WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET7ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์อาจอ่อนลงหลังขึ้นแรง,ลุ้น Window Dressing หนุน

   นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซตเวย์ และมีโอกาสอ่อนตัวลงได้บ้างหลังจากวานนี้ปรับตัวขึ้นไปมาก โดยวันนี้ต้องติดตามดูว่าดัชนีฯจะสามารถยืนเหนือระดับ 1,400 จุดได้ต่อเนื่องหรือไม่ ถ้ายืนได้ก็อาจปรับตัวขึ้นไปได้ต่อ และเชื่อว่าวานนี้เริ่มมีการทำ Window Dressing บ้างแล้วหลังจากเห็นแรงซื้อที่เข้ามามากในหุ้นหลัก

     ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน โดยจากนี้ไปก็ให้ติดตามการ Preview กลุ่มแบงก์ที่จะทยอยออกมา และเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินอาจจะฟ้องต่อศาลปกครองเอาผิดรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ในกลุ่มพลังงาน ซึ่งคาดการณ์กันว่าเป็นเครือ ปตท.

    พร้อมให้แนวรับ 1,380-1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,425-1,430 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

   - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (30 มี.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,716.66 จุด เพิ่มขึ้น 83.55 จุด (+0.47%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,869.29 จุด เพิ่มขึ้น 22.67 จุด (+0.47%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,063.95 จุด เพิ่มขึ้น 8.94 จุด (+0.44%)

   - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.07 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.72 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.18 จุดดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 20.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 40.15 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.58 จุดดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้  เพิ่มขึ้น 118.18 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 มี.ค.59) 1,410.29 จุด เพิ่มขึ้น 17.44 จุด (+1.25%)

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 8,565.45 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 มี.ค.59

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (30 มี.ค.59) ปิดที่ 38.32 ดอลลาร์/บาร์เรล บวก 4 เซนต์ หรือ 0.1%

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 มี.ค.59) ที่ 7.52 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 35.24/26 แกว่งแคบ ตลาดรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรคืนนี้-ปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง

     - นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.ประเมินว่าแนวโน้มการส่งออกสินค้าไทยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะติดลบสูงถึง 5.86% สูงกว่าตัวเลขเดิมที่คาดการณ์ว่าจะติดลบ 4.5-5% โดยในเดือน มี.ค. คาดว่าการส่งออกจะกลับมาติดลบ 5% จากเดือน ก.พ.ที่ขยายตัว

    - นางลัษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโส ประจำประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะโต 3% ลดลง 3.5% ที่คาดไว้เดิม โดยการลงทุนภาครัฐต้องเป็นพระเอก มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตามแผน 20 โครงการ มูลค่า 5.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และมีการเบิกจ่ายงบราว 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2559 รวมทั้งการเมืองต้องสงบ มีการเลือกตั้งในปี 2560

      - กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการจ่ายเงินให้ข้าราชการระดับล่างและระดับกลางที่ไม่มีเงินประจำตำแหน่งคนละ 1,000 บาท จำนวน 1.57 ล้านคน ใช้งบประมาณ 1,570 ล้านบาท ซึ่งจะทันกับเทศกาลสงกรานต์และจะจ่ายเพียงครั้งเดียว ส่วนลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราวอาจจะล่าช้าไปหลังสงกรานต์ เนื่องจากคลังต้องโอนเงินให้หน่วยงานต้นสังกัดก่อน เพื่อนำไปโอนให้ลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราว

     - นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน ก.พ.ยังมีสัญญาณชะลอตัวอยู่โดยการบริโภคเอกชนยังชะลอตัว เห็นได้จากยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์หดตัว 11.1% และยอดจำหน่ายรถยนต์หดตัว 29.9% นอกจากนี้ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังชะลอตัว โดยติดลบ 1.6% ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมอยู่ที่ 85.1 ลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ส่วนการนำเข้าสินค้าทุนติดลบ 11.6%

*หุ้นเด่นวันนี้

     - BEM (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 6 บาท ยังไม่รวมโครงการใหม่ๆ ที่ยังประมูลไม่ได้ ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆที่เริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งสีเหลืองและชมพูที่ผ่านครม.แล้ว เหลือขั้นตอนการร่าง TOR และทำประชาพิจารณ์ซึ่งคาดใช้เวลาไม่กี่เดือนก็เปิดประมูลได้ ส่วนสายสีส้มจะเข้าครม.อังคารหน้า BEM สนใจเข้าร่วมประมูลเป็นผู้เดินรถทุกเส้นทางเพราะแต่ละเส้นมีจุดเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงินเดิม (บางซื่อ-หัวลำโพง) และสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) ที่ BEM ได้สัมปทานอยู่ ขณะที่สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย อยู่ระหว่างการเลือกว่าจะเป็นผู้เดินรถรายเดิม (BEM) หรือเปิดประมูลใหม่ซึ่ง BEM มีข้อได้เปรียบในด้านต้นทุน

   - KTC (ฟินันเซีย ไซรัส) เป้า 94 บาท เป็นหุ้น laggard ในกลุ่มไฟแนนซ์ แม้จะไม่ได้ชอบ KTC มากนักเพราะกำไรในปีนี้ที่มีแนวโน้มไม่โต จากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่จะสูงขึ้นหลังผู้บริหารตั้งเป้าเพิ่ม market share แต่ราคาหุ้นในระยะสั้นน่าสนใจเพราะได้ประโยชน์เต็มที่จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล ทั้งการทานอาหารนอกบ้านในช่วง 9-17 เม.ย. และการท่องเที่ยวในประเทศตลอดทั้งปี เพราะหมวดการใช้จ่ายด้านกิน-เที่ยว-ช้อปเป็นยอดใช้จ่ายหลักผ่านบัตรเครดิตของบริษัท

     - ADVANC (แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์) "ซื้อ" กำลังปรับเป้าเพิ่มจาก 188 บาท  เป็นหุ้นที่มีงบดุลแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม และจ่ายปันผลมากกว่า 6% ต่อปี แต่มีต้นทุนลงทุนโครงข่ายเพิ่ม และยังมีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันประมูลคลื่น 900MHz ครั้งใหม่

      - CK (แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์) "ซื้อ" เป้า 31 บาท เป็นผู้รับเหมารายใหญ่ มีงานในมือ 8.4 หมื่นลบ. (-2.3x รายได้ FY59) และมีโอกาสได้งานภาครัฐเพิ่มอีก อีกทั้งมีการกระจายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน BEM+CKP+TTW ซึ่งช่วยลดความผันผวนของธุรกิจก่อสร้าง

       - EA (แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์) "ซื้อ"เป้า 27 บาท มีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 664MW แบ่งเป็นพลังแสงอาทิตย์ 278MW และพลังลม 386MW ได้ PPA ครบ  พร้อมคาด EPS พุ่งขึ้นจาก FY58=0.72 บ. (+67%) เป็น FY59=1.52 บ. (+111%) และ FY60=1.77 บ. (+16%)

     - CPF (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 30 บาท ปรับกำไรปี 2559-2560 ขึ้น 14-9% มองทุกธุรกิจขยายตัวดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นกุ้ง เนื้อสัตว์ และธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจกุ้งที่ได้รับผลกระทบจากโรค EMS ตั้งแต่ปลายปี 2555 เริ่มกลับมาสู่จุดคุ้มทุนใน 2H58 และคาดว่าจะเริ่มกลับมาทำกำไรได้ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป

ตลาดหุ้นเอเชียปรับขึ้นเช้านี้ หลัง เยลเลน ย้ำเฟดไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย

       ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดปรับตัวขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

      ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ปรับขึ้น 0.5% เมื่อเวลา 09.49 น.ตามเวลาโตเกียว ในวันนี้

      ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,811.46 จุด เพิ่มขึ้น 8.07 จุด, +0.04% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,009.37 จุด เพิ่มขึ้น 8.72 จุด, +0.29% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,718.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.18 จุด, +0.01% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,757.22 จุด เพิ่มขึ้น 20.18 จุด, +0.23%

     ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,832.63 จุด ลดลง 40.15 จุด, -1.40% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,005.72 จุด เพิ่มขึ้น 3.58 จุด, +0.18% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,997.14 จุด เพิ่มขึ้น 118.18 จุด, +0.70%

   ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียยังคงได้รับปัจจัยหนุนหลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด เน้นย้ำในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่สโมสรเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) ว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก

    นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเอเชียยังปรับตัวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ที่ระบุว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

     นักลงทุจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.จะ เพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง  และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : แรงซื้อหุ้นเหมืองแร่ หนุนฟุตซี่ปิดพุ่ง 97.27 จุด

       ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 2 สัปดาห์คืนนี้ (30 มี.ค.) โดยดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. จากการพุ่งแรงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่

      ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 97.27 จุด หรือ 1.59% ที่ 6,203.17 จุด

       ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวขึ้น 1.6% ของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 11.81% หุ้นริโอทินโต พุ่งขึ้น 5.90% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปรับขึ้น 5.81% และหุ้นเกลนคอร์ ทะยานขึ้น 5.39%

      หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดพุ่งขึ้น 7.4% หลังจากที่ร่วงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.ในวันก่อน

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก รับ เยลเลน ส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดบ.

       ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนี Stoxx 600 ปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ

      ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.30% ปิดที่ 341.18 จุด

      ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,444.42 จุด เพิ่มขึ้น 77.75 จุด หรือ +1.78% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,046.61 จุด เพิ่มขึ้น 158.67 จุด หรือ +1.60% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,203.17 จุด เพิ่มขึ้น 97.27 จุด หรือ +1.59%

      ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงหนุนหลังจากหลังจากนางเยลเลนได้เน้นย้ำในระหว่างการกล่าววสุนทรพจน์ที่สโมสรเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เฟดจะยังคงทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อพิจารณาจากแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

      นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีได้กลับมาเป็นบวกอีกครั้งในเดือนมี.ค.

        ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนี ซึ่งมีการปรับค่าสำหรับเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆในยุโรป (HICP) ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค. หลังจากร่วงลง 0.2% ในเดือนก.พ. โดยการดีดกลับของตัวเลขเงินเฟ้อบ่งชี้ว่านโยบายการเงินในเชิงขยายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กำลังช่วยหนุนราคาในยูโรโซน

     หุ้น Thyssenkrupp ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 8.3% หุ้นอาร์เซลอร์ มิททัล ทะยานขึ้น 3.6% หุ้น  E.ON พุ่งขึ้น 6.42%

    หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 11.81% หุ้นริโอทินโต พุ่งขึ้น 5.90% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปรับขึ้น 5.81% และหุ้นเกลนคอร์ ทะยานขึ้น 5.39%

    อย่างไรก็ตาม หุ้นดอยช์ แบงก์ ร่วงลง 1.37% และหุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา ปรับตัวลง 0.8%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 83.55 จุด เหตุตลาดคลายกังวลเฟดขึ้นดบ.

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค. โดยปัจจัยเหล่านี้ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ

    ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,716.66 จุด เพิ่มขึ้น 83.55 จุด หรือ +0.47% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,869.29 จุด เพิ่มขึ้น 22.67 จุด หรือ +0.47% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,063.95 จุด เพิ่มขึ้น 8.94 จุด หรือ +0.44%

    ภาวะการซื้อขายในตลาดนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากซิตี้กรุ๊ป ประกาศปรับลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ เหลือเพียง 1 ครั้ง ภายหลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวย้ำว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก

     ทั้งนี้ การลดคาดการณ์จำนวนครั้งของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ บ่งชี้ว่าเฟดมีความระมัดระวังเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการขยายตัวที่อ่อนแอในต่างประเทศ และตลาดการเงินที่ผันผวน

      นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ที่ระบุว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

    รายงานของ ADP ระบุว่า ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 191,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ส่วนภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 3,000 ตำแหน่ง

    หุ้นกลุมเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 1.6% ส่วนหุ้นแอปเปิลดีดตัวขึ้น 1.8% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์โคเวนได้แนะนำให้นักลงทุน "ซื้อ" หุ้นแอปเปิล นอกจากนี้ ราคาหุ้นแอปเปิลยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากวอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า บริษัทแอปเปิล อิงค์ จะจัดหาแท็ปเล็ต iPad Pro ให้กับทีมเบสบอลเมเจอร์ลีก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านข้อมูลการแข่งขันให้กับทีม

     หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างน้อย 1.1%

      หุ้นกลุ่มธุรกิจประกันทะยานขึ้น โดยหุ้นพรูเดนเชียล ไฟแนนเชีย และหุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2% ขณะที่หุ้นเมทไลฟ์ อิงค์ พุ่งขึ้น 5.4%

    หุ้นโบอิงร่วงลง 1.8% หลังจากบริษัทโบอิง โค ประกาศแผนลดจำนวนพนักงานกว่า 4,000 ตำแหน่งภายในกลางปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะลดต้นทุน ท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดจากบริษัทคู่แข่งอย่างแอร์บัส กรุ๊ป

     นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์

    ส่วนในวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค., ดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.โดยมาร์กิต และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน

     ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง  และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 มี.ค. 2559

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,716.66 จุด เพิ่มขึ้น 83.55 จุด, +0.47%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,869.29 จุด เพิ่มขึ้น 22.67 จุด, +0.47%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,063.95 จุด เพิ่มขึ้น 8.94 จุด, +0.44%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,444.42 จุด เพิ่มขึ้น 77.75 จุด, +1.78%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,046.61 จุด เพิ่มขึ้น 158.67 จุด, +1.60%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,203.17 จุด เพิ่มขึ้น 97.27 จุด, +1.59%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,338.58 จุด เพิ่มขึ้น 438.12 จุด, +1.76%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,872.78 จุด เพิ่มขึ้น 53.70 จุด, +1.90%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,717.82 จุด เพิ่มขึ้น 2.78 จุด, +0.16%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,816.66 จุด เพิ่มขึ้น 35.36 จุด, +0.74%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 20,803.39 จุด เพิ่มขึ้น 437.09 จุด, +2.15%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,299.23 จุด เพิ่มขึ้น 24.83 จุด, +0.34%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,000.64 จุด เพิ่มขึ้น 80.81 จุด, +2.77%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,002.14 จุด เพิ่มขึ้น 7.23 จุด, +0.36%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,878.96 จุด ลดลง 224.57 จุด, -1.31%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,737.04 จุด เพิ่มขึ้น 119.69 จุด, +1.39%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,010.30 จุด เพิ่มขึ้น 5.80 จุด, +0.12%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,081.50 จุด เพิ่มขึ้น 5.30 จุด, +0.10%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค. โดยปัจจัยเหล่านี้ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,716.66 จุด เพิ่มขึ้น 83.55 จุด หรือ +0.47% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,869.29 จุด เพิ่มขึ้น 22.67 จุด หรือ +0.47% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,063.95 จุด เพิ่มขึ้น 8.94 จุด หรือ +0.44%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนี Stoxx 600 ปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ

          ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.30% ปิดที่ 341.18 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,444.42 จุด เพิ่มขึ้น 77.75 จุด หรือ +1.78% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,046.61 จุด เพิ่มขึ้น 158.67 จุด หรือ +1.60% ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,203.17 จุด เพิ่มขึ้น 97.27 จุด หรือ +1.59%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 2 สัปดาห์คืนนี้ (30 มี.ค.) โดยดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. จากการพุ่งแรงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่

          ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 97.27 จุด หรือ 1.59% ที่ 6,203.17 จุด

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในเดือนมี.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมี.ค.ในวันศุกร์นี้

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดร่วงลง 8.9 ดอลลาร์ หรือ 0.72% แตะที่ระดับ 1,228.60 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดลดลง 2.2 เซนต์ หรือ 0.14% แตะที่ 15.211 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดลดลง 80 เซนต์  หรือ 0.1% แตะที่ 966.20 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดร่วงลง 6.85 ดอลลาร์ หรือ 1.2% แตะที่ 566.35 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTIทำสถิติปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ หลังจากมีรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า การผลิตน้ำมันจากอิหร่านจะไม่ทำให้เกิดภาวะปริมาณน้ำมันล้นตลาดรุนแรงอย่างที่ตลาดคาดการณ์ไว้

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดบวก 4 เซนต์ หรือ 0.1% แตะที่ 38.32 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดเพิ่มขึ้น 12 เซนต์ หรือ 0.3% แตะที่ 39.26 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวย้ำว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก

          ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 112.44 เยน จากระดับ 112.74 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9634 ฟรังก์ จากระดับ 0.9661 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2966 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3056 ดอลลาร์แคนาดา

          สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1338 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1298 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.4383 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4386 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียดีดตัวขึ้นแตะ 0.7671 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7637 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 414.00 จุด เพิ่มขึ้น 5.00 จุด, +1.22%

   อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!