WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET29ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลง วิตกนโยบายการเงินแต่ละปท.อาจไม่ช่วยกระตุ้นศก.-ราคาน้ำมันร่วง

      นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้าราว 0.6-0.8% เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกังวลประสิทธิภาพของนโยบายการเงินที่แต่ละประเทศนำมาใช้อาจไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ รวมไปถึงการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ ทำให้เกิดแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมา อีกทั้งยังไม่มั่นใจทิศทางตลาดฯด้วย นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนที่ผ่านมาก็กลับมาปรับตัวลงอีกครั้ง จากที่อิรักได้มีการส่งออกเพิ่มขึ้น

       ส่วนปัจจัยในประเทศคาดว่าจะมีแรงขายต่อเนื่องหุ้นกลุ่มแบงก์และสื่อสาร ภายหลังธนาคารหลายแห่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ทำให้กังวลความสามารถการทำกำไร ส่วนกลุ่มสื่อสาร ประเด็นที่ ADVANC เสนอตัวรับซื้อคลื่น 900 MHz ในราคา 7.56 หมื่นล้านบาท อาจนำไปสู่การปรับลดประมาณการหุ้นทั้งสองกลุ่มลง

       พร้อมให้แนวรับ 1,345-1,350 ถัดไป 1,320-1,330 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,370 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (7 เม.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,541.96 จุด ร่วงลง 174.09 จุด (-0.98%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,848.37 จุด ลดลง 72.35 จุด (-1.47%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,041.91 จุด ลดลง 24.75 จุด (-1.20%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 152.80 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 20.22 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 204.45 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 25.47 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 12.60 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 24.00 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 5.85 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 เม.ย.59) 1,356.69 จุด ลดลง 16.90 จุด (-1.23%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,849.05 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 เม.ย.59

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (7 เม.ย.59) ปิดที่ 37.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 49 เซนต์ หรือ 1.3%

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 เม.ย.59) ที่ 5.46 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 35.19/21 คาดแกว่งแคบไร้ปัจจัยใหม่ วอลุ่มเบาบางก่อนหยุดยาว มองกรอบ 35.15-35.30

                - พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะเปิดแถลงรายละเอียดบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเอกสารลับ ปานามา เปเปอร์ส ตามที่สมาคมผู้สื่อข่าวสอบสวนนานาชาติ (ไอซีไอเจ) นำออกมาเปิดเผยว่ามีการหลบเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ทาง ปปง.ได้รายงานเรื่องให้ทราบแล้ว หากเป็นความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน ไม่ว่าเป็นใคร ก็สามารถเอาผิดได้

                - ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คงประมาณการอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้จะเติบโตได้ 3% หรือในกรอบ 2.5-3.5% โดยครึ่งปีแรกขยายตัว 2.8% และครึ่งปีหลัง 3.3% แต่ปรับไส้ในของจีดีพีเสียใหม่ลดการขยายตัวของการส่งออกจาก 2% เหลือ 0% การบริโภคเอกชนเหลือ 1.9% จาก 2.1% การลงทุนเอกชนเหลือ 2.3% จาก 3.9% ส่วนที่ปรับขึ้น ได้แก่ บริโภคภาครัฐโต 3% จาก 2% ลงทุนภาครัฐโต 11.5% จาก 7.9%

                - นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขยายระยะเวลามาตรการเยียวยาคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่จะหมดในวันที่ 14 เม.ย.ออกไปอีก โดยศาลได้นัดไต่สวนฉุกเฉินในเวลา 13.30 น. วันที่ 8 เม.ย.นี้

                - รับเหมาแห่ซื้อซองสุวรรณภูมิเฟส 2 จำนวน 2 สัญญามูลค่าเกือบ 1.7 หมื่นล้าน กว่า 20 ราย เผย 'ช.การช่าง-อิตาเลียนไทย' หรือ 'ไอทีดี' ก็มา คาดได้ตัว ก.ค. และเริ่มก่อสร้าง ส.ค.

*หุ้นเด่นวันนี้

                - SPRC (ไอร่า) เป้า 14.80 บาท คาดผลงาน 1Q/59 จะโดดเด่น จากค่าการกลั่นสูง ล่าสุดอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ที่ 7.7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยค่าการกลั่นเบนซินอยู่ที่ 17-19 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สูงกว่าค่าการกลั่นดีเซลที่ 8-9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้เบนซินสูงขึ้นมากจากราคาน้ำมันต่ำ ขณะที่มีสัดส่วนการผลิตน้ำมันเบนซินมากที่สุดอยู่ที่ 23% ของการผลิตทั้งหมด (อุตสาหกรรมเฉลี่ยอยู่ที่ 18%) พร้อมคาดปี 59 จะมีกำไร 6,402 ล้านบาท และไม่มีขาดทุนสต็อกน้ำมันมากอีก ในขณะที่ยังไม่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ทำให้สามารถจ่ายปันผลได้สูง คาดผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 6.6%

                - ICHI (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 14.90 บาท ผู้คนจำนวนมากรอลุ้นผลการจับรางวัลใหญ่ที่สุดมูลค่า 15 ล้านบาทในเวลา 17.00 น.วันนี้ พร้อมเชื่อกำไร 1H16 สูงกว่า 1H15 หลังควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและการโฆษณาอย่างเข้มงวดมากขึ้น และเชื่อเม.ย.เป็นเวลาที่ดีที่นักลงทุนระยะสั้นจะเข้าซื้อหุ้นเพราะบริษัทมีแนวโน้มรายงานกำไรสูงกว่าใน 1H16 ตามฤดูกาล

                - ADVANC (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 184 บาท ราคาปรับตัวลงสะท้อนความเสี่ยงต่อกำไรและเงินปันผลจากการครอบครองใบอนุญาต 900MHz  จึงมองว่าหุ้นถูก oversold และแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อที่ราคานี้ โดยมีปัจจัยผลักดันราคาหุ้นที่สำคัญ 1) งบดุลลดลง และ 2) ส่วนแบ่งตลาดรายได้เพิ่มขึ้น

                - BIG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 2.50 บาท งาน BIG Cemera Festival 2016 เพิ่งจบไปได้ยอดขาย 140 ล้านบาท +40% Y-Y บันทึกเข้ามาใน 2Q16 ส่วนกำไรใน 1Q16 คาด 170 ล้านบาท +133% Y-Y มี loss carry forward ที่จะใช้ทั้งหมดคราวเดียว 38 ล้านบาท หากหักรายการดังกล่าวออกกำไรปกติยังโตถึง 81% Y-Y (แต่ -14.6% จาก 4Q15 ซึ่งเป็น high season) และยังมีปันผลของปีก่อนอีก 0.06 บาท/หุ้น (Yield 2.6%) XD 27 เม.ย.

                - THCOM (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 38.50 บาท คาดกำไรปกติ 1Q16 -15.5% Q-Q, +37.6% Y-Y หนุนโดยไทยคม 7 ที่มี Utilization rate 100% เต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก ล่าสุด Forever Group (ผู้ประกอบการทีวีดาวเทียมในพม่า) ตกลงเช่าช่องสัญญาณเพิ่มจาก 3 Transponder เป็น 8 Transponder ดีต่อ Presale ของไทยคม 8 ที่เตรียมยิงขึ้นสู่วงโคจร มิ.ย. นี้ที่ปัจจุบันมี presale 17% โดยยังคงคาดกำไรปกติปีนี้ +2.9% Y-Y การเติบโต Y-Y ส่วนใหญ่อยู่ใน 1H16

                - KTB (กสิกรไทย) "ซื้อ"เป้า 20 บาท คาดกำไรสุทธิ Q1/59 ที่ 7.0 พันลบ.โตขึ้น 3.8% QoQ แต่ลดลง 11.5% YoY จากการตั้งสำรองที่สูงขึ้นตามระดับอัตราส่วนการตั้งสำรอง (coverage ratio) สูงกว่า 100% แม้ว่าการประกาศลดอัตราดอกเบี้ย MLR ของธนาคารจะมีผล downside risk ต่อประมาณการกำไร และราคาพื้นฐานประมาณ 3-4% แต่ราคาหุ้นปัจจุบันก็ยังมี upside มากกว่า 10%

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงเช้านี้ เหตุวิตกเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

      ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก

      ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 1.1% สู่ระดับ 124.99 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

       ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,597.04 จุด ลดลง 152.80 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,988.20 จุด ลดลง 20.22 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,061.60 จุด ลดลง 204.45 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,464.78 จุด ลดลง 25.47 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,961.29 จุด ลดลง 12.60 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,789.59 จุด ลดลง 24.00 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,718.44 จุด ลดลง 5.85 จุด

      ทั้งนี้ นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ภาวะซบเซาของเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงกดดันให้เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง ขณะที่รายงานการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่อีซีบีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อต่ำและแนวโน้มการลงทุนที่อ่อนแอลงในยูโรโซน

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : แรงเทขายทำกำไรฉุดฟุตซี่ปิดลบ 24.74 จุด

   ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) จากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่ดัชนีปิดพุ่งแรงในวันก่อน

     ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 24.74 จุด หรือ 0.40% ที่ระดับ 6,136.89 จุด

     ตลาดหุ้นลอนดอนเคลื่อนไหวอย่างผันผวนก่อนที่จะปิดตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อย ในขณะที่นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่อีซีบีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อต่ำในยูโรโซน ขณะที่รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ภาวะซบเซาของเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงกดดันให้เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง

   หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ เพิ่มขึ้น 3.2% หลังรายงานว่า ยอดขายเสื้อผ้าของบริษัทลดลงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ในขณะที่หุ้นแรนด์โกลด์ รีสอร์ซ ดีดตัวขึ้นตามการปรับตัวขึ้นของโลหะมีค่า

     หุ้นเบอร์เคอร์ลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน ร่วงลง 3.6% หลังจากมีรายงานว่า ทางบริษัทได้เสนอมอบส่วนลดให้กับนักลงทุนสถาบันมากถึง 20% สำหรับการซื้ออพาร์ทเมนท์หรูหราหลายยูนิตพร้อมกัน

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่อีซีบีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อต่ำในยูโรโซน ขณะที่รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ภาวะซบเซาของเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงกดดันให้เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง

       ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.8% ปิดที่ 328.10 จุด

      ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,245.91 จุด ลดลง 38.73 จุด หรือ -0.90% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,530.62 จุด ลดลง 93.89 จุด หรือ -0.98% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,136.89 จุด ลดลง 24.74 จุด หรือ -0.40%

       นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เมื่อพิจารณาจากรายงานการประชุมของอีซีบีประจำเดือนมี.ค. ซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่อีซีบีมีความวิตกว่าภาวะอัตราเงินเฟ้อต่ำกำลังฝังตัวอยู่ในระบบเศรษฐกิจ พร้อมกับเตือนว่า ความเสี่ยงในการเกิดผลกระทบรอบที่ 2 กำลังเพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่ที่อีซีบีประชุมกันในครั้งที่แล้ว โดยผลกระทบในรอบที่ 2 คือการที่ประชาชนคาดว่าราคาจะร่วงลงต่อไป ทำให้พวกเขากำหนดค่าจ้างและราคาในระดับที่ต่ำลงอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากจะสกัดการใช้จ่าย และการลงทุน

     นอกจากนี้ รายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของเฟดบ่งชี้ว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลกยังคงส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง และถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

     อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ยังคงได้รับแรงบวกจากข่าวไฟเซอร์ อิงค์ ประกาศยุติข้อตกลงการควบรวมกิจการกับอัลเลอร์แกน พีแอลซี บริษัทผู้ผลิตโบท็อกซ์จากไอร์แลนด์ โดยหุ้นแอสทราเซเนกา ปรับขึ้น 1% หุ้นแกลคโซสมิธไคลน์ ดีดตัวขึ้น 0.9% หุ้นบีบี ไบโอเทค พุ่งขึ้น 1.3% และหุ้นไชร์ ดีดขึ้น 0.8%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : วิตกศก.โลกชะลอตัว ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 174.09 จุด

    ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ภาวะซบเซาของเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงกดดันให้เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง ขณะที่รายงานการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่อีซีบีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อต่ำและแนวโน้มการลงทุนที่อ่อนแอลงในยูโรโซน

       ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,541.96 จุด ร่วงลง 174.09 จุด หรือ -0.98% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,848.37 จุด ลดลง 72.35 จุด หรือ -1.47% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,041.91 จุด ลดลง 24.75 จุด หรือ -1.20%

       ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวที่อ่อนแรงเศรษฐกิจทั่วโลก เมื่อพิจารณาจากรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของเฟดที่บ่งชี้ว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลกยังคงส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง และถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

     ส่วนทางด้านรายงานการประชุมของอีซีบีประจำเดือนมี.ค. ระบุว่า เจ้าหน้าที่อีซีบีมีความวิตกว่าภาวะอัตราเงินเฟ้อต่ำกำลังฝังตัวอยู่ในระบบเศรษฐกิจ พร้อมกับเตือนว่า ความเสี่ยงในการเกิดผลกระทบรอบที่ 2 กำลังเพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่ที่อีซีบีประชุมกันในครั้งที่แล้ว โดยผลกระทบในรอบที่ 2 คือการที่ประชาชนคาดว่าราคาจะร่วงลงต่อไป ทำให้พวกเขากำหนดค่าจ้างและราคาในระดับที่ต่ำลงอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากจะสกัดการใช้จ่าย และการลงทุน

      ควินซี ครอสบี นักวิเคราะห์จากพรูเดนเชียล ไฟแนนเชียล กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายที่ผันผวนของตลาดในขณะนี้ สะท้อนให้เห็นว่า เครื่องมือต่างๆที่ธนาคารกลางรายใหญ่นำมาใช้นั้น ยังคงไม่ได้ผล และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก

     ทั้งนี้ แม้สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในด้านบวกเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย แต่ก็ไม่สามารถบรรเทาความวิตกกังวลของนักลงทุนได้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 267,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 270,000 ราย

     หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดิ่งลง 3.1% หุ้น Schwab Corp. และหุ้น E*Trade Financial Corp ต่างก็ร่วงลงกว่า 5.7%

      หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นอินเทล คอร์ป และหุ้นเท็กซัส อินสตรูเมนท์ ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 1.6% หุ้นอีเบย์ ดิ่งลง 4.3% หุ้นเวริซอน ปรับตัวลงกว่า 1.5%

     นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนรายใหญ่ของสหรัฐ โดยบริษัทอัลโค อิงค์ จะเปิดเผยผลประกอบการในวันที่ 11 เม.ย.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า กำไรของอัลโคจะร่วงลง 9.5% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดในรอบกว่า 6 ปี

  สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.พ. ในเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 เม.ย. 2559

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,245.91 จุด ลดลง 38.73 จุด หรือ -0.90%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,530.62 จุด ลดลง 93.89 จุด หรือ -0.98%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,136.89 จุด ลดลง 24.74 จุด หรือ -0.40%         

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,541.96 จุด ร่วงลง 174.09 จุด หรือ -0.98%

          ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,848.37 จุด ลดลง 72.35 จุด หรือ -1.47%

          ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,041.91 จุด ลดลง 24.75 จุด หรือ -1.20%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 24,685.42 จุด ลดลง 215.21 จุด, -0.86%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,813.59 จุด เพิ่มขึ้น 2.34 จุด, +0.08%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,724.29 จุด เพิ่มขึ้น 7.28 จุด, +0.42%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,867.29 จุด ลดลง 0.94 จุด, -0.02%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 20,266.05 จุด เพิ่มขึ้น 59.38 จุด, +0.29%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,232.97 จุด เพิ่มขึ้น 52.42 จุด, +0.73%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,008.42 จุด ลดลง 42.17 จุด, -1.38%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,964.10 จุด เพิ่มขึ้น 18.20 จุด, +0.37%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,042.30 จุด เพิ่มขึ้น 17.70 จุด, +0.35%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,973.89 จุด เพิ่มขึ้น 2.57 จุด, +0.13%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,749.84 จุด เพิ่มขึ้น 34.48 จุด, +0.22%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,490.25 จุด ลดลง 23.05 จุด, -0.27%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ภาวะซบเซาของเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงกดดันให้เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง ขณะที่รายงานการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่อีซีบีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อต่ำและแนวโน้มการลงทุนที่อ่อนแอลงในยูโรโซน

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,541.96 จุด ร่วงลง 174.09 จุด หรือ -0.98% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,848.37 จุด ลดลง 72.35 จุด หรือ -1.47% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,041.91 จุด ลดลง 24.75 จุด หรือ -1.20%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่อีซีบีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อต่ำในยูโรโซน ขณะที่รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ภาวะซบเซาของเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงกดดันให้เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.8% ปิดที่ 328.10 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,245.91 จุด ลดลง 38.73 จุด หรือ -0.90% ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,530.62 จุด ลดลง 93.89 จุด หรือ -0.98% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,136.89 จุด ลดลง 24.74 จุด หรือ -0.40%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) จากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่ดัชนีปิดพุ่งแรงในวันก่อน

          ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 24.74 จุด หรือ 0.40% ที่ระดับ 6,136.89 จุด

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดพุ่งขึ้น 13.7 ดอลลาร์ หรือ 1.12% แตะที่ระดับ 1,237.50 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดบวก 10.40 เซนต์ หรือ 0.69% แตะที่ 15.158 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 10.00 ดอลลาร์ หรือ 1.06% แตะที่ 954.70 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดลดลง 4.15 ดอลลาร์ หรือ 0.8% แตะที่ 533.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด หลังจากอิรักเปิดเผยว่า การส่งออกน้ำมันในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับเฉลี่ย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดลดลง 49 เซนต์ หรือ 1.3% แตะที่ 37.26 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดลดลง 41 เซนต์ หรือ 1% แตะที่ 39.43  ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือนเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) โดยปัจจัยที่ทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น มาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะยังไม่เข้าแทรกแซงค่าเงินเยน ก่อนที่จะมีการประชุม G7 จะเปิดฉากขึ้นเดือนหน้า

          ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 108.27 เยน จากระดับ 109.60 เยน และปรับตัวลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9555 ฟรังก์ จากระดับ 0.9559 ฟรังก์

           เงินยูโรปรับตัวลดลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1379 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1405 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.4061 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4123 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะ 0.7505 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7592 ดอลลาร์สหรัฐ

           

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 517.00 จุด เพิ่มขึ้น 17.00 จุด, +3.40%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!