WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้ม ดัชนีเช้าปรับขึ้นตามทิศทางภูมิภาครับเม็ดเงินไหลเข้าหนุน

  นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น จากปัจจัยกระแสเงินทุนไหลเข้าที่คาดว่ายังมีการไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง จากสุดสัปดาห์ก่อนที่ไหลเข้าราว 3.6 พันล้านบาท

    อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่างประเทศเกี่ยวกับธนาคารของประเทศโปรตุเกสไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแม้ว่าจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดหุ้นต่างประเทศ แต่ไม่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก

    "ตลาดหุ้นไทยถือว่าโชคดีที่ศุกร์ที่แล้วเราหยุดอาสาฬหบูชา เพราะมีข่าวแบงก์โปรตุเกสไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ ทำให้เป็นปัจจัยเชิงลบ ส่งผลต่อตลาดหุ้นต่างประเทศในวันศุกร์ที่แล้วปรับตัวลงกันหมด แต่สัปดาห์นี้ก็น่าจะฟื้นกลับมาได้"นายอภิชาติ กล่าว

    ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้านี้ส่วนใหญ่ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก ยกเว้น ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ดัชนีปรับตัวลดลง 0.1-0.2%

   พร้อมให้แนวต้าน 1,520-1,525 จุด แนวรับ 1,507-1,510 จุด

   ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(11 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,943.81 จุด เพิ่มขึ้น 28.74 จุด (+0.17%),ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,967.57 จุด เพิ่มขึ้น 2.89 จุด (+0.15%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,415.49 จุด เพิ่มขึ้น 19.29 จุด(+0.44%)

   - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 35.14 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.78 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 76.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 1.97 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 9.52 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.05 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.62 จุด

   - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(10 ก.ค.) ที่ 1,518.01 จุด เพิ่มขึ้น 10.09 จุด(+0.67%)

   - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,708.74 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ก.ค.57

   - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(11 ก.ค.)ที่ 100.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.10 ดอลลาร์ หรือ 2%

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(11 ก.ค.)ที่ 5.51 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

   - เงินบาทเปิด 32.15/16 แนวโน้มแข็งค่าจากทุนไหลเข้า

   - อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่ากรมได้จัดตั้งคณะทำงานบุกเบิกตลาดต่างประเทศ 5 ตลาด ได้แก่ อาเซียนจีน ละตินอเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลางและตลาดประชาคมรัฐเอกราช โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชนมาร่วมวางแผน ทำยุทธศาสตร์ และแนวทางผลักดันการส่งออกอย่างรวดเร็ว ทันการณ์และมีประสิทธิภาพสูงสุด ตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

    - สบน.ออกพันธบัตรออมทรัพย์วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท อายุ 7 และ 10 ปี เสนอดอกเบี้ยสูงที่ 4.25-4.75% ต่อปี เริ่มขาย ผ่าน 4 แบงก์ใหญ่ระหว่างวันที่ 15-25 ก.ค.นี้ ขณะที่ แผนระดมเงินไตรมาสสุดท้ายของปีจะอยู่ที่ประมาณ 3 แสนล้านบาท ระบุสภาพคล่องตลาดสามารถรองรับได้

    - ธปท.เผยปริมาณการใช้จ่ายบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 5.87 พันล้านบาทเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้ากลับลดลง 1.59 ล้านบาท พบการใช้จ่ายต่างประเทศหดตัว 16.12% เช่นเดียวกับเบิกเงินสดล่วงหน้า ขณะที่ปริมาณการใช้จ่ายในประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 67 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อลดลง 389 ล้านบาท เฉพาะธนาคารพาณิชย์ลดลง 299 ล้านบาท

    - สำนักงาน ก.ล.ต. เผย บอร์ดเห็นชอบปรับเกณฑ์ยื่นแบบรายงานการเสนอขายหลักทรัพย์หรือไฟลิ่ง หวังเอื้อสะดวกให้บริษัทไทยเสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนในประเทศและประเทศสมาชิกอาเซียน กำหนดใช้เกณฑ์ตามมาตรฐานไฟลิ่งอาเซียน

    - กรมศุลฯ จ้องรีดภาษีนำเข้ารถหรู เหล็กรีดร้อน ตู้สินค้าจากจีน เหตุเลี่ยงภาษีอื้อ คาดช่วยดันจัดเก็บตามเป้าปีนี้ 1.3 แสนล้านบาท 'สมชัย' ให้นโยบายเร่งสางคดีค้าง 1 พันคดี มุ่งสอบสินค้ามั่วใช้สิทธิเอฟทีเอเลี่ยงภาษี

*หุ้นเด่นวันนี้

   - INTUCH(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 90.20 บาท คาดผลประกอบการ 2Q57 ยังทรงตัวสูงมีกำไรสุทธิ 3.6 พันล้านบาท จากรับรู้ส่วนแบ่งผลกำไรจาก THCOM เพิ่ม สามารถช่วยชดเชยกับผลประกอบการของ ADVANC ที่ชะลอตัวลงจากต้นทุนโครงข่ายที่สูงขึ้น มองว่าผลประกอบการแข็งแกร่งขึ้นของ THCOM จากการปรับโครงสร้างไทยคม 7 จากเช่าเป็นสร้างเองบวกต่อ INTUCH ประเมินว่าในงวดครึ่งปีแรกนี้จะจ่ายปันผล2.30 บาท/หุ้นหรืออัตราผลตอบแทนราว 3% ราคาปัจจุบันน่าสนใจ

    - NBC (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 4.90 บาท เลือกเป็นหุ้นเด่นกลุ่ม Media แม้การแพร่ภาพทีวีดิจิตอลช่วงแรกเข้าถึงครัวเรือนต่ำกว่าฟรีทีวี แต่ช่องข่าว Nation TV ยังได้รับความนิยมและติด Top 3 ช่องข่าวยอดนิยมของผู้ชมต่อเนื่อง จากความเป็นผู้นำตลาดในทีวีดาวเทียม แต่มีจำนวนผู้ชมเพิ่มขึ้นเท่าตัวหลังเริ่มออกอากาศทีวีดิจิทัล มองน่าจะคว้าโอกาสเกิดทีวีดิจิทัลไม่ยาก ขณะที่การแข่งขันของช่องรายการข่าวไม่รุนแรงเท่าช่องวาไรตี้

    - KTB(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 25 บาท คาดหุ้นกลุ่มธนาคารยัง Outperform ตลาดได้ต่อจาก Fund Flows ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง และเป็นกลุ่มแรกที่จะทยอยรายงานผลประกอบการจนถึงช่วงกลางสัปดาห์หน้า พร้อมคาดกำไรสุทธิ 2Q57 ขยายตัวทั้ง yoy และ qoq เป็น 9.3 พันล้านบาท +45% yoy และ +12% qoq จากการตั้งสำรองที่ลดลง และสินเชื่อขยายตัว +2.5% qoq แนวโน้ม 2H57 โตจาก 1H57 ตามเศรษฐกิจฟื้น ผลักดันให้กำไรสุทธิปี 57 เติบโต +13.6% yoy

   - FPI(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า(2558) 13 บาท คาดกำไร 2Q14 กลับมาฟื้นแกร่ง +47% Q-Q, +13% Y-Y จากกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น และมีคำสั่งซื้อบางส่วนเลื่อนมาจากไตรมาสก่อน ปรับกำไรสุทธิปีนี้ขึ้น 7% เป็นโต 24% Y-Y ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างคลังสินค้าใหม่เสร็จปลายปีนี้ เพิ่มกำลังผลิตได้มากขึ้น คาดกำไรปีหน้าจะโตโดดเด่น 26% Y-Y

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ หลังหุ้นเฮลธ์แคร์ทะยาน

   ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และสินค้าผู้บริโภค

   ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 146.24 จุด เมื่อเวลา 9.38 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,199.18 จุด เพิ่มขึ้น 35.14 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,047.74 จุด เพิ่มขึ้น 0.78 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,310.16 จุด เพิ่มขึ้น 76.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,497.81 จุด เพิ่มขึ้น 1.97 จุด

    ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,998.26 จุด เพิ่มขึ้น 9.52 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,289.68 จุด ลดลง 4.05 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,883.77 จุด เพิ่มขึ้น 0.62 จุด

    หุ้นซูมิโตโม ไดนิปปอน ฟาร์มา ทะยาน 4% ในโตเกียว ขณะที่หุ้นฮุนได ดีเวลอปเมนท์ โคเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เพิ่มขึ้น 3.6% ในโซล

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 17.8 จุด หลังหุ้นยาสูบพุ่งจากข่าวเจรจาซื้อสินทรัพย์

    ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) หลังจากที่ปรับตัวลงติดต่อกันมาหลายวัน โดยการซื้อขายได้แรงหนุนจากหุ้นอิมพีเรียล โทแบคโค ที่เผยว่าบริษัทกำลังอยู่ในระหว่างเจรจาซื้อสินทรัพย์และแบรนด์จากบริษัทของสหรัฐ

    ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้น 17.80 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 6,690.17 จุด สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีร่วงลง 2.6% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนประเมินมูลค่าหุ้นที่เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2552 และเนื่องจากมีสัญญาณเกี่ยวกับภาวะตึงตัวทางการเงินในโปรตุเกส

    บรรยากาศการซื้อขายในวันศุกร์ฟื้นตัวขึ้น หลังหุ้นอิมพีเรียล โทแบคโค กรุ๊ป พุ่งขึ้น และเนื่องจากตลาดคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเงินของกลุ่มประเทศรอยขอบเขตยูโร

     อิมพีเรียล โทแบคโค กรุ๊ป พีแอลซี เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า บริษัทอยู่ในระหว่างเจรจาเพื่อซื้อสินทรัพย์และแบรนด์จากเรย์โนลด์ส อเมริกัน อิงค์ และลอริลลาร์ด อิงค์ ซึ่งนับเป็นความเคลื่อนไหวด้านการควบรวมกิจการล่าสุดในอุตสาหกรรมยาสูบโลก

    สำหรับ ข่าวคราวด้านเศรษฐกิจนั้น ธนาคารกลางอังกฤษกำลังพิจารณาที่จะจำกัดการกู้ยืมสำหรับธนาคารพาณิชย์ของอังกฤษอย่างเข้มงวดมากขึ้น ภายใต้ข้อเสนอหลายข้อที่ธนาคารกลางอังกฤษได้ผลักดันเมื่อวานนี้

    ขณะที่มีการเปิดเผยผลสำรวจที่แสดงให้เห็นว่า การขยายตัวของราคาบ้านอังกฤษชะลอตัวในเดือนมิ.ย. อันเนื่องมาจากกฎระเบียบใหม่ด้านการกู้จำนอง

   หุ้นอิมพีเรียล โทแบคโค เพิ่มขึ้น 3.1% ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองร่วงลง นำโดยคาซักมิส ลดลง 2.7% หุ้นแอฟริกัน บาร์ริก โกลด์ ลบ 3.1% แรนโกลด์ รีซอร์สเซส ลบ 2.2% หุ้นเฟรสนิลโล ลบ 1.8%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดดีดตัวขึ้น หลังปรับตัวลงห้าวันติดต่อกัน

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) หลังจากที่ลดลงติดต่อกันถึงห้าวัน โดยหุ้นกลุ่มธนาคารดีดขึ้นจากที่ถูกเทขายอย่างหนักวันก่อนอันเนื่องมาจากความวิตกเกี่ยวกับปัญหาด้านการเงินของกลุ่มเอสปิริโต ซานโต ของโปรตุเกส

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 336.91 จุด ขณะที่ตลอดทั้งสัปดาห์ลดลง 3.2% ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมี.ค. ถึงแม้การดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์จะช่วยลดช่วงลบสำหรับสัปดาห์นี้ลงบ้างแล้วก็ตาม

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสบวก 15.24 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 4,316.50 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันขยับขึ้น 7.21 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 9,666.34 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนบวก 17.80 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 6,690.17 จุด

     บรรยากาศการซื้อขายฟื้นตัวขึ้นในวันศุกร์ จากที่ร่วงลงถึง 1.1% เมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากที่เอสปิริโต ซานโต อินเตอร์เนชั่นแนล (ESI) ชำระหนี้ระยะสั้นบางส่วนล่าช้า ซึ่งปัญหาที่เกิดกับบริษัทแม่ของบังโค เอสปิริโต ซานโต ได้จุดปะทุความกังวลว่าจะสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับภาคการเงินของยุโรป

     ทั้งนี้ ได้มีการระงับการซื้อขายหุ้นบังโค เอสปิริโต ซานโต เอสเอ (BES) และเอสเปริโต ซานโต ไฟแนนเชียล กรุ๊ป เอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ESI เมื่อวันพฤหัสบดี

      บังโค เอสปิริโต ซานโต เปิดเผยว่า ธนาคารมีธุรกรรมและความเสี่ยงกับกลุ่มเอสปิริโต ซานโต เป็นมูลค่า 1.18 พันล้านยูโร ผ่านทางเงินกู้และหลักทรัพย์ แต่ก็เสริมว่าธนาคารมีเงินกองทุนส่วนเพิ่มสูงกว่าระดับขั้นต่ำที่ถูกกำหนดไว้สำหรับธนาคารพาณิชย์ยุโรปอยู่ 2.1 พันล้านยูโร

      นักลงทุนเชื่อว่า ปัญหาด้านการเงินของ BES เป็นปัญหาเฉพาะของธนาคารเอง และจะไม่ลุกลามไปเป็นวิกฤตภาคธนาคารในยูโรโซน โดยโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า สินทรัพย์ของธนาคารโปรตุเกสคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1.6% ของทั้งภูมิภาค ธุรกรรมและความเสี่ยงของธนาคารต่างประเทศกับโปรตุเกสก็อยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ ธนาคารกลางยุโรปยังมีความพร้อมที่จะให้การสนับสนุนธนาคารทุกแห่ง ด้านบาร์เคลย์ก็แสดงความเห็นในทำนองเดียวกัน

     อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ปัญหาล่าสุดในโปรตุเกสถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนตลาดได้ถูกอย่างถูกเวลาถึงความเสี่ยงที่มีอยู่ และความท้าทายต่างๆของภาคธนาคารที่มีต่อเศรษฐกิจของยูโรโซน

     ดัชนี FTSE MIB ตลาดหุ้นอิตาลี ดีดขึ้น 0.6% แตะที่ 20,614.86 จุด ดัชนี IBEX 35 ตลาดหุ้นสเปนขยับขึ้น 0.1% แตะ 10,538.80 จุดในวันศุกร์ ส่วนดัชนี PSI 20 ตลาดหุ้นโปรตุเกส ปรับตัวขึ้น 0.6% ที่ 6,142.87 จุด หลังจากปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบเก้าเดือนเมื่อวันพฤหัสบดี และตลอดสัปดาห์ดัชนีหุ้นโปรตุเกสดิ่งลง 10% ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2553

    หุ้นธนาคารพากันดีดตัวขึ้นในวันศุกร์ หลังจากที่ถูกเทขายอย่างหนักเมื่อวันก่อน โดยหุ้นบังคา โปโปลาเร ดิ มิลาโน บวก 3.1% หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ บวก 1.4%

     หุ้นบังโค เอสปิริโต ซานโต กลับมาซื้อขายได้อีกครั้งในวันศุกร์ โดยพุ่งขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขาย ก่อนที่จะปิดร่วงลง 5.5%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 28.74 จุด คลายกังวลแบงก์โปรตุเกส,จับตาผลประกอบการ

    -ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (11 ก.ค.) ภายหลังนักลงทุนมองผ่านปัญหาด้านการเงินของธนาคารในโปรตุเกส และหันกลับมาให้ความสนใจกับฤดูการรายงานผลประกอบการของบริษัทสหรัฐซึ่งได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 28.74 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 16,943.81 จุด ดัชนี S&P500 ขยับขึ้น 2.89 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 1,967.57 จุด ดัชนี NASDAQ ดีดขึ้น 19.29 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 4,415.49 จุด

     อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีหลักทั้งสามดัชนีปรับตัวลง โดยดัชนีดาวโจนส์, S&P และ Nasdaq ลดลง 0.7%, 0.9% และ 1.6% ตามลำดับ หลังจากที่ดาวโจนส์ปิดเหนือระดับ 17,000 ได้เป็นครั้งแรกในสัปดาห์ก่อน

     สำหรับ บรรยากาศการซื้อขายในวันศุกร์ ตลาดหุ้นสหรัฐสามารถพยุงตัวปิดในแดนบวกได้สำเร็จ หลังจากที่เคลื่อนไหวผันผวนในช่วงการซื้อขาย ขณะที่นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นในโปรตุเกส โดยรัฐบาลโปรตุเกสได้ออกมาบรรเทาความตื่นตระหนกของนักลงทุนในวันศุกร์ ด้วยการเน้นย้ำว่าระบบการเงินของประเทศนั้นแข็งแกร่ง

    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลโปรตุเกสมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชำระหนี้ระยะสั้นล่าช้าของบังโค เอสปิริโต ซานโต ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปยังตลาดหุ้นทั่วโลก

     นอกจากสถานการณ์ในโปรตุเกสแล้ว นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยประกอบการไตรมาสสองของธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ก่อนตลาดเปิดทำการในวันศุกร์

     เวลส์ ฟาร์โก ผู้ปล่อยสินเชื่อบ้านรายใหญ่สุดของสหรัฐ รายงานผลกำไรสุทธิ 5.7 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.01 ดอลลาร์/หุ้นสามัญปรับลด จากรายได้ 2.11 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสสองของปี 2557

    อย่างไรก็ดี แม้รายได้ของธนาคารสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด และกำไรต่อหุ้นสอดคล้องกับคาดการณ์ แต่หุ้นเวลส์ ฟาร์โก กลับปรับตัวลง 0.62% แตะที่ 51.49 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐอีกหลายแห่งจะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์หน้า

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!