WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

bull market1ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวน์ รับแรงหนุนคาดการณ์เฟดไม่รีบขึ้นดบ.-ราคาน้ำมันดีดขึ้น

   นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีแนวโน้มที่จะรีบาวน์ขึ้นมาได้ จากการที่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาก็ยังค่อนข้างทรงตัว อีกทั้งในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาราคาน้ำมันก็เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นมา

    "ในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าที่คาด ทำให้นักลงทุนมองว่าการขึ้นดอกเบี้ยคงจะไม่เร็วนัก ประกอบกับราคาน้ำมันที่เริ่มฟื้น รวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ทรงตัว ทำให้เรามองว่าวันนี้ตลาดหุ้นไทยจะรีบาวน์ได้"นายอภิชาติ กล่าว

   นายอภิชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก และแดนลบ

   พร้อมให้แนวรับ 1,380-1,385 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด และแนวต้านถัดไปที่ 1,410 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 พ.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,740.63 จุด เพิ่มขึ้น 79.92 จุด (+0.45%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,736.16 จุด เพิ่มขึ้น 19.07 จุด (+0.40%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,057.14 จุด เพิ่มขึ้น 6.51 จุด (+0.32%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 119.85 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 17.09 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 170.03 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 10.22 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 2.19 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.56 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.99 จุด

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 พ.ค.59) 1,390.70 จุด ลดลง 7.17 จุด(-0.51%)

    - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,357.82 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 พ.ค.59

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 พ.ค.59) ปิดที่ 44.66 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.8%

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 พ.ค.59) ที่ 4.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 35.09/11 คาดแกว่งในกรอบแคบ นักลงทุนรอผลประชุมกนง.พุธนี้

    - นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล ที่ปรึกษาสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ปัญหาที่เห็นชัดในวงการอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย คือการที่ราคาเหล็กเส้นขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากก่อนหน้าราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 13-14 บาท ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 16-17 บาท/กก. หรือกว่า 23%

     - "ทองอุไร ลิ้มปิติ" รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ลงในช่วงที่ผ่านมาอาจจะไม่ช่วยในการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ รวมไปถึงการขยายตัวของสินเชื่อได้มากนัก ส่วนหนึ่งเพราะประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้คนที่พึ่งรายได้จากดอกเบี้ยผลตอบแทนด้านเงินฝากอาจจะลดลงด้วย แต่อย่างไรก็ดีการลดดอกเบี้ยมีข้อดีในการช่วยลดภาระของคนมีหนี้ได้

    - นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกในช่วงครึ่งปีหลังนี้ยังไม่เห็นปัจจัยบวกที่จะเข้ามาส่งผลดีให้กับภาคธุรกิจค้าปลีก เนื่องจากเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ประกอบกับช่วงไตรมาส 2 ต่อเนื่องไตรมาส 3 เป็นช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งประเภทธุรกิจค้าปลีกที่น่าเป็นห่วงในปีนี้ คือ ไฮเปอร์มาร์เก็ตและคอนวีเนียนสโตร์ เนื่องจากเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับล่าง โดยเฉพาะไฮเปอร์มาร์เก็ต ทำให้การทำการตลาดยังคงเน้นไปที่การลดราคาสินค้าเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค

    - ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ กนง.ยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระด้บเดิมที่ 1.50% รอดูท่าทีเศรษฐกิจหลังมาตรการรัฐสิ้นสุด ขณะที่เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นยังกดดันด้านส่งออก แต่หากสถานการณ์แย่ลงก็อาจผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมได้

    - คลังบี้เบิกจ่ายเงินอัดฉีดเข้ากองทุนหมู่บ้าน 1.5 หมื่นล้านบาท เร่งชี้แจงหลักเกณฑ์ หวังใช้เงินรวดเร็ว โปร่งใส

*หุ้นเด่นวันนี้

    - ERW (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดจะประกาศกำไรสุทธิในงวด 1Q59 ในวันที่ 12 พ.ค.59 จะใกล้เคียงกับกำไรปี 58 ทั้งปี และผลประกอบการ 2Q59 ยังดีต่อเนื่อง หลังได้รับผลบวกจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกทั้งปีนี้มีวันหยุดยาวหลายวัน ทั้งนี้ปัจุบันราคาหุ้นยังขึ้นมาไม่มากหากเทียบกับหุ้นในกลุ่มโรงแรม

   - THAI (ยูโอบี เคย์เฮียน) "ซื้อ"เพื่อเก็งผลประกอบการในงวด Q1/59 ที่จะประกาศในวันที่ 16 พ.ค.59 นี้ โดยคาดว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยในปี 58 THAI ได้ทำการปฏิรูปองค์กรโดยมีค่าใช้จ่ายในการลดพนักงานไปกว่า 4,600 ล้านบาท และบันทึกด้อยค่าทรัพย์สินไปกว่า 12,000 ล้านบาท โดยในปี 59 ยังได้รับผลบวกจากการท่องเที่ยวที่ยังแรงต่อเนื่องประกอบกับการรับรู้ต้นทุนราคาน้ำมันที่ต่ำเต็มที่เมื่อเทียบกับปี 58 ที่ทำประกันราคาน้ำมันในระดับสูงที่ 80-90 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ปัจจัยลบของ THAI เหลืออยู่ไม่มากแล้ว

    - IRPC (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 6.80 บาท ประกาศผลการดำเนินงานในช่วง Q1/59 ยังคงแข็งแกร่ง จากค่าการกลั่นรวมอยู่ที่ 13.7 เหรียญ/บาร์เรล ลดลงเล็กน้อย แม้ว่าค่าการกลั่นของน้ำมันดีเซลจะลดลง แต่ธุรกิจปิโตรเคมีมีผลการดำเนินงานดีขึ้น ส่วนโครงการปรับปรุงโรงกลั่น (UHV) คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงกลางเดือน มิ.ย.59 คาดโครงการนี้จะทำกำไรให้กับ IRPC ประมาณ 1,500 – 2,000 ล้านบาท คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 5.0%

     - PTG (โกลเบล็ก) เป้า Consensus 15.5 – 16 บาท โดย Consensus คาดกำไร Q1/59 ที่ 260 – 270 ล้านบาท (+60% YoY, 8% QoQ) จากยอดขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และขยายสาขาปั๊มน้ำมันขึ้นเป็น 1,235 แห่ง พร้อมคาดรายได้และกำไรปี 2559 จะเติบโตขึ้น ตามบริษัทตั้งเป้ายอดขาย เพิ่มขึ้น 30-40%, EBITDA เพิ่มขึ้น 30%, ขยายสาขาเพิ่มเป็น 1,500 สาขา, กลยุทธ์ PT Max Card ขยายสมาชิกบัตรขึ้นเป็น 5.6 ล้านใบ, เพิ่มรายได้จากค่าเช่าร้านค้าตามสาขา รวมถึงรับรู้รายได้จากการเข้าลงทุนบริษัท FPT 9.55% และ AMA Marine 32% นอกจากนี้ Q2 - Q3/59 บริษัทวางแผนจำหน่ายน้ำมันเครื่องของบริษัทผ่านสาขาโดยตั้งเป้ายอดขายปี 59 ไว้ที่ 1.2 ล้านลิตร ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำไรให้บริษัทได้ราว 5-7%

ตลาดหุ้นเอเชียบวกขึ้นเช้านี้ จากคาดการณ์เฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย

   ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐออกมาต่ำเกินคาด

   ดัชนี MSCI Asia Pacific เคลื่อนไหวเล็กน้อยสู่ระดับ 127.08 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,226.57 จุด เพิ่มขึ้น 119.85 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,896.16 จุด ลดลง 17.09 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,279.90 จุด เพิ่มขึ้น 170.03 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,156.65 จุด เพิ่มขึ้น 10.22 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,974.52 จุด ลดลง 2.19 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,745.36 จุด เพิ่มขึ้น 14.56 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,647.37 จุด ลดลง 1.99 จุด

   ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 202,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 7 เดือน นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวดี

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 8.45 จุด จากการปรับตัวขึ้นหุ้นเหมืองแร่

    ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์

    ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 8.45 จุด หรือ 0.14% ที่ระดับ 6,125.70 จุด ในขณะที่ค่าดัชนีปรับตัวลดลง 1.9% ในสัปดาห์นี้

   ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ นำโดยหุ้นแรนโกลด์ รีซอร์สเซส ที่พุ่งขึ้น 6.6% จากการเพิ่มขึ้นของราคาโลหะมีค่า ในขณะที่หุ้นเฟรสนิลโลเพิ่มขึ้น 6.2%

  หุ้นริโอ ทินโต เพิ่มขึ้น 0.9% หลังระบุว่า บริษัทกำลังเข้าสู่ช่วงต่อไปของการพัฒนาเหมืองแร่ทองแดงและทองคำในมองโกเลีย

   หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน เพิ่มขึ้น 1.6% หลังระบุว่า ศาลบราซิลได้อนุมัติสัญญาการก่อสร้างฟื้นฟูที่บริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับเจ้าหน้าที่ของบราซิลไปเมื่อเดือนมี.ค. อันเนื่องมาจากเหตุเขื่อนพังครั้งร้ายแรงเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ย.ปีที่ผ่านมา

   หุ้นอินเตอร์คอนทิเนนตัล โฮเทล ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์โรงแรมโฮลิเดย์ อินน์ คราวน์ พลาซา และเครือโรงแรมอื่นๆ ลดลง 0.5% หลังระบุว่า วันหยุดในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ที่มาเร็วเกินไปได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐและยุโรป ซึ่งคาดว่าจะมีผลกระทบต่อรายได้ในไตรมาส 2 ของบริษัท

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุคาดเฟดชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

   ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นต่ำเกินคาด เนื่องจากข้อมูลที่อ่อนแอดังกล่าวได้เพิ่มแรงกดดันต่อแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

   ดัชนี Stoxx 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 331.67 จุด และลดลง 2.9% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสถิติปรับตัวลดลงในระหว่างสัปดาห์ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.

  ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,301.24 จุด ลดลง 18.22 จุด หรือ -0.42% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 9,869.95 จุด เพิ่มขึ้น 18.09 จุด หรือ +0.18% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,125.70 จุด เพิ่มขึ้น 8.45 จุด หรือ +0.14%

   ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 202,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 7 เดือน นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวดี

   ส่วนอัตราว่างงานยังทรงตัวที่ระดับ 5% ในเดือนเม.ย. สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

   ด้านตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 25.53 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงในเดือนเม.ย.

    ทั้งนี้ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ซบเซาน่าจะช่วยลดความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. โดยเฟดอาจต้องการหลักฐานเพิ่มเติมที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้วจริงๆ

  หุ้นอาร์เซเลอร์มิตตัล เอสเอ ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อวัดจากปริมาณการผลิตลดลง 1.2% หลังระบุว่า บริษัทยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับศักยภาพในการผลิตเหล็กกล้าที่สูงเกินไปในจีน

  หุ้นหุ้นแรนโกลด์ รีซอร์สเซส พุ่งขึ้น 6.6% จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาโลหะมีค่า

  หุ้น Banca Monte dei Paschi di Siena SpA เพิ่มขึ้น 2.4% หลังเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 79.92 จุด รับคาดการณ์เฟดชะลอขึ้นดบ.

   ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (6 พ.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐออกมาต่ำเกินคาด

   ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 79.92 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 17,740.63 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 6.51 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 2,057.14 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 19.07 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 4,736.16 จุด

  กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 202,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 7 เดือน นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวดี

   ส่วนอัตราว่างงานยังทรงตัวที่ระดับ 5% ในเดือนเม.ย. สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

   ด้านตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 25.53 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงในเดือนเม.ย.

   อย่างไรก็ดี ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ซบเซาน่าจะช่วยลดความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. โดยเฟดอาจต้องการหลักฐานเพิ่มเติมที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้วจริงๆ

   หุ้นเยลพ์ อิงค์ เว็บไซต์รีวิวชือดังของสหรัฐพุ่งขึ้น 23.72% หลังเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่สูงเกินคาด

   หุ้นแอคติวิชัน บลิซซาร์ด อิงค์ พุ่งขึ้น 8.5% หลังรายงานว่า บริษัทมียอดขายประจำไตรมาสที่สูงเกินคาด พร้อมกับปรับเพิ่มการคาดการณ์สำหรับปี 2559

   ห้นเฮอร์บาไลฟ์ พุ่งขึ้น 9.1% หลังระบุว่า บริษัทกำลังอยู่ในขั้นสุดท้ายของการเจรจาเพื่อยุติการสอบสวนของคณะกรรมการการค้าของสหรัฐ ในข้อหาที่ว่า บริษัทเป็นธุรกิจแบบพีระมิดหรือไม่

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 พ.ค.2559

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,740.63 จุด เพิ่มขึ้น 79.92 จุด, +0.45%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,736.16 จุด เพิ่มขึ้น 19.07 จุด, +0.40%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,057.14 จุด เพิ่มขึ้น 6.51 จุด, +0.32%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,301.24 จุด ลดลง 18.22 จุด, -0.42%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,869.95 จุด เพิ่มขึ้น 18.09 จุด, +0.18%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,125.70 จุด เพิ่มขึ้น 8.45 จุด, +0.14%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,228.50 จุด ลดลง 33.71 จุด, -0.13%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,730.80 จุด ลดลง 37.01 จุด, -1.34%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,649.36 จุด เพิ่มขึ้น 4.27 จุด, +0.26%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 20,109.87 จุด ลดลง 339.95 จุด, -1.66%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,991.87 จุด ลดลง 7.88 จุด, -0.11%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,913.25 จุด ลดลง 84.59 จุด, -2.82%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,292.00 จุด เพิ่มขึ้น 12.90 จุด, +0.24%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,358.60 จุด เพิ่มขึ้น 14.10 จุด, +0.26%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,106.72 จุด ลดลง 40.66 จุด, -0.25%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,146.43 จุด ลดลง 21.53 จุด, -0.26%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (6 พ.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐออกมาต่ำเกินคาด

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 79.92 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 17,740.63จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 6.51 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 2,057.14 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น19.07 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 4,736.16 จุด

 

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ (6 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นต่ำเกินคาด โดยข้อมูลดังกล่าวได้เพิ่มแรงกดดันต่อแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

          ดัชนี Stoxx 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 331.67 จุด และลดลง 2.9% ตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งเป็นสถิติปรับตัวลดลงในระหว่างสัปดาห์ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,301.24 จุด ลดลง 18.22 จุด หรือ -0.42% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 9,869.95 จุด เพิ่มขึ้น 18.09 จุด หรือ +0.18% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,125.70 จุด เพิ่มขึ้น8.45 จุด หรือ +0.14%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (6 พ.ค.) จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์

          ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 8.45 จุด หรือ 0.14% ที่ระดับ 6,125.70 จุด ในขณะที่ค่าดัชนีปรับตัวลดลง 1.9% ในสัปดาห์นี้

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (6 พ.ค.) หลังจากมีรายงานว่าเกิดไฟป่าเป็นวงกว้างในแหล่งทรายน้ำมันของแคนาดา

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 44.66ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 45.37ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งแรงเมื่อวันศุกร์(6 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาด

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 21.7ดอลลาร์ หรือ 1.71% ปิดที่ 1,294.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และเพิ่มขึ้น 0.27% ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่พุ่งขึ้น 4.92% ในสัปดาห์ก่อน

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 1.15% ปิดที่ 17.527 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 21.3 ดอลลาร์ หรือ 2.00% ปิดที่ 1,085.10ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 6.50 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 607.20ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันศุกร์ (6 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ต่ำเกินคาด

          เงินยูโรปรับตัวลดลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1394 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ1.1398 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะระดับ 1.4418 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ1.4473 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะ 0.7361 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ0.7463 ดอลลาร์สหรัฐ

          ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 107.12 เยน จากระดับ 107.25 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9720 ฟรังก์ จากระดับ 0.9689 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดา แตะที่ 1.2938 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.2854 ดอลลาร์แคนาดา

  

     ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 631.00 จุด ลดลง 11.00 จุด, -1.71%

      อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!