WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

bull market5ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าปรับฐานหลัง Overbought แต่ Flow ยังเข้า-หวังมาตรการธ.กลาง

     นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับฐาน เพื่อลดความร้อนแรงจาก 5 วันที่ผ่านมาได้ปรับขึ้นตลอดจนเข้าเขต Overbought ในทางเทคนิค แต่เชื่อว่าการปรับตัวลงของดัชนีฯคงจะไม่มาก เพราะ Flow ยังไหลเข้า

       อีกทั้ง ธนาคารกลางของหลายประเทศยังมีความคาดหวังในเรื่องการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินด้วย ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบเล็กน้อย พร้อมให้ติดตามเรื่องของ JAS เนื่องจากมีผลต่อหุ้นในกลุ่มสื่อสาร

พร้อมให้แนวรับ 1,385 ถัดไป 1,375-1,370 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400-1,410 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (7 มี.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,073.95 จุด เพิ่มขึ้น 67.18 จุด (+0.40%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,708.25 จุด ลดลง 8.77 จุด (-0.19%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,001.76 จุด เพิ่มขึ้น 1.77 จุด (+0.09%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 21.84 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 1.67 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 27.62 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 3.69 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.07 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 1.52 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.89 จุด

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 มี.ค.59) 1,395.75 จุด เพิ่มขึ้น 16.22 จุด (+1.18%)

       - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 833.67 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 มี.ค.59

      - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (7 มี.ค.59) ปิดที่ 37.90 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.98 ดอลลาร์ หรือ 5.5%

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 มี.ค.59) ที่ 6.52 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 35.45 อ่อนค่าตามภูมิภาค รอดูตัวเลขส่งออกเดือนก.พ.ของจีน

     - นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรรมการผู้จัดการบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน โดยคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 6,000 ล้านบาท ในการซื้อหุ้นคืนประมาณ 1,426,706,130 หุ้น คิดเป็น 20% ของทุนเรียกชาระแล้ว ส่วนราคาที่จะเสนอซื้อหุ้นคืนคาดว่าประมาณ 5 บาท/หุ้น แต่ราคาหุ้นที่จะซื้อยังไม่แน่นอน ต้องรอให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีอนุมัติก่อน

    - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับประธานกรรมการค่ายรถยนต์ 4 ค่าย ที่มีสัดส่วนการส่งออก 58% ของการผลิตรถยนต์ในไทย ได้แก่ โตโยต้า อีซูซุ นิสสัน และฮอนด้า โดย ซีอีโอ 4 ค่าย ยืนยันว่าจะลงทุนในไทยต่อเนื่อง ไม่หนีไปที่อื่น และมีแผนจะขยายการลงทุนเพิ่ม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์แห่งอนาคต ทั้งรถยนต์ไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้า และรถพลังงานไฮโดรเจน

     - นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท.สนใจจะนำโครงการรถไฟทางคู่จำนวน 8 โครงการ มูลค่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นแผนลงทุนในปี 2560 เป็นสินทรัพย์ส่วนหนึ่งเพื่อจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ส ฟันด์) หากมีการปรับเงื่อนไข ด้วยการผ่อนปรน อนุญาตให้นำโครงการในอนาคตมาทำได้ จากที่กำหนดว่าจะต้องเป็นโครงการที่มีแหล่งรายได้ในปัจจุบัน ซึ่ง รฟท.มั่นใจว่าโครงการรถไฟทางคู่จะมีกำไร สร้างผลตอบแทนกับนักลงทุนได้ เนื่องจากการเดินทางด้วยรถไฟทางเดี่ยวใช้เวลามากเกินไป แต่รถไฟทางคู่จะลดเวลาและควบคุมเวลาการเดินทางได้ และเพิ่มขบวนเดินรถได้มากขึ้น

    - "เกศรา"เผยผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยปี 58 ติดลบ 1.3% หากไม่รวมกลุ่มพลังงานถือว่าดีกว่าปีก่อนเกือบ 6% ชี้ IPO หุ้นไทยสูงสุด 3 ปีซ้อน แนะนักลงทุนระมัดระวังในการลงทุน

      - นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังประชุมหารือร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่เข้าตรวจเยี่ยมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลังวาระพิเศษ ว่า นายสมคิดได้สั่งการให้กระทรวงการคลังไปศึกษามาตรการกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เช่น เกษตรกร รวมทั้งข้าราชการ ลูกจ้าง และผู้ใช้แรงงาน ว่าจะสามารถใส่เงินเข้าไปในระบบผ่านกลุ่มคนเหล่านี้ หรือผ่านระบบสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้ได้อย่างไร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

*หุ้นเด่นวันนี้

      - LPN (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 14.50 บาท เชื่อราคาหุ้นปัจจุบันที่ปรับลดลงมากว่า -19% ได้สะท้อนการปรับมูลค่าลดลง (de-rating) เพราะโครงการคอนโดมิเนียมมีอัตรายอดขายชะลอตัวแล้ว โดยราคาหุ้นปัจจุบันกลับมาอยู่ในระดับราคาที่น่าสนใจอีกครั้ง โดยซื้อขายที่ PER ต่ำเพียง 6.7 เท่า ลงมาที่ระดับ -2 s.d. ของค่าเฉลี่ย PER ในอดีตและต่ำกว่า PER ที่เหมาะสมที่เราให้ไว้ที่ 7.8 เท่า อีกทั้งยังมีระดับอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงถึง 8.4% ช่วยจำกัด downside risk อีกด้วย โดยคาดว่า LPN จะมีกำไรเติบโตดีในอัตรา 18.8% ในปี 2016 จากการตั้งเป้าเปิดตัวโครงการใหม่ 10-15 โครงการ มูลค่า 1.76 หมื่นล้านบาทในปี 2016 ขณะที่ตั้งเป้า Presales อยู่ที่ 1.76 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2% yoy

      - SAMART (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 24.20 บาท ปรับกำไรสุทธิปีนี้ลง 28% เหลือ 930 ล้านบาท +15% Y-Y การฟื้นตัวในปีนี้มาจาก SAMTEL, U-Trans และ OTO ที่ผลประกอบการดีขึ้น โดย SAMTEL มี backlog สูงกว่า 8 พันล้านบาท ส่วน U-Trans มีงานคุมการจราจรทางอากาศในกัมพูชา ติดตั้งดูแลสายส่งไฟฟ้าที่โตตามธุรกิจพลังงานทดแทน และมีโอกาสได้งานนำสายไฟฟ้าลงดิน ส่วน OTO ดีต่อเนื่อง แต่ SIM ที่แย่ลง กดดัน SAMART ที่พึ่งพารายได้ 42% จาก SIM ส่วนโรงไฟฟฟ้าขยะ 32MW จะเข้ามาอย่างเร็วใน 2Q18

      - S (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 7.80 บาท ประกาศรายได้รวม 4Q58 อยู่ที่ 724 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9% QoQ แต่ยังคงขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 76 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 8% QoQ ถึงแม้ว่าในปี 2558 ทาง S จะยังขาดทุนสุทธิอยู่ 248 ล้านบาท จากรายได้รวมอยู่ที่ 2.15 พันล้านบาท แต่ยังเชื่อว่าปี 2559 ทาง S จะสามารถกลับขาดทุนให้เป็นกำไรได้ จากการที่ S มีศักยภาพสูงในการรับรู้รายได้ในอนาคตจากธุรกิจที่เข้าลงทุนในปีที่ผ่านมา แต่การเปิดตัวโรงการอสังหาริมทรัพย์บางโครงการมีการเลื่อนออกไปจากที่เราคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2559

ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ หลังเยนแข็งค่าฉุดหุ้นญี่ปุ่น ขณะนลท.ขานรับจีนกระตุ้นศก.

    ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลง ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ได้ปรับตัวสูงขึ้น หลังมีกระแสคาดการณ์ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนของจีนจะช่วยหนุนอุปสงค์วัตถุดิบให้เพิ่มสูงขึ้น

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับลง 0.2% สู่ระดับ 126.06 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.30 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,889.48 จุด ลดลง 21.84 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,895.67 จุด ลดลง 1.67 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,132.10 จุด ลดลง 27.62 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,655.86 จุด ลดลง 3.69 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,958.94 จุด เพิ่มขึ้น 1.07 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,821.99 จุด ลดลง 1.52 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,700.82 จุด เพิ่มขึ้น 2.89 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 17.03 จุด จากแรงเทขายทำกำไร

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) จากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่ดัชนี้ปรับตัวขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้

     ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลดลง 17.03 จุด หรือ 0.27% ที่ 6,182.40 จุด

      ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ติดต่อกันและแตะระดับสูงสุดของปีนี้ในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี การปรับตัวลดลงของดัชนี FTSE 100 ยังคงอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ นำโดยหุ้นอันโตฟากัสตาและหุ้นเกลนคอร์ที่ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างน้อย 6.7%

      หุ้นโอลด์ มิวชวล พุ่งขึ้น 6.9% จากการคาดการณ์ที่ว่า บริษัทอาจจะแยกธุรกิจต่างๆ ออกจากกันในการทบทวนกลยุทธ์ของบริษัทที่กำลังจะมีขึ้น

     หุ้นเซนต์ เจมส์ เพลช และหุ้นสแตนดาร์ด ไลฟ์ ต่างก็เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1.4% หลังจากนายจอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีคลังของอังกฤษยกเลิกแผนการลดหย่อนภาษีเงินบำนาญ

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกแนวโน้มศก.เยอรมนี

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) หลังจากกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนี ซึ่งส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมนี

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับลด 0.3% ปิดที่ 340.93 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,442.29 จุด ลดลง 14.33 จุด หรือ -0.32% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,778.93 จุด ลดลง 45.24 จุด หรือ -0.46% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,182.40 จุด ลดลง 17.03 จุด หรือ -0.27%

    ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงหลังจากกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีเดือนม.ค. ปรับตัวลง 0.1% จากเดือนก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเยอรมนี

      หุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลีร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับยอดเงินกู้หนี้เสียในภาคธนาคาร โดยหุ้นบังคา มอนเต เดอ ปาชี ดี เซียนา และหุ้นบังโค ป๊อปปูเลร์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 4%

    นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 10 มี.ค.นี้ หลังจากที่นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ส่งสัญญาณว่าอาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมเดือนนี้

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 67.18 จุด รับราคาน้ำมันพุ่ง

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 5% ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า จีนจะเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นอุปสงค์และเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,073.95 จุด เพิ่มขึ้น 67.18 จุด หรือ +0.40% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,708.25 จุด ลดลง 8.77 จุด หรือ -0.19% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,001.76 จุด เพิ่มขึ้น 1.77 จุด หรือ +0.09%

     ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนส่วนใหญ่มาจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น โดยเมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นราว 5.5% ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลจีนจะเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและอุปสงค์ภายในประเทศต่อไป

      รัฐบาลจีนออกแถลงการณ์ยืนยันในการประชุมว่าสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า จีนประสบความสำเร็จในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจตามแผนที่วางไว้ และเชื่อมั่นว่าจะสามารถหนุนเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพต่อไปได้ แม้ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนก็ตาม

   นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงขานรับข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 242,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 190,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี

     หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.6% ส่วนหุ้นมอนซานโต และหุ้นดูปองท์ พุ่งขึ้นอย่างน้อย 2.4%

   นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนม.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนก.พ. และราคาส่งออกและนำเข้าเดือนก.พ.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 มี.ค.2559

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,073.95 จุด                         เพิ่มขึ้น 67.18 จุด      +0.40%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,708.25 จุด                      ลดลง 8.77 จุด        -0.19%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,001.76 จุด                       เพิ่มขึ้น 1.77 จุด       +0.09%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,182.40 จุด                   ลดลง 17.03 จุด       -0.27%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,778.93 จุด                            ลดลง 45.24 จุด       -0.46%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,442.29 จุด                        ลดลง 14.33 จุด       -0.32%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,204.70 จุด     เพิ่มขึ้น 53.60 จุด      +1.04%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,142.80 จุด          เพิ่มขึ้น 52.80 จุด      +1.04%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,659.55 จุด                          เพิ่มขึ้น 16.00 จุด      +0.19%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,911.32 จุด                    ลดลง 103.46 จุด      -0.61%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,957.87 จุด                        เพิ่มขึ้น 2.24 จุด       +0.11%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,897.34 จุด                    เพิ่มขึ้น 23.19 จุด      +0.81%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,892.69 จุด             ลดลง 6.38 จุด        -0.09%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 20,159.72 จุด                             ลดลง 16.98 จุด       -0.08%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,831.58 จุด     ลดลง 19.30 จุด       -0.40%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,697.93 จุด                      เพิ่มขึ้น 5.44 จุด       +0.32%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,823.51 จุด                      ลดลง 13.49 จุด       -0.48%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 5% ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า จีนจะเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นอุปสงค์และเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,073.95 จุด เพิ่มขึ้น 67.18 จุด หรือ +0.40% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,708.25 จุด ลดลง 8.77 จุด หรือ -0.19% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,001.76 จุด เพิ่มขึ้น 1.77 จุด หรือ +0.09%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) หลังจากกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนี ซึ่งส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมนี

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับลด 0.3% ปิดที่ 340.93 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,442.29 จุด ลดลง 14.33 จุด หรือ -0.32% ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,778.93 จุด ลดลง 45.24 จุด หรือ -0.46% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,182.40 จุด ลดลง 17.03 จุด หรือ -0.27%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) จากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่ดัชนี้ปรับตัวขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้

          ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลดลง 17.03 จุด หรือ 0.27% ที่ระดับ 6,182.40 จุด

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 4% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดลบ 6.7 ดอลลาร์ หรือ 0.53% แตะที่ระดับ 1,264.00 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดลบ 6.1 เซนต์ หรือ 0.39% แตะที่ 15.633 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดพุ่งขึ้น 15.7 ดอลลาร์ หรือ 1.59% แตะที่ 1,002.00 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดบวก 14.60 ดอลลาร์ หรือ 2.6% แตะที่ 577.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า จีนจะเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นอุปสงค์และเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า การขุดเจาะน้ำมันและการผลิตน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลง

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดพุ่งขึ้น 1.98 ดอลลาร์ หรือ 5.5% แตะที่ 37.90 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดพุ่งขึ้น 2.12 ดอลลาร์ หรือ 5.5% แตะที่ 40.84 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ซึ่งรวมถึงสกุลเงินยูโร

           ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1012 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0995 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.4261 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4213 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 113.28 เยน จาก 114.03 เยน แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9952 ฟรังก์ จาก 0.9950 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7470 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7426 ดอลลาร์

 

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 354.00 จุด เพิ่มขึ้น 5.00 จุด, +1.43%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!