมาชิกภาพของสหภาพยุโรปจะส่งผลให้เศรษฐกิจอังกฤษเผชิญกับความไม่แน่นอน

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดขยับขึ้น รับราคาน้ำมันดีดตัว

     ตลาดหุ้นยุโรปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) โดยตลาดได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่มีการเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.05 จุด ปิดที่ 334.73 จุด

    ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,151.40 จุด เพิ่มขึ้น 12.90 จุด หรือ +0.21% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,312.28 จุด ลดลง 7.71 จุด หรือ -0.18%  ส่วนตลาดหุ้นเยอรมนีปิดทำการวันที่ 16 พ.ค. เนื่องในวัน Whit Monday

     ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นกว่า 3% ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ตลาดน้ำมันได้สิ้นสุดภาวะอุปทานล้นตลาดแล้ว พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมัน WTI ในปีนี้

     หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นทุลโลว์ ออยล์ พุ่งขึ้น 5% หุ้นลันดิน ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 3.4% หุ้นวู๊ด กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการบ่อน้ำมันรายใหญ่ของยุโรป ปรับขึ้น 2.6%

     หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นหลังจากราคาโลหะฟื้นตัวขึ้น โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 5.4% และหุ้นโบลิเดน เอบี ปรับตัวขึ้น 3.5%

     อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่มีการเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. ขยายตัว 6% เทียบเป็นรายปี โดยตัวเลขดังกล่าวชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค.ที่ขยายตัวแข็งแกร่งถึง 6.8%

      ขณะที่ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ของจีนปรับตัวขึ้น 10.1% เทียบเป็นรายปี โดยตัวเลขดังกล่าวชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค.ที่มีการขยายตัว 10.5%

    นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรปในวันนี้ โดยอังกฤษจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย. และอียูจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนมี.ค.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 175.39 จุด ขานรับราคาน้ำมันฟื้น

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นมากกว่า 3% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ตลาดน้ำมันได้สิ้นสุดภาวะอุปทานล้นตลาดแล้ว พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมัน WTI ในปีนี้ โดยการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันได้หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นด้วย

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,710.71 จุด พุ่งขึ้น 175.39 จุด หรือ +1.00% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,775.46 จุด เพิ่มขึ้น 57.78 จุด หรือ +1.22% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,066.66 จุด เพิ่มขึ้น 20.05 จุด หรือ +0.98%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ระบุในรายงานภาวะตลาดน้ำมันเมื่อวานนี้ว่า ตลาดน้ำมันได้สิ้นสุดภาวะอุปทานล้นตลาดที่ได้ดำเนินมาเกือบ 2 ปีแล้ว หลังจากเกิดการชะงักงันในการผลิตน้ำมันทั่วโลก

     โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่า ตลาดได้เข้าสู่ภาวะขาดแคลนน้ำมันเร็วกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากอุปสงค์ปรับตัวเพิ่มขึ้น และการผลิตเริ่มชะลอตัวลง โดยภาวะชะงักงันของการผลิตน้ำมันในไนจีเรีย เวเนซุเอลา สหรัฐ และจีนนั้น ส่งผลให้การผลิตน้ำมันลดลงอย่างมากนับตั้งแต่เดือนมี.ค.

    นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ ยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI ในปีนี้ โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะมีค่าเฉลี่ยที่ระดับ 45 ดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 2 และอยู่ที่ 50 ดอลลาร์ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

     ราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวขึ้นช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 1.5% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ดีดขึ้น 3.9% หุ้นมาราธอน ออยล์ พุ่งขึ้น 3.95% ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน นำโดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แรน ทะยานขึ้น 6.1%

     หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 3.7% หลังจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) รายงานว่า บริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้เพิ่มการถือครองหุ้นในบริษัทแอปเปิล อิงค์ สู่ระดับ 9.8 ล้านหุ้น

     การพุ่งขึ้นของหุ้นแอปเปิลได้ช่วยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นอินเทล คอร์ป พุ่งขึ้น 1.6% และหุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 3%

    ส่วนหุ้นไอบีเอ็ม ดีดตัวขึ้น 1.18% หลังจากก.ล.ต.สหรัฐ หรือ SEC ระบุว่า บริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ได้เพิ่มการถือครองหุ้นในบริษัทไอบีเอ็มอีก 198,853 หุ้น สู่ระดับ 81.2 ล้านหุ้น

   หุ้นอานาคอร์ ฟาร์มาซูติคอล พุ่งขึ้น 57% หลังจากบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ตกลงซื้อกิจการของอานาคอร์ ฟาร์มาซูติคอล

    สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนั้น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กระบุว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ทรุดตัวลงในเดือนพ.ค. หลังจากขยายตัวเป็นเวลา 2 เดือนก่อนหน้านี้

   ด้านสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านทรงตัวเป็นเดือนที่ 4 โดยอยู่ที่ระดับ 58 ในเดือนพ.ค. ทั้งนี้ ค่าดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงมุมมองโดยทั่วไปที่เป็นบวก โดยดัชนีดังกล่าวอยู่สูงกว่า 50 มาตั้งแต่เดือนก.ค.2014

      นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือนเม.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย., อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนเม.ย. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

      ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 พ.ค. 2559

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,710.71 จุด เพิ่มขึ้น 175.39 จุด, +1.00%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,775.46 จุด เพิ่มขึ้น 57.78 จุด, +1.22%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,066.66 จุด เพิ่มขึ้น 20.05 จุด, +0.98%        

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,312.28 จุด ลดลง 7.71 จุด, -0.18%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,151.40 จุด เพิ่มขึ้น 12.90 จุด, +0.21%

          * ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดทำการวันนี้ (16 พ.ค.) เนื่องในวัน Whit Monday

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,653.23 จุด เพิ่มขึ้น 163.66 จุด, +0.64%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,621.21 จุด ลดลง 7.05 จุด, -0.43%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,736.06 จุด เพิ่มขึ้น 1.15 จุด, +0.04%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,731.56 จุด ลดลง 30.16 จุด, -0.63%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 19,883.95 จุด เพิ่มขึ้น 164.66 จุด, +0.84%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,511.74 จุด เพิ่มขึ้น 74.95 จุด, +1.01%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,850.86 จุด เพิ่มขึ้น 23.75 จุด, +0.84%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,358.90 จุด เพิ่มขึ้น 29.90 จุด, +0.56%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,420.30 จุด เพิ่มขึ้น 24.00 จุด, +0.44%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,967.91 จุด เพิ่มขึ้น 0.92 จุด, +0.05%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,466.40 จุด เพิ่มขึ้น 54.19 จุด, +0.33%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,067.60 จุด เพิ่มขึ้น 13.91 จุด, +0.17%

      ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นมากกว่า 3% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ตลาดน้ำมันได้สิ้นสุดภาวะอุปทานล้นตลาดแล้ว พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมัน WTI ในปีนี้ โดยการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันได้หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นด้วย

          ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,710.71 จุด พุ่งขึ้น 175.39 จุด หรือ +1.00% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,775.46 จุด เพิ่มขึ้น 57.78 จุด หรือ +1.22% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,066.66 จุด เพิ่มขึ้น 20.05 จุด หรือ +0.98%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) จากแรงช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ตลาดปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาโลหะฟื้นตัวขึ้น

          ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 12.90 จุด หรือ 0.21% แตะที่ระดับ 6,151.40 จุด

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) โดยตลาดได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่มีการเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

         ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.05 จุด ปิดที่ 334.73 จุด

         ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,151.40 จุด เพิ่มขึ้น 12.90 จุด หรือ +0.21% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,312.28 จุด ลดลง 7.71 จุด หรือ -0.18%  ส่วนตลาดหุ้นเยอรมนีปิดทำการวันที่ 16 พ.ค. เนื่องในวัน Whit Monday

      สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.)  หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ตลาดน้ำมันได้สิ้นสุดภาวะอุปทานล้นตลาดแล้ว พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมัน WTI ในปีนี้

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 1.51 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 47.72 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 48.97 ดอลลาร์/บาร์เรล

           -- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 เม.ย. ในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 1,274.20 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 2.20 เซนต์ หรือ 0.13% ปิดที่ 17.154 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 1,053.50 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 591 ดอลลาร์/ออนซ์

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาด

          เงินยูโรปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1318 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1305 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4396 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4360 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7290 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7265 ดอลลาร์สหรัฐ

          ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 109.04 เยน จากระดับ 108.65 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9781 ฟรังก์ จากระดับ 0.9757 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2895 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2947 ดอลลาร์แคนาดา

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 613.00 จุด เพิ่มขึ้น 13.00 จุด, +2.17%

                        อินโฟเควสท์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!