- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 20 April 2016 12:36
- Hits: 2498
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวมีลุ้นทดสอบ 1,420 แต่อาจเจอแรงขายกลุ่มแบงก์ใหญ่หลัง NPL เพิ่ม
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัว โดยมีโอกาสที่จะขึ้นทดสอบระดับ 1,420 จุดได้แต่ก็อาจจะเจอแรงขายทำกำไรออกมา โดยเฉพาะจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ เนื่องจากแบงก์ขนาดใหญ่ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/59 ออกมาไม่ดีมาก และยังมีตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่เพิ่มขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี คาดว่าตลาดฯจะได้แรงพยุงจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้น ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยคืนนี้ให้ติดตามสต็อกน้ำมันจากสหรัฐฯ และในวันพรุ่งนี้ก็จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งก็ให้รอดูมุมมองเศรษฐกิจ และมาตรการเสริมจะมีขึ้นมาหรือไม่
พร้อมให้แนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420-1,450 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (19 เม.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,053.60 จุด เพิ่มขึ้น 49.44 จุด (+0.27%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,940.33 จุด ลดลง 19.69 จุด (-0.40%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,100.80 จุด เพิ่มขึ้น 6.46 จุด (+0.31%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 179.39 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.56 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 16.61 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 15.37 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.69 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.26 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.21 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 เม.ย.59) 1,416.00 จุด เพิ่มขึ้น 17.23 จุด (+1.23%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 603.05 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 เม.ย.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 เม.ย.59) ปิดที่ 41.08 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.30 ดอลลาร์ หรือ 3.3%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 เม.ย.59) ที่ 4.34 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.84/86 คาดแข็งค่าต่อ จับตาตัวเลขศก.สหรัฐ-ประชุม ECB พฤหัสนี้
- ครม. ไฟเขียวปรับโครงสร้างภาษี ผู้มีเงินเดือนไม่ถึง 26,000 ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เริ่มใช้ปีภาษี 60 เป็นต้นไป เพิ่มเพดานหักลดหย่อนไม่เกิน 1 แสนบาท ส่วนบุตรหักลดหย่อนจาก 15,000 เพิ่มเป็น 30,000 บาท ขุนคลังยืนยันไม่จำเป็นที่จะต้องขึ้นแวต ด้านนายกฯแจงการปฏิรูป ต้องทำให้ "ท้องถิ่น-จว.ภูมิภาค "เข้มแข็ง อ้างเก็บภาษี เพิ่มรายจ่ายประเทศ
- นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยและข้าราชการที่มีรายได้เดือนละไม่เกิน 2 หมื่นบาท และไม่เคยมีที่อยู่อาศัยมาก่อน ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองในราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือเช่าชั่วคราวในบ้านที่สร้างบนที่ราชพัสดุ รวมทั้งให้ผู้ที่ต้องการซ่อมแซมหรือต่อเติมที่อยู่อาศัยบนที่ดินราชพัสดุในวงเงินไม่เกิน 5 แสนบาท
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจที่สำคัญในเรื่องสถานการณ์ด้านแรงงาน ล่าสุดในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า อัตราการว่างงานของแรงงานไทยยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง คิดเป็นสัดส่วน 0.9% ของกำลังแรงงานทั้งหมด เฉพาะในส่วนของแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศ มีจำนวน 8,690 คน เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน 3.9% แต่มียอดรายได้ส่งกลับของแรงงานไทยในต่างประเทศอยู่ที่ 6,193 ล้านบาท ลดลง 1.9% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน
- นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลการสำรวจค่าครองชีพไทยแพงจริงหรือไม่ในภาวะภัยแล้ง และเงินเฟ้อติดลบ จากตัวอย่าง 1,356 รายทั่วประเทศ พบว่าจากปัญหาภัยแล้ง เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่ซึมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อไตรมาสแรกที่ผ่านมา ติดลบ 0.6% แต่ประชาชนรู้สึกว่าราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับหลายปีก่อน
- ครม.ไฟเขียวรถไฟฟ้าสายสีส้มศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี วงเงิน 8.2 หมื่นล้านบาท ขีดเส้นหาผู้รับเหมาใน 2 เดือน
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC SCB) ระบุถึงกรณีที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ในเดือนเมษายน 2559 ซึ่งมีการปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2559 ลงเหลือ 3.2% จากที่คาดการณ์ไว้ระดับ 3.4% โดยเป็นการปรับลดประมาณการทั้งประเทศพัฒนาแล้ว และประเทศตลาดเกิดใหม่และกำลังพัฒนา รวมทั้งยังเตือนถึงความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- PS (ไอร่า) เป้า 32.20 บาท ล่าสุด PS เปิดเผยยอดขายใน Q1/59 สูงกว่า 9,000 ล้านบาท ดีขึ้นจาก Q1/58 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯของภาครัฐ ทั้งการลดค่าธรรมเนียมโอน และจดจำนอง รวมถึงมีแผนเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง ทั้งนี้ PS ตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 59 ราว 52,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 51,240 ล้านบาท จากปี 58 ปัจจุบัน PS มี Backlog ราว 10,000 ล้านบาท คาดทยอยรับรู้ถึงปี 61 และส่วนที่เหลือคาดมาจากการรับรู้รายได้จาก Stock ที่มีอยู่ และโครงการใหม่ที่ทยอยเปิด โดยทั้งปี 59 อยู่ที่ 50 – 55 โครงการ มูลค่ารวม 45,000 ล้านบาท แบ่งเป็น แนวราบ 44 – 49 โครงการ (ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างเพียง 70 วัน) และคอนโดฯ อีก 6 – 7 โครงการ
- COM7 (เคจีไอ) เป้า Consensus 7.23 บาท ตั้งแต่ 1 เม.ย. เริ่มสั่งซื้อ iPhone ตรงจากทาง Apple (ตัดคนกลาง อัตรากำไรเพิ่มราว 2 – 3% และทำให้มีสินค้าขายตามความต้องการของลูกค้า) พร้อมคาดงบไตรมาส 2/59 โตเด่น และได้รับอานิสงส์การแข่งขันแย่งส่วนแบ่งตลาดฯของค่ายมือถือ โดยคาดจะได้ข้อสรุปส่วนแบ่งรายได้จากการขายเครื่องพ่วงซิมโทรศัพท์มือถือเร็ว ๆ นี้
- TCAP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 48 บาท กำไรตามคาด ทรงตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y คุณภาพหนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ NPL ลดต่อเนื่องเหลือ 2.8% เกือบต่ำสุดในกลุ่ม Coverage ratio สูงขึ้นเป็น 119% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยยังรักษาไว้ได้ที่ 2.9% (ต่ำกว่า KKP และ TISCO เพราะ TCAP มีสินเชื่อธุรกิจมากกว่า) แม้สินเชื่อจะลดลง 2% YTD แต่ตามยอดขายรถที่ชะลอ
- CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 60 บาท คาดกำไร Q1/59 โตต่อเนื่อง +1.5% Q-Q, +15.5% Y-Y จากยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาเดิมที่น่าจะบวกต่อเนื่อง 2-3% Y-Y และเดินหน้าขยายสาขาในอัตราเร่ง โดยสิ้น Q1/59 มีจำนวนสาขาทั่วประเทศทะลุ 9 พันแห่งแล้ว แนวโน้ม Q2/59 จะแผ่วลงและดีขึ้นใน H2/59 ซึ่งเป็นช่วงทำ Stamp promotion โดยยังคาดกำไรทั้งปีนี้ +14.8% Y-Y
- LPN (โกลเบล็ก) เป้า 15.30 บาท คาดยอดโอนในช่วง 4 เดือนแรกจะสูงเนื่องจากมาตรการลดภาษีกระตุ้นอสังหาฯมีผลบังคับใช้ภายในเดือนเม.ย. 59 รวมถึงได้ประโยชน์จากโครงการบ้านประชารัฐเนื่องจาก มีสต็อกราว 4-5 พันยูนิตใน 13 โครงการมูลค่า 4-5 พันลบ. ในปี 59 คาดรายได้ราว 1.65 หมื่นล้านบาท และกำไรที่ราว 2.5 พันล้านบาทเติบโตราว 4% โดยมี backlog ราว 1.23 หมื่นล้านบาท คาดกำไร Q1/59 เติบโตสูงจากยอดโอนที่เติบโตสูงจากฐานที่ต่ำใน Q1/58 (กำหนดส่งงบ 12 พ.ค.) ด้าน Div Yield ระดับสูงราว 6.4%
ตลาดหุ้นเอเชียบวกเช้านี้ ขานรับราคาน้ำมันดิบพุ่ง
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ทะยานขึ้นหลังเงินเยนอ่อนค่า ขณะเดียวกันยังได้รับแรงบวกจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นมายืนเหนือระดับ 41 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.6% สู่ระดับ 133.35 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.05 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,053.83 จุด เพิ่มขึ้น 179.39 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,050.38 จุด เพิ่มขึ้น 7.56 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,452.82 จุด เพิ่มขึ้น 16.61 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,649.09 จุด เพิ่มขึ้น 15.37 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,017.05 จุด เพิ่มขึ้น 5.69 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,955.07 จุด เพิ่มขึ้น 3.26 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,713.36 จุด เพิ่มขึ้น 2.21 จุด
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 51.83 จุด หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่ง
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งแรง
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 51.83 จุด หรือ 0.82% แตะที่ 6,405.35 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงงานซึ่งนำโดยหุ้นทุลโลว์ ออยล์ พุ่งขึ้น 5% ในขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ก็ก็พุ่งแรงเช่นเดียวกัน โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นอันโตฟากัสตา ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างน้อย 7.5%
สำหรับ ข่าวบริษัทเอกชนรายอื่นๆ หุ้นแอสโซซิเอสเต็ด บริติช ฟู้ดส์ เพิ่มขึ้น 2% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อันเนื่องมาจากผลประกอบการณ์ที่สดใสในธุรกิจน้ำตาล
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดพุ่ง รับราคาน้ำมันฟื้น,ความเชื่อมั่นเยอรมนีสดใส
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งรายงานจาก ZEW ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจของเยอรมนีพุ่งเกินคาดในเดือนเม.ย.
Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.46% ปิดที่ 349.24 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,566.48 จุด เพิ่มขึ้น 59.64 จุด หรือ +1.32% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,349.59 จุด เพิ่มขึ้น 229.28 จุด หรือ +2.27% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,405.35 จุด เพิ่มขึ้น 51.83 จุด หรือ +0.82%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้น ขานรับราคาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักข่าว KUNA ของคูเวตรายงานว่า คนงานในอุตสาหกรรมน้ำมันของคูเวตจำนวนหลายพันคนได้ทำการประท้วงเพื่อคัดค้านแผนการปรับลดเงินเดือน
เหตุการณ์ประท้วงดังกล่าวส่งผลให้การผลิตน้ำมันของคูเวตลดลงราว 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน มาอยู่ที่ระดับ 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน โดยคูเวตเป็นสมาชิกรายใหญ่อันดับ 4 ในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
หุ้นกลุมพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นสแตทออยล์ พุ่งขึ้น 3.5% หุ้นซับซี ดีดตัวขึ้น 6% และหุ้นทุลโลว์ ออยล์ ทะยานขึ้น 5%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงหนุนหลังจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในเยอรมนีที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศ พุ่งขึ้นแตะ 11.2 ในเดือนเม.ย. จาก 4.3 ในเดือนมี.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีจะแตะระดับ 8.0 ในเดือนเม.ย. ดัชนีดังกล่าวมาจากการสำรวจนักวิเคราะห์และนักลงทุนจำนวน 225 คนในช่วงวันที่ 4-18 เม.ย.
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 49.44 จุด ขานรับราคาน้ำมันพุ่ง
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นมายืนเหนือระดับ 41 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสหรัฐ
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,053.60 จุด เพิ่มขึ้น 49.44 จุด หรือ +0.27% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,940.33 จุด ลดลง 19.69 จุด หรือ -0.40% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,100.80 จุด เพิ่มขึ้น 6.46 จุด หรือ +0.31%
ดัชนี ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ และเคลื่อนไหวในแดนบวกจนกระทั่งปิดตลาด เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นมายืนเหนือระดับ 41 ดอลลาร์/บาร์เรล อันเนื่องมาจากข่าวการผละงานประท้วงของคนงานน้ำมันในคูเวต
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นไดมอนด์ ออฟชอร์ ดริลลิง ปรับขึ้น 6.3% หุ้นทรานส์โอเชียน ทะยานขึ้น 9.5%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นตามแรงบวกของราคาน้ำมัน และยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน พุ่งขึ้น 9% หุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง คอร์ป ปรับขึ้น 4.9% และหุ้นโมเซอิค พุ่งขึ้น 6.5%
หุ้นกลุ่มธนาคารฟื้นตัวขึ้น โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 1.9% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ดีดตัวขึ้น 1.95% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.29% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาสแรก มูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.68 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์สัน พุ่งขึ้น 1.58% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาสแรก
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นเนทฟลิกซ์ ดิ่งลง 12.97% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 2 ขณะที่หุ้นอีเบย์ ร่วงลง 4% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นอีเบย์ และหุ้นสกายเวิร์ก โซลูชันส์ ร่วงลงอย่างน้อย 3.3%
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังได้สกัดแรงบวกของตลาดในระหว่างวันด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 8.8% ในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 1.09 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่การอนุญาตก่อสร้างบ้านลดลง 7.7% ในเดือนมี.ค. สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนเม.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีราคาบ้านเดือนก.พ. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย.โดยมาร์กิต
อินโฟเควสท์