WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET27แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นปรับขึ้นตามตลาดภูมิภาค รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันขึ้น-เก็งงบฯ Q1/59

    นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกกัน โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ยังปรับตัวขึ้น และมองว่าตลาดฯยังคงแข็งแกร่ง จากที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงอ่อนค่าทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาในสินทรัพย์เสี่ยง

       นอกจากนี้ ตลาดฯคงจะได้รับแรงหนุนจากการเข้ามาเล่นเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 1/59 ที่คาดว่าจะออกมาดีด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,410 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420-1,429 จุด

ตลาดหุ้นเอเชียทะยานขึ้นเช้านี้ หลังราคาน้ำมันดิบพุ่งต่อเนื่อง

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ทะยานขึ้นหลังเงินเยนอ่อนค่า 3 วันติดต่อกันเมื่อเทียบดอลลาร์ รวมถึงราคาน้ำมัน WTI ที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 42 ดอลลาร์/บาร์เรล

     ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.6% สู่ระดับ 133.23 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.05 น.ตามเวลาโตเกียว

      ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,187.27 จุด เพิ่มขึ้น 280.73 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,954.37 จุด ลดลง 18.21 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,406.40 จุด เพิ่มขึ้น 170.09 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,549.14 จุด เพิ่มขึ้น 34.66 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,014.60 จุด เพิ่มขึ้น 8.77 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,952.13 จุด เพิ่มขึ้น 2.18 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,709.88 จุด เพิ่มขึ้น 0.97 จุด

                ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นเหนือระดับ 42 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือพุ่งขึ้นเกือบ 4% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน:ฟุตซี่ปิดบวก 4.91 จุด จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นเหมืองแร่

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นกลุ่มเหมืองแร่

       ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 4.91 จุด หรือ 0.08% แตะที่  6,410.26 จุด

       ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 เดือนเป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังจากหุ้นบริษัทรายใหญ่อย่างแองโกล อเมริกัน, ริโอ ทินโต และสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ต่างก็พุ่งขึ้นไม่ต่ำกว่า 3%

      สำหรับ ข่าวเกี่ยวกับบริษัทเอกชน หุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิ้งส์ ลดลง 1% ถึงแม้ว่าบริษัทจะรายงานยอดขายประจำไตรมาสที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่กลับมีรายได้ก่อนหักภาษีที่ต่ำกว่าตัวเลขการคาดการณ์

      หุ้นฮาร์กรีฟส์ แลนส์ดาวน์ ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ ปรับตัวลดลงรุนแรงที่สุดในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ขณะที่ที่หุ้นแพดดี เพาเวอร์ เบทแฟร์ และหุ้นบีที กรุ๊ป ร่วงลง หลังจากนักวิเคราะห์ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนในหุ้นของทั้งสองบริษัท

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก หลังราคาน้ำมันพุ่งหนุนหุ้นพลังงานฟื้น

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบได้หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นด้วย โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นเหนือระดับ 42 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.4% ปิดที่ 350.74 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ปีนี้

   ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,591.92 จุด เพิ่มขึ้น 25.44 จุด หรือ +0.56% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,421.29 จุด เพิ่มขึ้น 71.70 จุด หรือ +0.69% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,410.26 จุด เพิ่มขึ้น 4.91 จุด หรือ +0.08%

     ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 42 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 4% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 เม.ย. สู่ระดับ 538.6 ล้านบาร์เรล โดยตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล

      หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับขึ้น 0.7% หุ้นทุลโลว์ ออยล์ พุ่งขึ้น 5.1% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ขยับขึ้น 0.2% หุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 5.2% และหุ้นเฟรสนิลโล ปรับขึ้น 3.1%

      อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากรัฐบาลเยอรมนีประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจสำหรับปี 2560 อันเนื่องจากความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก

     ทั้งนี้ นายซิกมาร์ กาเบรียล รมว.เศรษฐกิจของเยอรมนี กล่าวว่า รัฐบาลได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้าสู่ระดับ 1.5% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนต.ค.ปีที่แล้วที่ระดับ 1.8% ส่วนการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ยังคงอยู่ที่ระดับ 1.7%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 42.67 จุด รับราคาน้ำมันพุ่ง,ข้อมูลศก.สหรัฐสดใส

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมัน WTI ที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 42 ดอลลาร์/บาร์เรล นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสหรัฐ และรายงานยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐที่พุ่งเกินคาดในเดือนมี.ค.

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,096.27 จุด เพิ่มขึ้น 42.67 จุด หรือ +0.24% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,948.13 จุด เพิ่มขึ้น 7.80 จุด หรือ +0.16% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,102.40 จุด เพิ่มขึ้น 1.60 จุด หรือ +0.08%

      ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทะยานขึ้นเหนือระดับ 42 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือพุ่งขึ้นเกือบ 4% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด โดยพุ่งขึ้น 5.1% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.33 ล้านยูนิต ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.5% สู่ระดับ 5.30 ล้านยูนิต

   หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นเชฟรอน ปรับขึ้น 1.2% หุ้นชลัมเบอร์เกอร์ พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ดีดขึ้น 1.85%

    หุ้นยาฮู อิงค์ พุ่งขึ้น 4.16% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาสแรกอยู่ที่ 8 เซนต์ ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้

     หุ้นอินเทล พุ่งขึ้น 1.27% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด นอกจากนี้ อินเทลยังได้ประกาศแผนลดจำนวนพนักงาน 12,000 ตำแหน่งทั่วโลก หรือคิดเป็นสัดส่วน 11% ของการจ้างงานในองค์กร นับเป็นการปรับลดพนักงานในอัตราส่วนสูงสุดในรอบ 10 ปี

     หุ้นกลุ่มธนาคารยังคงได้รับแรงหนุนอย่างคึกคัก โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ทะยานขึ้น 3.3% หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ปรับขึ้น 2.3% และหุ้นยูเอส แบงก์คอร์ป พุ่งขึ้น 2%

     อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภคร่วงลง โดยหุ้นโคคา-โคลา ดิ่งลง 4.79% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อน หุ้นเฮอร์ชีย์ ผู้ผลิตช็อคโกแลตรายใหญ่ ร่วงลง 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายช็อคโกแลตชะลอตัวลงในตลาดสหรัฐ ส่วนหุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ดิ่งลง 2.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.

     นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนเม.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีราคาบ้านเดือนก.พ. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย.โดยมาร์กิต

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!