WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET6 copyภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลง รับผลราคาน้ำมันร่วง-อาจลดเป้ากำไรกลุ่มแบงก์หลังลดดบ.เงินกู้

     นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย)  กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลง โดยคาดว่าจะรับ Sentiment จากต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า เจอ Sentiment ลบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง หลังจากอิหร่านยืนยันว่าจะยังคงเพิ่มการผลิตน้ำมันต่อไปจนกว่าจะถึงระดับที่เคยทำไว้ในช่วงก่อนถูกนานาชาติคว่ำบาตร ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำมันเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนั้น ด้วยปัจจัยนี้จึงน่าจะไปกดดันหุ้นที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมัน

      นอกจากนี้ แม้ตลาดหุ้นไทยจะมีความคืบหน้าในเรื่องการลงทุนของภาครัฐฯ แต่เช้านี้ KBANK และ SCB ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งเท่าที่เห็นเป็นการลดเฉพาะเงินกู้ ตรงนี้ทำให้มาร์จินลดลง ส่งผลให้อาจจะต้องมีการปรับลดประมาณการกำไรของกลุ่มแบงก์ลง ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นผลลบระยะสั้นต่อกลุ่มแบงก์ ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ แสดงให้เห็นว่าแบงก์ได้มองว่าเศรษฐกิจแย่กว่าที่คิดไว้หรือไม่

พร้อมให้แนวรับ 1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400-1,408 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (4 เม.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,737.00 จุด ลดลง 55.75 จุด (-0.31%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,891.80 จุด ลดลง 22.74 จุด (-0.46%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,066.13 จุด ลดลง 6.65 จุด (-0.32%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 79.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 8.59 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 187.06 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 6.59 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้  ลดลง 24.81 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้  ลดลง 6.24 จุด

ส่วนตลาดหุ้นไต้หวันยังคงปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 เม.ย.59) 1,400.27 จุด ลดลง 0.45 จุด (-0.03%)

     - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,011.57 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 เม.ย.59

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (4 เม.ย.59) ปิดที่ 35.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 3%

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 เม.ย.59) ที่  5.66 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 35.27/28 ทรงตัวจากวานนี้ แต่แนวโน้มอ่อนค่า มองกรอบวันนี้ 35.30-35.43

     - กกร.มั่นใจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเริ่มเห็นผล บวกแรงหนุนต่างชาติแห่เที่ยวไทย คงตัวเลขจีดีพีปีนี้โตได้ 3-3.5% แต่ปรับลดส่งออกอยู่ระดับ 0-2% ชงบีโอไอตั้งองค์กรหนุนเอกชนไทยลงทุนต่างประเทศเหมือน 'เจโทร' ของญี่ปุ่น

       - นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ธนาคารตัดสินใจเป็นผู้นำปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบมีระยะเวลา (เอ็มแอลอาร์) ลง 0.15% เหลือ 6.375% ต่อปี เพื่อให้เศรษฐกิจและธุรกิจของลูกค้าเดินหน้า และยังส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเพิ่มมากขึ้นด้วย ทั้งนี้การลดดอกเบี้ยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. 2559 เป็นต้นไป

                - "ฐากร ตัณฑสิทธิ์" เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า หากการเปิดประมูลใบอนุญาตคลื่น 900 MHz ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ ไม่มีผู้เข้าร่วมประมูล สำนักงาน กสทช.จะเก็บใบอนุญาตดังกล่าวไว้อย่างน้อย 1 ปี และการเปิดประมูลครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นหลังจากนั้น สำนักงาน กสทช.มีแนวคิดจะประมูล โดยเปิดโอกาสให้มีการเคาะราคาแบบถอยหลังจากราคาตั้งต้น 75,654 ล้านบาท ต่ำลงมาเรื่อยๆ และจะมาหยุดไว้ที่ราคาต่ำสุดไม่น้อยกว่าราคาที่ บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิว นิเคชั่น เสนอไว้ที่ 73,722 ล้านบาท

                - กนง.สั่งติดตามความเสี่ยงภาวะอุปทานอสังหาริมทรัพย์ล้นตลาดที่ยังอยู่ในระดับสูง แม้มาตรการกระตุ้น อสังหาฯ ของรัฐช่วยบรรเทาได้บ้าง แต่เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าที่คาดอย่างต่อเนื่อง และความล่าช้าโครงการลงทุนภาครัฐอาจ ฉุดความต้องการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยลดลง

*หุ้นเด่นวันนี้

                - CHEWA (บมจ. ชีวาทัย) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ mai ราคาเสนอขาย IPO 1.60 บาท/หุ้น

                บมจ. ชีวาทัย เป็นบริษัทร่วมลงทุนระหว่างบริษัท ชาติชีวะ จำกัด และ TEE Development Pte Ltd. ในเครือของ TEE Land Ltd. ซึ่งทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สิงค์โปร์ CHEWA และบริษัทในเครือดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อ "ชีวาทัย" และ "ฮอลล์มาร์ค" ปัจจุบัน มีโครงการที่พัฒนาแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างขายจำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 5,830 ล้านบาท โครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาจำนวน 1 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 1,040 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจพัฒนาโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า 1 โครงการ ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ และมีผู้เช่าแล้ว 4 ราย

                - SPA (ไอร่า) เป้า 10.40 บาท SPA คาดผลการดำเนินงานในปี 59 จะทำจุดสูงสุดใหม่ จากการรับรู้รายได้เต็มปีของธุรกิจสปา 3 ดาว ที่เข้าซื้อกิจการเมื่อปีก่อน ทำให้มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการธุรกิจสปา 4 ดาว ในประเทศอีก 2 ราย สอดคล้องกับประมาณการที่คาดผลการดำเนินงานมีโอกาสทำ New High ต่อเนื่อง โดยคาดรายได้ในปี 59 เติบโต 28% อยู่ที่ 695 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 169 ล้านบาท เติบโต 59%

                - ASEFA (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 7 บาท ยังคงประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 โตเด่น (ไตรมาส 4/58 เป็น Low season และราคาเหล็กปรับขึ้นแรงตั้งแต่ต้นปี เป็นบวกต่อธุรกิจรื้อถอนโรงไฟฟ้า) และขยายกำลังการผลิต +50% เสร็จในไตรมาส 1/59 รองรับ Mega trend ของอุตสาหกรรมฯระบบไฟฟ้า (รถไฟฟ้า, พลังงานทดแทน, 4G + Data Center เป็นต้น) ... วันนี้หากครม.พิจารณาโครงการรถไฟฟ้า จะเป็นบวกต่อ ASEFA ด้วย

                - กลุ่มรับเหมายัง laggard รถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) จะเข้าครม.วันนี้ หลังจากเลื่อนมาจากอังคารที่แล้วเพราะมีการปรับลดวงเงินลงทุน 2 พันล้านบาทเหลือ 9.2 หมื่นล้านบาท ส่วนสีส้มฝั่งตะวันตก (ศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน) จะเข้าครม. 20 เม.ย. และในเดือนนี้ น่าจะเห็นความคืบหน้ามากขึ้นสำหรับรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพ-พัทยา และกรุงเทพ-หัวหิน รวมถึงรถไฟชานเมืองสีแดงอ่อน ขณะที่งานประมูลก่อสร้างก่อสร้างสาธารณูปโภคและลานจอดเครื่องบินของสุวรรณภูมิเฟส 2 ทาง AOT ได้ขายซองไปแล้ว กำหนดยื่นประมูล 20 มิ.ย. นี้ (ฟินันเซีย ไซรัส)

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงเช้านี้ เหตุวิตกราคาน้ำมันร่วง

            ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ ขณะเดียวกันเงินเยนที่แข็งค่าก็ฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่นอ่อนตัวลง

                ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.3% สู่ระดับ 126.12 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

                ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,044.23 จุด ลดลง 79.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,000.94 จุด ลดลง 8.59 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,311.86 จุด ลดลง 187.06 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,972.38 จุด ลดลง 6.59 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,810.54 จุด ลดลง 24.81 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,719.00 จุด ลดลง 6.24 จุด ส่วนตลาดหุ้นไต้หวันยังคงปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง

                ทั้งนี้ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงราว 3% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ที่ประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของตะวันออกกลางในวันที่ 17 เม.ย.นี้ที่กาตาร์ จะไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการตรึงกำลังการผลิต หลังจากซาอุดิอาระเบียตั้งเงื่อนไขว่าจะตรึงกำลังการผลิตก็ต่อเมื่ออิหร่านและประเทศอื่นๆยอมปฏิบัติตาม

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 18.67 จุด จากแรงซื้อหุ้นเหมืองแร่

            ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และจากแรงซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ตลาดปรับตัวลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว

                ดัชนี FTSE 100 ปิดดีดตัวขึ้น 18.67 จุด หรือ 0.30% ที่ 6,164.72 จุด หลังจากที่ลดลง 1.3% ในสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงต่อสัปดาห์สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.

                ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ซึ่งรวมถึงหุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นริโอ ทินโต

                หุ้นแอดไมรัล กรุ๊ป ลดลง 1.4% เนื่องจากบริษัทเครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของบริษัท

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับข้อมูลแรงงานยูโรโซนสดใส

                ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนก.พ.ของยูโรโซนปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า การปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐจะช่วยหนุนเศรษฐกิจทั่วโลกให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย

                ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.4% ปิดที่ 334.49

                ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,345.22 จุด เพิ่มขึ้น 22.98 จุด หรือ +0.53% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,822.08 จุด เพิ่มขึ้น 27.44 จุด หรือ +0.28% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,164.72 จุด เพิ่มขึ้น 18.67 จุด หรือ +0.30%

                ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนหลังจากยูโรสแตทรายงานว่า อัตราการว่างงานในยูโรโซนปรับตัวลงจากระดับ 10.4% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 10.3% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี นับเป็นการสะท้อนว่าเศรษฐกิจยูโรโซนฟื้นตัว

                ทั้งนี้ เยอรมนีเป็นประเทศในยูโรโซนที่มีอัตราว่างงานต่ำสุด 4.3% เนื่องจากเศรษฐกิจเยอรมนีแข็งแกร่ง ประกอบกับความแข็งแกร่งในภาคการส่งออกเครื่องจักรและรถยนต์ ในขณะที่สเปนและกรีซอัตราว่างงานอยู่ในระดับสูงที่ 20.4% และ 24.0% ตามลำดับ

                ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 205,000 ตำแหน่ง

                หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นซาโนฟี และหุ้นเมิร์ก เคจี ที่ปรับตัวขึ้นมากกว่า 1%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 55.75 จุด หลังราคาน้ำมันร่วง

                ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม และราคาน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ตลาดยังอ่อนแรงลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานประจำเดือนก.พ.ปรับตัวลงเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 เดือน

                ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,737.00 จุด ลดลง 55.75 จุด หรือ -0.31% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,891.80 จุด ลดลง 22.74 จุด หรือ -0.46% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,066.13 จุด ลดลง 6.65 จุด หรือ -0.32%

                ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดอ่อนแรงลง หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า  ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 1.7% ในเดือนก.พ. ซึ่งปรับตัวลงเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 เดือน เนื่องจากการส่งออกในภาคโรงงานได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และอุปสงค์ที่ชะลอตัวในต่างประเทศ ขณะที่บริษัทพลังงานลดการลงทุน หลังการทรุดตัวของราคาน้ำมัน

                นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบยังสร้างแรงกดดันจากบรรยากาศการซื้อขาย และได้ฉุดหุ้นกลุ่มต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมพลังงาน โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงราว 3% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ที่ประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของตะวันออกกลางในวันที่ 17 เม.ย.นี้ที่กาตาร์ จะไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการตรึงกำลังการผลิต หลังจากซาอุดิอาระเบียตั้งเงื่อนไขว่าจะตรึงกำลังการผลิตก็ต่อเมื่ออิหร่านและประเทศอื่นๆยอมปฏิบัติตาม

                หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง นำโดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ร่วงลง 4.8% หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก ปรับลง 2.2% หุ้นแคทเทอร์ พิลลาร์ ดิ่งลง 1.4%

                ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวลง โดยหุ้นฟอร์ด มอเตอร์ และหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 1.8% หลังจากบริษัทรถยนต์รายใหญ่เปิดเผยยอดขายเดือนมี.ค.ที่ซบเซา

                หุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภคร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นพัลท์ กรุป ดิ่งลง 6.6% หุ้นไนกี้ร่วงลง 2.6% หุ้นเฮอร์ชี โค และหุ้นอาร์เชอร์-ดาเนียลส์-มิดแลนด์ ต่างก็ปรับตัวลงอย่างน้อย 1.1%

                หุ้นสายการบินเวอร์จิเนีย อเมริกา ทะยานขึ้น 24% หลังจากมีรายงานว่า สายการบินอลาสก้า แอร์ไลน์ ตกลงเข้าซื้อกิจการเวอร์จิเนีย อเมริกา มูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์

                นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการส่งออก นำเข้า และดุลการค้าเดือนก.พ. และดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ส่วนวันพุธคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุม

                วันพฤหัสบดี จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และในวันศุกร์จะเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.พ.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 เม.ย. 2559

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,737.00 จุด ลดลง 55.75 จุด, -0.31%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,891.80 จุด ลดลง 22.74 จุด, -0.46%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,066.13 จุด ลดลง 6.65 จุด, -0.32%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,345.22 จุด เพิ่มขึ้น 22.98 จุด, +0.53%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,822.08 จุด เพิ่มขึ้น 27.44 จุด, +0.28%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,164.72 จุด เพิ่มขึ้น 18.67 จุด, +0.30%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,399.65 จุด เพิ่มขึ้น 130.01 จุด, +0.51%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,835.35 จุด เพิ่มขึ้น 16.86 จุด, +0.60%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,725.24 จุด เพิ่มขึ้น 14.69 จุด, +0.86%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,850.18 จุด เพิ่มขึ้น 6.99 จุด, +0.14%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,254.53 จุด เพิ่มขึ้น 9.40 จุด, +0.13%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,995.30 จุด ลดลง 4.10 จุด, -0.08%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,070.10 จุด ลดลง 3.70 จุด, -0.07%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,978.97 จุด เพิ่มขึ้น 5.40 จุด, +0.27%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,123.27 จุด ลดลง 40.89 จุด, -0.25%        

          * ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันจันทร์ที่ 4 เม.ย. เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง

          * ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันจันทร์ที่ 4 เม.ย. เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง

          * ตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันจันทร์ที่ 4 เม.ย. เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม และราคาน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ตลาดยังอ่อนแรงลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานประจำเดือนก.พ.ปรับตัวลงเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 เดือน

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,737.00 จุด ลดลง 55.75 จุด หรือ -0.31% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,891.80 จุด ลดลง 22.74 จุด หรือ -0.46% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,066.13 จุด ลดลง 6.65 จุด หรือ -0.32%

       ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และจากแรงซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ตลาดปรับตัวลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว

          ดัชนี FTSE 100 ปิดดีดตัวขึ้น 18.67 จุด หรือ 0.30% ที่ 6,164.72 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนก.พ.ของยูโรโซนปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า การปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐจะช่วยหนุนเศรษฐกิจทั่วโลกให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.4% ปิดที่ 334.49

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,345.22 จุด เพิ่มขึ้น 22.98 จุด หรือ +0.53% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,822.08 จุด เพิ่มขึ้น 27.44 จุด หรือ +0.28% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,164.72 จุด เพิ่มขึ้น 18.67 จุด หรือ +0.30%

               สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) หลังจากนายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน ส่งสัญญาณว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจจะเกิดขึ้นในเวลารวดเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดลดลง 4.2 ดอลลาร์ หรือ 0.34% แตะที่ระดับ 1,219.30 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดลดลง 10.2 เซนต์ หรือ 0.68% แตะที่ 14.944 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดร่วงลง 11.7 ดอลลาร์ หรือ 1.22% แตะที่ 943.50 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดลดลง 8.50 ดอลลาร์ หรือ 1.5% แตะที่ 552.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) หลังจากมีสัญญาณว่า การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 17 เม.ย.ที่กาตาร์นั้น ที่ประชุมจะไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการจำกัดน้ำมัน

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดร่วงลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 3% แตะที่ 35.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.ปีนี้

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดลดลง 98 เซนต์ หรือ 2.5% แตะที่ระดับ 37.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานประจำเดือนก.พ.ปรับตัวลงเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 เดือน

          เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1399 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1390 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.4280ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4231 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะ 0.7609 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7682 ดอลลาร์สหรัฐ

          ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 111.23 เยน จากระดับ 111.61 เยน และทรงตัวเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9587 ฟรังก์

    ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 471.00 จุด เพิ่มขึ้น 21.00 จุด, +4.67%

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!