- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 27 April 2016 15:03
- Hits: 4470
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนลงตามภูมิภาคหลังงบฯแอปเปิลออกมาไม่ค่อยดี,เกาะติดผลประชุมเฟด-งบฯ SCC
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะอ่อนตัวลงเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียทีส่วนใหญ่จะติดลบเล็กน้อย ภายหลังจากที่ผลประกอบการของบริษัท แอปเปิล อิงค์ ในสหรัฐฯ ออกมาไม่ค่อยดี ทำให้ NASDAQ Future ปรับตัวลงราว 1%
นอกจากนี้ ตลาดฯยังรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ด้วย ซึ่งก็คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน แต่ต่างก็รอดูสัญญาณจากเฟดจะออกมาอย่างไรบ้าง อีกทั้งยังรอดูการประชุมธนคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในสัปดาห์นี้ด้วย เพราะมีการคาดการณ์กันว่า BOJ อาจจะมีการออกมาตรการเพิ่ม ส่วนในวันศุกร์นี้ก็ให้ติดตามตัวเลข GDP ของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมา
ส่วนตลาดบ้านเราวานนี้ได้รับแรงซื้อจากพอร์ตโบรกเกอร์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งวันนี้ก็ต้องดูต่อไปว่า Fund Flow จะไปในทิศทางไหน พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยวันนี้ก็จะมี SCC และในวันพรุ่งนี้ก็จะมี PTTEP ตามมา อย่างไรก็ดี ภาพตลาดโดยรวมคงจะแกว่งในกรอบ โดยมีแนวรับ 1,413-1,405 จุด ส่วนแนวต้าน 1,425-1,432 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (26 เม.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,990.32 จุด เพิ่มขึ้น 13.08 จุด (+0.07%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,888.28 จุด ลดลง 7.51 จุด (-0.15%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,091.70 จุด เพิ่มขึ้น 3.91 จุด (+0.19%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 16.40 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.49 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 34.94 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 20.20 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 0.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 4.25 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 2.85 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 เม.ย.59) 1,418.78 จุด เพิ่มขึ้น 10.07 จุด (+0.71%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,384.64 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 เม.ย.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (26 เม.ย.59) ปิดที่ 44.04 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 3.3%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 เม.ย.59) ที่ 5.74 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.10/11 ทิศทางยังไม่ชัดเจน รอดูผลการประชุม FOMC คืนนี้ มองกรอบ 35.00-35.20
- ครม.อนุมัติเปิดประมูลก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร วงเงินกว่า 1.72 หมื่นล้านบาท พร้อมเห็นชอบในหลักการ ช่วงนครปฐม-หัวหิน,ช่วงหัวหินประจวบคีรีขันธ์ วงเงินรวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท เร่งชงบอร์ดสศช.ต่อไป
- "ชาติ หงส์เทียมจันทร์" อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เผย กพร.ได้แจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท ทีพีไอ โพลีน ทั้งทางแพ่งและอาญารวม 5 คดี กรณีลักลอบทำเหมืองหินปูนนอกเขตประทานบัตร แบ่งเป็นคดีอาญา 2 คดี ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังเสนอต่อพนักงานอัยการ และคดีแพ่ง 3 คดี เรียกค่าเสียหายรวม 6,330 ล้านบาท ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาล
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่า เดือน มี.ค. 2559 ระบบธนาคารพาณิชย์มียอดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่ยังไม่หักกันสำรอง (Gross NPL) รวม 3.58 แสนล้านบาท คิดเป็น 2.64% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน 5.9 หมื่นล้านบาท หรือ 19.66% และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 1.99 หมื่นล้านบาท หรือ 5.88% แบ่งเป็น Gross NPL ของธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศ 3.53 แสนล้านบาท หรือ 2.78% ของสินเชื่อรวม และของสาขาธนาคารต่างประเทศ 4,517 ล้านบาท หรือ 0.52%
- สปท.หนุนขึ้นภาษี 'น้ำอัดลม-ชาเขียว' จัดเก็บภาษี 2 อัตรา 20-25% ตามความเข้มข้นของน้ำตาล แนะมท.ควบคุมทำตลาดเสี่ยงโชคด้วย ส่วนกระทรวงคลังเร่ง 10 กฎหมายลูกภาษีที่ดินพิจารณาพ.ค.นี้
- คณะรัฐมนตรีเห็นชอบขยายระยะเวลาคุ้มครองการฝากเงินในธนาคารเหลือแค่วงเงิน 1 ล้านบาท ออกไปอีก 4 ปี จากเดิมใช้ 11 ส.ค.นี้ ยึดหลักเดิมทยอยลดแบบขั้นบันไดสิ้นสุดปี 63 ด้านคลัง-ธปท.อ้างผลดีต่อเวลาปรับการใช้เงิน ปัดไม่เกี่ยวความเชื่อมั่น ศก.และสถาบันการเงิน ยืนยันยังดี สภาพคล่องก็สูง
- สมาคมตราสารหนี้เผยแค่ 3 เดือนกว่ามีเงินร้อนไหลเข้าตราสารหนี้กว่า 8 หมื่นล้านบาท เกือบเท่าปี 58 ทั้งปี คาดนักลงทุนต่างชาติแค่มาพักเงินเพราะสินทรัพย์ในไทยปลอดภัย เอกชนแห่ออกหุ้นกู้มั่นใจทั้งปีทะลุเป้าผลซุปเปอร์ดีลบิ๊กซี
*หุ้นเด่นวันนี้
- PTTGC (แอพเพิล เวลธ์)"ซื้อเมื่ออ่อนตัว"เป้า 67 บาท คาดกำไร 1Q59 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้ได้รับผลกระทบโรงโอเลฟินส์ Shut Down โดยคาดกำไรสุทธิราว 4.73 พันล้านบาท ทรงตัว QoQ ซึ่งหากไม่รวมผลขาดทุนสต็อกน้ำมันดิบและอะโรมาติกส์ที่ 630 ล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 900 ล้านบาท คาดกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 4.42 พันล้านบาท ลดลง 29% QoQ ทั้งนี้ โอเลฟินส์กลับมาเดินเครื่อง 2Q59 พยุงผลประกอบการช่วงปิดซ่อมโรงกลั่น
- SIRI (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 1.76 บาท คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติใน 1Q59 ลดลง 40% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 61%YoY จากการแรงหนุนของการจัดงานเพื่อเร่งยอดขายโครงการในมือพร้อมโอนเพื่อให้ทันมาตรการรัฐ และ การเปิดโอนโครงการใหม่ 3 แห่ง มูลค่ารวม 5,400 ล้านบาท ซึ่งมี GPM เฉลี่ยที่ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ SIRI วางแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 2Q59 สูงถึง 7 โครงการ มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็น แนวราบ 3 แห่ง และ แนวสูง 4 แห่ง โดย 2 ในนี้เป็น โครงการร่วมทุนกับ BTS ทำให้คาดยอดขายในช่วง 2Q59 จะเติบโตต่อเนื่องจาก 1Q59
- SAWAD (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 58 บาท ประมาณการกำไรสุทธิที่ 413 ล้านบาทใน 1Q59 เพิ่มขึ้น 48.6% yoy และ 4.1% qoq ขณะที่คิดเป็น 22.4% ของประมาณการทั้งปี โดยบริษัทเปิดสาขาใหม่ 132 แห่งใน 1Q59 ทำให้จำนวนสาขาเพิ่มขึ้นจาก 1,627 แห่งในสิ้นปี 58 เป็น 1,759 แห่ง คาดจะมีสินเชื่อขยายตัวสูงถึง 41% yoy และ 7% qoq ใน 1Q59 จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องและลูกค้าที่มาใช้บริการเพิ่มขึ้นในแต่ละสาขา ขณะเดียวกันผู้บริหารเผยอัตราส่วน NPL ของบริษัทจะทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และบริษัทตั้งเป้าจะขยายธุรกิจในสามประเทศคือกัมพูชา เมียนมาร์และเวียดนาม โดยบริษัทคาดจะได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อทะเบียนรถในประเทศเหล่านี้ภายใน 2Q-3Q59 พร้อมเชื่อการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศจะช่วยผลักดันการเติบโตในระยะยาว และช่วยให้บริษัทมี ROE อยู่ในระดับสูง
- MAJOR (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อเก็งกำไร"แม้ราคาหุ้นจะเหลือ upside ไม่มากเมื่อเทียบกับราคาพื้นฐานที่ 32.50 บาท และแม้กำไรปกติ 1Q59 อาจไม่น่าตื่นเต้น +10.7% Q-Q, -6.8% Y-Y แต่กำไรจากการขายหุ้น SF และ PVR คาดทำให้กำไรสุทธิ +39.6% Q-Q, -2.8% Y-Y ขณะที่ 2Q59 จะโตแรงเพราะมีหนังทำเงินหลายเรื่องอยู่ในไตรมาสนี้ เช่น Batman VS Superman, Kung Fu Panda 3, The Jungle Book, Captain America 3 (พ.ค.), X-Men Apocalypse (พ.ค.), และ Independence Day 2 (มิ.ย.) และ “หลวงพี่แจ๊ส 4g" ที่ทำรายได้แล้ว 350 ล้านบาท
ตลาดหุ้นเอเชียทรงตัวเช้านี้ ขณะนักลงทุนจับตาผลประชุมเฟด
ตลาดหุ้นเอเชียแทบทรงตัวในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ
ดัชนี MSCI Asia Pacific เคลื่อนไหวที่ระดับ 132.35 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.05 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,369.68 จุด เพิ่มขึ้น 16.40 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,967.19 จุด เพิ่มขึ้น 2.49 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,372.33 จุด ลดลง 34.94 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,561.37 จุด ลดลง 20.20 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,019.31 จุด ลดลง 0.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,890.41 จุด ลดลง 4.25 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,689.65 จุด ลดลง 2.85 จุด
ทั้งนี้ ผลการสำรวจของสถานีโทรทัศน์ CNBC บ่งชี้ว่า นักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า เฟดจะส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมครั้งนี้มากกว่าการประชุมในเดือนมี.ค. และคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค., ดัชนีการผลิตเดือนเม.ย.จากเฟดสาขาดัลลัส และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 23.60 จุด รับผลประกอบการภาคเอกชนสดใส
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด และบริษัทบีพี
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 23.60 จุด หรือ 0.38% แตะที่ 6,284.52 จุด หลังจากที่ทำสถิติปรับตัวลดลงติดต่อกันที่ยาวนานที่สุดในรอบ 2 เดือนในช่วงก่อนหน้านี้
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยหนุนจากการพุ่งแรงของหุ้นกลุ่มบลูชิ นำโดยหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ที่พุ่งขึ้น 9.8% หลังเปิดเผยการลดลงอย่างเหนือคาดหมายของยอดเงินกู้ด้อยค่า
หุ้นบีพีเพิ่มขึ้น 4.3% หลังบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของอังกฤษได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้
หุ้นไวท์เบรียดเพิ่มขึ้น 2.6% หลังเปิดเผยผลประกอบที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากยอดขายที่แข็งแกร่งของแบรนด์ร้านกาแฟ Costa Coffee ของบริษัท
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับราคาน้ำมันฟื้น,ผลประกอบการสดใส
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดในแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ ขานรับราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวขึ้น และผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 347.31 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,533.18 จุด ลดลง 12.94 จุด หรือ -0.28% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,259.59 จุด ลดลง 34.76 จุด หรือ -0.34% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,284.52 จุด เพิ่มขึ้น 23.60 จุด หรือ +0.38%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอนดีดตัวขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
หุ้นบีพี พุ่งขึ้น 4.3% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการร์ผลประกอบการในปีนี้ แม้ว่าบีพีมีตัวเลขขาดทุนก่อนหักภาษีที่ระดับ 865 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก โดยได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ยังคงดิ่งลง
หุ้นออเรนจ์ ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 1.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรเพิ่มขึ้น 3.5% เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในตลาดสเปน
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 13.08 จุด รับราคาน้ำมันฟื้นตัว
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นกว่า 3% ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึง เฟียต ไครส์เลอร์
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,990.32 จุด เพิ่มขึ้น 13.08 จุด หรือ +0.07% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,888.28 จุด ลดลง 7.51 จุด หรือ -0.15% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,091.70 จุด เพิ่มขึ้น 3.91 จุด หรือ +0.19%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก ขานรับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ดีดตัวขึ้น 3.3% ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นโคโนโคฟิลิปส์ พุ่งขึ้น 3.9% หุ้นไพโอเนียร์ รีซอสเซส ทะยานขึ้น 7.7%
ส่วนหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับขึ้น 0.3% แม้ว่าสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทเอ็กซอน โมบิล จาก AAA สู่ AA+ โดยระบุว่า ปัจจัยชี้วัดความน่าเชื่อถือของเอ็กซอน ซึ่งรวมถึงกระแสเงินสดหมุนเวียนนั้น จะยังคงอยู่ต่ำกว่าที่ทาง S&P คาดไว้สำหรับอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA ไปจนถึงปี 2018
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันเช่นกัน โดยหุ้นอัลโค อิงค์ พุ่งขึ้น 4.9% หุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง คอร์ป ปรับขึ้น 2.8% หุ้นดูปองท์พุ่งขึ้น 2.2% หุ้นดาว เคมิคอล เพิ่มขึ้น 2.3%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน โดยเฟียต ไครส์เลอร์ ออโตโมบิล เปิดเผยกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกอยู่ที่ระดับ 1.38 พันล้านยูโร จากระดับ 700 ล้านยูโรในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยผลกำไรในไตรมาสแรกของบริษัทออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.17 พันล้านยูโร
ขณะที่พร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เปิดเผยกำไรสุทธิพุ่งแตะระดับ 2.75 พันล้านดอลลาร์ หรือ 97 เซนต์/หุ้นในไตรมาสแรก โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.15 พันล้านดอลลาร์ หรือ 75 เซนต์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เพราะได้ปัจจัยหนุนจากการปรับลดค่าใช้จ่าย และการปรับขึ้นราคาสินค้า
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐได้สกัดแรงบวกของตลาดในระหว่างวัน โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนมี.ค. โดยปรับตัวขึ้นเพียง 0.8% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะพุ่งขึ้น 1.8%
ด้านผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.5%
นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่ผลการสำรวจของสถานีโทรทัศน์ CNBC บ่งชี้ว่า นักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า เฟดจะส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมครั้งนี้มากกว่าการประชุมในเดือนมี.ค. และคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค., ดัชนีการผลิตเดือนเม.ย.จากเฟดสาขาดัลลัส และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
อินโฟเควสท์